วัดอุโบสถาราม

วัดอุโบสถาราม จังหวัดอุทัยธานี เป็นวัดเก่าแก่ริมลำน้ำสะแกกรัง ตั้งอยู่บนเกาะเทโพในเขตเทศบาลเมือง เดิมชื่อวัดโบสถ์มโนรมย์ แต่ชาวบ้านมักเรียกกันสั้น ๆ ว่าวัดโบสถ์ วัดอุโบสถารามตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำสะแกกรัง สามารถเข้าถึงได้ง่ายจากตลาดสดเทศบาลโดยมีสะพานข้ามแม่น้ำเชื่อมไปยังวัด การเดินทางไปวัดแห่งนี้ไม่เพียงสะดวก แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสบรรยากาศริมแม่น้ำและทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองอุทัยธานี

 

หนึ่งในสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้สนใจศิลปวัฒนธรรมคือจิตรกรรมฝาผนังในโบสถ์และวิหาร ภายในโบสถ์เต็มไปด้วยภาพพุทธประวัติเริ่มตั้งแต่ประสูติจนถึงปรินิพพานของพระพุทธเจ้า โดยฝีมือประณีตและละเอียดลออ สะท้อนศิลปะแบบรัตนโกสินทร์ตอนต้น ในวิหารมีภาพพระพุทธเจ้าที่เสด็จโปรดเทพยดาบนสวรรค์และภาพปลงสังขาร ฝาผนังด้านบนยังประดับภาพพระสงฆ์สาวกสลับกับพัดยศเหมือนการเคารพพระประธาน ส่วนด้านนอกวิหารมีภาพถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและภาพชีวิตชาวบ้านที่สะท้อนวิถีชีวิตและความสัมพันธ์กับพุทธศาสนา

 

ภายในวัดยังมีสิ่งของและโบราณวัตถุที่น่าสนใจ เช่น เสมาหินสีแดงหน้าบ้านโบสถ์ ตู้พระธรรมและตู้ใส่ของที่เขียนลายกนกเถาและลายดอกไม้ บาตรฝาประดับมุกที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 5 และหงส์ยอดเสาที่ประดับยอดเสา นอกจากนี้ วัดยังมีอาคารเก่าแก่หลายหลัง ได้แก่ มณฑปแปดเหลี่ยมที่ผสมผสานสไตล์ตะวันตก มีลวดลายปูนปั้นคล้ายไม้เลื้อยกรอบหน้าต่าง พร้อมพระพุทธรูปปูนสลักนูนสูงด้านนอก เจดีย์หกเหลี่ยม เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองทรงรัตนโกสินทร์ และหอประชุมอุทัยพุทธสภาที่เป็นศาลาทรงไทย ใช้เป็นหอสวดมนต์โดยหน้าบันประดับลวดลายปูนปั้นงดงาม

 

อีกหนึ่งจุดเด่นของวัดคือแพโบสถ์น้ำที่ตั้งอยู่หน้าวัด สร้างขึ้นเพื่อรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จประพาสมณฑลฝ่ายเหนือในปี พ.ศ. 2449 เดิมเป็นแพแฝดสองหลัง มีช่อฟ้า ใบระกา และหน้าบันประดับป้ายจารึกวงกลมภาษาบาลีว่า “สุ อาคต เต มหาราช” แปลว่า มหาราชเสด็จมาดี ต่อมาปี พ.ศ. 2519 แพโบสถ์น้ำได้รับการซ่อมแซมและบูรณะให้เป็นหลังเดียวยกพื้นสองชั้น หลังคาทรงปั้นหยา และย้ายป้ายจารึกวงกลมมาประดับหน้าจั่วตรงกลาง ปัจจุบันแพโบสถ์น้ำยังใช้งานประกอบพิธีทางศาสนา เช่น งานแต่งงาน งานบวชนาค งานศพ และงานบุญตามประเพณีไทย

 

วัดอุโบสถารามไม่เพียงเป็นศาสนสถานที่มีความสำคัญต่อจิตใจของชาวอุทัยธานี แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ศิลปะและสถาปัตยกรรมไทยที่มีคุณค่า เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจประวัติศาสตร์ศึกษาเรื่องราวพุทธประวัติและศิลปกรรมไทยได้อย่างเต็มที่ การมาเยือนวัดแห่งนี้จึงเป็นเหมือนการเดินทางย้อนเวลาเพื่อสัมผัสประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมไทยอย่างครบถ้วน ทั้งยังเพลิดเพลินกับบรรยากาศร่มรื่นริมแม่น้ำสะแกกรังและความสงบเงียบที่สะท้อนวิถีชีวิตและจิตวิญญาณของชุมชนท้องถิ่น