วัดหาดเสี้ยว

วัดหาดเสี้ยว ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำยมในอำเภอหาดเสี้ยว จังหวัดสุโขทัย เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของท้องถิ่น มีอายุยาวนานกว่า 167 ปี โดยเริ่มก่อสร้างก่อนปี พ.ศ. 2387 ซึ่งทำให้วัดแห่งนี้เป็นหนึ่งในโบราณสถานที่เก่าแก่ที่สุดของชุมชนไทยพวน วัดหาดเสี้ยวเดิมมีชื่อว่า วัดโพธิ์ไทร และได้รับการบันทึกในศิลาจารึกที่ผนังโบสถ์ว่าได้มีการฉลองวัดในวันอังคาร ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ปีเถาะ ตรงกับวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2387 การก่อสร้างวัดได้รับความร่วมมือจากทั้งฝ่ายฆราวาสและฝ่ายสงฆ์ ฝ่ายฆราวาสมี แสนปัญญา แสนจัน และแสนพน เป็นผู้นำในการสร้าง ส่วนฝ่ายสงฆ์นำโดยเจ้าหัวอ้ายสมเด็จวัดบ้านตาด ซึ่งความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายนี้สะท้อนถึงความสามัคคีและความศรัทธาของชุมชนในสมัยนั้น

 

วัดหาดเสี้ยวเป็นวัดมหานิกาย มีเนื้อที่รวม 6 ไร่ 2 งาน 48 ตารางวา ล้อมรอบด้วยอาณาเขตที่ชัดเจนทางทิศเหนือยาว 142.5 เมตร ทิศใต้ยาว 135 เมตร ติดต่อกับทางสาธารณะ ทิศตะวันออกยาว 80 เมตร และทิศตะวันตกยาว 85 เมตร ติดต่อกับที่ดินเอกชนและทางสาธารณะ นอกจากนี้ วัดหาดเสี้ยวยังเป็นวัดประจำอำเภอหาดเสี้ยวและเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมของชุมชนมาอย่างยาวนาน

 

ประวัติศาสตร์ของวัดหาดเสี้ยวได้รับการยืนยันถึงความสำคัญจากเหตุการณ์สำคัญในปี พ.ศ. 2460 เมื่อสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส เสด็จประทับแรมที่วัดขณะตรวจคณะสงฆ์ และได้พระราชทานชื่อวัดใหม่เป็น “วัดหาดเสี้ยว” ตามชื่อของอำเภอ ซึ่งเดิมชื่ออำเภอด้ง นอกจากนี้ พระครูอุตตมะ ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสรูปแรกของวัด ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูศรัทธาโสภณในปี พ.ศ. 2461 และวัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2529

 

เอกลักษณ์สำคัญของวัดหาดเสี้ยวคือพระอุโบสถสกุลช่างไทยพวนที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงอยู่ในปัจจุบัน พระอุโบสถนี้สะท้อนถึงความประณีตและความงดงามของสถาปัตยกรรมไทยพวนที่มีอายุใกล้เคียงกับการก่อสร้างวัด การสร้างวัดตามแบบไทยพวนในสมัยก่อนนั้นมีความโดดเด่นด้วยประตูโขงจำนวน 8 ประตูและองค์ประกอบทางศาสนสถานที่หลากหลาย เช่น เจดีย์ หอไตรกลางน้ำ และสาลเจ้าวัดหาดเสี้ยวหรือที่ชาวบ้านเรียกว่าเจ้าพ่อปู่กื้อ ซึ่งถือเป็นศาสนสถานที่สำคัญและเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านในอำเภอหาดเสี้ยว

 

วัดหาดเสี้ยว ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมของชุมชนและเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยพวน การเข้าชมวัดไม่เพียงแต่สามารถชื่นชมความงดงามของสถาปัตยกรรมโบราณ แต่ยังสามารถศึกษาขนบธรรมเนียม ประเพณี และความเชื่อที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตของชุมชนไทยพวนในอดีต วัดแห่งนี้ยังคงเป็นเครื่องยืนยันถึงความศรัทธา ความร่วมมือของชุมชน และความสำคัญทางศาสนาที่สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

 

การเดินทาง มายังวัดหาดเสี้ยวสะดวกสบายเนื่องจากตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวอำเภอ และสามารถชมความงามของแม่น้ำยมที่ไหลผ่านบริเวณด้านตะวันออกของวัดได้อย่างใกล้ชิด ทำให้วัดหาดเสี้ยวกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวและผู้สนใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยไม่ควรพลาด การอนุรักษ์วัดและสถาปัตยกรรมไทยพวนในวัดหาดเสี้ยวยังคงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เรียนรู้และสืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่านี้ต่อไป