
ที่เที่ยวอยุธยาใกล้กรุงเทพห้ามพลาด

Rating: 5/5 (1 votes)




สถานที่ท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
ที่เที่ยวอยุธยาใกล้กรุงเทพห้ามพลาด จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือ "อยุธยา" เป็นดินแดนที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตแบบไทยแท้ ตั้งอยู่เพียงไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร ทำให้ง่ายต่อการเดินทางทั้งในรูปแบบของทริปสั้น ๆ แบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือการพักผ่อนยาวเพื่อซึมซับความงามของเมืองเก่าแห่งนี้
อยุธยาเคยเป็นศูนย์กลางของราชอาณาจักรสยามที่ยิ่งใหญ่ในอดีต มีความเจริญรุ่งเรืองในด้านการค้า ศิลปวัฒนธรรม และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โบราณสถานมากมาย เช่น วัดมหาธาตุ วัดไชยวัฒนาราม และพระราชวังบางปะอิน เป็นเครื่องยืนยันถึงความยิ่งใหญ่ของราชธานีเก่าแห่งนี้ อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยายังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างใฝ่ฝันที่จะมาเยือน นอกเหนือจากมรดกทางประวัติศาสตร์แล้ว อยุธยายังมีวิถีชีวิตที่สะท้อนถึงความเรียบง่ายและเป็นมิตรของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นตลาดน้ำอโยธยา ตลาดโก้งโค้ง หรือกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่ยังคงอนุรักษ์ไว้ เช่น การทำโรตีสายไหม และการแสดงโขน อีกทั้งยังมีอาหารท้องถิ่นรสชาติเยี่ยม เช่น ก๋วยเตี๋ยวเรือที่ขึ้นชื่อ และเมนูอื่น ๆ ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด ด้วยความหลากหลายของสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย อยุธยาจึงเป็นจุดหมายที่ตอบโจทย์ทั้งนักท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ผู้ที่รักการพักผ่อนในบรรยากาศธรรมชาติ รวมถึงผู้ที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวไทยอย่างแท้จริง อยุธยาเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ และวิถีชีวิตชุมชน นี่คือ สถานที่ที่น่าสนใจในอยุธยา ได้แก่
1. คุ้มขุนแผน เดิมเป็นจวนสมุหเทศาภิบาล มณฑลกรุงเก่า ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2437 โดยพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมขุนมรุพงศ์สิริพัฒน์ อาคารหลังนี้ตั้งอยู่บริเวณเกาะลอย บริเวณสะพานเกลือที่อยู่ตรงข้ามกับที่ว่าการมณฑล โครงสร้างของคุ้มแสดงถึงศิลปะการออกแบบเรือนไทยในยุคที่ยังคงผสมผสานความงามและความประณีตในรายละเอียดได้อย่างน่าประทับใจ คุ้มขุนแผนถูกออกแบบให้เป็นหมู่เรือนไทยภาคกลางในรูปแบบเรือนคหบดี ตัวเรือนสร้างจากไม้สักและไม้เนื้อแข็งที่มีความทนทานสูง โครงสร้างประกอบด้วยเรือนหลักและเรือนประกอบที่เชื่อมต่อกันด้วยชานเรือนและระเบียง รูปแบบของเรือนไทยยกพื้นสูงนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงภูมิปัญญาไทยในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศ แต่ยังเป็นการจัดสรรพื้นที่อย่างเหมาะสมสำหรับการใช้ชีวิตในครอบครัวใหญ่ ส่วนประกอบสำคัญที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวได้แก่ การแกะสลักลวดลายไทยที่ประณีตบนหน้าบันและส่วนต่าง ๆ ของตัวเรือน ซึ่งสะท้อนถึงฝีมือช่างไทยในอดีต รวมถึงพื้นที่ชานเรือนกว้างขวางที่เชื่อมโยงเรือนแต่ละหลังเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมในครอบครัวหรือการต้อนรับแขก คุ้มขุนแผนถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย และยังเป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์

1. คุ้มขุนแผน เดิมเป็นจวนสมุหเทศาภิบาล มณฑลกรุงเก่า ซึ่งถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2437 โดยพลตรีพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมขุนมรุพงศ์สิริพัฒน์ อาคารหลังนี้ตั้งอยู่บริเวณเกาะลอย บริเวณสะพานเกลือที่อยู่ตรงข้ามกับที่ว่าการมณฑล โครงสร้างของคุ้มแสดงถึงศิลปะการออกแบบเรือนไทยในยุคที่ยังคงผสมผสานความงามและความประณีตในรายละเอียดได้อย่างน่าประทับใจ คุ้มขุนแผนถูกออกแบบให้เป็นหมู่เรือนไทยภาคกลางในรูปแบบเรือนคหบดี ตัวเรือนสร้างจากไม้สักและไม้เนื้อแข็งที่มีความทนทานสูง โครงสร้างประกอบด้วยเรือนหลักและเรือนประกอบที่เชื่อมต่อกันด้วยชานเรือนและระเบียง รูปแบบของเรือนไทยยกพื้นสูงนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงภูมิปัญญาไทยในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพภูมิอากาศ แต่ยังเป็นการจัดสรรพื้นที่อย่างเหมาะสมสำหรับการใช้ชีวิตในครอบครัวใหญ่ ส่วนประกอบสำคัญที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวได้แก่ การแกะสลักลวดลายไทยที่ประณีตบนหน้าบันและส่วนต่าง ๆ ของตัวเรือน ซึ่งสะท้อนถึงฝีมือช่างไทยในอดีต รวมถึงพื้นที่ชานเรือนกว้างขวางที่เชื่อมโยงเรือนแต่ละหลังเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมในครอบครัวหรือการต้อนรับแขก คุ้มขุนแผนถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย และยังเป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์
การเดินทาง (GPS) : https://maps.app.goo.gl/1UJD9wz1vYC2ueRJ8

2. เจดีย์พระศรีสุริโยทัย อนุสรณ์แห่งวีรสตรีไทยในยุคอยุธยา หนึ่งในสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาคือ "เจดีย์พระศรีสุริโยทัย" อนุสรณ์สถานแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเกาะเมืองด้านทิศตะวันตก ใกล้กับสำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ 3 ถนนอู่ทอง ความสำคัญของพระเจดีย์นี้ไม่เพียงอยู่ที่สถาปัตยกรรม แต่ยังแฝงด้วยเรื่องราวแห่งความกล้าหาญของสมเด็จพระศรีสุริโยทัย วีรสตรีผู้ยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดิน การเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้เป็นการแสดงความเคารพต่อมรดกวัฒนธรรมไทย และช่วยเตือนใจถึงความสำคัญของการรักษาความสงบสุขและความสามัคคีในชาติ

2. เจดีย์พระศรีสุริโยทัย อนุสรณ์แห่งวีรสตรีไทยในยุคอยุธยา หนึ่งในสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาคือ "เจดีย์พระศรีสุริโยทัย" อนุสรณ์สถานแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเกาะเมืองด้านทิศตะวันตก ใกล้กับสำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ 3 ถนนอู่ทอง ความสำคัญของพระเจดีย์นี้ไม่เพียงอยู่ที่สถาปัตยกรรม แต่ยังแฝงด้วยเรื่องราวแห่งความกล้าหาญของสมเด็จพระศรีสุริโยทัย วีรสตรีผู้ยอมสละชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดิน การเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้เป็นการแสดงความเคารพต่อมรดกวัฒนธรรมไทย และช่วยเตือนใจถึงความสำคัญของการรักษาความสงบสุขและความสามัคคีในชาติ
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/FNzAiEXicFBYDBk77

3. พนียดคล้องช้าง เป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์ไทย ตั้งอยู่ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดิมเป็นสถานที่ที่ใช้สำหรับการจับและคัดเลือกช้างเพื่อการใช้งานและประกอบพระราชพิธีต่าง ๆ โดยเฉพาะในสมัยกรุงศรีอยุธยา ที่ช้างมีบทบาทสำคัญทั้งในฐานะพาหนะของชนชั้นสูงและอาวุธยุทโธปกรณ์ในสงคราม ในสมัยโบราณ ช้างถูกยกย่องให้เป็นสัตว์ที่มีสถานะสูงส่ง โดยเฉพาะ ช้างเผือก ซึ่งถือเป็นเครื่องหมายแห่งบารมีของพระมหากษัตริย์ ช้างที่ได้รับเลือกจะถูกนำมาประดับยศศักดิ์ และใช้เป็นพาหนะในพระราชพิธีและการเดินทางทางบก นอกจากนี้ ช้างยังเปรียบเสมือน "รถถัง" ในสนามรบ มีบทบาทสำคัญในการนำกำลังพลเข้าสู่สมรภูมิ พนียดคล้องช้างเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของกรุงศรีอยุธยาในอดีต แม้ว่าปัจจุบันบทบาทของพนียดจะลดลง แต่สถานที่แห่งนี้ยังคงเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ทรงคุณค่า และเป็นที่ระลึกถึงความสำคัญของช้างในประวัติศาสตร์ไทย
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/7fXB7GgBXGTyP3WX8

4. พระตำหนักเจ้าปลุก ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านกลาง หมู่ที่ 4 ตำบลเจ้าปลุก อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงยุคสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยสถานที่แห่งนี้รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า วัดหน้าวัว (ร้าง) ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานและเคยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสมัยอยุธยา พระตำหนักเจ้าปลุกและวัดหน้าวัวเป็นสัญลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงยุคทองของราชวงศ์อยุธยา แม้จะผ่านกาลเวลามาหลายร้อยปี แต่สถานที่แห่งนี้ยังคงรักษาความสำคัญในฐานะแหล่งประวัติศาสตร์และศูนย์กลางทางศาสนาที่ชุมชนให้ความเคารพและร่วมกันฟื้นฟูสืบมาจนถึงปัจจุบัน
แผนที่ (GPS): https://maps.app.goo.gl/aXduaVobZrnY3WiZ7

5. อนุสรณ์สถานปรีดี พนมยงค์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเมือง ตรงข้ามวัดพนมยงค์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นสถานที่สำคัญที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงท่านปรีดี พนมยงค์ รัฐบุรุษอาวุโสผู้เป็นผู้นำฝ่ายพลเรือนในการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไทย จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ท่านปรีดีได้รับเกียรติให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี พ.ศ. 2542 อนุสรณ์สถานปรีดี พนมยงค์ ไม่เพียงเป็นสถานที่รำลึกถึงท่านผู้เปี่ยมด้วยคุณูปการต่อชาติ แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์และอุดมการณ์ที่สำคัญสำหรับคนรุ่นหลัง ที่นี่สะท้อนถึงความพยายามในการรักษาคุณค่าแห่งประชาธิปไตยและเสรีภาพ รวมถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสันติภาพในสังคมไทยและโลกโดยรวม การเยี่ยมชมอนุสรณ์สถานปรีดี พนมยงค์ จึงเป็นมากกว่าการเยี่ยมชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นการเรียนรู้และซาบซึ้งในคุณค่าของอุดมการณ์และการเสียสละของบุคคลสำคัญที่สร้างแรงบันดาลใจให้แก่สังคมไทยอย่างยั่งยืน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/Hr9NehzRqmpxLjzQ7

6. อนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี หรือที่รู้จักในชื่อ สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 80 พรรษา (ทุ่งหันตรา) ตั้งอยู่ในตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สถานที่แห่งนี้ได้รับการพัฒนาให้เป็นสวนสาธารณะและอนุสรณ์สถานสำคัญ เพื่อเฉลิมพระเกียรติในโอกาสครบรอบ 80 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 หนึ่งในสิ่งสำคัญภายในอนุสรณ์สถานแห่งนี้คือ พระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ซึ่งมีความสูง 9.84 เมตร ตัวเลขนี้มีความหมายพิเศษคือ “9” สื่อถึงรัชกาลที่ 9 และ “84” หมายถึงการครบรอบ 84 พรรษา พระพุทธรูปนี้สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาและความสามัคคีของประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีการเทปูนหล่อพระพุทธรูปในคืนเดียว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมแรงร่วมใจ อนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี (ทุ่งหันตรา) ไม่ได้เป็นเพียงสวนสาธารณะ แต่ยังเป็นสถานที่ที่ประชาชนทุกคนสามารถสัมผัสถึงความรัก ความภาคภูมิใจ และความสามัคคีของคนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สถานที่นี้เหมาะสำหรับการเดินชมธรรมชาติ เรียนรู้วัฒนธรรม และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของรัชกาลที่ 9 อย่างแท้จริง
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/p4pBkAmbyfpuo9wb8

7. ปราสาทนครหลวง ตั้งตระหง่านริมแม่น้ำป่าสักทางฝั่งทิศตะวันออก ในเขตตำบลนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สถานที่แห่งนี้เป็นอนุสรณ์ของสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ในยุคอยุธยาที่งดงามและมีความสำคัญยิ่ง สะท้อนถึงความวิจิตรในเชิงสถาปัตยกรรมและการเล่าเรื่องราวที่เชื่อมโยงระหว่างราชสำนักอยุธยาและวัฒนธรรมกัมพูชา สถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่ที่นักท่องเที่ยวและผู้สนใจประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดที่จะมาเยี่ยมชมและสัมผัสบรรยากาศแห่งความรุ่งเรืองในอดีต
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/8jbwjMJacc2nKN8U8

8. พระราชวังบางปะอิน ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ห่างออกไปประมาณ 18 กิโลเมตร พระราชวังแห่งนี้มีประวัติความเป็นมายาวนานที่สะท้อนถึงความสำคัญในยุคต่าง ๆ ของประวัติศาสตร์ไทย ตามพระราชพงศาวดาร พระเจ้าปราสาททองทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้เป็นบ้านเกิดของพระองค์และเป็นสถานที่พำนักเดิมของพระมารดา ซึ่งเป็นหญิงชาวบ้านที่สมเด็จพระเอกาทศรถพบเมื่อครั้งเรือพระที่นั่งล่มที่เกาะบางปะอิน พระราชวังบางปะอินนับเป็นตัวแทนของการผสมผสานสถาปัตยกรรมไทย จีน และตะวันตกที่งดงามและทรงคุณค่า ทั้งในเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม การอนุรักษ์และดูแลรักษาสถานที่แห่งนี้ช่วยสะท้อนถึงความภาคภูมิใจในมรดกแห่งชาติที่ทรงคุณค่าและเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับคนรุ่นหลัง
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/oodpBqvQPp3iPCkq9

9. บ้านตุ๊กตาไทย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์และทรงคุณค่าทางวัฒนธรรม ก่อตั้งขึ้นโดย อาจารย์วันทนี พึ่งวงษ์ ซึ่งเป็นอดีตครูโรงเรียนอนุบาล ด้วยความรักในงานปั้นและความมุ่งมั่นที่จะสะสมและอนุรักษ์ศิลปะไทย อาจารย์วันทนีเริ่มสะสมตุ๊กตาไทยเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว จากจุดเริ่มต้นที่มีจำนวนไม่มาก บ้านตุ๊กตาไทยได้พัฒนาจนกลายเป็นสถานที่เผยแพร่ความงามและความเป็นไทยให้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้เข้าชม โดยได้เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมครั้งแรกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 บ้านตุ๊กตาไทยเปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไป พร้อมต้อนรับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่สนใจเรียนรู้วัฒนธรรมไทยในรูปแบบที่สร้างสรรค์ หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และมรดกทางวัฒนธรรม บ้านตุ๊กตาไทยเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ด้วยการจัดแสดงที่มีเอกลักษณ์และเรื่องราวที่อบอุ่นเกี่ยวกับชีวิตไทยในอดีต

10. งานประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำ ประเพณีภาคกลาง ชาวบ้านอำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมฟื้นฟูประเพณีแห่เทียนพรรษาทางน้ำ ปลุกชีวิตคลองลาดชะโดกลับมาเหมือนอดีต นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสและชมตลาด 100 ปี ลาดชะโดที่เก่าแก่ในวันอาสาฬหบูชา ผู้ที่เข้าร่วมงานดังกล่าวจะได้ชมการประกวดตกแต่งเรือแห่เทียนพรรษาทางน้ำ การประกวดตกแต่งบ้านเรือนริมคลองลาดชะโด การประกวดเทพีเทียนพรรษา และ การประกวดภาพถ่าย และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/Qgk7Bze7niKKgjVa7

11. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจันทรเกษม หรือที่รู้จักกันในชื่อ วังจันทรเกษม และ วังหน้า เป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง ตั้งอยู่บนถนนอู่ทอง ริมแม่น้ำป่าสัก บริเวณมุมทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ใกล้กับตลาดหัวรอ สถานที่แห่งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งมรดกที่มีคุณค่าในประวัติศาสตร์ไทย เปิดให้บริการสำหรับประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สถานที่นี้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยมีการจัดแสดงนิทรรศการถาวรและนิทรรศการหมุนเวียนเกี่ยวกับศิลปะและวัฒนธรรมไทย นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมความรู้และการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมให้กับเยาวชนและผู้สนใจทั่วไป
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/eVKabUCpW5F88ith6

12. พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่นเกริกยุ้นพันธ์ ตั้งอยู่ที่ 45 หมู่ 2 ตำบลท่าวาสุกรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว ที่นี่ไม่เพียงแค่รวบรวมของเล่นจากอดีต แต่ยังเต็มไปด้วยวัตถุโบราณที่บอกเล่าเรื่องราวของวิถีชีวิตไทย และวัฒนธรรมในยุคสมัยที่ต่างกัน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/Mu47LCftktfaHKSD8

13. พิพิธภัณฑ์เรือไทย ตั้งอยู่บริเวณถนนบางเอียน ตรงข้ามวัดมหาธาตุ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาชาวบ้านและความสัมพันธ์ของคนไทยกับสายน้ำ ผ่านการจัดแสดงเรือไทยที่หลากหลาย สัมผัสถึงความงดงามของเรือไทยที่สะท้อนเอกลักษณ์ของชาติ หากคุณหลงใหลในงานศิลปะและวิถีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับสายน้ำ ที่นี่คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาด
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/7bh6VoyQYJRuhVvt5

14. สถาบันอยุธยาศึกษา ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา เป็นสถานที่ที่มุ่งเน้นการศึกษาและรวบรวมองค์ความรู้เกี่ยวกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม วิถีชีวิต และภูมิปัญญาท้องถิ่น สถาบันอยุธยาศึกษาไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ที่ให้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ที่เชื่อมโยงระหว่างอดีตและปัจจุบัน ผ่านการจัดแสดงที่ครบถ้วนและการมีส่วนร่วมของชุมชนในท้องถิ่น การเยี่ยมชมสถาบันอยุธยาศึกษาจึงถือเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่า สำหรับผู้ที่หลงใหลในประวัติศาสตร์และต้องการเข้าใจรากเหง้าของเมืองเก่าอยุธยาในเชิงลึก
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/cvxKh1YVdBqfzXar5

15. อาคารท้องฟ้าจำลอง อยู่บริเวณด้านหลังอาคารศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา มีการฉายดาวเรื่องระบบสุริยะ กลุ่มดาว นิทานดาว การดูดาวเบื้องต้น และปรากฎการณ์ทางธรรมชาติ จัดฉายวันละ 2 รอบ เวลา 11.00 และ 14.00 น.
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/vAMqt6a4LydFY69B8

16. สวนพฤกษศาสตร์เชิงอนุรักษ์ หมู่ 7 ตำบลบ้านหีบ อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สวนพฤกษศาสตร์เชิงอนุรักษ์ ภายในสวนมีสถานที่พักผ่อน ห้องประชุม ห้องสัมมนาวิชาการ มีสวนแก้วมังกร และมีดอกไม้นานาชนิดสามารถเข้ามาพักผ่อน หรือตากอากาศได้

17. ค่ายกาญจนวรรณ เป็นฟาร์มสเตย์ ค่ายอบรมลูกเสือ สวนไม้ดอก เลี้ยงนกกระจอกเทศ เลี้ยงเนื้อทราย กวาง จระเข้ เนื้อที่ 200 ไร่ ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลแคออก อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

18. วัดกุฎีดาว ตั้งอยู่ที่ฝั่งตะวันออกของสถานีรถไฟพระนครศรีอยุธยา เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ แม้ว่าปัจจุบันจะกลายเป็นวัดร้างที่มีซากอาคาร และโครงสร้างต่าง ๆ ที่ปรักหักพังไปมาก แต่ยังคงสะท้อนถึงความงดงามของการออกแบบและฝีมือการก่อสร้างในสมัยก่อน เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ยังคงบอกเล่าเรื่องราวของกรุงศรีอยุธยาในอดีต ผ่านซากอาคารและสถาปัตยกรรมที่น่าประทับใจ แม้ว่าจะไม่ได้มีการบูรณะในปัจจุบัน แต่ก็ยังคงเป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์และสำคัญในด้านประวัติศาสตร์ที่คอยดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้สนใจให้ได้มาเยี่ยมชม
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/Y8K7jScTPbD2EaEF9

19. วัดพระราม ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระราชวัง อยู่นอกเขตพระราชวังและตรงข้ามกับวิหารพระมงคลบพิตร เป็นสถานที่สำคัญในด้านประวัติศาสตร์ของกรุงศรีอยุธยา เนื่องจากเป็นที่ที่ สมเด็จพระราเมศวร ทรงสร้างขึ้นเพื่อถวายพระเพลิงพระบรมศพของ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) พระราชบิดา เมื่อครั้งการก่อตั้งกรุงศรีอยุธยา เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์และการพักผ่อนหย่อนใจ โดยเฉพาะบึงพระรามที่กลายเป็นสวนสาธารณะที่ทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวสามารถมาสัมผัสความงามของธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่หลอมรวมกันในที่เดียว
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/WCodrXdsYzf8tZsd6

20. วัดพระศรีสรรเพชญ์ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของ วิหารพระมงคลบพิตร ภายในเขตพระราชวังหลวง เป็นวัดสำคัญที่สร้างขึ้นในสมัยของ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) เพื่อเป็นที่ประทับในบริเวณนี้ ต่อมาจึงมีการย้ายพระราชวังไปทางทิศเหนือและพระราชทานที่ดินเดิมเพื่อสร้างวัดภายในพระราชวัง วัดพระศรีสรรเพชญ์เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 18.00 น. ค่าเข้าชมสำหรับชาวไทย 10 บาท และชาวต่างชาติ 50 บาท หรือสามารถซื้อบัตรรวมเพื่อเข้าชมวัดและอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาในราคาค่าเข้าชมรวมชาวไทย 40 บาท และชาวต่างชาติ 220 บาท ซึ่งสามารถใช้ชมวัดภายในอุทยานในระยะเวลา 30 วัน นอกจากนี้ยังมีบริการ เครื่องโสตทัศนาจร สำหรับการบรรยายข้อมูลการเยี่ยมชม วัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดไชยวัฒนาราม, และ วัดมหาธาตุ โดยมีค่าเช่าเครื่องละ 150 บาท ซึ่งสามารถฟังได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/cZbCAbGgMesxoF4G9

21. วัดไชยวัฒนาราม ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติเมื่อวันที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2478 และได้รับการบูรณะโดยกรมศิลปากรจนถึงปัจจุบัน ทำให้ไม่มีกลายเป็นรกร้างและยังคงรักษาความงดงามของโบราณสถานที่เคยยิ่งใหญ่ ในช่วงเวลาพลบค่ำจะเห็นภาพบริเวณวัดไชยวัฒนารามที่งดงามมากเมื่อมีการส่องไฟจากอุทยานประวัติศาสตร์ ช่วยให้ผู้เข้าชมสัมผัสถึงความยิ่งใหญ่ของโบราณสถานนี้ได้อย่างเต็มที่
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/2WmuucBmTqZUxQbc9

22. วัดสะตือ ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ สร้างขึ้นเมื่อพ.ศ. 2413 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ได้ทำการก่อสร้างหลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางไสยาสน์ มีความยาว 25 วา กว้าง 4 วา 2 ศอก สูง 8 วา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสัก ณ บริเวณบ้านเกิดของท่าน เพื่อเป็นอนุสรณ์ว่าท่านเกิดที่ตำบลแห่งนี้
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/VRXLcsdumggQYaRt5

23. วัดตะโก ตั้งอยู่เลขที่ 3 หมู่2 ตำบลดอนหญ้านาง อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา สังกัดวัดมหานิกาย มีเนื้อที่ประมาณ 11 ไร่เศษ ซึ่งเป็นพื้นที่ราบ มีหมู่บ้านและท้องทุ่งอยู่โดยรอบ

24. โบสถ์เซนต์ยอเซฟ ตั้งอยู่ที่เลขที่ 30 หมู่ 11 ตำบลสำเภาล่ม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานและเกี่ยวข้องกับการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในประเทศไทย โดยมีการสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2209 ในสมัยของ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช กษัตริย์องค์ที่ 27 แห่งกรุงศรีอยุธยา ภายในโบสถ์ยังมีการบรรจุศพของ พระสังฆราชปีแอร์ ลอมแบรต์ เดอ ลาม็อต และ พระสังฆราชหลุยส์ ลาโน ไว้ที่บริเวณพระแท่นทั้งสองข้าง และยังมีการย้ายศพ (กระดูก) ของพระสังฆราชอีก 6 องค์ พร้อมทั้งบรรดามิชชันนารีอีก 23 องค์ไปไว้ในอนุสรณ์สถานในสุสานของวัด นอกจากจะเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาคริสต์ในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นจุดที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของการเผยแผ่ศาสนาในสมัยกรุงศรีอยุธยาอีกด้วย
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/Th4rh3FxbKFmnC5c6

25. ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ตั้งอยู่ภายในบริเวณ วัดพนัญเชิงวรวิหาร ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา เป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของความรัก ซึ่งเป็นที่เคารพของผู้คนทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวจีนในท้องถิ่น โดยชาวจีนมักเรียกศาลนี้ว่า "ศาลเจ้าแม่อาเนี้ย" ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากจึงเป็นสถานที่ที่ไม่เพียงแต่เป็นที่พึ่งทางใจของผู้คนเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความรักและการเสียสละในประวัติศาสตร์ไทยอีกด้วย
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/tEZg1HvUy7Ky1xNK7

26. ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร ตั้งอยู่ที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทั้งในด้านการส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน และการฝึกอบรมอาชีพสำหรับประชาชนในท้องถิ่น ภายใต้พระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งพระองค์ได้ทรงเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมอาชีพให้กับราษฎร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและเพิ่มรายได้ของพวกเขาให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวภายในศูนย์ ยังมี พระตำหนัก ที่สร้างขึ้นตามแบบบ้านเรือนไทยประยุกต์เพื่อเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ รวมถึง วังปลา ที่เป็นสถานที่จัดแสดงพันธุ์ปลาน้ำจืดจากทั่วประเทศ โดยมีการจัดแสดงปลาไทยพื้นเมืองในตู้ปลาขนาดใหญ่ ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรเปิดให้เข้าชมทุกวัน และยังมีการจัดฝึกอบรมสำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้หัตถกรรมไทย โดยเปิดให้ชมการฝึกอบรมและกระบวนการผลิตสินค้าหัตถกรรมทุกวัน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/yjPoq5uE7T4tvFdV7

27. หมู่บ้านญี่ปุ่นในกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะเรียน เป็นที่ตั้งของชุมชนญี่ปุ่นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่อาศัยของชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาค้าขายในประเทศไทยตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16 การค้าขายกับต่างชาติเริ่มเพิ่มขึ้นในสมัยนั้น โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นที่ได้รับอนุญาตให้เดินเรือออกไปค้าขายกับต่างชาติ นอกจากจะมีการค้าขายแล้ว ชาวญี่ปุ่นบางส่วนยังได้เดินทางมายังกรุงศรีอยุธยาเพื่ออาศัยอยู่และตั้งรกรากในพื้นที่นี้ ในปัจจุบัน สมาคมไทย-ญี่ปุ่นได้สร้างหุ่นจำลองของ "นากามาซะ ยามาดะ" และจารึกประวัติความเป็นมาของหมู่บ้านญี่ปุ่นในสมัยกรุงศรีอยุธยาไว้ภายในหมู่บ้าน พร้อมทั้งจัดทำอาคารแสดงข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกรุงศรีอยุธยากับต่างประเทศในสมัยนั้นให้ผู้คนได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของชุมชนญี่ปุ่นในอยุธยา
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/cSpJZE34quae6hBa7

28. หมู่บ้านโปรตุเกส ตั้งอยู่ที่ตำบลสำเภาล่ม บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทางทิศตะวันตก ใกล้กับตัวเมืองอยุธยา เป็นชุมชนที่ก่อตั้งโดยชาวโปรตุเกสในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยชาวโปรตุเกสเป็นชาวยุโรปชาติแรกที่เข้ามาติดต่อค้าขายกับกรุงศรีอยุธยาในปีพ.ศ. 2054 โดยอัลฟองโซ เดอ อัลบูเคอร์ก ผู้สำเร็จราชการของโปรตุเกสในเอเชีย ได้ส่งนายดูอาร์เต้ เฟอร์นันเดส เป็นทูตเข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 แห่งกรุงศรีอยุธยา นระหว่างการขุดค้นที่โบสถ์พบโบราณวัตถุที่สำคัญ เช่น โครงกระดูกมนุษย์ กล้องยาสูบ เหรียญกษาปณ์ เครื่องปั้นดินเผา และเครื่องประกอบพิธีทางศาสนา เช่น ไม้กางเขน เหรียญรูปเคารพ และลูกประคำ นอกจากนี้ ยังพบโครงกระดูกจำนวนมากในสุสานที่อยู่ภายในและภายนอกอาคาร ซึ่งเชื่อว่าอาจมีการฝังกันหนาแน่นเนื่องจากการระบาดของโรคในสมัยนั้น โดยในปีพ.ศ. 2239 และพ.ศ. 2255 มีการระบาดร้ายแรงที่ทำให้ผู้คนล้มตายมากมาย อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้การขยายสุสานเกิดขึ้น
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/xLu94rjkzYLUWZ4dA

29. หมู่บ้านปลาตะเพียนสาน ปลาตะเพียนสานเป็นงานประดิษฐ์ที่เกิดจากภูมิปัญญาของคนไทย โดยมีความเป็นมาจากการใช้ใบลานซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติในการทำสิ่งประดิษฐ์ สมัยก่อนใบลานจะถูกนำมาสานเป็นรูปปลาตะเพียนเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวในช่วงที่ปลาโตเต็มที่ การทำปลาตะเพียนสานยังมีความเชื่อในเรื่องของการอวยพรให้เด็กมีสุขภาพแข็งแรง โดยมักนำปลาตะเพียนสานไปแขวนเหนือเปลเด็ก เพื่อให้เป็นสิริมงคล ารพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ไม่เพียงแต่เพิ่มมูลค่าด้วยการฉลุใบลานที่มีลวดลายสวยงามเท่านั้น แต่ยังนำไปใช้ในหลายโอกาส เช่น การตกแต่งบ้านหรือใช้เป็นของขวัญ ของชำร่วยในงานพิธีต่าง ๆ ด้วย นอกจากนี้ยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าชุมชน OTOP และได้รับการจดลิขสิทธิ์ เพื่อช่วยส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและการพัฒนาชุมชนให้ยั่งยืน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/bPbfJnhHQAUPsBBf9

30. ตลาดน้ำอโยธยา เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่น่าสนใจสะท้อนถึงวิถีชิวิตความเป็นอยู่ของชาวคลองว่ามีความผูกพันกับสายน้ำนับแต่อดีตจวบจนปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ และความภาคภูมิใจของชาวอยุธยาที่ยังคงสืบต่อจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อให้ลูกหลานไทยได้มีโอกาสเห็นและสัมผัสกับบรรยากาศแบบไทยๆ ซึ่งนับวันจะหาชมได้อยากยิ่ง
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/4mFvtHpQuwBVY2uQ7

31. ตลาดโก้งโค้ง เป็นตลาดโบราณที่ตั้งอยู่ในตำบลขนอนหลวง ใกล้กับบ้านแสงโสม ซึ่งเป็นบ้านเรือนไทยแบบดั้งเดิมที่ยังคงรักษาสถาปัตยกรรมไทยแบบโบราณไว้ ตลาดนี้มีชื่อว่า "ตลาดโก้งโค้ง" เพราะในอดีตผู้ค้าจะนั่งขายสินค้าบนพื้น และผู้ซื้อจะต้องโก้งโค้งเพื่อเลือกดูสินค้าที่สนใจ ซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิตไทยในอดีต
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/4PotLPJiG96xjAJ47

32. เขื่อนพระราม 6 นั้นตั้งอยู่หมู่ที่10 ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ เป็นเขื่อนทดน้ำแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งสร้างกันแม่น้ำป่าสักเพื่อเก็บน้ำไว้ใช้ในการเกษตร ซึ่งนอกจากนี้ยังมีสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น วัดสะตือ จะมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ให้เพื่อเป็นอนุสรณ์ว่าท่านเกิดที่ตำบลแห่งนี้,หลวงพ่อเลไลยก์ แห่งวัดไก้แจ้ เป็นต้น
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/KCsiPmA2Fqr7raWU7

33. วังช้างอยุธยา แล เพนียด ตั้งอยู่ริมถนนป่าโทน ข้างคุ้มขุนแผนในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2540 ด้วยการสนับสนุนจากกรมศิลปากรและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เดิมสถานที่แห่งนี้มีชื่อว่า "ปางช้างอยุธยา แล เพนียด" ซึ่งได้รับการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "วังช้างอยุธยา แล เพนียด" เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่สถานที่ที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และมรดกโลกแห่งนี้ มีพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ตั้งอยู่ในบริเวณที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยทิศเหนือติดกับบึงน้ำโบราณข้างคุ้มขุนแผน ทิศใต้ติดกับริมถนนป่าโทน และใกล้กับศาลหลักเมือง ซึ่งมีความสัมพันธ์กับพื้นที่สำคัญในประวัติศาสตร์เมืองอยุธยา นอกจากนี้ยังติดกับสระน้ำวัดเกษทางทิศตะวันออก และโครงการตลาดน้ำเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยาทางทิศตะวันตก
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/aACujhsV1kFSAi8U8

34. สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ ตั้งอยู่ถนนอู่ทอง ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะเมือง เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่กว้างขวาง ในพื้นที่ปลูกต้นไม้ต่างๆในวรรณคดี ศาลาไทยและมีซากโบราณสถาน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/ytBvecaai7QA5Gvn6

35. สะพานป่าดินสอ เป็นสะพานเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ใกล้กับวัดบรมพุทธาราม เป็นหนึ่งในสะพานประวัติศาสตร์ที่มีความสำคัญในเมืองกรุงเก่า สะพานแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของความเก่าแก่และความงดงามทางสถาปัตยกรรมของอยุธยาเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจถึงวิถีชีวิตและการเชื่อมโยงของชุมชนในสมัยก่อน สะพานป่าดินสอยังคงเป็นหนึ่งในจุดที่นักท่องเที่ยวและผู้สนใจประวัติศาสตร์มักจะมาเยี่ยมชม เพื่อสัมผัสถึงความงดงามของสถาปัตยกรรมโบราณ และเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตในยุคกรุงศรีอยุธยา สะพานแห่งนี้เป็นเหมือนประตูสู่ความทรงจำของอดีตที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในใจของคนอยุธยาและผู้คนที่มาเยือนจากทั่วทุกมุมโลก
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/PPhyTRS2gcCW5f7aA

36. ศรีอยุธยา ไลอ้อน ปาร์ค เป็นสวนสัตว์น้องใหม่ที่เพิ่งเปิดเมื่อปี 2565 ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองขนาก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บนพื้นที่กว่า 60 ไร่ เป็นสวนสัตว์เปิดที่รวบรวมสัตว์นานาชนิด พร้อมกิจกรรมสนุก ๆ ให้คุณได้สัมผัสและใกล้ชิดกับสัตว์แบบเต็มอิ่ม
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/E7gmZZbo19zNUJ5X9

37. แกรนด์เจ้าพระญา อยุธยา ร้านอาหารริมแม่น้ำที่ผสานความอร่อยและบรรยากาศสุดชิล หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์การรับประทานอาหารที่มาพร้อมกับบรรยากาศสุดพิเศษริมแม่น้ำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แกรนด์เจ้าพระญา อยุธยา คือจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาด ร้านอาหารแห่งนี้โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมที่ทันสมัยและการออกแบบที่เปิดโล่ง ทำให้สามารถชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างเต็มตา
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/Mo1FbPESKwU6kXWNA

38. อยุธยา รีทรีท หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่ผสมผสานความสงบ ความงาม และเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไทย อยุธยา รีทรีท เป็นจุดหมายที่ตอบโจทย์ทุกประการ คาเฟ่กึ่งร้านอาหารและที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจาก วัดท่าการ้อง เพียง 1 กิโลเมตร โดยมีจุดเด่นที่เรือนไทยหลังเก่าซึ่งมีอายุราว 30 ปี ถูกนำมาแปลงโฉมใหม่ในสไตล์ที่ผสานความดั้งเดิมและความทันสมัย เพื่อสัมผัสเสน่ห์ของเรือนไทยโบราณ วิวสระบัวอันงดงาม และบรรยากาศสุดฟินที่จะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/1LVUEZwvQxiZfk6y6

39. รักษ์นา คาเฟ่ คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางสำหรับคนรักธรรมชาติที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศชนบทอย่างแท้จริง คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว้างขวางในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนต่างๆ ให้ผู้มาเยือนได้เลือกผ่อนคลายและดื่มด่ำกับธรรมชาติ แนะนำให้มาในช่วงเย็น โดยเฉพาะเวลาที่พระอาทิตย์กำลังลาลับฟ้า เพราะแสงอาทิตย์ตกที่สะท้อนบนนาข้าวสีเขียวเป็นภาพที่งดงามเกินคำบรรยาย ช่วยเติมเต็มประสบการณ์การพักผ่อนในรูปแบบที่แตกต่าง
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/UP8a9YhbFP2cFLFr8

40. พุทธอุทยานมหาราช ตั้งอยู่ในตำบลบ้านใหม่ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นสถานที่ที่เต็มเปี่ยมด้วยความศรัทธาและความยิ่งใหญ่ทางประวัติศาสตร์ ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นเส้นทางเดินทัพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งกลายมาเป็นแรงบันดาลใจให้ตั้งชื่อสถานที่แห่งนี้ ภายในพุทธอุทยานมหาราช มีจุดเด่นสำคัญคือ รูปเหมือนสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งถือว่าเป็นรูปเหมือนของพระสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยองค์หลวงปู่ทวดมีหน้าตักกว้างถึง 24 เมตร และความสูงรวมฐาน 51 เมตร สร้างจากปูนหุ้มสัมฤทธิ์เคลือบสีทอง งดงามและเปล่งประกาย โครงการนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และเป็นหนึ่งในโครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/WzrZ2Ab2R5JewZ96A

41. ทุ่งบัวแดงอยุธยา หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา “ทุ่งบัวแดงบ้านคลองทราย” ในอำเภอบางปะอิน ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ควรค่าแก่การมาเยือนอย่างยิ่ง ด้วยพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 15 ไร่ ทุ่งบัวแดงแห่งนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความงดงามและความสงบสุขที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสได้อย่างเต็มอิ่ม พื้นที่ที่ช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายและเติมเต็มพลังชีวิต ความงดงามที่เรียบง่ายของดอกบัวแดง ทุ่งนา และชุมชนโดยรอบทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสมสำหรับการหลีกหนีความวุ่นวายของชีวิตประจำวันและใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/NV7jJPLuH4QkLMbGA

42. สวนสาธารณะบึงพระราม ที่เที่ยวอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไม่ได้มีดีเพียงโบราณสถานและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่ยังมีพื้นที่สีเขียวซึ่งเต็มไปด้วยความร่มรื่นและเสน่ห์ของธรรมชาติ หนึ่งในสถานที่ที่ผสมผสานความงดงามของธรรมชาติและกลิ่นอายแห่งอดีตได้อย่างลงตัวคือสวนสาธารณะบึงพระราม ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอยุธยา สวนสาธารณะบึงพระรามตั้งอยู่ในตำบลประตูชัย อำเภอเมือง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางสะดวกจากกรุงเทพฯ ด้วยรถยนต์ส่วนตัว ใช้เวลาเพียง 1.5 ชั่วโมงเท่านั้น ที่นี่เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งต้องการสัมผัสธรรมชาติที่งดงามและประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า หากคุณกำลังมองหาที่พักผ่อนในบรรยากาศที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของอดีต สวนสาธารณะบึงพระรามคือสถานที่ที่ไม่ควรพลาดในแผนการเดินทางของคุณ
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/KdHaEGpDZ8FnzZeo7

43. ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ ที่เที่ยวอยุธยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนอยุธยา โดยเฉพาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการทั้งความสนุกและการเรียนรู้ในเวลาเดียวกัน ที่นี่มีกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงผ่านหลักคำสอนและหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช รัชกาลที่ 9 ซึ่งมุ่งเน้นการใช้ชีวิตอย่างพอเพียงและรู้จักพึ่งพาตนเอง ในสถานที่แห่งนี้คุณจะได้เรียนรู้วิธีการจัดการทรัพยากรต่างๆ เช่น พื้นที่นา พื้นที่เพาะปลูก พื้นที่เลี้ยงสัตว์ และการเก็บน้ำเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน ผ่านการทำกิจกรรมต่างๆ ที่เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวที่ไม่เพียงแต่จะให้ความสนุกและความรู้ ยังเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อคือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาดในการเดินทางมาเยือนอยุธยา
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/fYKUrqHLZghbpTf58

44. ตลาดกลางกุ้งอยุธยา ที่เที่ยวอยุธยา ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อพูดถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลายคนคงนึกถึงแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยเมื่อมาเยือนเมืองเก่าแห่งนี้คือการลิ้มลองกุ้งแม่น้ำอยุธยาที่สดใหม่และรสชาติอร่อย สำหรับใครที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์อิ่มอร่อยในราคาสบายกระเป๋า “ตลาดกลางกุ้งอยุธยา” คือจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาด
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/9Ur9kJdiaPQD9iFd9

45. ตลาดหลวงปู่ทวดอยุธยา ที่เที่ยวอยุธยา ตำบลบ้านใหม่ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์ของตลาดย้อนยุคและอาหารท้องถิ่นที่หลากหลาย นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความเป็นไทยในทุกมุมมอง ตั้งแต่อาหาร ขนม ไปจนถึงการตกแต่งและกิจกรรมที่หลากหลาย
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/iMRYc1YK3byrywD89

46. พระนครคาซ่า ที่เที่ยวอยุธยา เป็นสถานที่เที่ยวในอยุธยาที่ไม่เหมือนใคร แค่ก้าวเข้ามาที่นี่ก็เหมือนหลุดไปในตุรกีทันที ด้วยการตกแต่งที่เต็มไปด้วยสีสันสดใส ทั้งโคมไฟ พรมลวดลายสวยงาม และมุมถ่ายรูปที่มีให้เลือกมากมาย ทั้งโซฟาสไตล์ตุรกีและโต๊ะกลางแจ้งในบรรยากาศสบาย ๆ ทุกจุดเหมาะกับการเก็บภาพความประทับใจ
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/UBxMegxuwefYTEey8

47. สวนวาสนาเมล่อน ที่เที่ยวอยุธยา สวนท่องเที่ยวเชิงเกษตรบรรยากาศร่มรื่น ผลิตและจำหน่ายแตงเมล่อน แคนตาลูป แตงไต้หวัน 8 สายพันธุ์ อาทิ พันธุ์ไซตามะ ฮานาบิ กรีนเนท ฯลฯ รสชาติหวานอร่อย ผลผลิตออกตลอดทั้งปี สามารถเลือกซื้อผลผลิตสดใหม่ได้ถึงสวน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/AtqQ4wixGLqvnmXB9

48. พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย ที่เที่ยวอยุธยา ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านใหม่ ทุ่งมะขามหย่องตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ห่างจากเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาออกไปประมาณ 3-4 กิโลเมตร มีสภาพเป็นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทิศตะวันออก ด้วยทุ่งมะขามหย่องนั้นเคยเป็นสมรภูมิที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยทางรัฐบาลจึงได้จัดทำโครงการสร้างพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย จึงเป็นโครงการจัดสร้างขึ้นตามพระราชดำริ รัฐบาลและพสกนิกรชาวไทย โดยได้ร่วมกันสร้างน้อมเกล้าฯถวายเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวาระมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อปีพ.ศ.2535
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/uFU8mwNM2Zj6HZwXA

49. ศาลหลักเมืองอยุธยา ที่เที่ยวอยุธยา เป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่และรากฐานของอาณาจักรอยุธยา ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองและวัฒนธรรมของสยาม ตามพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ได้ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเมื่อวันศุกร์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 5 พุทธศักราช 1893 โดยมีพิธีกรรมที่เกี่ยวข้องกับพราหมณ์ในการตั้งศูนย์กลางของเมือง นักท่องเที่ยวที่มาเยือนอยุธยาควรแวะชมศาลหลักเมือง ซึ่งนอกจากจะได้สัมผัสกับบรรยากาศแห่งความศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของอยุธยาอย่างลึกซึ้งผ่านสถานที่แห่งนี้ หากคุณกำลังค้นหาสถานที่ที่รวมเอาวัฒนธรรม ความศรัทธา และรากฐานแห่งความเป็นไทยไว้ในที่เดียว ศาลหลักเมืองอยุธยาคือจุดหมายที่ไม่ควรพลาดในแผนการเดินทางของคุณ
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/hFVn9EzXFHW8tStC7

50. หมู่บ้านหัตถกรรมมีดอรัญญิก ที่เที่ยวอยุธยา ประวัติความเป็นมา บ้านต้นโพธิ์ บ้านไผ่หนอง เป็นหมู่บ้านที่มีประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาเเน่น ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 และ 7 ตำบลท่าช้าง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้งสองหมู่บ้านมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักกันไปทั่ว เพราะเป็นเเหล่งผลิตมีดที่ใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศที่ทำกันเป็นล่ำเป็นสันมาเกือบสองร้อยปี
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/PNgDfqpkQ43C9Bm48



แสดงความเห็น
คำค้น (ขั้นสูง) |
ภูมิภาค
|