วัดพระสิงห์วรวิหาร

Rating: 4.2/5 (5 votes)

วันเปิดทำการ: ทุกวัน

เวลาเปิดทำการ: 06.00–18.30 น.

 

วัดพระสิงห์วรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดสำคัญของล้านนาที่มีบทบาทเป็นศูนย์กลางความศรัทธาและวิถีชุมชนในตัวเมืองเชียงใหม่มาอย่างยาวนาน ถ้ามองแบบนักเดินทาง วัดนี้ไม่ใช่แค่ “วัดสวยในเมืองเก่า” แต่เป็นพื้นที่ที่ทำให้เราเห็นว่าเชียงใหม่เติบโตจากรากวัฒนธรรมแบบไหน ทั้งสถาปัตยกรรมแบบล้านนา การบูรณะในแต่ละยุค และประเพณีที่ยังคงเดินต่ออยู่ในปฏิทินชีวิตของคนท้องถิ่น

 

ตามประวัติ วัดพระสิงห์ถูกสร้างขึ้นในปี 1888 โดยพญาผายู กษัตริย์ลำดับที่ 5 แห่งราชวงศ์มังราย เพื่อบรรจุอัฐิของพญาคำฟูพระราชบิดา และต่อมาวัดแห่งนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในศูนย์รวมศิลปกรรมและเรื่องเล่าทางศาสนาที่สำคัญที่สุดของเชียงใหม่ จุดที่คนจำนวนมากตั้งใจมา คือการได้สักการะ “พระพุทธสิหิงค์” พระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ถือเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมือง และยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผู้คนเรียกกันสั้น ๆ ว่า “วัดพระสิงห์”

 

เรื่องเล่าที่ถ่ายทอดกันมาบอกว่า พระพุทธสิหิงค์เคยถูกอัญเชิญจากเชียงรายมายังเชียงใหม่ในสมัยพระเจ้าแสนเมืองมา เดิมตั้งใจจะไปประดิษฐานที่วัดสวนดอก แต่เมื่อราชรถมาถึงบริเวณวัดลีเชียงกลับเดินทางต่อไม่ได้ จึงโปรดให้อัญเชิญประดิษฐานไว้ ณ ที่นั้น และต่อมาจึงเป็นที่รู้จักแพร่หลายจนชื่อ “พระสิงห์” ผูกเข้ากับพื้นที่วัดนี้อย่างแนบแน่น สำหรับคนที่ชอบประวัติศาสตร์ เมืองเก่าเชียงใหม่มีเสน่ห์ตรงที่เรื่องเล่ากับหลักฐานทางศิลปกรรมอยู่ร่วมกันได้ และวัดพระสิงห์ก็เป็นหนึ่งในจุดที่สัมผัสได้ชัดมาก

 

ด้านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรม วัดพระสิงห์มีองค์ประกอบที่น่าดูหลายส่วน โดยเฉพาะวิหารลายคำซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ และเป็นพื้นที่ที่ผู้สนใจศิลปะมักหยุดดูรายละเอียดนานกว่าที่คิด เพราะภายในมีจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องที่โดดเด่นของช่างล้านนา รวมถึงบรรยากาศของอาคารไม้และลวดลายแบบดั้งเดิมที่ทำให้คนรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ในหน้าประวัติศาสตร์มากกว่ากำลังเดินอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยว

 

อีกจุดที่ทำให้วัดพระสิงห์มีชีวิต คือความสัมพันธ์กับเทศกาลและประเพณีของชาวเชียงใหม่ ช่วงสงกรานต์จะมีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์แห่รอบเมืองเพื่อให้ประชาชนสรงน้ำ เป็นภาพที่ทำให้เห็นชัดว่าศรัทธาไม่ได้อยู่แค่ในอาคาร แต่อยู่ในกิจกรรมของผู้คนทั้งเมือง วัดจึงเป็นทั้งสถานที่ประกอบพิธี เป็นพื้นที่พบปะ และเป็นศูนย์รวมความรู้สึกร่วมของคนท้องถิ่นในเวลาเดียวกัน

 

ถ้ามาแบบนักท่องเที่ยวทั่วไป เทคนิคง่าย ๆ คือเผื่อเวลาให้ตัวเองเดินช้าหน่อย วัดพระสิงห์ไม่ได้ต้อง “วิ่งเก็บ” เหมือนเช็กลิสต์แลนด์มาร์ก เพราะรายละเอียดสวย ๆ มักซ่อนอยู่ในความนิ่ง เช่น แสงที่ตกกระทบลวดลาย ภาพรวมของเจดีย์และวิหารจากมุมเฉียง หรือบรรยากาศช่วงเช้าที่คนยังไม่หนาแน่นมาก และถ้าคุณตั้งใจถ่ายภาพ แนะนำให้เคารพพื้นที่ด้วยการหลีกเลี่ยงการยืนบังทาง และงดใช้เสียงดังในโซนที่ผู้คนกำลังสักการะ

 

ในมุมความเชื่อ วัดพระสิงห์ยังเป็นที่ที่หลายคนมาขอพรหรือทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยเฉพาะคนเกิดปีมะโรงที่เชื่อกันว่าพระธาตุเจดีย์ของวัดพระสิงห์เป็นพระธาตุประจำปีเกิด เมื่อได้มานมัสการสักครั้งจะเป็นมงคลต่อชีวิต ความเชื่อแบบนี้ช่วยอธิบายได้ว่าทำไมวัดจึงมีผู้คนแวะเวียนทั้งในวันธรรมดาและวันเทศกาล เพราะที่นี่ไม่ได้เป็นแค่สถานที่ แต่เป็น “ความหมาย” ของผู้คนจำนวนมาก

 

อีกเรื่องที่น่ารักคือความพร้อมด้านการรองรับผู้สูงอายุและผู้พิการ ซึ่งหลายคนอาจไม่ทันคิดเวลาจะพาผู้ใหญ่ในบ้านมาไหว้พระ วัดมีการจัดทางลาดในบางจุด และมีห้องน้ำแยกชายหญิง รวมถึงห้องสำหรับผู้สูงอายุและห้องเด็ก ทำให้การมาเยือนสะดวกขึ้นสำหรับครอบครัวที่เดินทางหลายวัย ถ้าคุณพาคนใช้วีลแชร์มาด้วย แนะนำให้โทรสอบถามล่วงหน้าเพื่อเลือกจุดเข้า–ออกที่เดินง่ายที่สุดในวันที่มา

 

การเดินทาง วัดพระสิงห์อยู่ในเขตเมืองเก่าเชียงใหม่ บนถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมือง เดินทางสะดวกทั้งรถส่วนตัวและรถสาธารณะ ถ้าขับรถมาเองให้ตั้งหมุด “Wat Phra Singh Woramahawihan” และเผื่อเวลาเรื่องการหาที่จอด (โดยเฉพาะวันหยุดและช่วงเย็น) ส่วนการมาแบบแท็กซี่/แกร็บหรือรถแดง ให้แจ้งปลายทางว่า “วัดพระสิงห์ ถนนสามล้าน เมืองเก่า” ซึ่งคนขับส่วนใหญ่รู้จักดี หากคุณพักในโซนคูเมืองหรือถนนนิมมาน บางช่วงสามารถนั่งรถมาไม่ไกลและต่อเดินเที่ยววัดใกล้เคียงในเมืองเก่าได้ในทริปเดียว

 

 

ตอบ: ช่วงเช้าและช่วงบ่ายแก่ ๆ จะเดินสบาย คนไม่แน่นเท่าช่วงสายถึงบ่าย และแสงเหมาะกับการชมรายละเอียดศิลปกรรม

 

ตอบ: แนะนำแต่งกายสุภาพ งดเสื้อผ้าสั้นหรือรัดรูป และรักษามารยาทในโซนที่มีผู้คนสักการะ

 

ตอบ: มีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์แห่ให้ประชาชนสรงน้ำ เป็นประเพณีสำคัญของชาวเชียงใหม่และเป็นช่วงที่คึกคักมาก

 

ตอบ: โดยรวมพอทำได้เพราะมีการจัดทางลาดบางจุดและมีห้องน้ำรองรับ แต่แนะนำโทรสอบถามจุดเข้า–ออกที่สะดวกที่สุดก่อน

 

ตอบ: โทร (66) 5371 1735 หรือ (66) 5374 4523