ผาช่อ

Rating: 3.8/5 (6 votes)

วันเปิดทำการ: โดยทั่วไปทุกวัน (อาจมีการปิดชั่วคราวตามประกาศของอุทยานฯ/สภาพอากาศ แนะนำเช็กก่อนออกเดินทาง)

เวลาเปิดทำการ: โดยทั่วไป 08:30 – 16:30 น. (แนะนำไปช่วงเช้าหรือใกล้เย็น แสงสวยและอากาศไม่ร้อนจัด)

 

ผาช่อ คือหนึ่งใน “งานแกะสลักของธรรมชาติ” ที่คนชอบภูมิประเทศแปลกตาควรได้เห็นสักครั้ง เพราะภาพตรงหน้ามันไม่เหมือนหน้าผาหินทั่วไป แต่เป็นโตรกผาดินที่ถูกลม ฝน และกาลเวลา “เจาะ-กัด-เซาะ” จนเกิดเป็นกำแพงดินสูงชันเป็นแนวยาว มีร่องลายชั้นดินสวยชัดเหมือนชั้นสีในภาพวาด และถ้าคุณเคยชอบบรรยากาศแบบแพะเมืองผี (แพร่) หรือเสาดินละลุ (สระแก้ว) คุณจะรู้สึกคุ้นเคยทันที เพียงแต่ฉากของที่นี่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขาในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่

 

สิ่งที่ทำให้ ผาช่อ ดู “มีเรื่องเล่า” มากกว่าความสวย คือมันไม่ได้เกิดขึ้นแบบฉับพลัน แต่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงภูมิประเทศยาวนานหลายช่วงเวลา แนวคิดที่เล่ากันในพื้นที่คืออดีตบริเวณนี้เคยเป็นทางเดินของแม่น้ำปิงหรือทางน้ำเก่า สังเกตได้จากก้อนกรวดหินกลมมนที่ฝังอยู่ในชั้นดินจำนวนมาก ต่อมาเมื่อสายน้ำเปลี่ยนทิศ พื้นที่เดิมถูกยกตัวเป็นเนินสูง ตะกอนเก่าทับถมเป็นชั้น ๆ แล้วค่อย ๆ ถูกกัดเซาะจนกลายเป็นหน้าผาและเสาดินรูปร่างแปลกตาอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ความสนุกของการมาเดินที่นี่คือคุณจะเห็น “ชั้นเวลา” อยู่บนผนังดินจริง ๆ และยิ่งเดินช้า ยิ่งเห็นรายละเอียดลายดินชัดขึ้นเรื่อย ๆ

 

ภาพรวมของ ผาช่อ คือกำแพงดินสูงราว 30 เมตร (ประมาณระดับเรือนยอดไม้ในบางช่วง) โอบล้อมทางเดินที่ค่อย ๆ ลัดเลาะเข้าไปในโตรก ทำให้ความรู้สึกคล้ายเดินอยู่ใน “แคนยอนดิน” แบบฉบับภาคเหนือ มุมถ่ายรูปจะเด่นมากในช่วงเช้าและช่วงใกล้เย็น เพราะเงาจะช่วยขับมิติของผนังดินให้เห็นชัด โดยเฉพาะลายชั้นดินที่เป็นเส้น ๆ หากคุณชอบถ่ายภาพแนวท่องเที่ยว-ผจญภัย แนะนำใส่เสื้อสีเรียบ ๆ ตัดกับสีดิน จะได้ภาพที่คมและดูมีสเกล

 

ทั้ง ผาช่อ และกิ่วเสือเต้นเป็นปรากฏการณ์ที่ถูกกัดเซาะโดยธรรมชาติ ทำให้แผ่นดินที่เคยเป็นทางเดินของแม่น้ำในอดีตเปลี่ยนรูปร่างมาเป็นเสาดิน ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วาง มาเที่ยวอุทยานฯ นี้แล้ว ยังมีน้ำตกหลายแห่งให้เที่ยวรวมถึงเส้นทางเดินป่าพิชิตยอดสูงที่ดอยผาตั้งอีกด้วย ไม่ว่าจะมาเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน หรือเดินป่าค้างแรมบนเขาแบบ 3 วัน 2 คืน ก็เหมาะทั้งสิ้น

 

ผาช่อ เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะของลมฝนจนทำให้แผ่นดินที่เชื่อกันว่าเมื่อหลายร้อยปี หรือพันปีก่อนบริเวณแห่งนี้เคยเป็นทางเดินของแม่น้ำปิง ซึ่งสังเกตได้จากก้อนกรวดหินกลมมนกระจัดกระจายอยู่ในเนื้อดินจำนวนมาก

 

จนกระทั่งแม่น้ำปิงได้เปลี่ยนสายย้ายทิศไหลผ่านไปที่อื่น บริเวณนี้ก็ได้ถูกยกตัวเป็นเนินเขาสูง ตะกอนแม่น้ำปิงก่อตัวทับถมกันเป็นชั้นๆ ผ่านกลายเวลาและถูกกัดเซาะจนกลายเป็นหน้าผาและเสาดินที่มีรูปร่างแปลกตา คล้ายกับที่แพะเมืองผีในจังหวัดแพร่ หรือฝั่งต้าในจังหวัดพะเยา

 

ผาช่อ นั้นจะมีลาดลายที่สวยงามและมีขนาดใหญ่มีความสูงราว 30 เมตร สูง เมื่อเทียบเรือนยอดไม้ โดยครอบคลุมพื้นที่อาณาบริเวณกว้าง ซึ่งหากคุณจะมาชมผาช่อต้องขับรถมาที่ตำบลยางคราม อำเภอดอยหล่อ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ

 

จากนั้นติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานเป็นไกด์นำทางพาเดินเข้าไปชมผาช่อ ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เที่ยวได้ครบ กิ่วเสือเต้น เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถมาเที่ยวควบกันได้กับผาช่อ เป็นประติมากรรมธรรมชาติที่คล้ายกับผาช่อ อยู่ห่างจากผาช่อประมาณ 1 กิโลเมตร

 

ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลยางคราม, ตำบลเดียวกัน และมีความสวยงามไม่แพ้กัน ลวดลายแตกต่างออกไปแต่มีก้อนกรวดและหินที่มากกว่า มองเห็นได้ชัดเจนกว่าผาช่อและมีความสูงน้อยกว่าผาช่อ สำหรับคนที่มานอนค้างแรมที่อุทยานฯ วันแรกคุณอาจเลือกเที่ยวที่ดอยผาตั้ง

 

โดยการเดินป่าค้างแรมบนเขา วันที่สองกลับลงจากดอยแล้วค่อยมาเที่ยวผาช่อและกิ่วเสือเต้นก็ได้ ดอยผาตั้งเป็นยอดดอยที่มีความสูงประมาณ 1,909 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาดอยอินทนนท์จึงมีอากาศที่หนาวเย็นตลอดปี สามารถมาเดินป่าชมทัศนียภาพได้อย่างสวยงาม

 

ตามแนวสันเขามีลมพัดแรง จึงไม่มีต้นไม้ใหญ่บดบังทิวทัศน์ สามารถชมวิวได้สวยตลอดเส้นทาง ซึ่งส่วนใครที่ไม่อยากเดินดอยให้เมื่อย มาเที่ยวชมผาช่อเดินกลับเหนื่อยๆ ในอุทยานฯ นั้นก็ยังมีน้ำตกหลายสายให้ลงเล่นน้ำผ่อนคลายด้วย เช่น น้ำตกขุนป๊วย, น้ำตกปลาดุกแดง, น้ำตกโป่งสมิด และน้ำตกโป่งน้อย ฯลฯ โดยน้ำตกส่วนใหญ๋จะอยู๋ในเขตอำเภอแม่วาง

 

แต่ที่นิยมมากคือน้ำตกแม่วางเพราะอยู่ใกล้กับผาช่อ เป็นน้ำตกชั้นเดียวสูงประมาณ 20 เมตร กว้างราว 10 เมตร น้ำไหลลาดลงแอ่งเบื้องล่าง บรรยากาศร่มรื่น มีน้ำไหลตลอดปี เหมาะเป็นที่มาคลายร้อนหลังจากเดินเที่ยวมาเหนื่อยๆ ได้ดีทีเดียว

 

หากตัดโปรแกรมเดินป่าเที่ยวดอยผาตั้งออกไป คุณจะใช้เวลาเที่ยวชมผาช่อและกิ่วเสือเต้นเกือบวัน จากนั้นช่วงบ่ายจึงขับรถไปเที่ยวที่ดอยอินทนนท์ได้ เป็นโปรแกรมเที่ยวต่อเนื่องในเส้นทางหลวงหมายเลข 108 ที่น่าสนใจอีกเส้นทางหนึ่งของเชียงใหม่

 

การเดินทาง ผาช่อ ตั้งอยู่ภายในบริเวณอุทยานแห่งชาติแม่วาง อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ หากเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ให้ไปตามทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่ – ฮอด) ระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวขวาไปอำเภอแม่วางตามถนน รพช.12039 และถนน รพช.10240 (แม่วิน – บ่อแก้ว) โดยมีระยะทางประมาณ 36 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่วาง โดยเป็นถนนลาดยางอย่างดีตลอดเส้นทาง

 

ข้อควรระวังแบบไม่ทำให้ทริปเสียอารมณ์: ผาช่อ เป็นพื้นที่ดินที่ “เปราะ” กว่าที่ตาเห็น โดยเฉพาะหลังฝนตก ผิวดินบางช่วงอาจลื่นและขอบสันดินบางจุดอาจทรุดตัวได้ง่าย แนะนำใส่รองเท้าที่เกาะพื้นดี เดินตามทางที่จัดไว้ ไม่ปีนป่ายผนังดิน และหลีกเลี่ยงการจับ/ขูดผนังดินเพื่อถ่ายภาพ เพราะรอยเล็ก ๆ จะสะสมเป็นความเสียหายระยะยาวได้เร็วมาก

 

 

ตอบ: ผาช่อ คือโตรกผาดิน/กำแพงดินที่เกิดจากการทับถมตะกอนเก่าและการกัดเซาะของลมฝนเป็นเวลานาน จนเกิดลายชั้นดินสวยชัดและรูปทรงคล้ายแคนยอนดิน

 

ตอบ: โดยทั่วไปประมาณ 1 ชั่วโมง (รวมเดินเข้า–เดินชม–เดินกลับ) ถ้าเที่ยวควบกับกิ่วเสือเต้นและแวะน้ำตก แนะนำเผื่อเวลาเป็นครึ่งวัน

 

ตอบ: ช่วงเช้าและช่วงใกล้เย็น เพราะแสงนุ่มและเงาจะช่วยให้ลายชั้นดินเด่นขึ้น ภาพจะมีมิติมากกว่าช่วงแดดจัด

 

ตอบ: ทั้งสองเป็นประติมากรรมดินจากการกัดเซาะเหมือนกัน แต่กิ่วเสือเต้นอยู่ใกล้กันมากและลวดลาย/องค์ประกอบกรวดหินเด่นต่างออกไป เหมาะกับการเที่ยวควบเป็นเซ็ตเดียว

 

ตอบ: หลังฝนตกพื้นดินอาจลื่นและบางจุดเปราะ ควรเดินตามทางที่จัดไว้ ไม่ปีนป่าย ไม่แตะ/ขูดผนังดิน และใส่รองเท้าที่เกาะพื้นดี