วัดสัตหีบ (วัดหลวงพ่ออี๋)

วัดสัตหีบ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดหลวงพ่ออี๋ เป็นวัดเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานและเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี วัดแห่งนี้ตั้งอยู่เลขที่ 333 หมู่ 1 ถนนชายทะเล ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมีจุดเด่นคือด้านหลังวัดติดกับทะเล ทำให้มีบรรยากาศที่เงียบสงบและร่มรื่น เหมาะแก่การมาปฏิบัติธรรมและพักผ่อนจิตใจ วัดสัตหีบถือเป็นสถานที่ที่มีทั้งคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศาสนา และการท่องเที่ยวในเวลาเดียวกัน

 

วัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ประมาณปี พ.ศ. 2442 โดยพระครูวรเวทมุนี หรือที่ชาวบ้านเรียกกันอย่างเคารพว่า หลวงพ่ออี๋ พุทฺธสโร ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านในพื้นที่ ด้วยความที่ท่านเป็นพระที่มีความรู้ความสามารถในด้านวิปัสสนากรรมฐานและเป็นที่พึ่งพิงของชาวบ้านในยามทุกข์ยาก ทำให้ประชาชนในชุมชนสัตหีบต่างเลื่อมใสศรัทธาและให้ความเคารพอย่างสูง หลวงพ่ออี๋ยังเป็นที่รู้จักในฐานะพระเกจิผู้มีเมตตาและเปี่ยมด้วยคุณธรรม ชาวบ้านมักมาขอพรและขอคำแนะนำจากท่านในด้านการดำเนินชีวิต

 

การสร้างวัดเริ่มต้นจากนายขำและนางเอียง ทองขำ ซึ่งเป็นโยมบิดาและโยมมารดาของหลวงพ่ออี๋ ได้ยื่นขอพระราชทานที่ดินซึ่งเดิมเป็นป่าไม้รกร้างและไม่มีเจ้าของเพื่อสร้างวัด พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชานุญาตให้สร้างวัดขึ้น โดยกำหนดเขตที่ดินของวัดไว้ ด้านเหนือติดทางเกวียน ด้านใต้ติดทะเล ด้านตะวันตกติดป่า และด้านตะวันออกติดพื้นที่บ้านสัตหีบ ปัจจุบันวัดสัตหีบมีพื้นที่รวมทั้งหมดประมาณ 30 ไร่ 28 ตารางวา ถือเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ที่เหมาะแก่การจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาและรองรับพุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาทำบุญ

 

เมื่อวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2463 วัดสัตหีบได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา สำหรับอุโบสถหลังแรก โดยมีพื้นที่กว้าง 2 เส้น ยาว 3 เส้น นับเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาวัดให้เป็นศูนย์กลางทางศาสนาของชุมชนสัตหีบ ต่อมาในปี พ.ศ. 2557 วัดสัตหีบได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ซึ่งเป็นเกียรติอย่างสูงและสะท้อนถึงความสำคัญของวัดทั้งในด้านศาสนาและสังคม

 

วัดสัตหีบ เป็นที่ประดิษฐานรูปหล่อหลวงพ่ออี๋ขนาดเท่าองค์จริง ซึ่งสร้างขึ้นด้วยความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้าน เนื่องจากความเลื่อมใสศรัทธาในคุณงามความดีและเมตตาธรรมของท่าน รูปหล่อดังกล่าวประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ กลายเป็นศูนย์รวมศรัทธาที่ผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบไหว้ขอพร โดยเชื่อกันว่าเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต นอกจากนี้ หลวงพ่ออี๋ยังมีชื่อเสียงในด้านวัตถุมงคล เช่น เหรียญและเครื่องราง ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่ผู้ศรัทธา

 

วัดแห่งนี้มีประวัติการสืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสที่ยาวนาน เริ่มจากพระครูวรเวทมุนี (หลวงพ่ออี๋) ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2442 จนถึงปี พ.ศ. 2489 รวมระยะเวลา 47 ปี จากนั้นมีการสืบทอดเจ้าอาวาสต่อเนื่อง ได้แก่ พระครูศรีสัตตคุณ (เกษม สนตุสฺสโก) ระหว่างปี พ.ศ. 2489-2496, พระครูศรีสัตตคุณ (บัญญัติ โกมุทโท) ระหว่างปี พ.ศ. 2496-2527, พระครูวิบูลธรรมบาล (เหล็ง ธมฺมปาโล) ระหว่างปี พ.ศ. 2527-2557 และพระวชิรคุณากร (วรรณะ ทสฺสนีโย) ซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 จนถึงปัจจุบัน

 

จุดเด่นอีกประการของวัดสัตหีบคือทำเลที่ตั้ง เนื่องจากด้านหลังวัดติดกับทะเล จึงมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและบรรยากาศที่เงียบสงบ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของวัดแห่งนี้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชมสามารถสัมผัสได้ถึงความสงบร่มรื่นควบคู่กับการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่ปฏิบัติธรรมที่ตอบโจทย์ทั้งชาวท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวจากต่างถิ่น

 

วัดสัตหีบ ยังมีบทบาทสำคัญในการเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมในพื้นที่ เช่น งานบุญสำคัญทางพระพุทธศาสนา งานประเพณีท้องถิ่น และกิจกรรมเพื่อสังคม ซึ่งช่วยสืบสานวัฒนธรรมและเสริมสร้างความสามัคคีในชุมชน นอกจากนี้ ยังเป็นสถานที่ที่ชาวบ้านมักพาบุตรหลานมาบวชเรียนเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาและเรียนรู้คุณค่าทางจริยธรรม

 

สำหรับผู้ที่สนใจเดินทางไปเยี่ยมชม วัดสัตหีบสามารถเดินทางได้สะดวก เนื่องจากตั้งอยู่ในตัวอำเภอสัตหีบ โดยมีถนนเชื่อมต่อกับเส้นทางหลักของจังหวัดชลบุรี นักท่องเที่ยวสามารถมากราบสักการะรูปหล่อหลวงพ่ออี๋เพื่อความเป็นสิริมงคล และชมความงดงามของสถาปัตยกรรมวัด รวมทั้งพักผ่อนกับบรรยากาศริมทะเลที่สงบและผ่อนคลาย วัดสัตหีบจึงเป็นสถานที่ที่ผสมผสานทั้งความศรัทธา ความสงบ และความงดงามทางธรรมชาติไว้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับทั้งผู้แสวงหาที่พึ่งทางจิตใจและนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์ที่มีคุณค่าทางวัฒนธรรมและจิตวิญญาณ