หมู่บ้านทำกลอง

หมู่บ้านทำกลอง ที่เที่ยวอ่างทอง ตั้งอยู่ในตำบลเอกราช จังหวัดอ่างทอง หลังตลาดป่าโมก บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา หมู่บ้านทำกลองแห่งนี้เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ของภูมิปัญญาไทยดั้งเดิมและเป็นแหล่งผลิตกลองฝีมือประณีตที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ ชาวบ้านแพในชุมชนแห่งนี้เริ่มทำกลองมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2470 หรือกว่า 90 ปี โดยมีความตั้งใจในการสืบสานศิลปะและหัตถกรรมการทำกลองผ่านรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะหลังฤดูเก็บเกี่ยวที่ทุกครอบครัวจะมารวมตัวกันเพื่อสร้างสรรค์กลองจากวัสดุธรรมชาติอย่างไม้ฉำฉาและหนังวัว

 

การเดินทาง มายังหมู่บ้านทำกลองเป็นประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความสุขุมเย็นตา เส้นทางเข้าหมู่บ้านนี้เริ่มจากหน้าที่ทำการเทศบาลอำเภอป่าโมก ผ่านถนนสายเล็กที่ขนานไปกับลำคลองชลประทาน ระยะทางประมาณ 17 กิโลเมตร สองข้างทางจะมีร้านขายกลองตั้งอยู่ประปราย ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญและความเป็นมาของอาชีพทำกลองในชุมชนแห่งนี้ เมื่อเข้าสู่หมู่บ้าน นักท่องเที่ยวจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของวิถีชาวบ้าน และเสน่ห์ของการทำกลองที่แฝงอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คน

 

นักท่องเที่ยวสามารถชมขั้นตอนการทำกลองได้อย่างใกล้ชิด ตั้งแต่เริ่มต้นจากการกลึงท่อนไม้ การขึ้นโครงกลอง การเจาะฝังหมุด รวมไปถึงการขึงหนังที่เป็นเอกลักษณ์ โดยใช้ไม้ฉำฉาหรือไม้จามจุรีซึ่งเป็นไม้เนื้ออ่อน ทำให้สามารถขุดเนื้อไม้ได้ง่ายและคงความคงทน

 

นอกจากการทำกลองขนาดเล็กที่เหมาะกับการนำกลับไปเป็นของที่ระลึก หมู่บ้านนี้ยังผลิตกลองขนาดใหญ่เช่น กลองทัด ซึ่งเป็นกลองที่ใช้ในงานพิธีสำคัญ และกลองเฉลิมฉลองที่มีลวดลายงดงาม สะท้อนฝีมือการทำงานที่ละเอียดประณีต โดยช่างในหมู่บ้านนี้มีความสามารถและเชี่ยวชาญในการทำกลองที่ใช้ความปราณีตและฝีมือขั้นสูง

 

เมื่อผ่านหน้าบ้านของกำนันหงส์ฟ้า หยดย้อย ผู้มาเยือนจะได้เห็น "กลองยาวที่สุดในโลก" ตั้งเด่นอยู่ กลองยาวนี้มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 36 นิ้ว (92 เซนติเมตร) และยาวถึง 7.6 เมตร สร้างขึ้นจากไม้จามจุรีต่อกันจำนวน 6 ท่อน โดยใช้เวลาสร้างกว่า 1 ปีในปี พ.ศ. 2537 กลองนี้ไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจของชุมชนเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของมรดกทางวัฒนธรรมที่สะท้อนความอุตสาหะ ความรัก และความทุ่มเทในการสร้างงานฝีมือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

 

หมู่บ้านทำกลองที่ตำบลเอกราชแห่งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งผลิตกลองที่สวยงามและทรงคุณค่า แต่ยังเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้กระบวนการทำกลองแบบไทย นอกจากนี้ ผู้เยี่ยมชมยังสามารถเลือกซื้อกลองต่าง ๆ เป็นของที่ระลึก หรือเป็นของประดับบ้านที่สะท้อนถึงเสน่ห์ของวัฒนธรรมไทยแท้ ๆ

 

หมู่บ้านทำกลองแห่งนี้จึงนับว่าเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่น่ามาเยือนสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาศิลปวัฒนธรรมไทย และชื่นชอบในความงดงามของงานหัตถกรรม โดยการมาเยือนที่นี่ไม่เพียงเป็นการชื่นชมผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตอันเรียบง่ายและความรักในศิลปะที่ชาวบ้านทำกลองได้ถ่ายทอดออกมา