วัดถ้ำตับเตา

Rating: 2.5/5 (10 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: แนะนำ 08.00–17.00 น.
วัดถ้ำตับเตา ตั้งอยู่ที่บ้านตับเตา ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ บนเส้นทางสายเชียงใหม่–ฝาง ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 120 และ 121 ก่อนแยกซ้ายเข้าไปประมาณ 3 กิโลเมตร วัดแห่งนี้เป็นศาสนสถานเก่าแก่ที่ผู้คนในพื้นที่พูดถึงว่าอยู่คู่ชุมชนมานานหลายร้อยปี โดยจุดเด่นของที่นี่ไม่ได้มีแค่ความสงบแบบวัดเชิงเขาเท่านั้น แต่ยังมี “ถ้ำตับเตา” เป็นหัวใจของพื้นที่ ทำให้การมาเยือนเป็นประสบการณ์แบบครึ่งวัดครึ่งธรรมชาติที่เดินเพลินได้จริง
เมื่อมาถึงบริเวณวัด สิ่งที่สัมผัสได้ก่อนคือความร่มรื่นของพื้นที่ มีจุดนั่งพัก ศาลา และกุฏิอยู่รอบ ๆ บรรยากาศโดยรวมเหมาะกับทั้งคนที่ตั้งใจมาไหว้พระและคนที่อยากเดินชมถ้ำแบบไม่เร่งรีบ หนึ่งในภาพจำของวัดคือ “หอพระไตรปิฎกกลางน้ำ” ซึ่งช่วยเพิ่มมิติของความสงบให้พื้นที่ เพราะเป็นองค์ประกอบที่พาอารมณ์ให้ช้าลงก่อนจะเข้าสู่โซนถ้ำและทางเดินขึ้นเขา
ไฮไลต์สำคัญคือถ้ำตับเตา ซึ่งหลายคนมักเปรียบเทียบกับถ้ำเชียงดาวในเชิงบรรยากาศ แต่ขนาดจะเล็กกว่า อย่างไรก็ดี ความสวยงามไม่ได้แพ้กัน เพราะภายในมีทั้งโพรงหินงอกหินย้อย โถงที่มีแสงธรรมชาติช่วยให้เกิดมุมมองนุ่ม ๆ และพระพุทธรูปประดิษฐานให้สักการะ โดยถ้ำตับเตาถูกเล่าว่าแยกออกเป็น 2 ถ้ำหลัก คือ “ถ้ำผาขาว” และ “ถ้ำปัญเจค” ซึ่งลักษณะการเข้าชมและบรรยากาศต่างกันพอสมควร
ถ้ำผาขาวมักถูกจดจำว่าเป็นโซนที่เข้าถึงง่ายกว่า มีบันไดขึ้นไปสู่บริเวณถ้ำที่ค่อนข้างกว้าง และมีแสงสว่างจากช่องเปิดบนภูเขาส่องลงมา ทำให้มองเห็นรายละเอียดของพื้นที่ได้ชัด บางช่วงจะพบพระพุทธรูปและองค์ประกอบทางศาสนารอบ ๆ ที่จัดวางให้กราบไหว้ได้สะดวก ส่วน “ถ้ำปัญเจค” จะให้อารมณ์ลึกและดิบกว่า เพราะทางเดินคดเคี้ยว บางช่วงแคบ และภายในค่อนข้างมืด จึงควรเตรียมไฟฉายให้พร้อมและเดินด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะช่วงพื้นชื้นหรือหลังฝนตก
นอกจากมิติการท่องเที่ยว วัดถ้ำตับเตายังมีชั้นเรื่องเล่าเชิงประวัติศาสตร์ที่ทำให้สถานที่ดู “มีอายุ” มากขึ้น แม้จะไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าถูกสร้างขึ้นในยุคใดสมัยใด แต่มีการสันนิษฐานจากสิ่งก่อสร้างและพระพุทธรูปสำคัญในวัด โดยเฉพาะพระพุทธรูปไสยาสน์องค์ใหญ่ที่เล่าว่ามีความยาวไม่น้อยกว่า 9 เมตร สร้างด้วยการก่ออิฐถือปูน พอกด้วยยางไม้รักและปิดทองในแบบที่ถูกมองว่าใกล้เคียงศิลปะอยุธยา ซึ่งเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันเคยให้ข้อสันนิษฐานว่าอาจอยู่ในช่วงสมัยสมเด็จพระเอกาทศรถ
เรื่องเล่าบางสายยังโยงเข้ากับบริบทการยกทัพในอดีต โดยกล่าวถึงการเดินทางของกองทัพในช่วง พ.ศ. 2135 และมีคำบอกเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ในพื้นที่ว่า ถ้ำตับเตาอาจเคยเป็นที่พักกองทัพในสมัยนั้น แม้เรื่องลักษณะนี้จะเป็น “ตำนานท้องถิ่น” มากกว่าหลักฐานประวัติศาสตร์โดยตรง แต่ก็สะท้อนภาพหนึ่งว่า สถานที่แห่งนี้ถูกมองว่าเป็นจุดสำคัญบนเส้นทางภูเขาและชายแดนมาแต่เดิม โดยภูมิประเทศรอบวัดเป็นแนวเทือกเขาที่สลับซับซ้อนคั่นระหว่างอำเภอไชยปราการกับอำเภอเชียงดาว และเป็นแนวภูเขาที่เชื่อมโยงสู่เขตแดนไทย–พม่าในภาพใหญ่
อีกประเด็นที่ทำให้วัดนี้มีเอกลักษณ์คือที่มาของชื่อ “ตับเตา” ซึ่งถูกอธิบายว่าเพี้ยนมาจากคำว่า “ดับเต้า” หมายถึงการดับขี้เถ้าที่เกิดจากการเผาไหม้ของป่า เมื่อเรียกกันนานเข้าจึงกลายเสียงเป็น “ตับเตา” และเมื่อคนต่างถิ่นได้ยินคำว่า “ตับเต่า” ก็ยิ่งทำให้เกิดความหมายใหม่ไปอีกทางหนึ่ง สิ่งนี้น่าสนใจตรงที่ชื่อสถานที่สะท้อนทั้งภูมิทัศน์ของอดีต (ไฟป่า/การเผาป่า) และกระบวนการเพี้ยนเสียงตามกาลเวลา ซึ่งพบได้บ่อยในชื่อบ้านนามเมืองของภาคเหนือ
ในด้านบันทึกจากคนนอกพื้นที่ มีการเล่าต่อกันว่าครั้งหนึ่งเคยมีชาวนอรเวย์ชื่อ “มร.คาร์ลบ็อก” เข้ามาสำรวจธรรมชาติในล้านนาและบันทึกถึงถ้ำแห่งนี้ว่าเป็นสถานที่สำคัญทางศาสนามามากกว่าร้อยปี มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่เป็นพระนอน ก่ออิฐโบกปูน ทาด้วยยางไม้และปิดทองซึ่งชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ข้อเล่าลักษณะนี้ช่วยให้ภาพของวัดถ้ำตับเตาไม่ได้เป็นเพียงจุดท่องเที่ยวธรรมชาติ แต่เป็นพื้นที่ศรัทธาที่มีความต่อเนื่องยาวนานในสายตาของผู้คนหลายยุค
การเดินทาง หากเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้เส้นทางถนนสายเชียงใหม่–ฝาง (ทางหลวงหมายเลข 107) มุ่งหน้าไปทางอำเภอไชยปราการ เมื่อถึงช่วงระหว่างกิโลเมตรที่ 120 และ 121 จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าไปยังบริเวณวัด ระยะทางจากปากทางเข้าประมาณ 3 กิโลเมตร โดยช่วงท้ายเป็นถนนเข้าชุมชน ควรขับด้วยความระมัดระวังและเผื่อเวลา โดยเฉพาะฤดูฝน หากตั้งใจเข้าถ้ำ แนะนำเตรียมรองเท้าที่เกาะพื้นได้ดี ไฟฉาย น้ำดื่ม และหลีกเลี่ยงการเดินเดี่ยวในโซนถ้ำที่มืดหรือพื้นลื่น
| ชื่อสถานที่ | วัดถ้ำตับเตา |
| ที่ตั้ง | บ้านตับเตา ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ (ทางหลวง 107 ช่วง กม. 120–121 แยกซ้ายเข้าประมาณ 3 กม.) |
| วันเปิดทำการ | ทุกวัน |
| เวลาเปิดทำการ | แนะนำ 08.00–17.00 น. |
| ลักษณะเด่น | วัดร่มรื่นเชิงเขา มีหอพระไตรปิฎกกลางน้ำ และถ้ำตับเตาให้เข้าชม ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐาน (ถ้ำผาขาว/ถ้ำปัญเจค) |
| ยุคสมัย/ช่วงเวลา | ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด (มีคำสันนิษฐานจากพระนอนและสิ่งก่อสร้างว่าเก่าแก่หลายร้อยปี) |
| หลักฐานสำคัญ | พระพุทธรูปไสยาสน์องค์ใหญ่ (เล่าว่ายาวราว 9 เมตร) และถ้ำ 2 โซนหลักที่เป็นศูนย์กลางศรัทธา/การเยี่ยมชม |
| ที่มาชื่อ | “ตับเตา” เพี้ยนจาก “ดับเต้า” หมายถึงการดับขี้เถ้าจากการเผาไหม้ของป่า (เรียกกันนานจึงเพี้ยนเสียง) |
| การเดินทาง | จากเชียงใหม่ใช้ทางหลวง 107 ไปไชยปราการ ช่วง กม. 120–121 แยกซ้ายเข้าวัดประมาณ 3 กม. |
| สถานะปัจจุบัน | เปิดให้สักการะและเข้าชมพื้นที่ถ้ำได้ (ควรเช็กสภาพอากาศก่อนเข้าถ้ำช่วงหน้าฝน) |
| เบอร์โทรศัพท์ | 05-324-8604 |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | ลานจอดรถ, ศาลาพัก/จุดนั่งพัก, พื้นที่ร่มรื่นภายในวัด (การเข้าถ้ำแนะนำพกไฟฉาย) |
| ค่าธรรมเนียม | ไม่ระบุเป็นทางการ (โดยทั่วไปเป็นการทำบุญ/ร่วมบำรุงตามศรัทธา) |
| สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง (พร้อมระยะทาง) | ฮิโนกิแลนด์ (ประมาณ 3–5 กม.) เขื่อนแม่ทะลบหลวง (ประมาณ 6–8 กม.) อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผา (ประมาณ 8–10 กม.) กาดเมืองผี (ประมาณ 4–6 กม.) วัดเจ้าพรหมมหาราช (วัดป่าไม้แดง) (ประมาณ 9–11 กม.) |
| ร้านอาหารยอดนิยมใกล้เคียง (พร้อมระยะทาง + เบอร์โทร) | ต้นต๋ากบ (ประมาณ 8–12 กม.) โทร 081-980-6759 ร้านโกหลัก ไชยปราการ (ประมาณ 6–10 กม.) โทร 081-582-4444 กุสุมาคาเฟ่ & restaurant ไชยปราการ (ประมาณ 10–15 กม.) โทร 053-451-343, 089-999-7488 เจ๊เหมยสุกี้จีนยูนนาน (เส้นฝาง/ทางขึ้นอ่างขาง) (ประมาณ 35–55 กม.) โทร 081-366-3010 cafe de mamana (ประมาณ 10–15 กม.) โทร 097-965-2628 |
| ที่พักยอดนิยมใกล้เคียง (พร้อมระยะทาง + เบอร์โทร) | ทุ่งบัวดินโฮมสเตย์ (ประมาณ 5–8 กม.) โทร 065-591-1468 แสงจันทร์รีสอร์ท ไชยปราการ (ประมาณ 10–15 กม.) โทร 088-2511-452 แฮปปี้โฮมรีสอร์ท (ประมาณ 10–18 กม.) โทร 053-998-348 saimoonbury resort (ประมาณ 10–20 กม.) โทร 053-870-410, 081-884-0286 บ้านสวนองุ่นศิริสุข (the room sirisuk vineyard chai prakarn) (ประมาณ 10–18 กม.) โทร 092-398-8884, 098-750-0115, 086-919-9542 |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: วัดถ้ำตับเตาเปิดทุกวันไหม?
ตอบ: โดยทั่วไปเปิดทุกวัน แนะนำเข้าช่วง 08.00–17.00 น. เพื่อมีเวลาเดินชมถ้ำแบบไม่เร่งรีบ
ถาม: ถ้ำตับเตามีกี่ส่วน และต่างกันอย่างไร?
ตอบ: มักเล่ากันว่ามี 2 ถ้ำหลัก คือ ถ้ำผาขาว (โซนที่สว่างและเข้าถึงง่ายกว่า) และถ้ำปัญเจค (โซนที่ลึกและมืดกว่า) ควรเตรียมไฟฉายและเดินระวังพื้นลื่น
ถาม: ถ้ำตับเตาสวยไหม ถ้าเทียบกับถ้ำเชียงดาว?
ตอบ: ขนาดเล็กกว่าถ้ำเชียงดาว แต่ยังมีเสน่ห์มาก ทั้งบรรยากาศถ้ำหินปูน จุดแสงธรรมชาติ และพระพุทธรูปให้สักการะ เหมาะกับการเที่ยวแบบสบาย ๆ 1–2 ชั่วโมง
ถาม: ที่มาชื่อ “ตับเตา” มาจากอะไร?
ตอบ: อธิบายว่าเพี้ยนมาจากคำว่า “ดับเต้า” หมายถึงการดับขี้เถ้าจากการเผาไหม้ของป่า เมื่อเรียกนานเข้าจึงกลายเป็น “ตับเตา”
ถาม: ถ้าต้องการสอบถามข้อมูลการเข้าชม ติดต่อที่ไหน?
ตอบ: สามารถติดต่อได้ที่ 05-324-8604
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage







หมวดหมู่:
กลุ่ม:
ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
พระราชวัง(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
พิพิธภัณฑ์(
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา(
ไร่ สวนเพื่อการศึกษา(
ศูนย์ฝึกอบรม(
มหาวิทยาลัย
มัสยิด(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ธรรมชาติ และสัตว์ป่า
อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล(
ดอย และภูเขา(
เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(
น้ำตก(
น้ำพุร้อน(
ถ้ำ(
แม่น้ำลำคลอง(
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(
แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์(
สนามกีฬา(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
สวนน้ำ(
โรงละคร(
กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย(
ช้อปปิ้ง
ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน(
ร้านอาหาร
มิชลินสตาร์(
มิชลิน ไกด์(
หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว
หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว(
บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร
รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร(
เมนูอาหารเหนือ, สูตรอาหารเหนือ(
ขนมไทยภาคเหนือ, สูตรอาหารเหนือ(