ขนมครกชาววัง วิธีทำขนมไทยชาววัง สูตรขนมโบราณ

Rating: 2.5/5 (6 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
ขนมครกชาววัง วิธีทำขนมไทยชาววัง สูตรขนมโบราณ ในยุคปัจจุบันนี้เราจะรู้สึกว่าหาทานได้ยากมากขึ้นเรื่อย ๆ หลาย ๆ คนในยุคสมัยปัจจุบันคงจะมีความรู้สึกเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งว่า ขนมชาววัง ไทยโบราณหลาย ๆ อย่างของพวกเรา ที่เราเคยทานกันตอนเด็ก ๆ แต่ตอนนี้หาทานได้ยากมากขึ้น บางอย่างแทบจะหาทานไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
ขนมไทย ขนมโบราณ ขนมหวานไทย นั้นมีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมประจำชาติไทย คือ จะมีความละเอียดอ่อนประณีตในการเลือกสรรวัตถุดิบ วิธีการทำ ที่พิถีพิถัน รสชาติอร่อยหอมหวาน โดยมีสีสันสวยงาม รูปลักษณ์ชวนรับประทาน ตลอดจนกรรมวิธีที่ประณีตบรรจง ขนมไทยดั้งเดิม ขนมโบราณ นั้นจะมีส่วนผสมคือ แป้ง, กะทิ และน้ำตาล เท่านั้น
โดยในสมัยโบราณคนไทยจะทำขนมเฉพาะวาระสำคัญเท่านั้น เป็นต้นว่า งานทำบุญ งานแต่ง เทศกาลสำคัญ หรือต้อนรับแขกสำคัญ เพราะขนมบางชนิดจำเป็นต้องใช้กำลังคนอาศัยเวลาในการทำพอสมควร โดยส่วนใหญ่เป็น ขนบประเพณี เป็นต้นว่า ขนมงาน เนื่องในงานแต่งงาน ขนมพื้นบ้าน เช่น ขนมครก ขนมถ้วย ฯลฯ ส่วนขนมในรั้วในวังจะมีหน้าตาสวยงาม และมีความประณีตวิจิตรบรรจงในการจัดวางรูปทรงขนมสวยงาม
อัตราส่วนของน้ำปูนใส
- ปูนแดงกินหมาก 2 ช้อนตวง (คนให้ละลายทิ้งไว้ข้ามคืน)
- น้ำเปล่า 1000 มิลลิลิตร
ส่วนผสมของแป้งขนมครก
- แป้งข้าวเจ้า 250 กรัม
- ข้าวหอมมะลิหุงสุก 100 กรัม
- น้ำตาลทราย 80 กรัม (ไม่ชอบหวานลดเหลือ70กรัม)
- เกลือสมุทร 1/2 ช้อนชา +1/4 ช้อนชา
- แป้งข้าวเจ้าตราหมีคู่ดาว 1 ช้อนตวง +1/2 ช้อนตวง
- น้ำปูนใส 120 กรัม (หาไม่ได้ใช้น้ำเปล่าแทนได้)
- หัวกะทิคั้นสดแบบเข้มข้น 500 มิลลิลิตร
- หางกะทิ 250 มิลลิลิตร
- ส่วนผสมของหน้ากะทิ
- หัวกะทิคั้นสดแบบเข้มข้น 500 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 60 กรัม
- เกลือสมุทร 2 ช้อนชา
ส่วนผสมของไส้โรยหน้า
- น้ำมันพืชสำหรับเช็ดเบ้าขนมครก
- ข้าวโพดหวานฝานบางๆ นึ่งสุก 1 - 2 ฝัก
- เผือกหอมหั่นเต๋านึ่งสุก 1 ถ้วย
- ต้นหอมซอย 1 ถ้วย
- ผ้าเช็ดเบ้าขนมครก
วิธีทำขนมไทย ขนมครก (สูตรขนมไทย)
1. ขั้นตอนแรกนำข้าวโพดหวานมาฝานบาง ๆ เผือกหั่นเต๋า นำไปนึ่งให้สุกประมาณ 20 นาที ส่วนต้นหอมนำมาซอย พักไว้ จากนั้นทำแป้งขนมครก โดยให้เรานำ แป้งข้าวเจ้า ข้าวสวย น้ำปูนใส กะทิ เกลือ ปั่นให้เข้ากันจนละเอียดดี แล้วเทใส่ในชามผสม พักแป้งไว้ 30 นาที จากนั้นทำหน้ากะทิ โดยให้เรานำแป้งข้าวเจ้า หัวกะทิแบบคั้นสดเข้มข้น น้ำตาลทรายขาว และเกลือสมุทรผสมเข้าด้วยกันคนด้วยตะกร้อมือจนทุกอย่างละลายเข้ากันดี
2. ขั้นตอนต่อไปเทส่วนผสมทั้งสองอย่างลงไปในกาน้ำหัวแหลม เพื่อสะดวกในการเทลงถาดหลุม จะแบ่งเป็น 2 ใบ คือ ส่วนของแป้ง และส่วนของกะทิ แต่ถ้าใครไม่มีกาน้ำหัวแหลม ก็ให้เราเทใส่หม้อก็ได้ค่ะ แล้วใช้ตะบวยเล็ก ๆ ใส่ไว้สำหรับหยอด
3. เทคนิคการหยอดขนมครก เราต้องหยอดส่วนผสมของแป้งลงไปก่อน โดยเริ่มจากด้านนอกของเบ้าขนมครกวนเข้าไปบรรจบที่ด้านใน เมื่อหยอดครบแล้ว ต้องนำส่วนของกะทิหยอดตามลงไปทันทีจนครบ จากนั้นนำเครื่องโรยหน้าขนมครกที่เราเตรียมไว้หยอดลงไปตาม โดยต้นหอมสามารถหยอดได้ทันที ส่วนข้าวโพดกับเผือก หรือหน้าอื่นๆควรรอให้แป้งเซตตัวก่อนค่อยใส่ลงไป
4. จากนั้นให้เรานำฝามาปิดไว้ ใช้เวลาประมาณ 5 นาที หรือดูว่าขอบด้านนอกของขนมครกเริ่มออกสีน้ำตาล ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว นำช้อนมาตักออกทีละหลุม จัดเรียงลงจานที่เราเตรียมเอาไว้ให้สวยงามน่าทาน พร้อมเสิร์ฟ ขนมครกชาววัง พร้อมรับประทาน
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage














หมวดหมู่:
กลุ่ม:
ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
พระราชวัง(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
พิพิธภัณฑ์(
บ้านโบราณ และเมืองโบราณ(
อาร์ตแกลเลอรี่(
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา(
ห้องสมุด(
มหาวิทยาลัย
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
วัด(
โบสถ์(
มัสยิด(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ตลาดน้ำ(
ธรรมชาติ และสัตว์ป่า
แม่น้ำลำคลอง(
อ่าว และชายหาด(
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(
แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์(
สนามกีฬา(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
สวนสนุก(
สวนน้ำ(
โรงละคร(
โรงภาพยนตร์(
ช้อปปิ้ง
ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน(
ห้างสรรพสินค้า(
สปาเพื่อสุขภาพ
สปาเพื่อสุขภาพ(
ร้านอาหาร
มิชลินสตาร์(
ที่พัก
โรงแรม(
หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว
หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว(
รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร(