เหมืองแร่ทองคำ

Rating: 4.4/5 (5 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวนราธิวาส
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
เหมืองแร่ทองคำ อยู่บริเวณบ้านโต๊ะโมะ ตำบลภูเขาทอง อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส ห่างจากชายแดนมาเลเซียเพียง 800 เมตร โดยแหล่งแร่อยู่ในป่าดิบกลางหุบเขา ชาวบ้านเรียกว่าเขาโต๊ะโมะและเขาลิโช ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาสุไหงโก-ลก เป็นหุบเขาที่ทึบแน่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ชื้นและฉ่ำฝนอยู่แทบทุกฤดูกาล
จนเป็นต้นกำเนิดของลำห้วยลิโช อันเป็นสาขาหนึ่งของต้นแม่น้ำสายบุรี และตามสายน้ำที่ไหลคดเคี้ยวลงมาจากป่าลึกและขุนเขานี้เองที่มีผงทองคำปะปนลงมา ชาวบ้านอาศัย "เลียง" เครื่องมือร่อนทำด้วยไม้ รูปร่างคล้ายกระทะ ตักเศษดินเศษหินใต้น้ำขึ้นมาร่อนหาทองคำ โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่น้ำจะหลากลงมาจากเขา พัดพาเอาเกล็ดทองคำลงมาจมอยู่ก้นลำห้วย
การร่อนทองแบบชาวบ้านดำเนินมาช้านาน ชาวจีนชื่อ "ฮิว ซิ้นจิ๋ว" ซึ่งทำมาค้าขายอยู่แถบไทย-มาเลเซียนำพรรคพวกราว 50 คน เข้าขุดค้นหาทองคำด้วยวิธีการร่อนเอาตามสายน้ำตั้งแต่บ้านกาลูบีขึ้นไปทางต้นน้ำ
จนเกือบถึงเขตแดนมาเลเซีย พวกเขาพบว่ายิ่งใกล้ต้นน้ำเท่าใดปริมาณทองคำที่ติดก้นเลียงยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น เมื่อข่าวนี้แพร่ออกไปผู้คนจำนวนมากก็หลั่งไหลมาแสวงโชค ณ ดินแดน แถบนี้ ประมาณกันว่ามีมากถึงพันกว่าคน และนักแสวงโชคเหล่านั้นก็ร่อนหาทองคำได้ถึงวันละ 1-2 สลึงทีเดียว
เมื่อข่าวการพบทองที่โต๊ะโมะเป็นที่โจษจันกันมากขึ้น รัฐบาลไทยมอบหมายให้ "อาฟัด" บุตรชายของฮิวซิ้นจิ๋ว ซึ่งรับสืบทอดงานขุดหาทองคำต่อจากบิดา เป็นผู้รักษาผลประโยชน์ให้รัฐบาล โดยเก็บภาษีจากชาวบ้านที่เข้าไปขุดค้นหาทองคำ อาฟัดเปรียบได้กับนายอำเภอของโต๊ะโมะในสมัยนั้น
ต่อมาได้รับพระราชทานราชทินนามเป็น "หลวงวิเศษสุวรรณภูมิ" เขาเป็นบิดาของ ฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ หรือ พนมเทียน และดินแดนสุดแดนใต้อันลี้ลับ เร้นลึกที่เหมืองโต๊ะโมะซึ่งปู่และพ่อเป็นผู้บุกเบิกนี่เอง คือส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจก่อกำเนิดนวนิยายผจญภัยอันแสนโด่งดัง "เพชรพระอุมา" และ ฮิวซิ้นจิ๋ว ก็คือต้นตระกูล วิเศษสุวรรณภูมิ
ดินแดนแห่งขุนเขาและป่าลึกที่เติบโตด้วยทองคำแห่งนี้ ถูกเปลี่ยนเป็นเหมืองครั้งแรกใน พ.ศ.2473 โดยชาวอังกฤษเข้ามาติดตั้งเครื่องจักรทำเหมืองทองคำอยู่ระยะหนึ่ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรจึงเลิกกิจการไป ก่อนที่เหมืองทองคำจะดำเนินการอย่างเป็นระบบ และจริงจังใน พ.ศ.2475
เมื่อบริษัทฝรั่งเศสชื่อ Societe d"Or de Litcho เข้ามาสำรวจและพบว่าลึกลงไปในผืนดินของขุนเขาโต๊ะโมะและลิโช ซึ่งอยู่ในแนวเทือกเขาสุไหงโก-ลก มีแร่ทองคำอยู่มาก ที่สำคัญเนื้อทองคำมีเปอร์เซ็นต์สูง จึงได้ขอสัมปทานจากรัฐบาลไทยทำเหมืองทองคำเป็นเวลา 20 ปี
บริษัทฝรั่งเศสมีราษฎรอพยพเข้ามาเป็นกรรมกรเหมืองจำนวนมาก กิจการดำเนินไปจนเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เหมืองทองคำต้องปิดตัวลง ชาวฝรั่งเศสเดินทางกลับประเทศ ประวัติศาสตร์แห่งเหมืองทองโต๊ะโมะจึงเปิดบันทึกหน้าใหม่ โดยการดำเนินการของรัฐบาลไทย แต่ทำได้ไม่นาน ก็ประสบปัญหาขาดแคลนวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ
เพราะอยู่ในช่วงสงครามจึงต้องสั่งปิดเหมือง เหมืองทองที่เคยคึกคักกลายเป็นเหมืองร้าง พร้อมกับมีข่าวว่าโจรจีนคอมมิวนิสต์ (จคม.) เข้ามาซุ่มอาศัยยังดินแดนแถบนี้ และใช้เป็นขุมกำลังในการเข้าไปโจมตีและรังควานอังกฤษที่ยังครอบครองมลายูอยู่ ต่อมารัฐบาลให้สัมปทานบริษัทเอกชน ดำเนินกิจการอยู่พักหนึ่งก่อนเลิกไป
ปัจจุบันชุมชนจัดตั้งพิพิธภัณฑ์เหมืองโต๊ะโมะให้ผู้สนใจเข้าชมบริเวณที่เคยเป็นเรือนพัก จุดล่องแพและอุปกรณ์ร่อนแร่ทองคำ
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage



หมวดหมู่:
กลุ่ม:
ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
พระราชวัง(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
พิพิธภัณฑ์(
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
วัด(
มัสยิด(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล(
เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(
น้ำตก(
แม่น้ำลำคลอง(
อ่าว และชายหาด(
หมู่เกาะ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
สนามกีฬา(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
ช้อปปิ้ง
ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน(
บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร
รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร(