
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์

Rating: 3.9/5 (7 votes)




สถานที่ท่องเที่ยวกำแพงเพชร
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่มีความสำคัญและโดดเด่นที่สุดของภาคกลางตอนบนของประเทศไทย ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสองจังหวัดคือจังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดนครสวรรค์ ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 558,750 ไร่ หรือ 894 ตารางกิโลเมตร ถือเป็นผืนป่าตะวันตกที่มีความอุดมสมบูรณ์และสมบูรณ์แบบที่สุดตั้งแต่จังหวัดตากจนถึงจังหวัดกาญจนบุรี ทิศเหนือของอุทยานติดกับอุทยานแห่งชาติคลองลาน ทิศใต้ติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี และทิศตะวันตกติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก ความเชื่อมโยงของพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ทำให้อุทยานแห่งชาติแม่วงก์เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญของสัตว์ป่าหายากและระบบนิเวศที่หลากหลาย
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ได้รับการประกาศขึ้นเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2530 ป่าส่วนใหญ่ของอุทยานประกอบด้วยป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบ และป่าเต็งรัง ป่าแม่วงก์มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ทั้งในด้านพรรณไม้และสัตว์ป่า ต้นไม้ที่สำคัญและมีคุณค่าทางเศรษฐกิจหลายชนิดสามารถพบได้ในพื้นที่ เช่น สัก ประดู่ มะค่าโมง ยางแดง เต็ง และรัง เป็นตัน ป่าที่อุดมสมบูรณ์เหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งผลิตออกซิเจนและแหล่งกักเก็บน้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นบ้านของสัตว์ป่าหายากหลายชนิด
สัตว์ป่าในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์มีความหลากหลายอย่างมาก และบางชนิดถือเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เช่น ช้างป่า กระทิง เสือ กวาง เก้ง หมี แมวลาย และนกหลายชนิด โดยเฉพาะนกที่หายากและพบเพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย เช่น นกกระเต็นขาวดำใหญ่ นกเงือกคอแดง นกกางเขนดง นกโพระดกหูเขียว และนกพญาปากกว้างหางยาว การอนุรักษ์และการจัดการพื้นที่ป่าของอุทยานจึงมีความสำคัญต่อการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและสมดุลทางธรรมชาติ
ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแม่วงก์มากที่สุดคือฤดูหนาว ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ อากาศเย็นสบายและทัศนียภาพสวยงาม ทำให้เหมาะสำหรับการเดินป่า ชมวิว และพักแรมท่ามกลางธรรมชาติ ภายในอุทยานมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สนใจธรรมชาติและการผจญภัย แก่งผาคอยนางเป็นแก่งหินขนาดใหญ่ในลำน้ำคลองขลุง ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 1,800 เมตร จากบริเวณแก่งหินสามารถเดินขึ้นไปอีกประมาณ 350 เมตรก็จะถึงน้ำตกผาคอยนาง ซึ่งเป็นน้ำตกเล็ก ๆ มีทั้งหมด 4 ชั้น บริเวณใกล้น้ำตกสามารถกางเต็นท์พักแรมได้ นักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความสงบของป่าและเสียงน้ำตกจะพบว่าที่นี่เป็นจุดที่เหมาะสมอย่างยิ่ง
อีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือจุดชมวิวกิ่วกระทิง ตั้งอยู่กิโลเมตรที่ 81 จากที่ทำการอุทยาน ไปตามถนนคลองลาน-อุ้มผางประมาณ 16 กิโลเมตร เป็นหน้าผาที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพป่าไม้รอบ ๆ ได้อย่างสวยงามและกว้างไกล บริเวณนี้สามารถกางเต็นท์พักแรมได้เช่นกัน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกท่ามกลางป่าเขาที่สมบูรณ์และมีความสงบ
ช่องเย็นเป็นจุดสูงสุดของถนนสายคลองลาน-อุ้มผาง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 28 กิโลเมตร มีความสูง 1,340 เมตรจากระดับน้ำทะเล อากาศเย็นตลอดปี มีสายลมพัดผ่านและหมอกปกคลุมอยู่เสมอ อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 20 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวสามารถชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามและสัมผัสความหนาวเย็นของป่าเขาได้จากที่นี่ พื้นที่โดยรอบเป็นป่าดิบเขา มีพันธุ์กล้วยไม้หายาก เฟิร์น มหาสดำ รวมถึงนกหายากหลายชนิด เช่น นกเงือกคอแดง นกภูหงอนพม่า นกพญาปากกว้างหางยาว และนกหัวขวานใหญ่หงอนเหลือง การเดินทางไปช่องเย็นต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม เช่น ผ้าพลาสติก เสื้อกันหนาว ไฟฉายหรือโคมไฟ โลชั่นกันแมลง และถุงสำหรับนำขยะลงไป เนื่องจากที่นี่ไม่มีไฟฟ้าหรือเตาแก๊สสำหรับปรุงอาหาร ทางอุทยานกำหนดเวลาขึ้นลงเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
ยอดเขาโมโกจูเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติแม่วงก์และสูงที่สุดในผืนป่าตะวันตก ด้วยความสูง 1,964 เมตร จากระดับน้ำทะเล คำว่า “โมโกจู” เป็นภาษากะเหรี่ยง หมายถึงเหมือนฝนจะตก ยอดเขามักถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกและอากาศหนาวเย็นตลอดเวลา การขึ้นยอดเขาโมโกจูต้องใช้เวลาทั้งไปและกลับประมาณ 5 วัน และต้องพักแรมในป่าตามจุดที่กำหนด นักท่องเที่ยวต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม เพราะเส้นทางขึ้นเขามีความลาดชันมากกว่า 60 องศา ผู้สนใจเดินทางไปยอดเขาโมโกจูควรศึกษาสภาพเส้นทางและสภาพอากาศล่วงหน้า และติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานเพื่อขอคำแนะนำและผู้ช่วยนำทาง ซึ่งเปิดให้ขึ้นยอดเขาได้เฉพาะเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์เท่านั้น
น้ำตกแม่กระสาเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดของอุทยาน มีทั้งหมด 9 ชั้น สูง 900 เมตร อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 18 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าไปกลับประมาณ 3-4 วัน น้ำตกแม่รีวาอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 21 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่สวยงาม มีทั้งหมด 5 ชั้น ใช้เวลาเดินเท้าไปกลับ 2 วัน ส่วนบริเวณเดียวกับน้ำตกแม่รีวาและน้ำตกแม่กระสายังมีน้ำตกแม่กีซึ่งเกิดจากเทือกเขาถนนธงชัย การเข้าชมน้ำตกทั้งหมดนี้ต้องใช้การเดินเท้าและเตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและอุปกรณ์
น้ำตกนางนวลและน้ำตกเสือโคร่งตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 99 ถนนสายคลองลาน-อุ้มผาง น้ำตกนางนวลต้องไต่ลงเขาประมาณ 200 เมตร ส่วน น้ำตกเสือโคร่งต้องเดินไปประมาณ 1 กิโลเมตร การเข้าชมน้ำตกทั้งสองแห่งต้องแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานทุกครั้ง นอกจากนี้อุทยานยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกนางนวล ระยะทาง 6.4 กิโลเมตร และเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกธารบุญมี ใช้เวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถศึกษาและสังเกตพันธุ์ไม้ชนิดต่าง ๆ รวมถึงนกหายากที่อาศัยอยู่ในป่าแม่วงก์ได้
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์มีความโดดเด่นในเรื่องของการท่องเที่ยวแบบเดินป่าระยะไกล การเดินป่าที่นี่มีทั้งความท้าทายและความสวยงามของธรรมชาติ ทางอุทยานจะจัดทำตารางกำหนดเวลาเดินป่าระยะไกลประจำปีเพื่อควบคุมความปลอดภัยและรักษาสมดุลของธรรมชาติ นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด และควรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยานเพื่อจองเวลาและขอคำแนะนำเกี่ยวกับอุปกรณ์และการเตรียมตัว
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวก อุทยานแห่งชาติแม่วงก์มีบ้านพักและพื้นที่กางเต็นท์ไว้รองรับนักท่องเที่ยว แต่ผู้ที่ต้องการพักแรมควรนำเต็นท์ อุปกรณ์นอน เสื้อผ้าอุ่น และอุปกรณ์ประกอบอาหารมาเอง เนื่องจากบางพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าและไม่มีร้านค้าสำหรับจัดหาอุปกรณ์เพิ่มเติม
การเดินทางจากกรุงเทพฯ สามารถใช้ทางหลวงหมายเลข 1 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1117 สายคลองลาน-อุ้มผาง เมื่อถึงสี่แยกเข้าคลองลานให้ตรงไปอีกประมาณ 19 กิโลเมตรก็จะถึงที่ทำการอุทยาน หรืออีกเส้นทางหนึ่งคือใช้ทางหลวงหมายเลข 1072 สายลาดยาว-คลองลาน เมื่อถึงสี่แยกตลาดคลองลานให้เลี้ยวซ้ายไปที่ทำการอุทยาน สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสามารถนั่งรถโดยสารปรับอากาศ กรุงเทพฯ-คลองลาน ลงที่ตลาดคลองลาน แล้วเหมารถสองแถวหรือรถมอเตอร์ไซค์ไปอุทยานได้
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญ แต่ยังเป็นศูนย์รวมของความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ การอนุรักษ์ป่าไม้และสัตว์ป่าที่นี่เป็นเรื่องสำคัญต่อความสมดุลของธรรมชาติและการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับพันธุ์ไม้และสัตว์หายาก นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเยี่ยมชมไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสความงามของธรรมชาติ แต่ยังมีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของการอนุรักษ์ป่าและสัตว์ป่าด้วย
การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติแม่วงก์เป็นประสบการณ์ที่นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าแบบระยะสั้นเพื่อชมวิว น้ำตก และสัตว์ป่า หรือการเดินป่าระยะไกลขึ้นไปยังยอดเขาโมโกจูเพื่อสัมผัสทัศนียภาพที่สวยงามเหนือเมฆหมอก ความหลากหลายทางธรรมชาติและความท้าทายในการเดินทางทำให้แม่วงก์กลายเป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ
อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ยังเป็นแหล่งการเรียนรู้ทางธรรมชาติสำหรับนักวิจัยและนักศึกษา นักวิจัยสามารถศึกษาเกี่ยวกับพันธุ์ไม้ สัตว์ป่า นิเวศวิทยา และสภาพอากาศในป่าดิบเขา ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญต่อการวางแผนอนุรักษ์และการจัดการพื้นที่ป่าอย่างยั่งยืน นอกจากนี้อุทยานยังจัดกิจกรรมการศึกษาธรรมชาติและนำชมป่าระยะสั้นเพื่อให้ผู้เข้าชมเข้าใจถึงความสำคัญของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
แม้การเดินทางและการพักแรมในแม่วงก์จะต้องมีการเตรียมตัวอย่างรอบคอบ แต่ความคุ้มค่าที่นักท่องเที่ยวจะได้รับคือความสงบ ความงดงามของธรรมชาติ ความหลากหลายของสัตว์ป่า และโอกาสในการสัมผัสกับป่าดิบเขาที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย การปฏิบัติตามกฎระเบียบและข้อแนะนำของเจ้าหน้าที่อุทยานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปกับการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและช่วยรักษาสมบัติทางธรรมชาติไว้ให้คนรุ่นต่อไป
นักท่องเที่ยวที่สนใจควรติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ กิโลเมตรที่ 65 ถนนสายคลองลาน-อุ้มผาง อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร 62180 โทรศัพท์ 0 5576 6436, 0 5576 6024, 0 5576 6027 หรือที่ตู้ ป.ณ. 29 อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร 62180 รวมถึงสามารถติดต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เขตบางเขน กรุงเทพมหานครเพื่อขอข้อมูลและคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเตรียมตัวก่อนเข้าป่า
ด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ ความสมบูรณ์ของป่าไม้ และความท้าทายของการเดินทาง อุทยานแห่งชาติแม่วงก์จึงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบธรรมชาติ การเดินป่า การชมสัตว์ป่า และการสำรวจน้ำตก รวมถึงเป็นสถานที่เรียนรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การมาเยือนแม่วงก์ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้คนได้ผ่อนคลายและใกล้ชิดกับธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังสร้างความเข้าใจและความตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาป่าไม้และสัตว์ป่าในประเทศไทยให้คงอยู่ต่อไป






แสดงความเห็น
คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage