มัสยิดซีรอยุ้ลอิบาดะห์

Rating: 4.4/5 (5 votes)

วันเปิดทำการ: ทุกวัน

เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.

 

มัสยิดซีรอยุ้ลอิบาดะห์ (พระรามเก้า) ซึ่งเดิมเรียก สุเหร่าปากคลองลาดพร้าว ที่เที่ยวกรุงเทพ บ้านเลขที่ 346 ซอยพระรามเก้า 27 ถนนพระรามเก้า ตำบลหัวหมาก อำเภอบางกะปิ มัสยิดในกรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10240

 

พี่น้องชาวปัตตานี (มลายู) ต่างพากันอพยพเข้ามาจับจองพื้นที่ย่านสามอิน โดยเมื่อมีลูกหลานเพิ่มมากขึ้นได้กระจายตัวออกไปจับจองที่ดินย่านอื่น ๆ คือบ้านป่า คลองตรง หน้าราม และลูกหลานบางส่วน คือ อัลมัรฮูมฮัจยีสะและห์กับ อัลมัรฮูมะห์โต๊ะเหรี่ยม ขามเทศทอง จึงได้มาจับจองพื้นที่ย่านปากคลองลาดพร้าว แล้วสร้างบาแลเล็ก ๆ

 

โดยเพื่อเป็นศูนย์รวมในการประกอบศาสนกิจ สัปปุรุษของมัสยิดเกือบจะทั้งหมดเป็นญาติพี่น้องกันและสัปปุรุษบางส่วนเป็นมุสลิมอพยพมาจากที่อื่นปลูกบ้านอยู่บริเวณพื้นที่วะกัฟของมัสยิด ซึ่งส่วนพี่น้องย่านอื่น ๆ อย่างบ้านป่า รามคำแหง และคลองตรง ที่เป็นลูกหลานจากบ้านสามอินก็พายเรือไปมาหาสู่และช่วยเหลือติดต่อกันมาตลอด

 

มัสยิด ซีรอยุ้ลอิบาดะห์ (พระรามเก้า) โดยตั้งอยู่บนที่ดินของมัสยิดสองแปลงมีพื้นที่ติดต่อกัน มีเนื้อที่ดินจํานวนทั้งหมด 2 ไร่ 3 งาน 10 ตารางวา ที่ดินดังกล่าวนี้อัลมัรฮูมฮัจยีสะและห์กับ อัลมัรฮูมะห์โต๊ะเหรี่ยม ขามเทศทอง นั้นเป็นผู้วากัฟ (อุทิศ) ให้แก่มัสยิดซีรอยุ้ลอิบาดะห์ โดยในขณะที่ท่านทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ท่านได้มอบหมายให้ อัลมัรฮูม อิหม่ามฮัจยีฮาซัน ขามเทศทอง บุตรชายคนโตของท่านเป็นผู้ดําเนินการ 

 

โดยหลังจากที่ท่านทั้งสองได้จากโลกนี้กลับไปสู่ความเมตตาของอัลเลาะห์ ซ.บ. แล้ว อัลมัรฮูมอิหม่ามฮัจยีฮาซัน ขามเทศทอง ได้ดําเนินการจัดโอนที่ดินทั้งสอง แปลงดังกล่าวให้เป็นกรรมสิทธิ์ของมัสยิดชีรอยุ้ลอิบาดะห์จนเป็นที่เรียบร้อย ในการขออนุญาตจดทะเบียนจัดตั้งโรงเรียนซีรอยุ้ลอิบาดะห์ ในขณะนั้น ทางรัฐบาลไม่ยอมให้มัสยิดเป็นผู้รับใบอนุญาตให้เป็นเจ้าของโรงเรียน ซึ่งทางมัสยิดจึงได้ใช้ชื่ออัลมัรฮูมอิหม่ามฮัจยี-ฮาซัน ขามเทศทอง เป็นผู้รับใบอนุญาต เป็นเจ้าของจัดตั้งโรงเรียนแทนมัสยิด โดยมีอาจารย์รังสรรค์ วิทยานนท์ ได้ช่วยติดต่อประสานงานกับกระทรวงศึกษาธิการให้ โดยปัจจุบันรัฐบาลได้อนุญาตให้มัสยิดเป็นผู้รับใบอนุญาตให้เป็นเจ้าของจัดตั้ง แต่หลังจากอัลมัรฮูมฮัจยีสะและห์กับ อัลมัรฮูมะห์โต๊ะเหรี่ยม ขามเทศทอง

 

อพยพมาจากบ้านสามอินและตั้งรกรากย่านปากคลองลาดพร้าว ได้สร้างบาแลไม้ทรงปั้นหยา 1 ชั้นยกสูง โดยเชื่อมต่อกับบ้านของท่าน เพื่อให้ลูกหลานได้มาใช้งานและทำอิบาดะห์ร่วมกัน ซึ่งหลังจากนั้นพื้นที่บริเวณมัสยิดเริ่มคับแคบจึงได้ก่อสร้างมัสยิดหลังใหม่เป็นอาคารคอนกรีต 2 ชั้นและใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน ในส่วนไม้เก่าจากบาแลนำมาสร้างเป็นอาคารโรงเรียนซีรอยุ้ลอิบาดะห์ 2 ชั้นอยู่ข้างๆ มัสยิดเป็นอาคารไม้ทรงปั้นหยา โดยชั้นบนใช้ทำการสอนอัลกุรอาน ชั้นล่างสำหรับสอนฟัรดูอีน จากแต่เดิมทำการเรียนการสอนที่มัสยิด