พิพิธภัณฑ์วัดเกตการาม

Rating: 4.5/5 (4 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน (พิพิธภัณฑ์มักเปิดประมาณ 09:00–16:00 น. ทั้งนี้อาจมีการปิดในวันอาสาฬหบูชา วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอื่น ๆ ตามดุลยพินิจของวัด)
เวลาเปิดทำการ: โดยประมาณ 09:00–16:00 น.
พิพิธภัณฑ์วัดเกตการาม ตั้งอยู่ภายในวัดเกตการาม ย่านชุมชนวัดเกตริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง จังหวัดเชียงใหม่ วัดเกตการามเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1971 ในสมัยพระเจ้าสามฝั่งแกน แห่งอาณาจักรล้านนา บริเวณย่านวัดเกตนั้นเป็นพื้นที่สำคัญมาตั้งแต่อดีต ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ การค้าขายทางเรือ และเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ ทั้งชาวพื้นเมือง ชาวจีน และคหบดีชาวต่างประเทศจำนวนมาก ซึ่งทิ้งร่องรอยทางสถาปัตยกรรมและวิถีชีวิตเอาไว้ให้เห็นจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบัน ย่านวัดเกตได้กลายเป็นทั้งย่านที่อยู่อาศัยที่เงียบสงบ และย่านท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมริมแม่น้ำปิงของเมืองเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมวัด ร้านค้าเก่าแก่ บ้านไม้โบราณ คาเฟ่ริมน้ำ และโรงแรมสไตล์บูทีคที่ดัดแปลงจากโกดังหรืออาคารเก่าริมฝั่งแม่น้ำปิง ทำให้การมาเยือนพิพิธภัณฑ์วัดเกตการามไม่ใช่เพียงการชมวัตถุจัดแสดงในอาคารเท่านั้น แต่ยังได้ซึมซับบรรยากาศของชุมชนเก่าแก่ที่ยังมีชีวิตอยู่
พิพิธภัณฑ์วัดเกตการามก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2542 โดยความร่วมมือของชุมชนและศรัทธาวัดเกต ภายใต้การดูแลของคณะกรรมการวัดเกตการาม อาคารพิพิธภัณฑ์เดิมเป็นกุฏิของพระครูชัยศีลวิมล (พ.ศ. 2429–2500) อดีตเจ้าอาวาสและพระเถระสำคัญของวัด ชาวบ้านจึงเรียกกุฏิหลังนี้อย่างคุ้นเคยว่า “โฮงตุ๊เจ้าหลวง” การดัดแปลงกุฏิไม้เก่าแก่ให้เป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนจึงเหมือนเป็นการสืบต่อบทบาทของสถานที่เดิม ที่เคยเป็นทั้งที่พำนักของพระผู้ใหญ่และศูนย์รวมจิตใจของผู้คนในชุมชน
ก่อนการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ คณะกรรมการวัดเกตการามได้ไปศึกษาดูงานการจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์วัดร้องเม็ง แล้วเห็นว่า ชุมชนวัดเกตก็มีวัตถุทางวัฒนธรรมเก่าแก่จำนวนมาก ทั้งเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน ภาพเก่า เอกสาร และสิ่งของเกี่ยวกับวิถีชีวิตชาวล้านนาและชุมชนริมแม่น้ำปิง หากไม่เก็บรักษาอย่างเป็นระบบก็อาจสูญหายไปทีละน้อย จึงเกิดแนวคิดที่จะรวบรวมและจัดแสดงสิ่งของเหล่านี้ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ชุมชน เพื่อเป็นทั้งแหล่งเรียนรู้และคลังความทรงจำของชาววัดเกต
เมื่อก้าวเข้าสู่อาคารพิพิธภัณฑ์ ห้องจัดแสดงส่วนแรกเป็นโถงกว้างที่ไม่ได้กั้นผนังแบ่งห้อง วัตถุจัดแสดงจึงถูกแยกกลุ่มด้วย “ประเภทของวัตถุ” แทนการแบ่งพื้นที่ด้วยกำแพง เช่น ด้านขวามือจากประตูทางเข้าจะเป็นบริเวณหิ้งพระและพระพุทธรูปศิลปะพม่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพระพุทธรูปที่วัดได้รับการบริจาคเพิ่มเติมในระยะหลัง สะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์ทางศาสนาและวัฒนธรรมระหว่างล้านนากับพม่าในอดีต ส่วนด้านซ้ายมือจะเห็นกลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือนแบบโบราณและเครื่องดนตรีล้านนาที่จัดวางอยู่เคียงกัน
เครื่องใช้ในครัวเรือนจำนวนมากทำจากเครื่องปั้นดินเผา ตั้งเรียงรายอยู่บนชั้นไม้ที่ทำขึ้นอย่างง่าย บางชิ้นแขวนกับโครงไม้ตามลักษณะการใช้งานดั้งเดิม เช่น หม้อดินแขวน ตะกร้าสาน หรือภาชนะสำหรับใส่ข้าวของเครื่องใช้ในครัวเรือน ใต้หรือข้างวัตถุจะมีป้ายชื่อผู้บริจาค และป้ายชื่อเรียกวัตถุในภาษาท้องถิ่น ช่วยให้ผู้ชมเข้าใจทั้งหน้าที่การใช้งานและเห็นร่องรอยความผูกพันระหว่างคนในชุมชนกับสิ่งของที่นำมาถวายวัด
ถัดจากกลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือนคือกลุ่มเครื่องดนตรี มีทั้งเครื่องดนตรีพื้นบ้านล้านนา เช่น สะล้อ ซึง กลองปูจา ปี่ และเครื่องดนตรีไทยภาคกลางอย่างระนาด ฆ้องวง ฯลฯ การนำเครื่องดนตรีทั้งสองสายวัฒนธรรมมาอยู่ร่วมกันในพื้นที่เดียว ชี้ให้เห็นว่า วัดและชุมชนวัดเกตเป็นพื้นที่ที่รับเอาวัฒนธรรมต่างถิ่นเข้ามาผสมผสานกับรากเดิมของล้านนาได้อย่างกลมกลืน ก่อนเข้าสู่บริเวณเครื่องดนตรีจะมี “รั้วไม้” สูงประมาณระดับสะโพกกั้นพื้นที่เป็นสัดส่วน แสดงเจตนารักษาระยะห่างระหว่างผู้ชมกับวัตถุที่เปราะบาง
นอกจากโถงจัดแสดงด้านหน้าแล้ว ภายในอาคารพิพิธภัณฑ์ยังมีห้องจัดแสดงย่อยอีก 3 ห้อง ซึ่งใช้พื้นที่ต่อเนื่องจากโถงใหญ่ โดยแต่ละห้องสะท้อนมิติของ “ความทรงจำ” และ “สิ่งของ” ในคนละแบบกัน
ห้องที่ 1 เป็นห้องขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยวัตถุหลากหลายประเภทจนให้ความรู้สึกคล้ายคลังเก็บของมากกว่าห้องจัดแสดงแบบทางการ ภายในมีทั้งกลุ่มผ้าโบราณที่จัดเรียงซ้อนกันเป็นชั้น ๆ ในตู้กระจก หนังสือเก่าที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและวิถีชุมชน เครื่องแก้ว ถ้วยโถโอชาม พัดลมผ้าแขวนติดเพดาน เครื่องปั๊มน้ำเก่า และสิ่งของร่วมสมัยอื่น ๆ ที่แม้จะมีอายุไม่มากนักแต่ไม่ได้ใช้งานแล้ว การที่สิ่งของเหล่านี้มารวมตัวกันในห้องเดียว ชวนให้ผู้ชมตั้งคำถามถึงความหมายของคำว่า “วัตถุโบราณ” ว่าอาจไม่ได้จำกัดเพียงสิ่งของที่มีอายุหลายร้อยปีเท่านั้น แต่อาจหมายถึงสิ่งที่เลิกใช้ไปจากชีวิตประจำวันแล้วในยุคสมัยหนึ่งด้วย
ห้องที่ 2 จัดแสดงวัตถุหลากหลายไม่ต่างจากห้องแรก แต่เน้นไปที่สิ่งของที่เล่าเรื่องความเชื่อและเครือข่ายความสัมพันธ์ของผู้คนในชุมชนล้านนา ภายในห้องมีภาพถ่ายเก่า พระพุทธรูป พระพิมพ์ ตาลปัตรหรือพัดยศแบบพม่า หนังสือวรรณกรรมล้านนา เทวรูปไม้ หิน และปูนปั้น ตลอดจนตุ๊กตาจีน เครื่องชั่งตวงแบบดั้งเดิม เทปและแผ่นเสียงเก่า การที่วัตถุจากหลายวัฒนธรรมหลายช่วงเวลาถูกรวบรวมมาอยู่ในห้องเดียวกันอย่างค่อนข้างหนาแน่น ทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงความเป็น “ชุมทางวัฒนธรรม” ของย่านวัดเกตที่รับอิทธิพลทั้งจากล้านนา จีน พม่า และตะวันตก
ห้องที่ 3 อยู่ด้านในสุดของอาคาร มีขนาดเล็กกว่าห้องอื่นประมาณ 2x4 เมตร และมีประตูแยกพื้นที่ชัดเจน ห้องนี้เน้นการจัดแสดงวัตถุที่ทำจากผ้าและสิ่งทอเป็นหลัก เช่น ธงแขวน ธงมังกร ผ้ากำปีหรือผ้าคัมภีร์ เครื่องแต่งกายโบราณ ผืนผ้าบางส่วนถูกเก็บไว้ในตู้กระจก ส่วนอีกหลายชิ้นถูกขึงบนผนังเพื่อให้เห็นลวดลายเต็มผืน ผนังด้านหนึ่งของห้องติดกระดาษรายชื่อวัตถุจัดแสดงพร้อมคำอธิบายที่มา ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับกษัตริย์และราชวงศ์ผู้ปกครองล้านนา เป็นห้องเดียวในพิพิธภัณฑ์ที่มีบัญชีรายชื่อวัตถุอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ชมเห็นสายสัมพันธ์ระหว่างผืนผ้า เครื่องราชูปโภค และโครงสร้างอำนาจในสังคมล้านนาโบราณได้อย่างเป็นระบบ
การเดินชมพิพิธภัณฑ์วัดเกตการามจึงไม่ใช่เพียงการ “ดูของเก่า” แต่เป็นการค่อย ๆ ซึมซับมิติของความทรงจำหลายชั้น ทั้งความทรงจำของชุมชนที่เคยเป็นย่านการค้าริมน้ำ ความทรงจำของครอบครัวที่มอบสิ่งของของบรรพบุรุษให้วัดช่วยดูแล ไปจนถึงความทรงจำระดับเมืองที่สะท้อนผ่านภาพถ่ายเก่าและเรื่องเล่าของผู้คน การจัดแสดงแบบเรียบง่าย ไม่ซ่อน “ความแน่น” ของวัตถุหรือความไม่เป็นระเบียบมากนัก กลับทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังก้าวเข้าไปในบ้านเก่า ๆ ของญาติผู้ใหญ่ มากกว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ถูกจัดวางอย่างแข็งตัว
เมื่อออกจากอาคารพิพิธภัณฑ์ นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินชมบริเวณวัดเกตการามต่อได้ ทั้งพระวิหารหลวงทรงหลังคาซ้อนที่มีลายแกะสลักไม้และปูนปั้นวิจิตร เจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และอาคารประกอบอื่น ๆ ที่แสดงรูปแบบศิลปะล้านนาผสมพม่าอย่างงดงาม หากเดินออกไปยังถนนเจริญราษฎร์ริมฝั่งแม่น้ำปิง จะพบร้านค้าเก่าแก่ บ้านไม้โบราณ คาเฟ่ และร้านอาหารริมน้ำมากมาย ทำให้การมาเยือนพิพิธภัณฑ์วัดเกตการามเป็นประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงทั้งศาสนา ประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตร่วมสมัยเข้าไว้ด้วยกัน
การเดินทางมายังพิพิธภัณฑ์วัดเกตการาม สามารถเดินทางได้สะดวกจากตัวเมืองเชียงใหม่ เนื่องจากวัดตั้งอยู่ริมถนนเจริญราษฎร์ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง หากออกเดินจากย่านกาดหลวง (ตลาดวโรรส) หรือย่านไนท์บาซาร์ สามารถเดินข้ามสะพานจันทร์สมหรือสะพานนครพิงค์แล้วเลียบแม่น้ำปิงมายังวัดได้ภายในเวลาไม่นาน หรือจะเลือกใช้บริการรถสองแถวสีแดง รถตุ๊กตุ๊ก หรือแท็กซี่ โดยแจ้งจุดหมายว่า “วัดเกตการาม” ก็สามารถมาถึงหน้าวัดได้โดยตรง เหมาะทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินเล่นชมชุมชน และผู้ที่ต้องการเดินทางแบบสบาย ๆ
| ชื่อสถานที่ | พิพิธภัณฑ์วัดเกตการาม ภายในวัดเกตการาม ชุมชนวัดเกต ริมฝั่งตะวันออกแม่น้ำปิง จังหวัดเชียงใหม่ |
| ที่ตั้ง | ถนนเจริญราษฎร์ ตำบลวัดเกต อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ใกล้ย่านกาดหลวง (ตลาดวโรรส) และย่านไนท์บาซาร์ |
| ลักษณะสำคัญ | พิพิธภัณฑ์ชุมชนในกุฏิเก่า “โฮงตุ๊เจ้าหลวง” รวบรวมวัตถุโบราณ เครื่องใช้ในครัวเรือน เครื่องดนตรีล้านนา ผ้าโบราณ ภาพถ่ายเก่า และสิ่งของที่เล่าเรื่องชุมชนวัดเกตและเมืองเชียงใหม่ริมแม่น้ำปิง |
| สมัย/ยุค | วัดเกตการามสร้างในปี พ.ศ. 1971 สมัยพระเจ้าสามฝั่งแกน แห่งอาณาจักรล้านนา ส่วนอาคารพิพิธภัณฑ์จัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2542 |
| หลักฐานสำคัญ | กุฏิเก่า “โฮงตุ๊เจ้าหลวง” ของพระครูชัยศีลวิมล, วัตถุทางศาสนา, เครื่องใช้ในครัวเรือนโบราณ, เครื่องดนตรีล้านนา, ผ้าและธงพิธีกรรม, ภาพถ่ายเชียงใหม่ในอดีต, เอกสารและหนังสือเก่าที่เกี่ยวข้องกับล้านนาและชุมชนริมแม่น้ำปิง |
| ที่มาของชื่อ | ใช้ชื่อวัด “วัดเกตการาม” เป็นชื่อเรียกพิพิธภัณฑ์ สะท้อนบทบาทของวัดในฐานะศูนย์กลางชุมชนวัดเกต และแหล่งเก็บรักษาความทรงจำของผู้คนริมแม่น้ำปิง |
| การเดินทาง | จากตัวเมืองเชียงใหม่สามารถเดินทางด้วยรถสองแถวสีแดง รถตุ๊กตุ๊ก หรือแท็กซี่ มาลงที่ วัดเกตการาม ใกล้ย่านกาดหลวงและไนท์บาซาร์ หากเดินเท้าสามารถข้ามสะพานจันทร์สมหรือสะพานนครพิงค์จากฝั่งตลาดวโรรสแล้วเดินเลียบถนนเจริญราษฎร์มาที่วัดได้ในระยะทางประมาณ 0.5–1 กม. |
| สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง พร้อมระยะทาง | - ตลาดวโรรส (กาดหลวง) และตลาดต้นลำไย ประมาณ 0.5 กม. เบอร์ติดต่อ (กาดหลวง): +66 53 232 592 - เชียงใหม่ไนท์บาซาร์ ประมาณ 1.0–1.2 กม. (แหล่งช้อปปิงและร้านอาหารยามค่ำคืนสำคัญของเมืองเชียงใหม่) - สะพานจันทร์สม และสะพานนวรัฐริมแม่น้ำปิง ประมาณ 0.5–1.0 กม. เหมาะสำหรับเดินชมวิวแม่น้ำและบรรยากาศเมืองเก่า - ย่านถนนช้างม่อย–ชุมชนค้าขายโบราณ ประมาณ 1.0 กม. มีร้านค้าเก่าแก่และโกดังเดิมของพ่อค้าคหบดี - ชุมชนวัดเกตริมปิง (Wat Ket Community) เดินเชื่อมต่อจากวัดได้โดยตรง เป็นย่านบ้านไม้เก่า คาเฟ่ และแกลเลอรีท้องถิ่น |
| ร้านอาหารยอดนิยมใกล้เคียง พร้อมระยะทาง/เบอร์โทร | - ลุงขจรวัดเกต (Lung Khajohn Wat Ket) ร้านข้าวเกรียบปากหม้อริมถนนเจริญราษฎร์ ตรงข้ามวัดเกตการาม ระยะทางประมาณ 0.1 กม. โทร. +66 86 917 9887 หรือ 053 243 157 - The Riverside Bar & Restaurant ร้านอาหารและบาร์ริมน้ำปิงบนถนนเจริญราษฎร์ ระยะทางประมาณ 0.5 กม. โทร. +66 53 243 239 - David's Kitchen ร้านอาหารฟิวชันใกล้แม่น้ำปิง ย่านวัดเกต ระยะทางประมาณ 1.0–1.5 กม. โทร. +66 91 068 1744 - ร้านอาหารและคาเฟ่ในชุมชนวัดเกต/ริมน้ำปิงอื่น ๆ (เช่น ร้านอาหารไทย–จีน และคาเฟ่ในโซนชุมชนวัดเกต) ระยะทางโดยรอบ 0.2–1.0 กม. เหมาะสำหรับนั่งเล่นชมวิวแม่น้ำหลังชมพิพิธภัณฑ์ |
| ที่พักยอดนิยมใกล้เคียง พร้อมระยะทาง/เบอร์โทร | - RarinJinda Wellness Spa Resort รีสอร์ตบูทีคริมน้ำปิงในย่านวัดเกต ระยะทางประมาณ 0.2–0.3 กม. โทร. +66 53 247 000 หรือ +66 53 303 030 - Cross Chiang Mai Riverside (ครอส เชียงใหม่ ริเวอร์ไซด์) รีสอร์ตหรูริมแม่น้ำปิง ระยะทางประมาณ 0.4–0.6 กม. โทร. +66 53 931 999 - Rimping Village โรงแรมบูทีคบนถนนเชียงใหม่–ลำพูน ย่านวัดเกต ระยะทางประมาณ 0.8–1.0 กม. โทร. +66 53 243 915 ถึง 6 - Gategaa Village ที่พักสไตล์โลคัลในชุมชนวัดเกต ระยะทางประมาณ 0.7–1.0 กม. โทร. +66 88 894 4777 - โรงแรม/เกสต์เฮาส์ขนาดกลางและเล็กอื่น ๆ รอบชุมชนวัดเกตและโซนริมน้ำปิง ระยะทางโดยรอบ 0.3–1.5 กม. เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักใกล้พิพิธภัณฑ์และย่านกาดหลวง |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | พื้นที่ลานวัดสำหรับนั่งพักและถ่ายภาพ, ห้องจัดแสดงในอาคารพิพิธภัณฑ์, ห้องน้ำภายในวัด, ร้านค้าและร้านอาหารอยู่ในระยะเดินถึงภายในชุมชนวัดเกตและริมน้ำปิง |
| ค่าธรรมเนียม | เข้าชมพิพิธภัณฑ์ได้โดยไม่เก็บค่าเข้าชม และเปิดให้ร่วมทำบุญบริจาคตามศรัทธา อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดกับวัดหรือหน่วยงานท่องเที่ยวอีกครั้งก่อนเดินทางในกรณีมีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย |
| สถานะปัจจุบัน | ยังคงเปิดให้เข้าชมในฐานะพิพิธภัณฑ์ชุมชนของวัดเกตการาม และเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมริมแม่น้ำปิง นักท่องเที่ยวนิยมแวะชมควบคู่กับการเดินเล่นย่านกาดหลวงและไนท์บาซาร์ |
| เบอร์ติดต่อ | หมายเลขติดต่อในพื้นที่วัดเกตและพิพิธภัณฑ์ (ตามแหล่งข้อมูลท่องเที่ยว): โทร. +66 53 248 604, +66 53 248 607, +66 53 204 273 (แนะนำให้โทรตรวจสอบเวลาเปิด–ปิดก่อนเดินทาง) |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: พิพิธภัณฑ์วัดเกตการามเปิดให้เข้าชมวันไหนและเวลาใด?
ตอบ: ปกติพิพิธภัณฑ์วัดเกตการามจะเปิดให้เข้าชมในช่วงกลางวัน โดยประมาณ 09:00–16:00 น. เกือบทุกวัน แต่ในบางช่วงอาจปิดในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาหรือระหว่างการบูรณะ แนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลล่าสุดกับทางวัดหรือหน่วยงานท่องเที่ยวก่อนเดินทางทุกครั้ง
ถาม: การเข้าชมพิพิธภัณฑ์วัดเกตการามมีค่าใช้จ่ายหรือไม่?
ตอบ: โดยทั่วไปไม่มีการเก็บค่าเข้าชมอย่างเป็นทางการ ผู้เข้าชมสามารถร่วมทำบุญหรือบริจาคตามศรัทธาเพื่อนำไปใช้ในการบำรุงรักษาพิพิธภัณฑ์และพื้นที่วัด หากเดินทางเป็นหมู่คณะควรติดต่อประสานกับทางวัดล่วงหน้า
ถาม: จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์วัดเกตการามคืออะไร?
ตอบ: จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์วัดเกตการามคือการเป็นพิพิธภัณฑ์ชุมชนที่สะท้อนวิถีชีวิตจริงของย่านวัดเกตริมแม่น้ำปิง ของจัดแสดงส่วนใหญ่เป็นเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เครื่องดนตรีล้านนา ผ้าและธงพิธีกรรม ภาพถ่ายเก่า และสิ่งของที่ชาวบ้านนำมาบริจาค ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนกำลังเดินชมบ้านเก่าในชุมชน มากกว่าการชมพิพิธภัณฑ์แบบเป็นทางการ
ถาม: ควรใช้เวลาเท่าไรในการชมพิพิธภัณฑ์วัดเกตการาม?
ตอบ: หากเดินชมแบบคร่าว ๆ ใช้เวลาประมาณ 30–45 นาที แต่ถ้าต้องการอ่านป้าย ดูรายละเอียดวัตถุแต่ละชิ้น และเดินชมบริเวณวัดและชุมชนวัดเกตรอบ ๆ ควรเผื่อเวลาอย่างน้อย 1–2 ชั่วโมง เพื่อให้ได้สัมผัสบรรยากาศของย่านวัดเกตอย่างเต็มที่
ถาม: การเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่มายังพิพิธภัณฑ์วัดเกตการามสะดวกไหม?
ตอบ: การเดินทางค่อนข้างสะดวก เพราะวัดเกตการามอยู่ไม่ไกลจากกาดหลวงและย่านไนท์บาซาร์ สามารถเดินทางด้วยรถสองแถวสีแดง รถตุ๊กตุ๊ก หรือแท็กซี่ โดยแจ้งให้คนขับมาส่งที่วัดเกตการามก็ได้ หรือจะเดินเท้าข้ามสะพานจากฝั่งตลาดวโรรสแล้วเลียบถนนเจริญราษฎร์มายังวัดก็ใช้เวลาไม่นานและได้ชมบรรยากาศริมแม่น้ำปิงไปพร้อมกัน
ถาม: บริเวณพิพิธภัณฑ์วัดเกตการามมีร้านอาหารและที่พักหรือไม่?
ตอบ: รอบวัดเกตการามและชุมชนวัดเกตมีทั้งร้านอาหารท้องถิ่น ร้านข้าวเกรียบปากหม้อชื่อดังอย่างลุงขจรวัดเกต ร้านอาหารและบาร์ริมน้ำอย่าง The Riverside Bar & Restaurant รวมถึงร้านอาหารฟิวชันอย่าง David's Kitchen นอกจากนี้ยังมีที่พักหลายระดับตั้งแต่รีสอร์ตหรูริมแม่น้ำปิง เช่น RarinJinda Wellness Spa Resort และ Cross Chiang Mai Riverside ไปจนถึงโรงแรมบูทีคและเกสต์เฮาส์ขนาดเล็กในระยะเดินถึง
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage







หมวดหมู่:
กลุ่ม:
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
พระราชวัง(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
พิพิธภัณฑ์เพื่อการศึกษา(
ไร่ สวนเพื่อการศึกษา(
ศูนย์ฝึกอบรม(
มหาวิทยาลัย
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
วัด(
มัสยิด(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ธรรมชาติ และสัตว์ป่า
อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล(
ดอย และภูเขา(
เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(
น้ำตก(
น้ำพุร้อน(
ถ้ำ(
แม่น้ำลำคลอง(
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(
แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์(
สนามกีฬา(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
สวนน้ำ(
โรงละคร(
กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย(
ช้อปปิ้ง
ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน(
ร้านอาหาร
มิชลินสตาร์(
มิชลิน ไกด์(
หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว
หมายเลขโทรศัพท์สำคัญในการท่องเที่ยว(
บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร
รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร(
เมนูอาหารเหนือ, สูตรอาหารเหนือ(
ขนมไทยภาคเหนือ, สูตรอาหารเหนือ(