ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แพะ

Rating: 3.8/5 (5 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: แนะนำตรวจสอบ/นัดหมายล่วงหน้าก่อนเดินทาง
เวลาเปิดทำการ: 08.30–16.30 น. (อาจเปลี่ยนตามภารกิจพื้นที่)
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แพะ เป็นปลายทาง “ที่พักผ่อนเชียงใหม่” ที่เหมาะกับคนอยากเที่ยวภาคเหนือแบบเงียบสงบ ได้อากาศบนเขา และได้เห็นภาพการพัฒนาคุณภาพชีวิตบนพื้นที่สูงในมุมที่เป็นของจริง เพราะแก่นของที่นี่ไม่ใช่แค่สถานที่ให้แวะถ่ายรูป แต่เป็นพื้นที่ทำงานด้านการเกษตรของโครงการหลวงที่ตั้งใจเก็บข้อมูล ทดลอง และส่งต่อองค์ความรู้ให้เกษตรกรปลูกพืชได้ถูกวิธี สร้างรายได้ที่ยั่งยืน และอยู่กับทรัพยากรป่าได้อย่างสมดุล
ศูนย์ฯ ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2544 โดยมีพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุม 2 ตำบล คือ ตำบลแม่สาบ และตำบลสะเมิงเหนือ โครงสร้างชุมชนในพื้นที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มชาติพันธุ์บนพื้นที่สูงเป็นหลัก โดยประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวกะเหรี่ยงและชาวลีซอ ภูมิประเทศเป็นที่ลาดชันสลับที่ราบหุบเขา มีลำห้วยสำคัญอย่างห้วยแม่แพะและห้วยกิ่วมืดเป็นต้นน้ำหล่อเลี้ยงพื้นที่ เกิดเป็นภูมิทัศน์ที่ทั้งเขียว ชื้น และให้บรรยากาศ “พักใจ” ได้ง่ายกว่าปลายทางที่คึกคักแบบเมืองท่องเที่ยวหลัก
ด้วยระดับความสูงราว 900–1,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็นสบายตลอดปี ศูนย์ฯ จึงเหมาะกับการทำเกษตรบนพื้นที่สูงและเหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงเรียนรู้ไปพร้อมกัน คุณจะได้เห็นภาพรวมว่าแปลงสาธิตไม่ได้มีไว้เพื่อความสวยงามอย่างเดียว แต่เป็นเหมือน “ห้องทดลองกลางหุบเขา” ที่ทำให้คนทำเกษตรและคนมาเที่ยวเข้าใจร่วมกันว่า พืชแต่ละชนิดต้องการการจัดการแบบไหนจึงจะเติบโตดีในพื้นที่ลาดชันและสภาพอากาศแปรปรวนตามฤดูกาล
ในมุมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ไฮไลต์ของศูนย์ฯ คือการเดินชมแปลงสาธิตผักที่มีความหลากหลาย เช่น ถั่วแขก แตงกวาญี่ปุ่น มะเขือก้านม่วง และพืชผักอื่น ๆ ตามฤดูกาล รวมถึงแปลงไม้ผลอย่างอะโวกาโด มะเฟือง และลิ้นจี่ ซึ่งช่วยให้เราเห็นว่า “พืชทางเลือก” บนพื้นที่สูงไม่ได้เกิดจากการเดาสุ่ม แต่ต้องอาศัยข้อมูลจริง การทดลอง และการถ่ายทอดความรู้ให้ชุมชนทำได้ซ้ำได้จริงในระยะยาว
อีกจุดที่น่าสนใจคือฟาร์มตัวอย่างแม่ตุงติง ซึ่งเป็นแนวคิดฟาร์มการเกษตรแบบผสมผสานอันเนื่องมาจากโครงการพระราชดำริ การได้เห็นรูปแบบเกษตรผสมผสานในพื้นที่จริงมักทำให้คนมาเที่ยวเข้าใจมากขึ้นว่า การพัฒนาบนพื้นที่สูงไม่ได้หมายถึงการปลูกพืชชนิดเดียวให้ได้ผลผลิตเยอะที่สุดเสมอไป แต่หมายถึงการจัดระบบให้คนอยู่ได้ ป่าอยู่ได้ และรายได้ไม่เปราะบางเมื่อเจอสภาพอากาศหรือราคาพืชผลที่ผันผวน
ด้านการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ “บ่อน้ำพุร้อนโป่งกว๋าว” เป็นอีกจุดที่คนมักแวะเพื่อพักผ่อน เพราะเป็นน้ำแร่ธรรมชาติที่มีบ่อแช่น้ำแร่ และบริเวณใกล้ ๆ ยังมีน้ำตกขนาดเล็กให้เดินเล่นและคลายร้อนได้ในวันที่อากาศเปิด ช่วงหน้าฝนพื้นที่จะเขียวชุ่มเป็นพิเศษ แต่ก็ต้องเพิ่มความระมัดระวังเรื่องความลื่นและสภาพทางเข้าออกตามสภาพดินฟ้าอากาศของภูเขา
ถ้าคุณชอบวัฒนธรรมท้องถิ่น ศูนย์ฯ และชุมชนรอบ ๆ ยังเชื่อมโยงกับวิถีชนเผ่าและงานบุญประเพณี โดยหนึ่งในประเพณีที่ควรรู้จักคือ “ตานก๋วยสลาก” ซึ่งจัดขึ้นช่วงหลังออกพรรษา บรรยากาศของงานมักมีดนตรี การฟ้อนรำ และกิจกรรมชุมชน ทำให้การมาเยือนไม่ได้จบแค่การเดินดูแปลง แต่ได้เห็น “หัวใจของชุมชน” ที่ขับเคลื่อนอยู่หลังฉากการท่องเที่ยวด้วย
ของฝากของที่ระลึกของที่นี่จะไปได้ไกลกว่าความเป็นผลผลิตเกษตร เพราะยังมีงานจักสานไม้ไผ่ ไม้กวาด ผ้าทอ ผ้าไหม และสมุนไพร ซึ่งสะท้อนทั้งทักษะชุมชนและการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ใครที่ชอบซื้อของฝากแบบมีเรื่องเล่าและมีรากของพื้นที่ มักถูกใจงานแนวนี้
เรื่องที่พัก ศูนย์ฯ มีอาคารพักรับรองภายในพื้นที่จำนวน 1 หลัง มี 4 ห้อง รองรับได้ประมาณ 10–15 คน มีพื้นที่กางเต็นท์ และบริการเช่าเต็นท์พร้อมถุงนอน เหมาะกับคนที่อยากนอนใกล้ธรรมชาติและตื่นมาเจออากาศเขาตั้งแต่เช้า ส่วนเรื่องอาหาร ภายในศูนย์ฯ ไม่มีร้านอาหารบริการ นักท่องเที่ยวควรเตรียมอาหารมาเองให้พร้อม โดยเฉพาะถ้าตั้งใจค้างคืนหรือไปกันหลายคน
การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางหมายเลข 107 (เชียงใหม่–แม่ริม) จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสายแม่ริม–สะเมิง ระยะทางประมาณ 43 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาตรงหน่วยพัฒนาต้นน้ำโปร่งไคร้ จากจุดนี้จะเป็นถนนลูกรังต่อไปอีกราว 20 กิโลเมตร รวมระยะทางประมาณ 62 กิโลเมตร โดยในฤดูฝนการคมนาคมอาจลำบาก แนะนำใช้รถกระบะ/รถที่ช่วงล่างสูง และเผื่อเวลาเดินทางมากกว่าปกติ
ถ้าจะให้ทริปนี้ “สบายจริง” แนะนำวางแผนแบบไม่เร่งรีบ เพราะเส้นทางภูเขามีโค้งเป็นช่วง ๆ การขับช้าแต่ชัวร์จะทำให้เที่ยวสนุกกว่า และอย่าลืมมองพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ทำงานจริงของชุมชนและเจ้าหน้าที่ เดินตามทางที่กำหนด ไม่รบกวนแปลงสาธิต และเก็บขยะกลับออกไปทุกครั้ง เพื่อให้ความสวยของพื้นที่คงอยู่ได้นาน
| ชื่อสถานที่ | ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แพะ |
| ที่ตั้ง | บ้านแม่แพะ ตำบลสะเมิงเหนือ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ |
| ลักษณะเด่น | ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงบนพื้นที่สูง เน้นแปลงสาธิตเกษตร วิถีชนเผ่า และธรรมชาติภูเขา |
| ระดับความสูง | ประมาณ 900–1,200 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล |
| แหล่งน้ำสำคัญ | ห้วยแม่แพะ, ห้วยกิ่วมืด |
| กิจกรรมเด่น | ท่องเที่ยวเชิงเกษตร (แปลงผัก/ไม้ผล), เยี่ยมชมฟาร์มตัวอย่างแม่ตุงติง, พักผ่อนธรรมชาติ |
| ประเพณี/วัฒนธรรม | ประเพณีตานก๋วยสลาก (ช่วงหลังออกพรรษา) |
| ที่พักในพื้นที่ | อาคารพักรับรอง 1 หลัง (4 ห้อง) รองรับประมาณ 10–15 คน, ลานกางเต็นท์, เช่าเต็นท์และถุงนอน |
| ร้านอาหาร | ภายในศูนย์ฯ ไม่มีร้านอาหาร (แนะนำเตรียมอาหารมาเอง) |
| ของฝากของที่ระลึก | จักสานไม้ไผ่, ไม้กวาด, ผ้าทอ/ผ้าไหม, สมุนไพร |
| สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง | บ่อน้ำพุร้อนโป่งกว๋าว และจุดธรรมชาติในโซนสะเมิงเหนือ (แนะนำเปิดแผนที่นำทางตามสภาพเส้นทาง/ฤดูกาล) |
| ร้านอาหารยอดนิยมใกล้เคียง (เบอร์) | บ้านม่อนม่วน – 083-318-6444, 083-318-6555 สวนทูนอิน (โป่งแยง) – 053-879-251, 087-185-2951 ปานวิมาน เชียงใหม่ สปา รีสอร์ท (ห้องอาหารของรีสอร์ท) – 053-879-540, 084-721-6062 Proud Phu Fah (ห้องอาหารของรีสอร์ท) – 053-879-389 Lanna Resort and Spa (โซนคาเฟ่/อาหารในรีสอร์ท) – 053-365-222 |
| ที่พักยอดนิยมใกล้เคียง (เบอร์) | ปานวิมาน เชียงใหม่ สปา รีสอร์ท – 053-879-540, 084-721-6062 Proud Phu Fah – 053-879-389 Lisu Camp at Mon Jam – 080-897-9888 ม่อนอิงดาวรีสอร์ท – 086-216-7405 โรงแรมน้ำพุร้อนโป่งกวาว – 081-005-9911 |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่แพะเหมาะไปช่วงไหนที่สุด?
ตอบ: ถ้าอยากขับรถสบายและเดินเที่ยวได้ง่าย แนะนำช่วงหน้าหนาวหรือปลายฝนต้นหนาว แต่ถ้าไปหน้าฝนควรเผื่อเวลาและเตรียมรองเท้ากันลื่น เพราะบางช่วงเป็นทางลูกรังและอาจลื่นได้
ถาม: ไปแล้วจะได้ทำอะไรบ้าง?
ตอบ: เดินชมแปลงสาธิตผักและไม้ผล เรียนรู้เกษตรบนพื้นที่สูง เยี่ยมชมฟาร์มตัวอย่างแม่ตุงติง และพักผ่อนกับบรรยากาศภูเขาแบบสงบ ๆ
ถาม: มีที่พักในศูนย์ฯ ไหม?
ตอบ: มีอาคารพักรับรอง 1 หลัง (4 ห้อง) รองรับประมาณ 10–15 คน และมีลานกางเต็นท์พร้อมบริการเช่าเต็นท์และถุงนอน แนะนำวางแผนล่วงหน้า โดยเฉพาะถ้าไปเป็นกลุ่ม
ถาม: เรื่องอาหารต้องเตรียมอย่างไร?
ตอบ: ภายในศูนย์ฯ ไม่มีร้านอาหารบริการ ควรเตรียมอาหารและน้ำดื่มให้พร้อม โดยเฉพาะถ้าตั้งใจค้างคืนหรือไปช่วงที่หาร้านระหว่างทางได้ยาก
ถาม: การเดินทางต้องใช้รถแบบไหน?
ตอบ: ช่วงถนนลาดยางขับได้ทั่วไป แต่มีช่วงทางลูกรังประมาณ 20 กิโลเมตร และหน้าฝนอาจลำบาก แนะนำรถกระบะหรือรถช่วงล่างสูง และควรเช็กรถให้พร้อมก่อนขึ้นเขา
ถาม: ประเพณีตานก๋วยสลากจัดช่วงไหน และน่าสนใจอย่างไร?
ตอบ: โดยทั่วไปจัดช่วงหลังออกพรรษา เป็นงานบุญที่ชุมชนร่วมกันอย่างคึกคัก มักมีดนตรี การฟ้อนรำ และกิจกรรมบันเทิง ทำให้ได้เห็นวิถีคนท้องถิ่นไปพร้อมกับการเที่ยวธรรมชาติ
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
ภูมิภาค
|







หมวดหมู่:
กลุ่ม: