ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวง

Rating: 3.5/5 (4 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน (แนะนำติดต่อ/นัดหมายล่วงหน้า เพราะเป็นพื้นที่ปฏิบัติงาน และบางช่วงมีงานภาคสนามต่อเนื่อง)
เวลาเปิดทำการ: แนะนำ 08.00–17.00 น. (เวลาอาจปรับตามภารกิจพื้นที่ ควรตรวจสอบก่อนเดินทาง)
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวง เป็นปลายทางที่เหมาะกับคนอยากได้ “ที่พักผ่อนเชียงใหม่” แบบมีความหมาย เพราะที่นี่ไม่ได้เป็นแค่จุดชมวิวหรือแหล่งเดินเล่น แต่เป็นพื้นที่ทำงานของโครงการหลวงที่ตั้งใจแก้ปัญหาปากท้องบนพื้นที่สูงไปพร้อมกับการดูแลป่าและทรัพยากรธรรมชาติในระยะยาว หากคุณชอบการท่องเที่ยวที่ได้ทั้งอากาศดี ความสงบ และได้เห็นระบบการทำเกษตรบนภูเขาแบบจริงจัง (แต่เข้าถึงได้) ทุ่งหลวงจะให้ภาพชัดว่าการ “พัฒนา” ที่ยืนอยู่บนฐานชุมชนหน้าตาเป็นอย่างไร
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวงก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2522 ด้วยแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเล็งเห็นปัญหาการขาดแคลนปัจจัยในการดำรงชีพของชุมชนบนพื้นที่สูง และการขาดหน่วยงานสนับสนุนด้านอาชีพและความรู้ทางการเกษตรอย่างเป็นระบบ เป้าหมายของศูนย์จึงไม่ใช่แค่ “เพิ่มผลผลิต” แต่คือการสร้างอาชีพที่เหมาะกับภูมิประเทศ สร้างรายได้ที่มั่นคง ลดแรงกดดันต่อป่า ยับยั้งการทำไร่เลื่อนลอย และสกัดกั้นการปลูกฝิ่นในอดีต ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ของพื้นที่สูงในยุคนั้น
ภูมิประเทศของศูนย์ตั้งอยู่ในหุบเขา ทำให้ทิวทัศน์เปิดกว้างและมีความงดงามตามธรรมชาติ พื้นที่ส่วนที่เป็นแอ่งและที่ราบเหมาะกับการทำนาและปลูกพืชอาหาร ขณะที่พื้นที่ลาดเชิงเขาเหมาะกับการปลูกไม้ผลและพืชไร่ โดยมีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 980 เมตร สภาพอากาศจึงเปลี่ยนชัดตามฤดูกาลและค่อนข้างสุดโต่งในบางช่วง โดยมีข้อมูลสภาพอากาศของพื้นที่ระบุว่าอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 7 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 37 องศาเซลเซียส และมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยราว 1,330 มิลลิเมตรต่อปี ซึ่งส่งผลต่อทั้งการเพาะปลูกและการเดินทาง โดยเฉพาะช่วงฝนที่ถนนภูเขาคดเคี้ยวและต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้น
ความน่าสนใจของทุ่งหลวงคือ “ภาพรวมทั้งระบบ” เพราะศูนย์รับผิดชอบพื้นที่กว้าง และทำงานร่วมกับชุมชนจำนวนมาก มีข้อมูลระบุว่าพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุม 11 หมู่บ้าน 609 ครัวเรือน โดยประชากรส่วนหนึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงและม้ง นับถือทั้งพุทธและคริสต์ เมื่อมองจากมุมคนมาเยือน สิ่งนี้ทำให้ทุ่งหลวงไม่ได้มีแค่เส้นทางเดินชมแปลงเกษตร แต่ยังมีชั้นของวัฒนธรรม วิถีชีวิต และประเพณีท้องถิ่นที่ยังมี “จังหวะของชุมชนจริง” อยู่ในพื้นที่เดียวกัน
กิจกรรมที่หลายคนชอบเริ่มจากการท่องเที่ยวเชิงเกษตร เดินชมแปลงสาธิตพืชผักและไม้ผลเมืองหนาวตามฤดูกาล เช่น บ๊วย อะโวกาโด พลับ พลัม สาลี่ สตรอเบอรี่ รวมถึงแปลงผักอย่างผักกาดหอมห่อ กะหล่ำปลี แครอท และในบางช่วงยังมีการสาธิตด้านปศุสัตว์ เช่น กวาง หมูเหมยซาน นกกระจอกเทศ หรือสัตว์เลี้ยงเพื่อการเรียนรู้ในรูปแบบอื่น ๆ (รายละเอียดขึ้นกับภารกิจและการจัดการพื้นที่ของศูนย์ในช่วงนั้น) อีกภาพที่เป็นเอกลักษณ์คือการทำนาแบบขั้นบันไดที่ออกแบบตามความลาดชันของภูเขา ซึ่งทำให้เราเห็นภูมิปัญญาการจัดการน้ำและดินแบบพื้นที่สูงได้แบบเข้าใจง่ายมาก
ถ้าคุณสนใจวัฒนธรรม ทุ่งหลวงมีมุมที่ทำให้การมาเที่ยว “ลึกขึ้น” เพราะในพื้นที่มีการสาธิตและวิถีชีวิตของชุมชนกะเหรี่ยงและม้ง เช่น การทอผ้า และยังมีประเพณีสำคัญที่คนในพื้นที่ให้ความหมายร่วมกัน โดยข้อมูลที่พบในพื้นที่ระบุประเพณีเด่น เช่น ประเพณีปีใหม่ม้ง (ช่วงประมาณเดือนธันวาคม–มกราคม) ประเพณีปีใหม่กะเหรี่ยงปกาเกอญอ (ช่วงประมาณเดือนธันวาคม–มกราคม) ประเพณีมัดมือของกะเหรี่ยง (ช่วงประมาณเดือนเมษายน) และประเพณีเกี่ยวข้าว “อิแคว” ของกะเหรี่ยง (ช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน) หากคุณตั้งใจมาด้วยเหตุผลเรื่องวัฒนธรรม แนะนำวางแผนตามช่วงเวลาเหล่านี้ และติดต่อสอบถามล่วงหน้าเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงกับปีนั้นจริง ๆ
ด้านธรรมชาติรอบศูนย์ก็มีจุดที่ไปแล้ว “ต่อเรื่องได้” อย่าง วัดพระธาตุศรีพุทธิวงศ์ ซึ่งเป็นวัดบรรยากาศสงบอยู่ท่ามกลางป่าเขา มีจุดชมวิวที่มักเห็นทะเลหมอกในบางวัน และยังมีน้ำตกสำคัญใกล้ศูนย์อย่างน้ำตกห้วยกระแสที่อยู่ห่างประมาณ 5 กิโลเมตร (ตามข้อมูลพื้นที่) ซึ่งมีน้ำตกเป็นชั้นลดหลั่นท่ามกลางธรรมชาติของป่าสนและพรรณไม้ อีกแห่งคือน้ำตกโป่งสมิตที่อยู่ห่างประมาณ 4 กิโลเมตร (ตามข้อมูลพื้นที่) โดยมักมีน้ำมากช่วงฤดูฝน และยังมีน้ำตกห้วยเย็นในโซนบ้านห้วยเย็นที่โดยทั่วไปมักมีน้ำตลอดปี (แนะนำตรวจสอบสภาพพื้นที่จริงก่อนเข้าไปในช่วงฝนหนัก)
เรื่องที่พัก ภายในศูนย์มีบ้านพักรับรองประมาณ 4 หลัง รองรับได้ราว 40 คน และมีพื้นที่กางเต็นท์ รวมถึงบริการเช่าเต็นท์พร้อมถุงนอนในบางรูปแบบ (เงื่อนไขการเปิดให้บริการและค่าใช้จ่ายอาจเปลี่ยนตามช่วงเวลา) ส่วนเรื่องอาหาร ภายในศูนย์โดยข้อมูลที่มีระบุว่าไม่มีร้านอาหารประจำ แต่สามารถสั่งอาหารล่วงหน้าก่อนเข้าพักได้ สิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำให้ทริปราบรื่นคือ “โทรคุยก่อน” ทั้งเรื่องที่พัก เรื่องจำนวนคน และเรื่องกิจกรรมที่เปิดให้เข้าชมในวันนั้น เพราะที่นี่เป็นพื้นที่ทำงานจริง ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่จัดฉากตายตัว
การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงใหม่นิยมใช้เส้นทางหมายเลข 108 (เชียงใหม่–ฮอด) ผ่านอำเภอสันป่าตอง แล้วเลี้ยวขวาเข้าตำบลบ้านกาด ผ่านอำเภอแม่วางและโซนแม่วิน มุ่งหน้าไปทางวัดพระธาตุศรีพุทธิวงศ์ โดยศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวงอยู่ห่างจากวัดประมาณ 500 เมตร และมีข้อมูลระบุว่าระยะทางจากจุดแยกอำเภอสันป่าตองถึงศูนย์ประมาณ 48 กิโลเมตร ถนนลาดยางเดินทางได้ตลอดทั้งปี ใช้รถยนต์ได้ทุกประเภท แต่ควรขับด้วยความระมัดระวังเพราะทางขึ้นเขาคดเคี้ยวและลาดชัน และไม่ควรบรรทุกสัมภาระหนักเกินไปตามคำแนะนำของข้อมูลพื้นที่
| ชื่อสถานที่ | ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวง |
| ที่ตั้ง | ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ |
| ลักษณะเด่น | ศูนย์พัฒนาอาชีพเกษตรพื้นที่สูงตามแนวทางโครงการหลวง สนับสนุนรายได้ชุมชน ควบคู่การลดการบุกรุกป่าและแก้ปัญหาไร่เลื่อนลอย (มีแปลงสาธิตพืชผัก–ผลไม้เมืองหนาว และภาพทำนาขั้นบันได) |
| ยุคสมัย | ก่อตั้งปี พ.ศ. 2522 |
| หลักฐาน/ข้อมูลสำคัญ | พื้นที่ลักษณะหุบเขา เหมาะทำนาและปลูกพืชบนพื้นที่สูง มีข้อมูลพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุม 11 หมู่บ้าน 609 ครัวเรือน และมีกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงเกษตร–วัฒนธรรม–ธรรมชาติในโซนแม่วิน |
| ภูมิประเทศ/ระดับความสูง | ตั้งอยู่ในหุบเขา สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 980 เมตร |
| ลักษณะภูมิอากาศ | อากาศเปลี่ยนตามฤดูกาลชัด (ข้อมูลพื้นที่ระบุอุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 7°C สูงสุดประมาณ 37°C และปริมาณฝนเฉลี่ยราว 1,330 มม./ปี) |
| วันเปิดทำการ | ทุกวัน (แนะนำโทรนัดหมายล่วงหน้า) |
| เวลาเปิดทำการ | แนะนำ 08.00–17.00 น. (ควรตรวจสอบก่อนเดินทาง) |
| การเดินทาง | เชียงใหม่ → ทล.108 (เชียงใหม่–ฮอด) → ผ่านสันป่าตอง → เลี้ยวขวาเข้าตำบลบ้านกาด → ผ่านแม่วาง–แม่วิน → โซนวัดพระธาตุศรีพุทธิวงศ์ (ศูนย์อยู่ห่างวัดประมาณ 500 ม.) / มีข้อมูลระบุจากจุดแยกอำเภอสันป่าตองถึงศูนย์ประมาณ 48 กม. |
| สถานะปัจจุบัน | เปิดให้เยี่ยมชมและเรียนรู้ (ควรติดต่อก่อนเดินทาง เพราะมีภารกิจงานภาคสนามตามช่วงเวลา) |
| เบอร์โทรติดต่อ | 053-248-061, 098-278-9061 |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | บ้านพักรับรองภายในศูนย์ (ประมาณ 4 หลัง รองรับราว 40 คน), พื้นที่กางเต็นท์และบริการเช่าเต็นท์ (เงื่อนไขอาจเปลี่ยนตามช่วงเวลา), จุดเดินชมแปลงสาธิต/แปลงเกษตร, ของฝากผลผลิตตามฤดูกาลและงานหัตถกรรมชุมชน (ขึ้นกับรอบการจัดจำหน่าย) |
| ประเพณี/กิจกรรมชุมชนที่พบในพื้นที่ | ปีใหม่ม้ง (ประมาณ ธ.ค.–ม.ค.), ปีใหม่กะเหรี่ยงปกาเกอญอ (ประมาณ ธ.ค.–ม.ค.), ประเพณีมัดมือกะเหรี่ยง (ประมาณ เม.ย.), ประเพณีเกี่ยวข้าว “อิแคว” ของกะเหรี่ยง (ประมาณ พ.ย.) |
| สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง พร้อมระยะทาง | วัดพระธาตุศรีพุทธิวงศ์ — ประมาณ 0.5 กม. น้ำตกโป่งสมิต — ประมาณ 4 กม. น้ำตกห้วยกระแส — ประมาณ 5 กม. |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งหลวงเหมาะกับใคร?
ตอบ: เหมาะกับคนที่อยากพักผ่อนแบบสงบ ๆ ได้อากาศภูเขา และอยากเห็นงานพัฒนาอาชีพเกษตรพื้นที่สูงที่ทำงานร่วมกับชุมชนจริง รวมถึงคนที่ชอบท่องเที่ยวเชิงเกษตรและอยากดูนาขั้นบันไดบนพื้นที่ลาดชัน
ถาม: ไปช่วงไหนถึงจะได้บรรยากาศดีที่สุด?
ตอบ: ถ้าอยากได้อากาศเย็นและเดินสบาย ช่วงปลายฝนต้นหนาวถึงฤดูหนาวมักเหมาะ แต่ถ้าตั้งใจดูวิถีเกษตรและนาขั้นบันได ช่วงที่ชุมชนมีกิจกรรมเกี่ยวข้าว (โดยทั่วไปประมาณพฤศจิกายน) จะให้ภาพที่มีชีวิตมาก แนะนำโทรสอบถามก่อนเดินทางเพื่อเช็กสภาพพื้นที่และกิจกรรมในปีนั้น
ถาม: ที่นี่มีประเพณีหรือกิจกรรมชุมชนอะไรที่น่าสนใจ?
ตอบ: ในพื้นที่มีประเพณีสำคัญของชุมชนกะเหรี่ยงและม้ง เช่น ปีใหม่ม้งและปีใหม่กะเหรี่ยง (มักอยู่ช่วงธันวาคมถึงมกราคม), ประเพณีมัดมือของกะเหรี่ยง (มักอยู่ช่วงเมษายน) และประเพณีเกี่ยวข้าว “อิแคว” ของกะเหรี่ยง (มักอยู่ช่วงพฤศจิกายน) ควรตรวจสอบกำหนดจริงล่วงหน้าเพราะอาจเปลี่ยนตามปีและบริบทชุมชน
ถาม: ถ้าจะพักค้างคืน/กางเต็นท์ ต้องทำอย่างไร?
ตอบ: แนะนำติดต่อศูนย์ล่วงหน้าเพื่อสอบถามเงื่อนไขบ้านพักรับรอง จุดกางเต็นท์ การเช่าเต็นท์ และจำนวนคนที่รองรับได้ในช่วงนั้น เพราะศูนย์ต้องจัดการพื้นที่ให้ไม่กระทบภารกิจงาน
ถาม: มีข้อควรรู้อะไรเรื่องการเดินทาง?
ตอบ: ถนนลาดยางเดินทางได้ตลอดปีและใช้รถได้ทุกประเภท แต่เป็นเส้นทางภูเขาคดเคี้ยวและลาดชัน ควรขับด้วยความระมัดระวัง เผื่อเวลา และหลีกเลี่ยงการบรรทุกสัมภาระหนักเกินไป รวมถึงควรโทรเช็กสภาพอากาศและสภาพทางก่อนออกเดินทาง โดยเฉพาะช่วงฝน
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
ภูมิภาค
|







หมวดหมู่:
กลุ่ม: