ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเรา

Rating: 3.5/5 (4 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน (แนะนำโทรสอบถามก่อนเดินทาง)
เวลาเปิดทำการ: 08.00–16.30 น. (อาจปรับตามภารกิจพื้นที่)
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเรา เป็นที่พักผ่อนเชียงใหม่ที่เหมาะกับคนอยาก “ไปให้ถึงภูเขา” แต่ยังอยากได้สาระติดมือกลับมา เพราะที่นี่ไม่ใช่แค่จุดถ่ายรูปหรือสวนสาธิตสวย ๆ หากเป็นพื้นที่ทำงานจริงของโครงการหลวงและโครงการพระราชดำริ ที่เคยเริ่มต้นจากการบุกเบิกจัดสรรพื้นที่ทำกินให้เกษตรกร จัดหาแหล่งน้ำ และระบบชลประทาน เพื่อเปลี่ยนวิถีที่เคยพึ่งพาการทำไร่เลื่อนลอยและการปลูกฝิ่น ไปสู่การปลูกพืชที่เลี้ยงครอบครัวได้อย่างมั่นคงและอยู่ร่วมกับพื้นที่สูงได้ดีขึ้น
ข้อมูลพื้นฐานระบุว่าในปี พ.ศ. 2520 มูลนิธิโครงการหลวงร่วมกับกรมพัฒนาที่ดินและกรมชลประทาน เริ่มต้นดำเนินการบุกเบิกงานพัฒนาในพื้นที่ทุ่งเรา โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อลดการปลูกฝิ่น เพิ่มรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรชาวเขาให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น พร้อมกันนั้นก็ลดแรงกดดันต่อป่าต้นน้ำจากการทำไร่เลื่อนลอย แนวคิดนี้ทำให้ “การพัฒนา” ไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัว แต่เป็นเรื่องของน้ำกินน้ำใช้ ระบบชลประทาน ความรู้การปลูกพืช และตลาดที่ทำให้ผลผลิตขายได้จริง
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเรามีพื้นที่รับผิดชอบราว 7,985 ไร่ ครอบคลุม 3 หมู่บ้าน 303 ครัวเรือน โดยประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่าม้งและชาวพื้นเมือง ลักษณะภูมิประเทศมีทั้งพื้นที่ราบและภูเขาลาดชัน ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 800–1,300 เมตร สภาพอากาศจึงมีความต่างชัดเจนตามฤดูกาล อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยราว 10 องศาเซลเซียส และสูงสุดเฉลี่ยราว 37 องศาเซลเซียส ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยประมาณ 1,400 มิลลิเมตรต่อปี ภาพรวมแบบนี้เองที่ทำให้พืชผัก ผลไม้ และไม้ดอกหลายชนิด “ไปได้” บนพื้นที่สูง หากจัดการน้ำและพื้นที่ให้เหมาะ
ถ้ามาเพื่อท่องเที่ยวเชิงเกษตร กิจกรรมหลักคือการเดินชมแปลงสาธิตการปลูกผักและดอกไม้ภายในศูนย์ฯ และการชมแปลงของเกษตรกรในพื้นที่ที่น่าสนใจหลายจุด เช่น แปลงดอกเยอบีร่าบนไหล่เขาของชาวม้งบ้านบวกจั่น แปลงปลูกสตรอเบอรี่ และแปลงผักปลอดสารพิษอย่างยอดชาโยเต้ ลูกฟักชาโยเต้ พริกหวานหลากสี และมะเขือเทศ รวมถึงแปลงสมุนไพรอย่างยูเอสมิ้นต์ เจแปนนิสมิ้นต์ และแปลงกุหลาบบ้านบวกเต๋ย ซึ่งช่วยให้เห็นภาพว่า “การปลูกพืชบนดอย” ต้องอาศัยการเลือกชนิดพืช การดูแลดิน น้ำ และการจัดการแปลงอย่างเป็นระบบแค่ไหน
ความสนุกของการมาแบบสายเรียนรู้คือการสังเกตความเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล เพราะพืชและไม้ดอกเด่น ๆ จะหมุนไปตามรอบการผลิต บางช่วงเหมาะกับการเดินดูแปลงผักและเก็บบรรยากาศเย็นสบาย บางช่วงไม้ดอกจะทำให้วิวของพื้นที่ดูมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ และถ้าคุณชอบคุยกับคนปลูกจริง ๆ การถามเรื่องวิธีดูแลพืชหรือการจัดการน้ำแบบชาวบ้าน จะทำให้การเดินเที่ยวมีความหมายกว่าการเดินผ่านเฉย ๆ
ในมุมวัฒนธรรม พื้นที่ทุ่งเรายังเชื่อมกับวิถีชีวิตของชาวม้งอย่างชัดเจน ทั้งการทำกิน งานหัตถกรรม และประเพณีสำคัญอย่าง “ปีใหม่ม้ง” ซึ่งจัดขึ้นช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมของทุกปี บางชุมชนยังคงมีการละเล่นพื้นบ้าน เช่น การเล่นลูกข่าง และกิจกรรมทางวัฒนธรรมอย่างการเป่าแคนม้ง ช่วงเวลานี้ถ้าได้ไปแบบให้เกียรติพื้นที่ คุณจะได้เห็นบรรยากาศของชุมชนที่มีชีวิต ไม่ใช่ภาพวัฒนธรรมที่ถูกจัดฉากไว้รอถ่ายรูป
ฝั่งธรรมชาติ จุดชมวิวสะเมิงซึ่งอยู่ในรอยต่ออำเภอแม่ริมและสะเมิง เป็นอีกจุดที่หลายคนตั้งใจแวะ เพราะฤดูหนาวมักมีโอกาสเห็นทะเลหมอก ส่วนจุดชมวิวบ้านบวกจั่นให้ภาพภูเขาและแปลงเกษตรที่สวยในแบบ “วิวทำกินจริง” ไม่ใช่แค่แลนด์สเคปสวยเฉย ๆ และถ้าคุณอยากต่อทริปเป็นเส้นทางเดียวกัน โซนแม่สาและน้ำตกใกล้ ๆ มักถูกจัดไว้เป็นทางเลือกเพิ่มเติมสำหรับคนอยากได้ทั้งความรู้และธรรมชาติในวันเดียว
ของฝากของที่ระลึกของทุ่งเรามักเป็นผลผลิตทางการเกษตรตามฤดูกาล เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดขาวปลี มะเขือเทศดอยคำ ซาโยเต้ ยูเอสมิ้นต์ เจแปนนิสมิ้นต์ อะโวกาโด สตรอเบอรี่ และดอกไม้ตามฤดูกาล รวมถึงงานหัตถกรรมของชาวเขา เช่น ผ้าทอใยกัญชง ผ้าเขียนลายเทียน ผ้าปักม้ง และเครื่องเงิน จุดนี้เหมาะกับคนที่อยากซื้อของที่มี “เรื่องของพื้นที่” ติดมาด้วย ไม่ใช่ของฝากที่เหมือนกันทุกจังหวัด
เรื่องที่พักและอาหาร ต้องพูดกันตรง ๆ ว่าภายในศูนย์ฯ ไม่มีบ้านพักและร้านอาหารให้บริการ โดยจะมีพื้นที่กางเต็นท์เป็นหลัก นักท่องเที่ยวสามารถนำอุปกรณ์มาทำอาหารเองได้ หรือแวะซื้ออาหารจากร้านค้าริมทางทั่วไปก่อนขึ้นไป การวางแผนให้ดีจะทำให้ทริปสบายขึ้นมาก เช่น เตรียมน้ำดื่มให้พอ อาหารที่ทำง่าย อุปกรณ์กันหนาวช่วงปลายปี และไฟฉายหรือไฟแคมป์ เพราะบนดอยความมืดมาไวกว่าในเมือง และความเย็นจะชัดขึ้นเมื่อค่ำลง
การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เส้นทางหมายเลข 107 (เชียงใหม่–แม่ริม) ผ่านที่ว่าการอำเภอแม่ริม จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่ทางแยกแม่ริม–สะเมิง แล้วไปต่อประมาณ 26 กิโลเมตร สังเกตป้ายทางซ้ายมือจะพบทางแยกขึ้นเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตรจนถึงที่ทำการศูนย์ โดยช่วงทางเข้าเป็นถนนดินลูกรัง จึงควรใช้รถกระบะหรือรถที่เหมาะกับทางขรุขระ และขับด้วยความเร็วพอดี โดยเฉพาะหน้าฝนที่อาจลื่นและมีหลุมบ่อมากขึ้น
ถ้าคุณตั้งใจมาทุ่งเราแบบ “คุ้ม ๆ ในวันเดียว” วิธีที่เวิร์กคือเริ่มจากโซนแปลงสาธิตในศูนย์เพื่อจับภาพรวม ต่อด้วยแวะจุดชมวิวหรือแปลงเด่นของชุมชน แล้วค่อยปิดท้ายด้วยการซื้อผลผลิต/ของฝากตามฤดูกาลก่อนกลับ แต่ถ้าคุณชอบสโลว์ไลฟ์จริง ๆ การกางเต็นท์ค้างคืนจะช่วยให้ได้บรรยากาศพื้นที่สูงแบบเต็ม ๆ เพียงแค่ต้องเตรียมตัวเรื่องอาหารและความปลอดภัยให้พร้อม เท่านี้ทริปก็จะนิ่งและสนุกขึ้นเยอะ
| ชื่อสถานที่ | ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเรา |
| ที่ตั้ง | โซนแม่ริม–สะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ (ทางแยกแม่ริม–สะเมิง เข้าไปอีกประมาณ 2 กม.) |
| ลักษณะเด่น | ท่องเที่ยวเชิงเกษตร+วัฒนธรรม+ธรรมชาติ ชมแปลงผักปลอดสารพิษ สตรอเบอรี่ ดอกเยอบีร่า สมุนไพร มิ้นต์ และแปลงกุหลาบ เรียนรู้บทบาทโครงการหลวงในการพัฒนาอาชีพและจัดการน้ำ |
| ยุค/การก่อตั้ง | เริ่มดำเนินงาน พ.ศ. 2520 |
| หลักฐาน/ข้อมูลสำคัญ | มูลนิธิโครงการหลวงร่วมหน่วยงานด้านดินและชลประทาน เพื่อจัดสรรที่ทำกิน แหล่งน้ำ และระบบชลประทาน ลดฝิ่น ลดไร่เลื่อนลอย และเพิ่มรายได้ชุมชน |
| ที่มาของชื่อ | ตั้งตามพื้นที่ชุมชน/ภูมิประเทศท้องถิ่น “ทุ่งเรา” ที่เป็นเขตรับผิดชอบของศูนย์ |
| ระดับความสูง | ประมาณ 800–1,300 ม. จากระดับน้ำทะเล |
| วันและเวลาเปิดทำการ | ทุกวัน 08.00–16.30 น. (แนะนำโทรยืนยันก่อนเดินทาง) |
| ค่าธรรมเนียม | ไม่ระบุ (แนะนำสอบถามก่อนเดินทาง) |
| เบอร์ติดต่อ | 081-952-7650 |
| การเดินทาง (สรุป) | เส้น 107 → แยกแม่ริม–สะเมิง → ไปประมาณ 26 กม. → เจอทางแยกซ้ายขึ้น → เข้าไปอีกประมาณ 2 กม. (ถนนดินลูกรัง) |
| สถานะปัจจุบัน | เปิดให้เยี่ยมชม (ควรโทรเช็กสภาพเส้นทางและช่วงเวลาที่เหมาะก่อนขึ้นดอย) |
| สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง พร้อมระยะทาง | จุดชมวิวสะเมิง — ประมาณ 10–25 กม. จุดชมวิวบ้านบวกจั่น — ประมาณ 5–15 กม. น้ำตกนางหงส์ — ประมาณ 10–25 กม. น้ำตกแม่สา — ประมาณ 20–35 กม. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ — ประมาณ 25–40 กม. |
| popular restaurants nearby | rabieng na maerim — ประมาณ 25–40 กม. — 053-861-511 the ironwood (mae rim) — ประมาณ 25–45 กม. — 081-831-1000 pongyang angdoi — ประมาณ 20–35 กม. — 085-618-8885 river rock cafe hill — ประมาณ 25–45 กม. — 081-472-2732 baan landai mae rim — ประมาณ 25–45 กม. — 064-469-2929 |
| popular accommodations nearby | onsen @ moncham — ประมาณ 25–45 กม. — 053-111-606 panviman chiang mai spa resort — ประมาณ 25–45 กม. — 053-879-540 maesa valley garden resort & craft village — ประมาณ 25–45 กม. — 053-290-051 mae rim grace — ประมาณ 30–50 กม. — 066-095-7267 four seasons resort chiang mai — ประมาณ 35–55 กม. — 053-298-181 |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | พื้นที่ชมแปลงสาธิต/แปลงเกษตรชุมชน, จุดชมวิวในเส้นทาง, พื้นที่กางเต็นท์ (ไม่มีบ้านพัก/ร้านอาหารในศูนย์) |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเรา เปิดวันไหนและกี่โมง?
ตอบ: โดยข้อมูลทั่วไปมักระบุช่วงเวลา 08.00–16.30 น. และสามารถเที่ยวได้หลายช่วงฤดู แนะนำโทรยืนยันก่อนเดินทางที่ 081-952-7650 เพราะบางช่วงอาจปรับตามภารกิจพื้นที่และสภาพเส้นทาง
ถาม: ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเรามีกิจกรรมเด่นอะไร?
ตอบ: เด่นเรื่องท่องเที่ยวเชิงเกษตร ชมแปลงผักปลอดสารพิษ สตรอเบอรี่ ดอกเยอบีร่า สมุนไพร และแปลงกุหลาบ รวมถึงได้เห็นภาพงานพัฒนาพื้นที่สูงของโครงการหลวงแบบของจริง
ถาม: ที่ทุ่งเรามีที่พักและร้านอาหารไหม?
ตอบ: ภายในศูนย์ฯ ไม่มีบ้านพักและร้านอาหาร มีพื้นที่กางเต็นท์เป็นหลัก ควรเตรียมอุปกรณ์และอาหารไปเอง หรือแวะซื้อจากร้านค้าริมทางก่อนขึ้นดอย
ถาม: ควรใช้รถแบบไหนไปทุ่งเราถึงจะเหมาะ?
ตอบ: แนะนำรถกระบะหรือรถที่เหมาะกับทางขรุขระ เพราะช่วงทางเข้าเป็นถนนดินลูกรัง โดยเฉพาะหน้าฝนควรระวังลื่น หลุมบ่อ และขับด้วยความเร็วพอดี
ถาม: ถ้าอยากเจอบรรยากาศวัฒนธรรมม้ง ควรไปเดือนไหน?
ตอบ: ช่วงธันวาคม–มกราคมมักเป็นช่วงประเพณีปีใหม่ม้งในหลายชุมชน ถ้าอยากไปให้คุ้ม แนะนำสอบถามกำหนดการของพื้นที่ล่วงหน้าและไปแบบให้เกียรติชุมชน
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
ภูมิภาค
|







หมวดหมู่:
กลุ่ม: