วัดป่าดาราภิรมย์

Rating: 3.9/5 (9 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00–17.00 น.
วัดป่าดาราภิรมย์ ตั้งอยู่ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระอารามหลวงที่มี “บุคลิก” ชัดมากในแบบวัดป่าสายกรรมฐาน แต่ขณะเดียวกันก็มีมิติประวัติศาสตร์ท้องถิ่นและความทรงจำของเชียงใหม่ยุครัตนโกสินทร์พาดผ่านอยู่ตลอดทาง ตั้งแต่พื้นที่ป่าช้าร้างริมชายป่าที่ผู้คนเคยเล่ากันว่าวิเวกและน่ากลัว ไปจนถึงการกลายเป็นสถานที่พึ่งทางใจที่สงบ งดงาม และเป็นระเบียบสำหรับคนเมือง คนท้องถิ่น และผู้มาเยือนที่อยาก “มาหาธรรม” มากกว่าแค่แวะถ่ายรูป ความน่าสนใจของวัดนี้จึงไม่ได้มีแค่สถาปัตยกรรม แต่คือการที่ความสงัดแบบป่ากับความเป็นระเบียบแบบพระอารามหลวงสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างลงตัว
ถ้าคุณเคยไปวัดป่าที่แท้จริง คุณจะรู้ว่าบรรยากาศมันต่างจากวัดท่องเที่ยวทั่วไปอย่างชัดเจน วัดป่าดาราภิรมย์ให้ความรู้สึกคล้าย “พื้นที่ฝึกใจ” มากกว่าพื้นที่จัดแสดง เพราะจังหวะการเดิน การพูด การมอง และการอยู่ในวัดเหมือนถูกชวนให้ช้าลงโดยอัตโนมัติ ใต้ร่มไม้และแนวทางเดินที่ร่มรื่น คุณจะเห็นผู้คนจำนวนไม่น้อยตั้งใจมาไหว้พระ นั่งสงบ ทำสมาธิ หรือแค่เดินเงียบ ๆ เพื่อให้หัวใจได้พักจริง ๆ จุดนี้เองที่ทำให้วัดป่าดาราภิรมย์เป็นหนึ่งในวัดในเชียงใหม่ที่เหมาะกับสายบุญ สายปฏิบัติ และสายเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่อยากสัมผัส “เชียงใหม่อีกด้าน” ที่ไม่วุ่นวาย
ในเชิงข้อมูลพื้นฐาน วัดป่าดาราภิรมย์เป็นพระอารามหลวง (ชั้นตรี ชนิดสามัญ) และเป็นวัดที่ได้รับการประกาศตั้งเป็นวัดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2481 ต่อมาได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2522 และมีพิธีผูกพัทธสีมาเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2523 ก่อนจะได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวงเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นช่วงปีเฉลิมฉลองพระชนมายุครบ 6 รอบของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ข้อมูลชุดนี้ทำให้เห็นพัฒนาการของวัดชัดเจนว่าไม่ใช่วัดที่ “เกิดขึ้นแล้วนิ่ง” แต่เป็นวัดที่เติบโตตามศรัทธา งานดูแล และบทบาททางศาสนาที่เข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ
หัวใจของเรื่องเล่าวัดป่าดาราภิรมย์ที่ทำให้วัดนี้มีน้ำหนักทางจิตวิญญาณ คือสายการปฏิบัติกรรมฐานที่โยงถึงครูบาอาจารย์ใหญ่ โดยเฉพาะ “พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตมหาถระ” ซึ่งเป็นพระกรรมฐานสำคัญของไทยสายธุดงควัตร ตามข้อมูลประวัติวัดเล่าว่าในช่วง พ.ศ. 2471 พระอาจารย์มั่นได้รับอาราธนาจากพระอุบาลีคุณูปจาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) ให้มาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในเชียงใหม่ เริ่มจากพื้นที่ที่เงียบสงบในเวลานั้นอย่างวัดเจดีย์หลวง แล้วต่อมาเมื่อออกพรรษาท่านจาริกธุดงค์แสวงหาความสงัด และใน พ.ศ. 2473 ได้มาพักบริเวณป่าช้าร้างบ้านต้นกอก ซึ่งอยู่ใกล้เขตตำหนักดาราภิรมย์ของพระราชชายาเจ้าดารารัศมี พื้นที่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นป่าเบญพรรณและชายป่าดอยสุเทพในตำนานนั้น เมื่อมีครูบาอาจารย์สายปฏิบัติเข้ามาใช้เป็นที่เจริญสมณธรรม พื้นที่ก็ถูก “แปลงความหมาย” จากป่าช้าร้างเป็นสถานที่ฝึกตนโดยแท้
ความเชื่อของผู้คนในท้องถิ่นจำนวนมากมักมองว่า “สถานที่ที่ครูบาอาจารย์ใหญ่เคยปักกลด เคยภาวนา” จะมีพลังของความตั้งมั่นหลงเหลืออยู่ ไม่ใช่ในเชิงไสยศาสตร์ แต่เป็นพลังของการระลึกถึงคุณของความเพียร ความสันโดษ และความจริงใจต่อการปฏิบัติ หลายคนมาแล้วจะเลือกเดินสำรวม เงียบขึ้นโดยไม่ต้องมีป้ายเตือนเยอะ เพราะบรรยากาศชวนให้เกรงใจสถานที่เอง นี่เป็นเสน่ห์แบบวัดป่าที่ “สอนโดยสภาพแวดล้อม” มากกว่าสอนด้วยคำพูด
จากป่าช้าร้างสู่การเป็นวัดอย่างเป็นทางการมีการเล่าถึงแรงศรัทธาของพุทธบริษัทที่เลื่อมใสปฏิปทาพระธุดงค์กรรมฐานในสายพระอาจารย์มั่น จึงร่วมใจกันสร้างเสนาสนะถวาย เช่น กุฏิ และศาลา เพื่อรองรับการอยู่ปฏิบัติของพระกรรมฐาน และตั้งชื่อวัดในระยะแรกว่า “วัดป่าวิเวกจิตตาราม” ซึ่งชาวบ้านบางกลุ่มก็เรียก “วัดป่าเรไร” หรือ “วัดป่าแม่ริม” ตามความคุ้นเคยของพื้นที่ ก่อนที่ต่อมาจะมีการถวายนามใหม่ว่า “วัดป่าดาราภิรมย์” เพื่อเป็นอนุสรณ์และถวายเป็นพระราชกุศลแก่พระราชชายาเจ้าดารารัศมีด้วย
อีกมิติที่ทำให้วัดป่าดาราภิรมย์ต่างจากวัดป่าหลายแห่ง คือความสัมพันธ์กับ “ตำหนักดาราภิรมย์” และสายประวัติศาสตร์ของพระราชชายาเจ้าดารารัศมีอย่างแนบแน่น ตามข้อมูลที่เล่ามา ใน พ.ศ. 2484 ทายาทของพระราชชายาเจ้าดาราภิรมย์ โดยมีเจ้าหญิงลดาคำ ณ เชียงใหม่ เป็นหัวหน้า ได้น้อมถวายที่ดินเขตพระราชฐานบางส่วนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล จำนวน 6 ไร่ แล้วทางราชการและศรัทธาสาธุชนจึงพร้อมใจกันถวายนามวัดใหม่ให้เป็น “วัดป่าดาราภิรมย์” ภาพนี้สะท้อนการเชื่อมกันของ 2 โลกอย่างสวยงาม คือโลกของการปฏิบัติแบบวิเวก และโลกของประวัติศาสตร์เชียงใหม่ยุคเจ้าหลวงและราชสำนัก
ถ้าคุณสนใจเรื่องเชียงใหม่เชิงลึก การมาวัดป่าดาราภิรมย์แล้วต่อไปยังพิพิธภัณฑ์/พื้นที่เกี่ยวข้องกับตำหนักดาราภิรมย์ (ซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกัน) จะทำให้เห็น “ภาพซ้อน” ของแม่ริมได้ชัดขึ้นว่าเป็นพื้นที่ที่มีทั้งรากวัฒนธรรม ชุมชนดั้งเดิม ธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ร่วมสมัยรวมอยู่ในรัศมีใกล้ ๆ กัน การจัดทริปแบบนี้ทำให้การเที่ยววัดไม่ใช่แค่ไหว้พระแล้วกลับ แต่เป็นการอ่านเมืองผ่านสถานที่จริง
ในมิติของสถาปัตยกรรมและบรรยากาศ วัดป่าดาราภิรมย์มีความงามแบบล้านนาที่ “ไม่เอะอะ” คือสวยจากรายละเอียด ความเรียบร้อย และจังหวะพื้นที่มากกว่าสีสันจัดจ้าน จุดที่ผู้คนมักประทับใจคือความสะอาด ความเป็นระเบียบของทางเดิน ลานวัด และสัดส่วนของอาคารที่ทำให้รู้สึกสงบ ไม่อึดอัด แม้จะเป็นวัดที่มีผู้คนมาเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่รู้สึกแออัดแบบสถานที่ท่องเที่ยวหลัก ๆ ของเชียงใหม่ และด้วยความเป็นวัดป่า โทนของสถานที่จึงชวนให้เก็บเสียงและเก็บใจโดยธรรมชาติ
การมาเที่ยววัดป่าดาราภิรมย์ให้ได้ “อรรถรส” ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเยอะ แค่จัดลำดับการเดินให้ถูกก็พอ เริ่มจากไหว้พระในจุดสำคัญ ตั้งจิตให้สงบ แล้วค่อยเดินชมพื้นที่อย่างสำรวม สังเกตว่าทำไมวัดป่าถึงให้ความรู้สึกต่างจากวัดเมือง ทั้งที่ก็มีพระ มีอาคาร มีผู้คนเหมือนกัน คำตอบมักอยู่ที่ความเรียบง่ายและการเว้นวรรคในพื้นที่ เช่น ทางเดินที่มีร่มไม้ ลานที่ไม่อัดแน่นด้วยร้านค้า การจัดพื้นที่ให้คนได้นั่งเงียบ ๆ โดยไม่ถูกเร่งจังหวะให้ “ต้องทำอะไรสักอย่างตลอดเวลา”
ในเชิงความเชื่อและการมาทำบุญ หลายคนมาวัดป่าเพื่อ “ตั้งหลักชีวิต” มากกว่าขอพรแบบเร่งด่วน เพราะคติของสายวัดป่าจะเน้นเรื่องการฝึกสติ การมีศีล การภาวนา และการทำใจให้ตรงมากกว่าพิธีกรรมที่ซับซ้อน ดังนั้นถ้าคุณมาไหว้พระที่นี่ ลองตั้งใจไหว้แบบง่าย ๆ แต่ตรง เช่น ตั้งจิตระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอโอกาสให้ตัวเองได้เริ่มใหม่ในสิ่งที่ควรทำ แล้วเดินเงียบ ๆ สักพัก คุณจะรู้สึกว่าการ “ได้อยู่กับตัวเอง” ในพื้นที่แบบนี้มีค่าไม่แพ้การไหว้พระบทสวดยาว ๆ
อย่างไรก็ตาม วัดป่าดาราภิรมย์ก็ยังเป็นวัดที่มีพิธีกรรมและประเพณีตามปฏิทินพุทธศาสนาเหมือนวัดอื่น ๆ เพียงแต่บรรยากาศจะมีความสำรวมเป็นหลัก หากคุณไปช่วงวันสำคัญ เช่น วันมาฆบูชา วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา หรือช่วงเข้าพรรษา คุณอาจได้เห็นผู้คนมาร่วมทำบุญ เวียนเทียน หรือร่วมกิจกรรมตามที่วัดจัด ซึ่งการไปช่วงนี้จะสัมผัส “ชุมชนศรัทธา” ได้ชัดขึ้น แต่ถ้าคุณอยากได้ความสงัดจริง ๆ วันธรรมดาช่วงเช้าเป็นเวลาที่เหมาะกว่า เพราะคนไม่หนาแน่นและอากาศแม่ริมยังสบาย
อีกประเพณีหนึ่งที่มักเกี่ยวข้องกับวัดที่มีชุมชนศรัทธาเข้มแข็งคือ “กฐิน” และ “ผ้าป่า” ซึ่งมักเป็นช่วงที่ผู้คนมาร่วมทำบุญสนับสนุนการบูรณะและกิจการของวัด หากคุณตั้งใจมาช่วงปลายฝนต้นหนาว คุณอาจพบกิจกรรมลักษณะนี้ (ขึ้นกับประกาศของวัดในแต่ละปี) ข้อดีของวัดป่าคือแม้จะมีงานบุญ บรรยากาศก็ยังค่อนข้างเป็นระเบียบ ไม่วุ่นวาย และให้พื้นที่กับการปฏิบัติอยู่เสมอ
มารยาทและข้อควรรู้สำหรับการเข้าวัดป่าดาราภิรมย์มีไม่มาก แต่สำคัญมาก เช่น แต่งกายสุภาพ งดเสื้อผ้าที่สั้นหรือรัดรูปจนเกินไป พูดคุยด้วยเสียงเบา โดยเฉพาะใกล้พื้นที่ที่คนกำลังนั่งสมาธิ หลีกเลี่ยงการยืนบังคนอื่นขณะไหว้พระ และถ้าจะถ่ายภาพ แนะนำถ่ายแบบไม่รบกวนพิธีกรรมหรือกิจวัตรของพระและญาติโยม รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้เสียงชัตเตอร์/เสียงวิดีโอรัว ๆ ในพื้นที่สงบ ๆ เรื่องเล็ก ๆ แบบนี้ทำให้วัดป่ายังคงความสงัดได้ แม้จะมีผู้มาเยือนมากขึ้นก็ตาม
อีกสิ่งที่ควรสังเกตคือวัดป่าในสายกรรมฐานจำนวนมากให้ความสำคัญกับ “ความเรียบร้อย” และ “ความเป็นระเบียบ” ซึ่งไม่ใช่เพื่อความสวยงามอย่างเดียว แต่เพื่อเอื้อต่อการฝึกใจ ถ้าสภาพแวดล้อมเรียบและนิ่ง ใจก็มีโอกาสนิ่งตามง่ายขึ้น ดังนั้นการช่วยกันรักษาความสะอาด ไม่ทิ้งขยะ ไม่ส่งเสียงดัง และไม่ทำกิจกรรมที่ทำให้คนอื่นเสียสมาธิ จึงเป็นการทำบุญในอีกรูปแบบหนึ่งที่จับต้องได้จริง
การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงใหม่สามารถขับรถไปอำเภอแม่ริมได้สะดวก โดยใช้เส้นทางถนนสายหลักไปทางแม่ริม แล้วเข้าสู่พื้นที่ตำบลริมใต้ตามแผนที่นำทาง วัดอยู่ไม่ไกลจากศูนย์กลางแม่ริม ทำให้เดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับได้สบาย หากคุณไม่มีรถส่วนตัว ทางเลือกที่ง่ายคือเรียกรถรับจ้าง/เหมารถจากในเมืองเชียงใหม่ เพราะจะยืดหยุ่นเรื่องเวลาและสามารถต่อทริปไปสถานที่ใกล้เคียงในแม่ริมได้ในวันเดียว
ทริคเล็ก ๆ เพื่อให้ทริปแม่ริมของคุณ “ไม่เสียเที่ยว” คือวางเส้นทางแบบวงกลม: เริ่มจากวัดป่าดาราภิรมย์เพื่อให้ใจนิ่งก่อน จากนั้นค่อยไปพิพิธภัณฑ์หรือสถานที่ประวัติศาสตร์ใกล้ ๆ เพื่อเติมบริบท แล้วค่อยไปคาเฟ่/ร้านอาหารในโซนริมใต้หรือโป่งแยงช่วงบ่าย ถ้าชอบธรรมชาติค่อยต่อไปเส้นโป่งแยง–ม่อนแจ่มหรือสวนพฤกษศาสตร์ฯ แบบนี้จะได้ครบทั้งธรรมะ ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติในวันเดียวโดยไม่รู้สึกรีบเกินไป
ช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการมาเที่ยววัดป่าดาราภิรมย์คือช่วงเช้า เพราะอากาศแม่ริมจะยังไม่ร้อน แสงสวยและนุ่ม ทำให้เดินชมวัดได้สบายและสงบกว่า ช่วงหน้าหนาว (ประมาณปลายปีถึงต้นปี) บรรยากาศจะยิ่งดีเป็นพิเศษเพราะเย็นสบาย ส่วนฤดูฝนจะร่มรื่น เขียวชุ่ม แต่ควรเตรียมรองเท้าที่เดินง่ายและระวังพื้นลื่นบางจุด
เมื่อมาถึงวัดแล้ว หากคุณอยากให้การมาไหว้พระมีความหมายมากกว่าการ “ผ่านไป” ลองให้เวลากับตัวเองสัก 30–60 นาที ไม่ต้องทำอะไรเยอะ แค่ไหว้พระ ตั้งจิต แล้วเดินเงียบ ๆ สังเกตลมหายใจและความรู้สึกของตัวเอง คุณจะเข้าใจทันทีว่าทำไมคนจำนวนมากถึงชอบมาวัดป่า เพราะมันเป็นพื้นที่ที่ช่วยให้คนกลับมาอยู่กับปัจจุบันได้ง่ายกว่าปกติ
สำหรับคนที่ตั้งใจมาปฏิบัติหรือสนใจแนวทางสายกรรมฐาน การมาเยือนวัดป่าดาราภิรมย์ยังเป็นโอกาสให้เราได้เรียนรู้ “วัฒนธรรมความสำรวม” ของวัดป่า เช่น ความพอดีในการทำบุญ ความเรียบง่ายในการไหว้พระ และความระมัดระวังในการใช้พื้นที่ร่วมกับคนอื่น สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่กฎแข็ง ๆ แต่เป็นมารยาทที่ทำให้พื้นที่สงบสามารถสงบต่อไปได้
ท้ายที่สุด วัดป่าดาราภิรมย์เหมาะมากสำหรับคนที่อยากเที่ยวเชียงใหม่แบบไม่ต้องวิ่งตามแลนด์มาร์กทั้งวัน เพราะที่นี่ให้ “คุณภาพเวลา” มากกว่าความตื่นเต้น ถ้าคุณอยากได้สถานที่ที่ทั้งสวย สงบ มีเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์ และมีแก่นของการปฏิบัติธรรมจริง ๆ อยู่ในตัว วัดป่าดาราภิรมย์คือหนึ่งในคำตอบที่ไม่ควรหลุดลิสต์เมื่อมาเที่ยวแม่ริม
| ชื่อสถานที่ | วัดป่าดาราภิรมย์ (พระอารามหลวง) |
| ที่ตั้ง | ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ 50180 |
| ลักษณะเด่น | วัดป่าสายกรรมฐาน บรรยากาศสงบ ร่มรื่น เป็นระเบียบ มีมิติประวัติศาสตร์เชื่อมโยงพื้นที่ตำหนักดาราภิรมย์ เหมาะกับการไหว้พระ ทำสมาธิ และเที่ยวเชิงวัฒนธรรม |
| ยุคสมัย/ประวัติย่อ | เริ่มเป็นพื้นที่วิเวกของพระกรรมฐานช่วง พ.ศ. 2473 ต่อมาได้รับประกาศตั้งเป็นวัดวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2481 ได้รับวิสุงคามสีมา 24 มิถุนายน พ.ศ. 2522 และยกเป็นพระอารามหลวงวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2542 |
| หลักฐาน/สิ่งสำคัญ | เสนาสนะวัดป่าและพื้นที่ปฏิบัติธรรมที่สืบสายกรรมฐาน เชื่อมโยงเรื่องเล่าพระอาจารย์มั่นและครูบาอาจารย์สายธุดงค์ รวมถึงความทรงจำร่วมกับพื้นที่ตำหนักดาราภิรมย์ |
| ที่มาของชื่อ | ตั้งชื่อเพื่อเป็นอนุสรณ์และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระราชชายาเจ้าดารารัศมี เชื่อมโยงพื้นที่ “ดาราภิรมย์” ในแม่ริม |
| การเดินทาง | จากตัวเมืองเชียงใหม่ขับรถไปอ.แม่ริม เข้าพื้นที่ต.ริมใต้ตามแผนที่นำทาง วัดอยู่ใกล้ศูนย์กลางแม่ริม เดินทางไปเช้าเย็นกลับได้สะดวก (ไม่มีรถส่วนตัวแนะนำเหมารถ/เรียกรถรับจ้างจากตัวเมือง) |
| สถานะปัจจุบัน | เปิดให้เข้าชมและทำบุญได้ |
| เบอร์ติดต่อ | 053-862-890 |
| สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง (พร้อมระยะทาง) | พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ (ประมาณ 1–2 กม.) ที่ว่าการอำเภอแม่ริม (ประมาณ 1–2 กม.) สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (ประมาณ 12–18 กม.) น้ำตกแม่สา (ประมาณ 10–16 กม.) Pongyang Jungle Coaster Zipline (ประมาณ 18–25 กม.) ม่อนแจ่ม (ประมาณ 22–30 กม.) |
| ร้านอาหารยอดนิยมใกล้เคียง (พร้อมระยะทาง + เบอร์โทร) | ครัวหลองข้าว (Krua Lawng Khao) (ประมาณ 2–5 กม.) โทร 083-476-3421 ก๋องคำ อาหารพื้นเมืองแม่ริม (Gongkham) (ประมาณ 3–6 กม.) โทร 084-040-5515 ระเบียงบ้าน (RabiengBaan) (ประมาณ 6–12 กม.) โทร 080-802-6633 Tune In Garden (โป่งแยง) (ประมาณ 18–25 กม.) โทร 053-879-251, 087-185-2951 Rim Tai Kitchen (Four Seasons Resort Chiang Mai) (ประมาณ 6–10 กม.) โทร 053-298-181 |
| ที่พักยอดนิยมใกล้เคียง (พร้อมระยะทาง + เบอร์โทร) | Four Seasons Resort Chiang Mai (ประมาณ 6–10 กม.) โทร 053-298-181 The Grand Morocc Hotel (ประมาณ 6–10 กม.) โทร 053-299-835 Jirung Health Village (ประมาณ 6–12 กม.) โทร 053-861-511 First Residence Hotel Mae Rim (ประมาณ 2–5 กม.) โทร 088-261-5119 Onsen @ Moncham (ประมาณ 22–30 กม.) โทร 053-111-606, 088-268-7586 |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | ลานจอดรถ (ตามสภาพพื้นที่), ห้องน้ำ, ทางเดินร่มรื่น, จุดนั่งพัก/ทำสมาธิ, พื้นที่สักการะและทำบุญ (แนะนำแต่งกายสุภาพและรักษาความสงบในเขตวัด) |
| ค่าธรรมเนียม | ไม่เก็บค่าเข้าชม (ร่วมทำบุญตามศรัทธา) |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: วัดป่าดาราภิรมย์อยู่ที่ไหน?
ตอบ: วัดตั้งอยู่ตำบลริมใต้ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่มาแม่ริมได้สะดวก และอยู่ใกล้ศูนย์กลางอำเภอแม่ริม
ถาม: วัดป่าดาราภิรมย์เปิดวันไหนและกี่โมง?
ตอบ: เปิดทุกวัน เวลา 08.00–17.00 น. (แนะนำมาเช้าหรือวันธรรมดาหากต้องการบรรยากาศสงบ)
ถาม: วัดนี้ต่างจากวัดท่องเที่ยวทั่วไปอย่างไร?
ตอบ: เป็นวัดป่าสายกรรมฐาน บรรยากาศจะสำรวมและสงบ เหมาะกับการไหว้พระ ทำสมาธิ และเดินชมแบบไม่เร่งรีบมากกว่าการมาเพื่อความคึกคัก
ถาม: ควรแต่งกายและปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อเข้าวัด?
ตอบ: แต่งกายสุภาพ พูดคุยด้วยเสียงเบา หลีกเลี่ยงการรบกวนผู้ที่กำลังปฏิบัติ/นั่งสมาธิ และถ่ายภาพอย่างรู้กาลเทศะโดยไม่กีดขวางพื้นที่สักการะ
ถาม: มีเบอร์ติดต่อวัดป่าดาราภิรมย์ไหม?
ตอบ: ติดต่อได้ที่ 053-862-890







หมวดหมู่:
กลุ่ม: