
40 สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ที่คุณห้ามพลาด

Rating: 5/5 (1 votes)




สถานที่ท่องเที่ยวแพร่
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
แพร่ ประตูสู่อดีตที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งวัฒนธรรมและธรรมชาติ จังหวัดแพร่เป็นหนึ่งในจังหวัดเล็ก ๆ ของภาคเหนือของประเทศไทย แต่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติและความลึกซึ้งของวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน เมืองนี้ได้รับการขนานนามว่า "เมืองหม้อห้อม" ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและความชำนาญด้านการทอผ้าของชาวบ้าน
แพร่ไม่ได้มีเพียงแค่วัฒนธรรมท้องถิ่นเท่านั้น แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายที่น่าค้นหา ทั้งป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ วัดวาอารามที่เปี่ยมด้วยความศรัทธา และสถาปัตยกรรมที่เล่าเรื่องราวของอดีต เมืองแพร่จึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศที่สงบสุข พร้อมกับเรียนรู้และเชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์และธรรมชาติอย่างแท้จริง
การเดินทางมาสู่แพร่ที่เที่ยวภาคเหนืออาจเป็นการเริ่มต้นของประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยความประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นการเดินชมเมืองเก่าที่รายล้อมด้วยเรือนไม้โบราณ การสัมผัสธรรมชาติที่งดงามของอุทยานแห่งชาติ หรือการลิ้มลองอาหารพื้นเมืองที่หอมกรุ่นด้วยเอกลักษณ์ในท้องถิ่น สำหรับผู้ที่มองหาสถานที่พักผ่อนที่แตกต่างไปจากแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอื่น ๆ แพร่เป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบ เพราะเมืองนี้ไม่ได้มีแค่การพักผ่อน แต่ยังเป็นโอกาสในการค้นพบความสงบและความเรียบง่ายในแบบที่หายากในปัจจุบัน 40 สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ที่คุณห้ามพลาด ได้แก่

1. คุ้มเจ้าหลวง เมืองแพร่ สถาปัตยกรรมทรงคุณค่าที่สะท้อนประวัติศาสตร์ล้านนา ในย่านถนนคุ้มเดิม จังหวัดแพร่ ซ่อนเร้นความงดงามทางสถาปัตยกรรมที่สะท้อนวิถีชีวิตและประวัติศาสตร์ล้านนาไว้อย่างงดงามใน "คุ้มเจ้าหลวง เมืองแพร่" อาคารเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2435 โดยเจ้าหลวงพิริยะชัยเทพวงศ์ ที่ปัจจุบันถูกใช้เป็นจวนผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ คุ้มเจ้าหลวงแห่งนี้เป็นอาคาร 2 ชั้นที่สร้างขึ้นด้วยอิฐถือปูน แข็งแกร่งโดยไม่มีการฝังเสาเข็ม แต่ใช้ไม้ซุงเนื้อแข็ง เช่น ไม้ประดู่รองรับฐานเสาทั้งหลัง โดดเด่นด้วยประตูและหน้าต่างจำนวน 72 บาน ซึ่งประดับด้วยลวดลายฉลุไม้อันประณีตที่แสดงถึงความวิจิตรศิลป์ของช่างฝีมือในยุคนั้น โดยเฉพาะลวดลายไม้แกะฉลุที่ปรากฏอยู่บริเวณปั้นลมและชายคาน้ำ สะท้อนถึงความวิจิตรบรรจงของงานช่างล้านนา ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่นประเภทอาคารสถาบันและสาธารณะ จากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยืนยันถึงความงามและคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของอาคารหลังนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้หลงใหลในประวัติศาสตร์ หรือเพียงต้องการสัมผัสความงามที่ซ่อนอยู่ในเมืองแพร่ คุ้มเจ้าหลวงคือสถานที่ที่ควรค่าแก่การไปเยือนสักครั้งในชีวิต
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/aYYLDKTmDngFMz5H8

2. คุ้มวิชัยราชา มรดกวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์แห่งเมืองแพร่ เป็นหนึ่งในอาคารที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมเมืองแพร่ในอดีต ด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี บ้านไม้สักทรงมะนิลาหลังนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่พักอาศัยของผู้มีฐานะสูงในยุคสมัยนั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวสำคัญที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ไทย ลวดลายและสถาปัตยกรรมที่หายากของบ้านหลังนี้สมควรได้รับการอนุรักษ์และเผยแพร่ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาและภาคภูมิใจในมรดกของตน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/oCdLsJvQKAFAQvib7

3. อุทยานลิลิตพระลอ สถานที่แห่งความรักอมตะและวรรณคดีไทย เป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่สะท้อนความงดงามของวรรณคดีไทยและประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับเมืองโบราณเวียงสอง หรือที่ปัจจุบันคือ อำเภอสอง จังหวัดแพร่ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นแหล่งรวมของศิลปวัฒนธรรม แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งความทรงจำที่เล่าขานถึงเรื่องราวความรักอมตะของ พระลอ แห่งนครแมนสรวง และ พระเพื่อน-พระแพง แห่งเมืองสรอง ผ่านวรรณคดีเรื่อง ลิลิตพระลอ ซึ่งเป็นหนึ่งในผลงานวรรณกรรมชิ้นเอกของไทย ภายในอุทยานลิลิตพระลอ นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสความงดงามของศิลปะและวัฒนธรรมที่ถ่ายทอดผ่านรูปปั้นและสถาปัตยกรรม รวมถึงบรรยากาศอันเงียบสงบที่เหมาะสำหรับการรำลึกถึงเรื่องราวในอดีต จุดเด่นที่ดึงดูดใจผู้มาเยือน ได้แก่ รูปปั้นพระลอ พระเพื่อน และพระแพง ที่สื่อถึงความรักและโศกนาฏกรรมตามวรรณคดี, พระศรีสรรเพชญ พระพุทธรูปที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวอำเภอสอง และซากกำแพงเมืองโบราณ ซึ่งเป็นหลักฐานของเมืองสรองในอดีต เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวและผู้สนใจประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาด ทั้งยังเป็นพื้นที่ที่ช่วยสืบสานและส่งต่อเรื่องราวของความรักอมตะในวรรณคดีไทยให้คงอยู่ในใจของผู้คนรุ่นต่อไป
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/3pQ1UBHoS2unFJmu7

4. กำแพงเมืองแพร่ มรดกทางวัฒนธรรมและสัญลักษณ์แห่งภูมิปัญญาโบราณ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองแพร่ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ เป็นหลักฐานสำคัญที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาและการวางผังเมืองในยุคโบราณ แม้ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นในสมัยใด แต่จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ กำแพงเมืองนี้มีอายุกว่า 1,100 ปี และได้รับการปรับปรุงในรัชสมัยของท้าวพหุสิงห์ ราชโอรสของพ่อขุนหลวงพล โดยมีการก่อสร้างและบูรณะเพื่อป้องกันน้ำแม่ยมที่อาจท่วมถึงเมือง กำแพงเมืองแพร่เป็นกำแพงชั้นเดียว มีความสูงประมาณ 7 เมตร ความกว้างของฐานประมาณ 15 เมตร ล้อมรอบตัวเมืองเป็นระยะทางประมาณ 4,000 เมตร ลักษณะโดยรวมของกำแพงเป็นรูปวงรีคล้ายหอยสังข์ ภายในกำแพงเป็นอิฐก้อนโบราณขนาดใหญ่และหินที่เรียงกันอย่างแน่นหนา ด้านนอกกำแพงยังมีคูน้ำกว้างประมาณ 20 เมตร ส่วนด้านในมีถนนสายรอบเวียงที่บางช่วงอยู่บนสันกำแพง กำแพงเมืองแพร่ไม่เพียงเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ แต่ยังสะท้อนถึงความศรัทธาและความร่วมมือร่วมใจของคนในอดีตที่ร่วมกันสร้างและรักษามรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่านี้ให้คงอยู่ เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจถึงภูมิปัญญาและความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองแพร่ที่ยืนหยัดอยู่คู่กับประวัติศาสตร์ไทยตลอดมา
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/4sRCNxouJbazCm7W7

5. บ้านวงศ์บุรี มรดกแห่งความงดงามทางสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ล้านนา ตั้งอยู่ที่เลขที่ 50 ถนนคำลือ (ถนนหลังจวนผู้ว่าฯ สี่แยกพระนอนเหนือ) ใกล้กับวัดพงศ์สุนัน จังหวัดแพร่ สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสถาปัตยกรรมที่งดงาม แต่ยังสะท้อนถึงประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชาวล้านนาในอดีตได้อย่างลึกซึ้ง บ้านวงศ์บุรีเป็นทรงปั้นหยาสองชั้น โดดเด่นด้วยหลังคาสูงและเพดานที่โปร่งสบาย มีการออกแบบให้มีช่องระบายลมระหว่างชั้นหลังคาทั้งสอง เพื่อช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูร้อน ลมที่พัดจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ช่วยให้บ้านเย็นสบายตลอดวัน สิ่งที่ทำให้บ้านวงศ์บุรีแตกต่างจากบ้านในยุคเดียวกันคือ ลวดลายไม้แกะสลักอันละเอียดอ่อน ซึ่งปรากฏอยู่ที่หน้าจั่ว ชายคา ระเบียง ช่องลม ชายน้ำ หน้าต่าง และประตู ทุกลวดลายแสดงถึงความชำนาญของช่างฝีมือในยุคนั้น หน้าประตูบ้านยังมีปูนปั้นรูปแพะ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนเจ้าพรหมและเจ้าสุนันตา ผู้ที่เกิดในปีแพะ แม้ว่าบ้านหลังนี้จะผ่านการบูรณะซ่อมแซมในภายหลัง แต่ลวดลายแกะสลักและโครงสร้างดั้งเดิมยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ภายในบ้านวงศ์บุรีตกแต่งด้วยเครื่องเรือนเก่าแก่ เครื่องเงิน เครื่องปั้นดินเผา และเอกสารสำคัญ เช่น เอกสารการซื้อขายทาส ซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชนชั้นสูงในยุคนั้น การเดินชมภายในบ้านเปรียบเสมือนการย้อนเวลาไปยังอดีต บ้านวงศ์บุรีได้รับรางวัลอนุรักษ์ดีเด่นจากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อปี พ.ศ. 2536 นอกจากนี้ยังได้รับความสนใจจากผู้สร้างภาพยนตร์และนักเขียน ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง และปรากฏในหนังสือต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและอนุรักษ์วัฒนธรรม บ้านวงศ์บุรียังมีกิจกรรมจัดขันโตกสำหรับคณะนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยต้องติดต่อล่วงหน้า กิจกรรมนี้ช่วยสร้างความประทับใจและความเข้าใจในวัฒนธรรมล้านนา บ้านวงศ์บุรีคือสถานที่ที่คุณต้องมาสัมผัสเพื่อเรียนรู้และซึมซับบรรยากาศของอดีตอันงดงามที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/X8V8DV6Jha9z1e2XA

6. อนุสาวรีย์เจ้าหลวงหมื่นด้งนคร ศูนย์รวมจิตใจแห่งวีรกรรมและความศรัทธา ตั้งอยู่ในตำบลสรอย อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ในรัชสมัยของพระเจ้าติโลกราชแห่งอาณาจักรล้านนา เมื่อกว่า 500 ปีที่แล้ว เจ้าหลวงหมื่นด้งนครได้ฝากชื่อไว้ในพงศาวดารล้านนาด้วยความสามารถอันล้ำเลิศในฐานะแม่ทัพเอกผู้ปกป้องบ้านเมืองจากศัตรู และเจ้านครที่เปี่ยมด้วยบารมี ผู้ทรงเป็นต้นแบบของความกล้าหาญและความจงรักภักดี เจ้าหลวงหมื่นด้งนครได้ครองเมืองหลายแห่งในราชอาณาจักรล้านนา อาทิ นครเขลางค์นคร (ลำปาง) เมืองเชลียง (ศรีสัชนาลัย) และเมืองด้งนคร (อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่) พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญทั้งในด้านการปกครอง การสงคราม และการส่งเสริมพระพุทธศาสนา โดยปรากฏหลักฐานที่แสดงถึงพระราชกรณียกิจมากมาย เช่น การสร้างพระอุโบสถและพระเจดีย์องค์ใหญ่ที่วัดเวียงด้ง อนุสาวรีย์เจ้าหลวงหมื่นด้งนครเป็นมากกว่าหลักฐานทางประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลังได้เรียนรู้ถึงความกล้าหาญ ความซื่อสัตย์ และความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของบุคคลผู้หนึ่งที่ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อปกป้องแผ่นดินล้านนาให้อยู่รอดและรุ่งเรืองสืบไป
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/ia8K3ZmaJB3oiZPM9

7. ประเพณีนมัสการพระธาตุช่อแฮ ความศรัทธาและวัฒนธรรมที่สืบทอดแห่งเมืองแพร่ พระธาตุช่อแฮ เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ที่เปี่ยมด้วยประวัติศาสตร์และศรัทธา ตั้งอยู่บนเนินเขาโกสิยธชัค ตำบลป่าแดง อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ เป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งมีปรากฏอยู่ในตำนานพุทธศาสนา งานประเพณีนมัสการพระธาตุช่อแฮ ถือเป็นหนึ่งในประเพณีที่ยิ่งใหญ่และสำคัญของภาคเหนือ สะท้อนให้เห็นถึงความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาและวิถีชีวิตของชาวเมืองแพร่ที่เคารพในจารีตประเพณีอันดีงาม จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงวันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 6 เหนือ (เดือน 4 ใต้) จนถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 รวมระยะเวลา 5 วัน 5 คืน โดยงานจะสิ้นสุดในวันมาฆบูชา การนมัสการพระธาตุช่อแฮเป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ โดยชาวเมืองแพร่และผู้มีจิตศรัทธาทั่วประเทศมีความเชื่อว่า การกราบไหว้บูชาสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้จะนำมาซึ่งความสุข ความเจริญ และความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ประเพณีนมัสการพระธาตุช่อแฮ เป็นอีกหนึ่งเครื่องหมายของความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทย ที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และเผยแพร่สู่ชนรุ่นหลัง ให้ได้รู้จักและเข้าใจถึงความงดงามของประเพณีอันล้ำค่าและศรัทธาในพระพุทธศาสนาที่เชื่อมโยงจิตใจของผู้คนไว้อย่างแน่นแฟ้น สวยงาม ตระการตา และไม่ควรพลาดประเพณีภาคเหนือนี้
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/terTytcehf9wgpdh7

8. ประเพณีกิ๋นสลาก มรดกแห่งศรัทธาและวัฒนธรรมล้านนา หรือที่เรียกกันว่า “สลากภัต” เป็นหนึ่งในประเพณีที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมล้านนาอย่างชัดเจน ซึ่งมักจัดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคมของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านร่วมกันทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับ รวมถึงการสร้างความสามัคคีในชุมชน และสนับสนุนพระพุทธศาสนา กิ๋นสลากไม่ใช่เพียงการทำบุญธรรมดา แต่เป็นการฝึกจิตใจให้รู้จักการให้โดยปราศจากความหวังสิ่งตอบแทน ด้วยการจัด “ก๋วยสลาก” หรือภาชนะที่ใส่สิ่งของเครื่องไทยทานเพื่อถวายแด่พระสงฆ์ โดยเจ้าของก๋วยไม่ทราบล่วงหน้าว่าจะถวายให้พระรูปใด ทำให้การทำบุญในลักษณะนี้เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ นอกจากนี้ ยังสะท้อนถึงความเสียสละและความร่วมมือของชาวบ้านในชุมชนที่รวมตัวกันสร้างงานบุญใหญ่ โดยแสดงออกผ่านขบวนแห่และการละเล่นพื้นบ้าน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมล้านนา เป็นงานบุญ ที่แสดงถึงประเพณีภาคเหนือที่งดงาม และไม่ควรพลาด หากมีโอกาสได้ไปสัมผัส
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/haucwghv9BYmQCaTA

9. พิพิธภัณฑ์เสรีไทยแพร่ ศูนย์กลางแห่งความกล้าหาญและประวัติศาสตร์ของเมืองแพร่ ตั้งอยู่ด้านหลังโรงแรมภราดร ถนนยันตรกิจโกศล อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ เป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงความกล้าหาญของชาวเมืองแพร่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2550 โดยนายภุชงค์ กันทาธรรม เพื่อรำลึกถึงบิดาของเขา นายทอง กันทาธรรม ผู้เป็นหัวหน้าเสรีไทยสายแพร่ และเพื่อเผยแพร่เรื่องราวสำคัญในประวัติศาสตร์ที่เปี่ยมด้วยความเสียสละเพื่อชาติ พิพิธภัณฑ์เสรีไทยแพร่เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์และการเสียสละของคนไทยในสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่นี่เป็นทั้งศูนย์กลางความรู้และสัญลักษณ์ของความรักชาติ ซึ่งแสดงถึงความสามัคคีและจิตวิญญาณที่กล้าหาญของชาวเมืองแพร่และขบวนการเสรีไทยในอดีต
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/45TRQz1cDkr7eUPr8

10. พิพิธภัณฑ์ไม้สัก แหล่งรวมความรู้และประวัติศาสตร์ไม้สักแห่งเมืองแพร่ งหวัดแพร่ถือเป็นหนึ่งในแหล่งไม้สักที่สำคัญของประเทศไทย ด้วยประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับการทำไม้และการอนุรักษ์ป่าไม้ที่ยาวนาน จึงไม่น่าแปลกใจที่ พิพิธภัณฑ์ไม้สัก จะกลายเป็นสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวและผู้สนใจด้านประวัติศาสตร์และศิลปะไม้ต้องมาเยี่ยมชม การเดินทางมายังพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ย่อมไม่ทำให้ผิดหวัง อย่าลืมแวะมาสัมผัสความงดงามของไม้สักและเรื่องราวที่มีชีวิตชีวาที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เมื่อคุณมาเยือนเมืองแพร่
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/spS8DnyWLdoRD45MA

11. บ้านประทับใจ (บ้านเสาร้อยต้น) เสน่ห์เรือนไม้สักแห่งเมืองแพร่ หรือที่รู้จักกันในชื่อ บ้านเสาร้อยต้น คือหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนจังหวัดแพร่ บ้านไม้สักทรงไทยประยุกต์หลังนี้เป็นผลงานทางสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงความประณีต วิจิตร และการใส่ใจในทุกรายละเอียด บ้านประทับใจถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2515 และใช้เวลาสร้างจนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2519 โดย คุณพ่อกิจจา ชัยวัณณคุปต์ เจ้าของบ้านที่ออกแบบและตกแต่งทุกส่วนของบ้านด้วยตัวเองโดยไม่พึ่งสถาปนิก การสร้างบ้านใช้ไม้สักทองคุณภาพสูงจากพื้นที่รอบเมืองแพร่ ซึ่งในอดีตเคยเป็นแหล่งไม้สักที่มีชื่อเสียงในระดับประเทศ บ้านแห่งนี้มีจุดเด่นที่เสาบ้านซึ่งทำจากไม้สักจำนวน 130 ต้น แต่ละต้นมีอายุราว 300 ปี และได้รับการแกะสลักอย่างประณีต นับเป็นการแสดงถึงความมั่งคั่งและความละเอียดอ่อนในเชิงศิลปกรรมของผู้สร้าง บ้านประทับใจ ไม่ได้เป็นเพียงแค่บ้านไม้สักธรรมดา แต่เป็นผลงานชิ้นเอกที่บอกเล่าเรื่องราวของยุคสมัย ความรักในศิลปะ และความสัมพันธ์ของคนกับธรรมชาติในดินแดนที่เคยอุดมสมบูรณ์ด้วยไม้สักแห่งนี้ หากคุณมีโอกาสมาเยือนจังหวัดแพร่ อย่าลืมแวะมาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของบ้านเสาร้อยต้น ที่นี่คือที่ซึ่งอดีตและปัจจุบันมาบรรจบกันอย่างลงตัว
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/wVxxy9iyH5iiP6Z98

12. วัดจอมสวรรค์ แพร่ มรดกวัฒนธรรมไทยใหญ่ สถาปัตยกรรมพม่าอันงดงาม ตั้งอยู่บนถนนยันตรกิจโกศล ตำบลทุ่งกวาว จังหวัดแพร่ ห่างจากศาลากลางจังหวัดเพียง 1 กิโลเมตร เป็นวัดที่สะท้อนเอกลักษณ์ของชาวไทยใหญ่ในพื้นที่ ผ่านสถาปัตยกรรมแบบพม่าอันโดดเด่น ด้วยหลังคาซ้อนลดหลั่นเป็นชั้นที่ประดับประดาด้วยลวดลายฉลุอย่างวิจิตรบรรจง สิ่งที่ทำให้วัดจอมสวรรค์มีความพิเศษ คือการใช้ไม้สักเป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง ทั้งในส่วนของโบสถ์ วิหาร และกุฏิ ซึ่งภายในอารามตกแต่งด้วยความประณีตละเอียดอ่อน เสาและเพดานไม้ฉลุลายถูกประดับด้วยกระจกสีเพิ่มความงดงามและความรู้สึกขลังให้กับบรรยากาศภายในวัด
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/FTnscf3zw1ji5Sta8

13. วัดพระธาตุดอยเล็ง ปูชนียสถานสำคัญบนยอดดอยแห่งเมืองแพร่ ตั้งอยู่บนยอดดอยทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของวัดพระธาตุช่อแฮ ในจังหวัดแพร่ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และปูชนียสถานที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด โดยวัดนี้ตั้งอยู่ห่างจากพระธาตุช่อแฮประมาณ 2-3 กิโลเมตร และยังตั้งอยู่ใกล้กับพระธาตุจอมแจ้งประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งทั้ง 3 พระธาตุนี้ถือเป็นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองแพร่ที่มีประวัติยาวนานหลายร้อยปี วัดพระธาตุดอยเล็ง จึงเป็นอีกหนึ่งจุดหมายสำคัญสำหรับผู้ที่สนใจการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ศาสนา และวัฒนธรรมไทย รวมถึงการสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติบนยอดดอยสูงของจังหวัดแพร่ ซึ่งเต็มไปด้วยเรื่องราวความศรัทธาที่สืบทอดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/dN1ttzvZK5tSowmd9

14. วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี มรดกล้านนาแห่งเด่นชัย ตั้งอยู่ที่หมู่ 9 ตำบลเด่นชัย อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ ห่างจากตัวอำเภอเพียง 3 กิโลเมตร เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของภาคเหนือ ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวบรวมและอนุรักษ์มรดกล้านนาโบราณไว้อย่างครบถ้วน หนึ่งในสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรี คือ พิพิธภัณฑ์สุวรรณหอคำ ซึ่งสร้างขึ้นจากไม้สักทองแท้ นำบ้านเรือนเก่าที่มีเอกลักษณ์ล้านนามารวมไว้ทั้งหมด 14 หลัง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สะท้อนถึงภูมิปัญญาและศิลปะของชาวล้านนาในอดีตอย่างชัดเจน ภายในพิพิธภัณฑ์สุวรรณหอคำ จัดแสดงโบราณวัตถุล้ำค่าที่รวบรวมมาจากหัวเมืองฝ่ายเหนืออย่างครบครัน ได้แก่ พระพุทธรูปหลากหลายรูปแบบ เครื่องเขินที่บ่งบอกถึงความวิจิตรในการทำเครื่องใช้ในสมัยก่อน เครื่องดนตรีล้านนาที่สะท้อนวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมการละเล่นดนตรีพื้นบ้าน รวมถึงอาวุธโบราณที่แสดงถึงประวัติศาสตร์การปกป้องแผ่นดินและความกล้าหาญของบรรพชน นอกจากนี้ยังมีภาพถ่ายและภาพวาดของเจ้านายฝ่ายเหนือ รวมถึงภาพเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ที่เป็นบทเรียนทางประวัติศาสตร์ที่มีคุณค่า การเยี่ยมชมวัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสกับความงดงามของสถาปัตยกรรมล้านนาแท้ ๆ เท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้และเข้าใจรากเหง้าวัฒนธรรม รวมถึงประวัติศาสตร์ของภาคเหนืออย่างลึกซึ้ง เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจศึกษาประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยโดยเฉพาะ หากมีโอกาสมาเยือนจังหวัดแพร่ วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีคือสถานที่ที่ควรค่าแก่การแวะชม เพื่อสัมผัสความงดงามแห่งศิลปวัฒนธรรมล้านนาและย้อนรำลึกถึงความรุ่งเรืองของอดีตอย่างแท้จริง
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/HywrDB63tDbKY8tK8

15. วัดพระหลวงธาตุเนิ้ง ตำบลดอนมูล แพร่ โบราณสถานสำคัญกับเจดีย์ศิลปะสุโขทัย ตั้งอยู่ในตำบลดอนมูล จังหวัดแพร่ เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของชุมชนท้องถิ่น ที่นี่เต็มไปด้วยความศรัทธาและคุณค่าทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจดีย์เก่าซึ่งเป็นศิลปะสุโขทัยโบราณที่ยังคงความงดงามและทรงคุณค่าไว้ได้อย่างสมบูรณ์ การเดินทางมายังวัดพระหลวงธาตุเนิ้งนั้นง่ายมาก เพียงเลี้ยวซ้ายที่บ้านหัวดงและเข้าไปประมาณ 700 เมตร ก็จะถึงวัดที่มีเจดีย์เก่าที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "ธาตุเนิ้ง" ซึ่งคำว่า “เนิ้ง” หมายถึง “เอียง” นั่นเอง เจดีย์นี้มีลักษณะเฉพาะตัวคือมีความเอียงเล็กน้อยตามชื่อ ทำให้เป็นที่จดจำและเป็นเอกลักษณ์ของวัดแห่งนี้ การเยี่ยมชมวัดพระหลวงธาตุเนิ้ง นอกจากจะได้สัมผัสกับบรรยากาศสงบ ร่มรื่นแล้ว ยังเป็นโอกาสดีที่จะได้เรียนรู้และชื่นชมศิลปะสุโขทัยซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของศิลปะไทยสมัยใหม่ ถ้าคุณแวะมาเยือนจังหวัดแพร่ วัดพระหลวงธาตุเนิ้งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาด เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้ง พร้อมกับความงดงามของศิลปะโบราณที่ยังคงมีชีวิตชีวาอยู่ในวันนี้
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/E5UuGLDByWuPLZAo8

16. พระธาตุปูแจ จังหวัดแพร่ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งประเพณีนมัสการพระธาตุประจำปี ตั้งอยู่ในตำบลบ้านเวียง จังหวัดแพร่ ห่างจากอำเภอร้องกวางประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นพระธาตุที่มีความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมของชาวแพร่และพื้นที่ใกล้เคียง ทุกปี พระธาตุปูแจจะเป็นจุดรวมจิตใจของชาวบ้านและผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในการจัดงานนมัสการพระธาตุ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “งานขึ้นพระธาตุ” ซึ่งตรงกับวันขึ้น 11 - 15 ค่ำ เดือน 3 ตามปฏิทินไทย งานนี้จัดขึ้นเพื่อแสดงความเคารพสักการะพระธาตุ และเป็นการสืบสานประเพณีท้องถิ่นที่มีความยาวนาน ในช่วงงานนมัสการพระธาตุ ผู้คนจะเดินทางมาร่วมพิธีทำบุญ ตักบาตร ฟังเทศน์ และร่วมกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ เช่น การแสดงพื้นบ้าน การละเล่นพื้นเมือง และตลาดชุมชนที่นำสินค้าท้องถิ่นมาออกบูธ ถือเป็นโอกาสที่ชุมชนจะได้รวมตัวกันอย่างอบอุ่นและแสดงความเป็นเอกลักษณ์ของชาวแพร่
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/zSXjgd57JbwecLJ38

17. ศาลหลักเมืองจังหวัดแพร่ สัญลักษณ์แห่งความศรัทธาและประวัติศาสตร์ย่านกลางเมือง ตั้งอยู่บนถนนคุ้มเดิม ในย่านกลางเมืองแพร่ ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญที่สะท้อนถึงความศรัทธาและประวัติศาสตร์ของชาวแพร่ที่มีต่อแผ่นดินและบ้านเกิดเมืองนอน สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2535 ตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย เพื่อเป็นการฟื้นฟูและสร้างหลักเมืองใหม่ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชนและจังหวัด ภายในบริเวณเดียวกันนั้นยังตั้งอยู่คู่กับหลักศิลาจารึกเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มาก สำหรับผู้ที่มาเยือนแพร่ การได้สักการะศาลหลักเมืองถือเป็นการแสดงความเคารพต่อวิญญาณผู้สร้างเมืองและขอพรให้บ้านเมืองสงบสุข ร่มเย็น นับเป็นอีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนจังหวัดแพร่เพื่อสัมผัสทั้งความศรัทธาและประวัติศาสตร์อันลึกซึ้งของท้องถิ่น
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/YkqQ3p9GmVGqpLmn6

18. หมู่บ้านทุ่งโฮ้ง แพร่ แหล่งผลิตผ้าม่อฮ่อมดั้งเดิม วิถีชีวิตไทยพวนสืบทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น ถ้าพูดถึงจังหวัดแพร่ หนึ่งในสมบัติทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าและโดดเด่นคือ ผ้าม่อฮ่อม ผลงานหัตถกรรมพื้นบ้านที่ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งหมู่บ้านทุ่งโฮ้ง ตั้งอยู่บนถนนยันตรกิจโกศล ห่างจากตัวเมืองแพร่เพียง 4 กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข 101 (สายแพร่-น่าน) เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายผ้าม่อฮ่อมดั้งเดิมที่ยังคงรักษาวิธีการทำอย่างแท้จริง ปัจจุบัน หมู่บ้านทุ่งโฮ้งได้รับการส่งเสริมให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP Village Champion Handicrafts Tourism เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตชาวไทยพวนอย่างใกล้ชิด และเรียนรู้วิธีการทำผ้าม่อฮ่อมดั้งเดิม นอกจากนี้ ยังมีบริการ โฮมสเตย์ ให้ผู้ที่สนใจสามารถพักค้างคืน เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศหมู่บ้าน เรียนรู้วัฒนธรรม และมีโอกาสร่วมกิจกรรมท้องถิ่นกับชาวบ้าน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/TZ7iwcu1DCNcX6cw9

19. บ้านร่องฟอง หมู่บ้านเก่าแก่แห่งช่างตีเหล็กและภูมิปัญญาท้องถิ่นของจังหวัดแพร่ หมู่บ้านที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งผลิตเครื่องมือเกษตรจากเหล็กคุณภาพสูง เช่น จอบ เสียม มีด พร้า และเคียว ตั้งอยู่ในจังหวัดแพร่ บนเส้นทางหมายเลข 101 (สายแพร่-น่าน) ห่างจากตัวเมืองเพียง 4 กิโลเมตร เมื่อเลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 1101 จะพบป้ายบอกทางเข้าสู่หมู่บ้านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้ บ้านร่องฟองไม่ใช่เพียงหมู่บ้านเก่าแก่ที่สืบทอดภูมิปัญญาด้านการตีเหล็กและการเย็บผ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างของชุมชนที่สามารถพัฒนาศักยภาพและรวมตัวกันสร้างเศรษฐกิจครัวเรือนได้อย่างแข็งแกร่ง ภายใต้ความสามัคคีและความร่วมมือของคนในชุมชนที่ยังคงยึดมั่นในวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นสืบต่อกันมาอย่างยาวนาน สำหรับผู้ที่สนใจเดินทางมาชมวิถีชีวิตชาวบ้านและเรียนรู้การตีเหล็กแบบดั้งเดิม รวมถึงชมการทำผลิตภัณฑ์ผ้าร่ม บ้านร่องฟองถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายท่องเที่ยวที่แนะนำไม่ควรพลาด
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/WEDcsanjQfHGeYaB8

20. หมู่บ้านทอผ้าตีนจก อำเภอลอง จังหวัดแพร่ มรดกงานฝีมือทอผ้าที่ยั่งยืนแห่งล้านนา ผ้าตีนจกของอำเภอลอง จังหวัดแพร่ คือหนึ่งในงานฝีมือทอผ้าที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นภูมิปัญญาที่สะท้อนความงดงามของวัฒนธรรมล้านนาอย่างลึกซึ้งและประณีต ผ้าตีนจกที่นี่มีลวดลายสวยงาม แสดงถึงความพิถีพิถันและความเชี่ยวชาญของช่างทอในชุมชน โดยใช้วัสดุคุณภาพอย่างผ้าไหมและผ้าฝ้ายเป็นหลัก จุดเด่นของผ้าตีนจกอำเภอลอง คือการเน้นสีดำแดง ซึ่งถือเป็นสีประจำและสร้างความโดดเด่นไม่เหมือนใคร สีดำที่ลึกลับลุ่มลึกตัดกับสีแดงที่สดใส สื่อถึงพลังและความมีชีวิตชีวาของชาวล้านนา ลวดลายบนผ้าตีนจกเป็นลวดลายที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ มีทั้งลายเรขาคณิตและลายดอกไม้ที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เพิ่มความงดงามและซับซ้อนในทุกชิ้นงาน หมู่บ้านสำคัญที่ยังคงสืบสานการทอผ้าตีนจกนี้ ได้แก่ บ้านนาตุ้ม บ้านหัวทุ่ง และบ้านนามน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตผ้าตีนจกที่ยังรักษาวิธีการทอแบบดั้งเดิม และยังมีการถ่ายทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่น เพื่อรักษามรดกทางวัฒนธรรมนี้ไม่ให้สูญหายไปตามกาลเวลา ผ้าตีนจกจากอำเภอลอง นอกจากจะเป็นเครื่องแต่งกายที่งดงามแล้ว ยังมีความหมายทางสังคมและจิตวิญญาณ เป็นสัญลักษณ์ของความสามัคคีในชุมชนและการเคารพในธรรมชาติ ผ่านการทอผ้าที่ใช้เวลาและความตั้งใจสูงสุด เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบงานศิลปะและวัฒนธรรมไทยโดยแท้จริง การทอผ้าตีนจกของอำเภอลองไม่เพียงแต่เป็นงานฝีมือที่สร้างรายได้ให้กับชุมชนเท่านั้น แต่ยังเป็นการรักษาและส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นให้คงอยู่คู่กับวิถีชีวิตคนล้านนาอย่างยั่งยืน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/wWvcTcXN1zhh2Dke8

21. หมู่บ้านชาวเขาเผ่าอาข่า แพร่ ถิ่นฐานวัฒนธรรมแห่งความงดงามดั้งเดิม ตั้งอยู่ในจังหวัดแพร่ หมู่บ้านชาวเขาเผ่าอาข่าเป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่ประกอบด้วยครัวเรือนประมาณ 50 หลังคาเรือน โดยชาวอาข่ายังคงรักษาและสืบทอดประเพณีดั้งเดิมของเผ่าไว้อย่างเข้มแข็ง ซึ่งสะท้อนถึงวิถีชีวิต ความเชื่อ และความผูกพันกับธรรมชาติของชนเผ่านี้ ชาวอาข่าในหมู่บ้านนี้ยังคงปฏิบัติประเพณีสำคัญหลายอย่างที่เป็นหัวใจของวัฒนธรรมเผ่า เช่น ประเพณีโล้ชิงช้า, งานปี๋ใหม่ และงานชนไข่ การสืบสานประเพณีเหล่านี้ไม่เพียงแต่สร้างความภาคภูมิใจแก่ชาวอาข่าเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวและผู้สนใจเรียนรู้วิถีชีวิตและวัฒนธรรมอันลึกซึ้งของชนเผ่าชาวเขาไทยในพื้นที่ ภายในหมู่บ้านยังคงมีบรรยากาศที่เงียบสงบ รายล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะแก่การเดินทางสัมผัสความเป็นอยู่แบบดั้งเดิม และร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์วัฒนธรรมที่หาได้ยากในโลกยุคปัจจุบัน หมู่บ้านชาวอาข่าในแพร่จึงถือเป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมที่สำคัญและเป็นเสน่ห์ที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดแพร่ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น

22. บ้านนาตอง สัมผัสวิถีชีวิตเกษตรกรรมและธรรมชาติที่บริสุทธิ์ในโฮมสเตย์สุดเรียบง่าย หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ และได้สัมผัสกับวิถีชีวิตแบบชาวบ้านอย่างแท้จริง บ้านนาตอง หมู่ 9 ตำบลช่อแฮ จังหวัดลำปาง คือคำตอบที่น่าสนใจไม่แพ้ที่ไหน ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร เส้นทางค่อนข้างท้าทายในฤดูฝน ต้องใช้รถกระบะแรงดีเพื่อเดินทางเข้าไป แต่เมื่อถึงแล้ว คุณจะได้พบกับชุมชนเล็กๆ ที่มีประชากรประมาณ 100 หลังคาเรือน ซึ่งยังคงรักษาเอกลักษณ์และวิถีชีวิตแบบเกษตรกรรมดั้งเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น ชาวบ้านนาตองส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนาในช่วงเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม ในช่วงนอกฤดูทำนาจะเปลี่ยนมาปลูกถั่วลิสงโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลง พร้อมกับการเก็บยอดใบเมี่ยงซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของชุมชนทุก 2 เดือน สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงการใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย แต่มีความยั่งยืนและสอดคล้องกับธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง นอกจากวิถีชีวิตเกษตรกรรมแล้ว บ้านนาตองยังมีสิ่งที่น่าสนใจทางธรรมชาติที่หาชมได้ยาก คือ “เต่าปูลู” หรือเต่าหางยาว ซึ่งเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ มีถิ่นกำเนิดเฉพาะในบริเวณรอยต่อสามประเทศ คือ ภาคเหนือของไทย ภาคตะวันออกของพม่า และตอนใต้ของจีน เต่าปูลูอาศัยอยู่ในแหล่งน้ำสะอาดที่มีแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ เช่น ปู กุ้ง และหอย ซึ่งบ้านนาตองซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำของลำน้ำน่าน จึงเหมาะสมกับการเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของเต่าปูลูเป็นอย่างมาก บริเวณใกล้เคียงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจ ได้แก่ ถ้ำนาตอง และน้ำตกผาบ่อง ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปสัมผัสและผจญภัยในธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด บ้านนาตองจึงเป็นจุดหมายที่เหมาะกับคนรักธรรมชาติและผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย มาร่วมสัมผัสวิถีชีวิตและธรรมชาติที่แท้จริง พร้อมเก็บความทรงจำดี ๆ กลับบ้านไปอย่างแน่นอน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/KxUPDgnSVzfbbh549

23. แพะเมืองผี มหัศจรรย์แห่งธรรมชาติและตำนานพื้นเมืองที่ยังคงอยู่ วนอุทยานแพะเมืองผี ตั้งอยู่ในตำบลน้ำชำ จังหวัดแพร่ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 12 กิโลเมตร สามารถเดินทางโดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 101 สายแพร่ - น่าน จากนั้นแยกขวาเข้าไปอีกประมาณ 6 กิโลเมตร ก็จะได้พบกับดินแดนมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ พื้นที่ขนาดประมาณ 500 ไร่ของวนอุทยานนี้ เต็มไปด้วยลักษณะภูมิประเทศที่ไม่ธรรมดา ดินและหินทรายที่ถูกกัดเซาะด้วยลมและฝนตลอดระยะเวลาหลายพันปีได้ก่อเกิดเป็นรูปร่างที่แปลกตา ทั้งเสาหิน หน้าผา และก้อนหินที่มีลักษณะคล้ายดอกเห็ด ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้มาเยือน แพะเมืองผีเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติและตำนานพื้นเมืองที่ลึกลับ การได้มาเยือนที่นี่ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสกับความงดงามของภูมิทัศน์ที่ไม่เหมือนใคร แต่ยังได้ซึมซับเรื่องราวทางวัฒนธรรมและความเชื่อที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ ถ้าคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์และความเงียบสงบ แพะเมืองผีจะเป็นจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาด
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/9MLK79ij1Ez1u6Mp6

24. อุทยานแห่งชาติดอยผากลอง สัมผัสธรรมชาติอันงดงามและมหัศจรรย์ทางธรณีวิทยา ตั้งอยู่ในจังหวัดแพร่ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 112,500 ไร่ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนและหน้าผาสูงที่งดงาม ทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของลำธารสายสำคัญที่ไหลลงสู่แม่น้ำยม ทำให้อุทยานแห่งนี้เป็นแหล่งธรรมชาติที่สมบูรณ์และสวยงาม ภายในอุทยานฯ มีป่าเบญจพรรณอันอุดมสมบูรณ์ ประกอบไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด เช่น จันทน์ผา กล้วยผา กล้วยไม้ดิน และสมุนไพรหายาก นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด เช่น เลียงผา หมี เก้ง ไก่ป่า หมูป่า ชะมด และนกพญาไฟ ซึ่งจะอพยพมาที่นี่ในช่วงฤดูหนาว สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ สวนหินมหาราช, ภูเขาหินปะการัง, แก่งหลวง และถ้ำเอราวัณ อุทยานแห่งชาติดอยผากลองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและต้องการสัมผัสความงามของป่าเขาและหินมหัศจรรย์ การเดินทางสะดวก ค่าใช้จ่ายไม่สูง และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนจังหวัดแพร่

สวนหินมหาราช มหัศจรรย์ธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติดอยผากลอง ในดินแดนอันเงียบสงบและงดงามของจังหวัดแพร่ มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจรอให้ทุกคนได้มาสัมผัส นั่นคือ "สวนหินมหาราช" ในอุทยานแห่งชาติดอยผากลอง ที่นี่คือสถานที่ที่ธรรมชาติได้บรรจงจัดวางกลุ่มก้อนหินขนาดใหญ่ให้เรียงรายอยู่ท่ามกลางป่าเต็งรังอันอุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมกลุ่มก้อนหินได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งเหมาะสำหรับการถ่ายภาพหรือเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีความสวยงามเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความมหัศจรรย์และพลังของธรรมชาติที่สร้างสรรค์สิ่งสวยงามมาให้โลกได้ชื่นชม

ภูเขาหินปะการัง ธรรมชาติสุดมหัศจรรย์ในอุทยานแห่งชาติดอยผากลอง หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและพร้อมสำหรับการผจญภัยในระยะสั้น ภูเขาหินปะการัง ในอุทยานแห่งชาติดอยผากลอง จังหวัดแพร่ อาจเป็นคำตอบที่คุณตามหา ด้วยลักษณะเฉพาะตัวที่โดดเด่นของภูเขาหินนี้ ซึ่งเกิดจากกระบวนการธรรมชาติที่ยาวนานนับล้านปี สถานที่นี้ไม่เพียงแต่สะกดทุกสายตาด้วยความงดงาม แต่ยังให้ความรู้สึกผ่อนคลายจาก "แอร์ธรรมชาติ" ที่หาได้ยาก ภูเขาหินปะการังเกิดจากการยุบตัวของเปลือกโลกและการชะล้างของน้ำฝนที่ทำให้หินกลายเป็นรูปร่างคล้ายปะการังในทะเล ความงดงามที่เกิดขึ้นจากกระบวนการนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยาที่สำคัญ เมื่อเดินทางถึงจุดสูงสุดของเส้นทางศึกษาธรรมชาติ นักท่องเที่ยวจะได้พบกับจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นภูมิทัศน์ของภูเขาหินปะการังและธรรมชาติโดยรอบ เป็นจุดถ่ายภาพที่ไม่ควรพลาด การเดินทางไปยังภูเขาหินปะการังไม่เพียงแต่เป็นการชมธรรมชาติที่งดงาม แต่ยังเป็นการสัมผัสกับพลังของธรรมชาติที่ใช้เวลานับล้านปีในการสร้างความมหัศจรรย์นี้ออกมา เป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่รักการผจญภัยและชื่นชอบธรรมชาติในแบบลึกซึ้ง

ถ้ำเอราวัณ ความงดงามในอุทยานแห่งชาติดอยผากลอง จังหวัดแพร่ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่งดงามและเป็นที่รู้จักในหมู่นักเดินทางที่หลงใหลในธรรมชาติและความมหัศจรรย์ของหินงอกหินย้อย ถ้ำแห่งนี้มีความลึกประมาณ 200 เมตร และเต็มไปด้วยความงดงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นอย่างประณีต เมื่อเข้าสู่ภายในถ้ำเอราวัณ คุณจะพบกับห้องโถงกว้างที่มีหินงอกหินย้อยที่มีรูปร่างแปลกตา หินบางก้อนมีรูปร่างคล้ายช้างเอราวัณ สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่และศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวไทย ในขณะที่หินบางก้อนมีลักษณะคล้ายหญิงอุ้มท้อง ซึ่งเกี่ยวข้องกับตำนานพื้นบ้านที่เล่าขานถึงถ้ำแห่งนี้ ถ้ำเอราวัณอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับแก่งหลวง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

แก่งหลวง อัญมณีธรรมชาติกลางแม่น้ำยมในอุทยานแห่งชาติดอยผากลอง หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจในจังหวัดแพร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติดอยผากลอง ที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติและความสงบเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองใหญ่ เมื่อเดินทางมาถึงแก่งหลวง นักท่องเที่ยวจะได้พบกับโขดหินน้อยใหญ่ที่เรียงรายอยู่ในลำน้ำยม น้ำที่ไหลผ่านโขดหินเหล่านี้ก่อให้เกิดฟองฝอยที่กระเซ็นสวยงาม ทำให้บรรยากาศสดชื่นและน่าหลงใหล บริเวณนี้เหมาะสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ การนั่งพักผ่อน และการจัดกิจกรรมทางน้ำที่น่าสนใจ กิจกรรมแนะนำ ได้แก่ ล่องแพชมความงามของแก่งหลวง, ปิกนิกท่ามกลางธรรมชาติ และถ่ายภาพโขดหินและฟองน้ำ ฤดูร้อนและฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเยี่ยมชมแก่งหลวง โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวที่น้ำในแม่น้ำยังคงมีปริมาณมากพอสำหรับการล่องแพ แต่ไม่แรงจนเกินไป ทำให้การทำกิจกรรมต่าง ๆ เป็นไปอย่างปลอดภัย หากคุณกำลังมองหาสถานที่สำหรับการพักผ่อนและผจญภัยเล็ก ๆ ในใจกลางธรรมชาติ แก่งหลวงคือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/1xqCEnXhUkiKV2fc7

25. อุทยานแห่งชาติแม่ยม มรดกธรรมชาติและวัฒนธรรมอันงดงามแห่งลำปางและแพร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดลำปางและแพร่ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 284,218.75 ไร่ หรือประมาณ 454.75 ตารางกิโลเมตร เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่งดงามและหลากหลายในประเทศไทย โดยมีภูมิประเทศที่เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ลาดลงสู่แม่น้ำยมที่ไหลผ่านกลางพื้นที่ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ แก่งเสือเต้น, ดงสักงาม, จุดชมวิวทะเลหมอก และหล่มด้ง นักท่องเที่ยวสามารถเลือกทำกิจกรรมหลากหลาย เช่น การล่องแก่ง แคมป์ปิ้ง ชมทะเลหมอก และสัมผัสประสบการณ์วัฒนธรรมดั้งเดิมของชนเผ่าอาข่า การเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติแม่ยม ไม่เพียงแต่เป็นการสัมผัสความงดงามของธรรมชาติ แต่ยังเปิดโอกาสให้เรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนจากความวุ่นวายในชีวิตประจำวันและเชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างแท้จริง

แก่งเสือเต้น แหล่งธรรมชาติและกิจกรรมผจญภัยใจกลางแม่น้ำยม ตั้งอยู่บริเวณหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่ยม จังหวัดแพร่ เป็นเกาะแก่งธรรมชาติที่งดงามในแม่น้ำยม มีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร จุดเด่นของแก่งนี้คือชื่อ “เสือเต้น” ที่มาจากลักษณะของหินก้อนหนึ่งในบริเวณแก่ง ซึ่งมีรอยเท้าเสือปรากฏอยู่บนผิวหิน เหมือนกับว่าเสือกำลังเต้นรำบนแก่งน้ำ ทำให้แก่งเสือเต้นเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจทั้งสำหรับผู้รักธรรมชาติและนักผจญภัย บริเวณรอบๆ แก่งเสือเต้นยังมีหาดทรายกว้างขวางเหมาะแก่การกางเต็นท์พักแรมให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับความสงบและความสดชื่นของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด โดยผู้ที่สนใจต้องเตรียมเต็นท์มาเอง สำหรับกิจกรรมยอดนิยมที่แก่งเสือเต้น คือ การล่องแก่งในแม่น้ำยม ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมถึงมกราคมของทุกปี เป็นช่วงเวลาที่น้ำในแม่น้ำเหมาะสมสำหรับการผจญภัยบนสายน้ำ นักท่องเที่ยวที่สนใจล่องแก่งควรเตรียมอุปกรณ์ล่องแก่งมาเองเพื่อความสะดวกและความปลอดภัย

หล่มด้ง อยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่ยม แอ่งน้ำลึกลับบนยอดเขา และธรรมชาติที่งดงาม เป็นแอ่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ที่มีความพิเศษและน่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะเป็นแหล่งน้ำบนยอดเขาสูงที่ไม่มีต้นกำเนิดที่ชัดเจน นับเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่หายากและสร้างความสงสัยให้กับผู้ที่มาเยือน แอ่งน้ำหล่มด้งมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 120 เมตร น้ำในบึงนี้มีอยู่ตลอดปีและมีระดับน้ำที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าฤดูฝนหรือฤดูแล้ง น้ำในหล่มด้งก็ไม่เพิ่มขึ้นหรือลดลง จึงเป็นแหล่งน้ำสำคัญสำหรับสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณโดยรอบ เป็นแหล่งน้ำที่ช่วยหล่อเลี้ยงระบบนิเวศน์ในพื้นที่นี้อย่างยั่งยืน บริเวณรอบๆ หล่มด้งยังมีป่าต้นตะแบกที่อุดมสมบูรณ์และสวยงาม เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการกางเต็นท์พักผ่อนในบรรยากาศธรรมชาติกลางป่า ที่นี่มีลานกางเต็นท์และจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของป่าสักเขียวขจีได้อย่างกว้างไกล รวมถึงเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่งดงามตระการตา เหมาะสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและต้องการสัมผัสความสงบเงียบของขุนเขาและป่าไม้ หากคุณเป็นคนรักการผจญภัย ชื่นชอบความลึกลับของธรรมชาติ และต้องการพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ หล่มด้งในอุทยานแห่งชาติแม่ยม คือจุดหมายที่ไม่ควรพลาดเลย
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/YP45cEweM5PYN98P6

26. อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย เสน่ห์แห่งขุนเขาและสายน้ำ เป็นสถานที่ที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ความงดงามไว้ได้อย่างลงตัว ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอำเภอลองและอำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ รวมถึงอำเภอเถิน อำเภอสบปราบ และอำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 256,250 ไร่ ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน พร้อมทั้งป่าหลากหลายประเภท เช่น ป่าดงดิบเขา ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็มรัง และป่าสน ทำให้อุทยานเวียงโกศัยกลายเป็นบ้านของพืชและสัตว์ป่านานาชนิด ตั้งแต่ต้นไม้ใหญ่อายุกว่าร้อยปี เช่น ดงตะเคียนทอง ที่ต้องใช้คนสามถึงสี่คนโอบ ไปจนถึงสัตว์ป่าอย่างหมูป่า หมี เสือโคร่ง และเลียงผา จุดเด่นที่น่าประทับใจ ได้แก่ น้ำตกแม่เกิ๋งหลวง, น้ำตกแม่เกิ๋งน้อย, น้ำตกแม่สิน, น้ำตกแม่จอก, น้ำตกแม่ป้าก, น้ำตกแม่รัง, น้ำตกขุนห้วย และบ่อน้ำร้อนแม่จอก อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัยคือจุดหมายปลายทางที่คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าจดจำตลอดชีวิต

น้ำตกแม่เกิ๋งหลวงและแม่เกิ๋งน้อย ความงามของธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย จังหวัดแพร่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และเต็มไปด้วยความงดงามของภูเขา ป่าไม้ และน้ำตกที่สวยงามหลายแห่ง หนึ่งในน้ำตกที่โดดเด่นและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว มีลักษณะเป็นน้ำตกที่ไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ รวมทั้งหมด 7 ชั้น คล้ายกับขั้นบันไดที่ทอดยาวลงมาจากดอยแม่เกิ๋ง ซึ่งคำว่า “แม่เกิ๋ง” ในภาษาพื้นเมืองแปลว่า “ขั้นบันได” อย่างเหมาะเจาะ น้ำตกแม่เกิ๋งหลวงตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานเพียงประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้สะดวกต่อการเดินทางและชมความงามของน้ำตก ในขณะที่น้ำตกแม่เกิ๋งน้อยต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติที่บริสุทธิ์และเงียบสงบ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ น้ำตกแม่เกิ๋งหลวงและแม่เกิ๋งน้อยถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด ด้วยความงามของน้ำตกที่ไหลเป็นชั้น ๆ พร้อมวิวทิวทัศน์ของป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ จะทำให้ทุกการเดินทางเต็มไปด้วยความประทับใจและความสดชื่นจากธรรมชาติอย่างแท้จริง

บ่อน้ำร้อนแม่จอก มหัศจรรย์ธรรมชาติกลางอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย ในดินแดนที่ธรรมชาติรังสรรค์ความงดงามให้กับพื้นที่อย่างอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย จ.แพร่ มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว นั่นคือ บ่อน้ำร้อนแม่จอก ที่ตั้งอยู่ในเขตบ้านแม่จอก หมู่ที่ 5 ต.แม่ป้าก อ.วังชิ้น สถานที่แห่งนี้คือจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย บ่อน้ำร้อนแม่จอกมีความร้อนสูงถึง 80 องศาเซลเซียส กระจายตัวอยู่รอบบริเวณสนามหน้าโรงเรียนในพื้นที่ โดยเฉพาะในช่วงเช้า ทัศนียภาพของบริเวณนี้จะถูกเติมเต็มด้วยไอน้ำที่ลอยตัวขึ้นมาจากบ่อน้ำร้อน คล้ายกับม่านหมอกบางๆ ที่ปกคลุมไปทั่วพื้นสนาม สร้างบรรยากาศที่งดงามและแปลกตา ชวนให้ผู้มาเยือนรู้สึกอบอุ่นและประทับใจ เสียงน้ำเดือดและสัมผัสไอร้อนที่อบอวลอยู่ในอากาศช่วยสร้างประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวหลายคนยังกล่าวว่าความงามของไอน้ำที่ลอยตัวในแสงแรกของวันคือภาพที่ต้องมาสัมผัสด้วยตาตนเองเท่านั้น เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเยี่ยมชมบ่อน้ำร้อนแม่จอกคือช่วงเช้าตรู่ เพราะเป็นเวลาที่ทัศนียภาพของไอน้ำที่ลอยขึ้นมาจากบ่อน้ำร้อนจะงดงามที่สุด การได้เห็นแสงแดดอ่อนๆ กระทบกับละอองน้ำในบรรยากาศเงียบสงบ ถือเป็นประสบการณ์ที่ทำให้หลายคนหลงใหลในความงดงามของธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร ด้วยความงดงามและเสน่ห์แห่งธรรมชาติ บ่อน้ำร้อนแม่จอกจะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/uw3jy2uhXRvyanzh9

27. อ่างเก็บน้ำแม่มาน จังหวัดแพร่ ธรรมชาติสวยงามและความสุขริมสายน้ำ เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่และมีทิวทัศน์งดงาม โดยเฉพาะในยามเช้าเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าเหนือเขื่อน ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวและคนรักธรรมชาติ บริเวณอ่างเก็บน้ำแม่มานยังมีเรือนแพสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมร้านอาหารที่ให้บริการอาหารสดใหม่ โดยเฉพาะเมนูปลาสดจากอ่างเก็บน้ำ ซึ่งรับรองว่าอร่อยและสดสะอาด ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสความอร่อยของอาหารท้องถิ่นพร้อมบรรยากาศริมสายน้ำที่เงียบสงบ สถานที่ที่เติมเต็มความสุขและความสงบให้กับทุกคนที่มาเยือน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/Je4XP6b6D9gyH4TG8

28. อ่างเก็บน้ำแม่สอง จังหวัดแพร่ แหล่งพักผ่อนหย่อนใจกลางธรรมชาติที่ไม่ควรพลาด เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่มีความจุน้ำถึง 65 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่สงบและร่มรื่น ด้วยทำเลที่ตั้งที่เงียบสงบและวิวทิวทัศน์สวยงาม อ่างเก็บน้ำแม่สองจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวและชาวบ้านในพื้นที่ ที่นี่มีบริการแพสำหรับเช่าเพื่อเที่ยวชมอ่างเก็บน้ำ ทำให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์การล่องแพ เพลิดเพลินกับวิวทะเลสาบกว้างใหญ่ และลมเย็นสบายที่พัดผ่าน นอกจากนี้ อ่างเก็บน้ำแม่สองยังมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่น่าสนใจในบริเวณใกล้เคียง เช่น เกาะแมลงปอ ซึ่งเป็นเกาะเล็ก ๆ ที่มีความสวยงามและบรรยากาศสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและถ่ายภาพ และถ้ำที่ผาน้อง ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสายผจญภัยและคนรักธรรมชาตินิยมสำรวจ หากคุณกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนที่หลีกหนีความวุ่นวายของเมืองใหญ่ อ่างเก็บน้ำแม่สอง จังหวัดแพร่ คือทางเลือกที่ลงตัว ทั้งความสงบของธรรมชาติ บริการแพล่องชมวิว และแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติรอบ ๆ ที่พร้อมต้อนรับทุกคนให้ได้มาสัมผัสความงดงามแห่งนี้ด้วยตัวเอง
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/4ZyGpCi4jD8daHLC9

29. น้ำตกตาดหมอก (น้ำตกแม่คอย) ความงดงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของธรรมชาติในจังหวัดแพร่ น้ำตกตาดหมอก หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันว่า น้ำตกแม่คอย เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาด น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ใน ตำบลสวนเขื่อน ห่างจากตัวเมืองแพร่เพียงประมาณ 22 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่โดดเด่นด้วยความสูงและความงดงามที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว น้ำตกแบ่งออกเป็น 3 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามที่แตกต่างกัน ซึ่งน้ำที่ไหลลงมาสร้างละอองน้ำบาง ๆ คล้ายหมอกลอยอยู่ในอากาศ ช่วยเพิ่มบรรยากาศที่สดชื่นและเย็นสบาย นักท่องเที่ยวที่มาเยือนต้องเดินเท้าผ่านเส้นทางป่าไม้ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร เส้นทางนี้อาจต้องใช้ความระมัดระวัง แต่กลับเต็มไปด้วยความร่มรื่นจากพรรณไม้เขียวชอุ่ม ทำให้การเดินทางเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนานและคุ้มค่า

30. น้ำตกแม่แคม (น้ำตกสวนเขื่อน) จ.แพร่ สายลม แสงแดด และธรรมชาติที่บริสุทธิ์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ น้ำตกสวนเขื่อน ตั้งอยู่ในเขตตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ สถานที่แห่งนี้คือความงดงามของธรรมชาติที่ซ่อนตัวอยู่ในผืนป่าเขียวชอุ่ม เหมาะสำหรับผู้ที่รักการเดินทางเพื่อสัมผัสกับธรรมชาติและอากาศบริสุทธิ์ น้ำตกแม่แคมเป็นน้ำตกขนาดเล็กที่มีความงดงามในรูปแบบเฉพาะตัว น้ำตกแบ่งออกเป็น 2 ชั้น แต่ละชั้นมีสายน้ำที่ไหลแรงตลอดทั้งปี เสียงของสายน้ำที่กระทบกับโขดหินสร้างความรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายให้กับนักท่องเที่ยว พื้นที่รอบน้ำตกเต็มไปด้วยป่าไม้ที่ร่มรื่น อากาศเย็นสบาย และกลิ่นอายของธรรมชาติที่บริสุทธิ์ สถานที่แห่งนี้จึงเหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบส่วนตัว หรือการเดินป่าเพื่อสำรวจธรรมชาติ เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับผู้ที่หลงใหลในธรรมชาติ ความเงียบสงบ และความสวยงามที่เรียบง่าย สถานที่แห่งนี้จะช่วยเติมเต็มพลังให้คุณได้กลับไปเผชิญกับชีวิตประจำวันอย่างสดชื่นและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/eQeUjH1pfwY8gnLS7

31. น้ำตกตาดซาววา มนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติในจังหวัดแพร่ จังหวัดแพร่ไม่ได้มีดีแค่เมืองโบราณที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมและประเพณี หากแต่ยังมีธรรมชาติที่งดงามซ่อนตัวอยู่ หนึ่งในนั้นคือน้ำตกตาดซาววา น้ำตกที่น้อยคนนักจะได้สัมผัส เนื่องจากตั้งอยู่ในเขตอำเภอร้องกวาง ห่างจากตัวเมืองแพร่ประมาณ 35 กิโลเมตร และยังต้องเดินเท้าเข้าไปสัมผัสความงดงามของธรรมชาติที่บริสุทธิ์อย่างใกล้ชิด น้ำตกตาดซาววาเป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง สายน้ำเย็นฉ่ำกระเซ็นลงมากระทบกับหินน้อยใหญ่เบื้องล่าง เกิดเป็นเสียงน้ำตกที่ดังก้องไปทั่วบริเวณ ความงดงามของน้ำตกแห่งนี้อยู่ที่สายน้ำใสสะอาดท่ามกลางป่าดิบชื้นสีเขียวชอุ่ม นอกจากนี้ ละอองน้ำที่ลอยตัวอยู่ในอากาศยังช่วยสร้างบรรยากาศสดชื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนในวันหยุด หากคุณเป็นคนที่รักการผจญภัยและชื่นชอบธรรมชาติที่บริสุทธิ์ น้ำตกตาดซาววาคือสถานที่ที่ไม่ควรพลาด
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/btyXCYCfr1tLgp4p9

32. น้ำตกห้วยโรง อัญมณีแห่งธรรมชาติในจังหวัดแพร่ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าน้ำตกห้วยลง เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามและเงียบสงบของจังหวัดแพร่ ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองแพร่ไปทางทิศเหนือประมาณ 60 กิโลเมตร โดยสามารถเดินทางตามทางหลวงหมายเลข 101 (ถนนสายแพร่-ร้องกวาง) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 78 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร คุณก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติอันสดชื่น น้ำตกห้วยโรงเป็นน้ำตกที่มีลักษณะเด่นด้วยความสูง 2 ชั้น ซึ่งน้ำแต่ละชั้นไหลลงมาอย่างนุ่มนวล คล้ายม่านน้ำที่ไหลรินอย่างต่อเนื่อง เสียงของน้ำตกที่กระทบโขดหินสร้างบรรยากาศที่เงียบสงบและผ่อนคลาย รอบ ๆ น้ำตกเป็นป่าโปร่งที่มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา เพิ่มความสดชื่นและร่มรื่นให้กับผู้มาเยือน น้ำตกห้วยโรงยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ด้วยความที่ยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากนัก ทำให้ที่นี่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายและดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการเยี่ยมชมน้ำตกห้วยโรงคือช่วงฤดูฝน (เดือนมิถุนายนถึงตุลาคม) ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำตกมีปริมาณน้ำมากและธรรมชาติเขียวขจี แต่ในฤดูอื่นก็ยังมีเสน่ห์เฉพาะตัว เช่น ความเงียบสงบและอากาศเย็นสบายในฤดูหนาว จึงเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดสำหรับการเดินทางมาเยือนจังหวัดแพร่ในครั้งต่อไปของคุณ
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/4hRrW7xZm3wMbnGZ8

33. ถ้ำผานางคอย ตำนานแห่งรักและความงดงามเหนือกาลเวลา ท่ามกลางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของจังหวัดแพร่ มีสถานที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และเรื่องราวเล่าขานอันลึกซึ้ง “ถ้ำผานางคอย” ตั้งอยู่ที่บ้านผาหมู ตำบลร้องกวาง เป็นสถานที่ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ไว้อย่างน่าอัศจรรย์ บนหน้าผาสูง 50 เมตร แห่งนี้คือถ้ำที่สวยงามและเปี่ยมด้วยความหมาย ภายในถ้ำผานางคอย มีลักษณะเป็นอุโมงค์ลึกประมาณ 150 เมตร กว้างราว 10 เมตร โดยทางเดินในถ้ำโค้งงอคล้ายข้อศอกในสามทิศทาง ทุกก้าวย่างที่เข้าสู่ถ้ำ ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับหินงอกหินย้อยที่สะท้อนประกายระยิบระยับเสมือนเพชรธรรมชาติ เกล็ดหินที่เรียงรายอย่างประณีต และชะง่อนหินที่ทอดยาวจรดพื้นถ้ำ สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม ที่ใจกลางของถ้ำ มีหินก้อนใหญ่ที่รูปร่างคล้ายหญิงสาวกำลังนั่งอุ้มลูก ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “หินนางคอย” ตามตำนานเล่าว่า หินนางคอยเป็นตัวแทนแห่งความรักและการรอคอยของหญิงสาวผู้มั่นคงในคำมั่นสัญญา หญิงสาวในตำนานนี้รอคอยคนรักของเธอจนกระทั่งกลายเป็นหิน เป็นเรื่องราวที่สะท้อนถึงความรักที่ไม่เปลี่ยนแปลง แม้กาลเวลาจะผ่านไป เบื้องหน้าของหินนางคอย ยังมีหินย้อยที่มีลักษณะคล้ายรูปหัวใจ เพิ่มความโรแมนติกและสร้างบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความหมายของความรัก ทำให้ถ้ำแห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับคู่รัก หรือผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวแห่งรักอมตะ เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่ควรพลาด ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับความงามของธรรมชาติ พร้อมทั้งเรียนรู้และซึมซับความลึกซึ้งของตำนานแห่งรักที่เปี่ยมไปด้วยความหมาย
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/1GTCCzrXFAfSM4eu5

34. ถ้ำค้างคาวดอยผาหิ่ง สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามในจังหวัดแพร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอลอง จังหวัดแพร่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่โดดเด่นด้วยความงดงามของภูมิประเทศและความหลากหลายทางชีวภาพ ที่นี่เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในบริเวณเทือกเขาดอยผาหิ่ง และยังเป็นบ้านของค้างคาวจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในถ้ำธรรมชาติอันกว้างใหญ่ ถ้ำค้างคาวดอยผาหิ่งเป็นถ้ำธรรมชาติที่เต็มไปด้วยความหลากหลายของระบบนิเวศ โดยเฉพาะค้างคาวที่อาศัยอยู่จำนวนมาก การได้เห็นฝูงค้างคาวบินออกจากถ้ำในยามเย็นเพื่อหาอาหารเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจ และถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของสถานที่นี้ นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบยังมีพืชพรรณและสัตว์ป่าหายากที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติ
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/cRL6wgjQCz6urtzs8

35. แม่น้ำยม สายน้ำแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แม่น้ำยมเป็นหนึ่งในแม่น้ำสายหลักของประเทศไทยที่มีความสำคัญทั้งทางธรรมชาติ วัฒนธรรม และเศรษฐกิจของชุมชนที่ตั้งอยู่ริมน้ำ ตั้งแต่ต้นน้ำที่เกิดจากลำน้ำเล็กๆ หลายสายบนดอยสันปันน้ำและดอยยอดภูรังกาในอำเภอปง จังหวัดพะเยา แม่น้ำยมได้แผ่กระจายชีวิตและความอุดมสมบูรณ์สู่พื้นที่ต่างๆ ตลอดระยะทางกว่า 700 กิโลเมตร แม่น้ำยมไม่ได้มีเพียงความสำคัญด้านการเกษตรและแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะในฤดูแล้ง บริเวณริมตลิ่งจะปรากฏเกาะแก่งหินทรายอันเป็นเอกลักษณ์ของแม่น้ำยม สถานที่เหล่านี้มักเป็นที่พักผ่อนของผู้คนในฤดูร้อน เหมาะสำหรับการปิกนิก การลงเล่นน้ำ และการชมวิวทิวทัศน์ แม่น้ำยมจึงไม่เพียงเป็นสายน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนริมน้ำ แต่ยังเป็นตัวแทนของประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การรักษาและส่งต่อให้คนรุ่นหลังได้ชื่นชมและใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/HU7wcnQaRGgpekVA8

36. ม่อนหินกอง อัญมณีแห่งธรรมชาติกลางขุนเขาเมืองแพร่ ท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของจังหวัดแพร่ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยเรื่องราวจากอดีตทางธรณีวิทยา นั่นคือ ม่อนหินกอง ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านนาพูนพัฒนา หมู่ที่ 10 ตำบลนาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ พื้นที่แห่งนี้คือแหล่งเรียนรู้ที่ธรรมชาติรังสรรค์ไว้ให้เราได้สำรวจ ม่อนหินกองเป็นกลุ่มหินแท่งเหลี่ยมที่เกิดจากการประทุของภูเขาไฟในอดีต มีโครงสร้างเป็นหินบะซอลต์ (Basalt) ซึ่งเป็นหินอัคนีพุชนิดหนึ่งที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หินเหล่านี้เรียงรายกันอย่างเป็นธรรมชาติ และสร้างทิวทัศน์ที่งดงามจนกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติและผู้สนใจด้านธรณีวิทยาไม่ควรพลาด ปัจจุบัน จังหวัดแพร่กำลังพัฒนาพื้นที่ม่อนหินกองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยเน้นการคงความเป็นธรรมชาติ พร้อมจัดสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่ ม่อนหินกองเป็นสถานที่ที่รวมความงามของธรรมชาติและความน่าสนใจด้านธรณีวิทยาไว้ในที่เดียว ความพิเศษของหินบะซอลต์ที่เกิดจากการประทุของภูเขาไฟในอดีต ทำให้ที่นี่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติ ม่อนหินกอง คือคำตอบที่ไม่ควรพลาด
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/E2dKtFLzd1WZcEnr7

37. ล่องแพแม่ปาน สัมผัสธรรมชาติและวัฒนธรรมในแบบฉบับชุมชนท้องถิ่น ตำบลแม่ปาน อำเภอลอง จังหวัดแพร่ เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่แสวงหาความสงบและความงดงามของธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ และหนึ่งในกิจกรรมยอดนิยมของที่นี่คือ “ล่องแพแม่ปาน” การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ผสมผสานความสุขของการผจญภัยกลางธรรมชาติเข้ากับการมีส่วนร่วมในวิถีชีวิตชุมชน กิจกรรมล่องแพแม่ปานเป็นเส้นทางที่พาผู้มาเยือนล่องไปตามลำธารที่ไหลเอื่อยผ่านป่าเขียวชอุ่ม ความเงียบสงบของผืนป่าและเสียงธรรมชาติ เช่น เสียงนกร้องและเสียงน้ำไหล ช่วยปลดปล่อยความเครียดและเติมพลังชีวิต การล่องแพที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่ความสนุก แต่ยังเปรียบเสมือนการเดินทางเข้าสู่ความสงบภายในใจ ลำธารแม่ปานมีความใสสะอาดจนสามารถมองเห็นก้อนหินที่ก้นลำธารได้ น้ำที่สะท้อนภาพต้นไม้และท้องฟ้าราวกับกระจก ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกถึงความเชื่อมโยงกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ชุมชนตำบลแม่ปานให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการอนุรักษ์ธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การเก็บขยะในลำธาร การปลูกต้นไม้ หรือกิจกรรมฟื้นฟูสภาพป่า นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมบำบัด เช่น การเดินชมธรรมชาติ การฝึกสมาธิ และการนั่งฟังเสียงธรรมชาติ ซึ่งช่วยให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกผ่อนคลายและเติมเต็มพลังชีวิต
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/W2w8DNpNJhWsHnVX8

38. พิพิธภัณฑ์โกมลผ้าโบราณ มรดกทางวัฒนธรรมที่เล่าเรื่องผ่านเส้นใยผ้า ตำบลห้วยอ้อ อำเภอลอง จังหวัดแพร่ เมืองที่มีชื่อเสียงด้านธรรมชาติอันงดงามและสถาปัตยกรรมล้านนาที่วิจิตรตระการตา ยังเป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑ์โกมลผ้าโบราณ สถานที่สำคัญที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาและศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านอันล้ำค่ พิพิธภัณฑ์โกมลผ้าโบราณ ก่อตั้งโดย นายโกมล พาณิชพันธ์ ผู้มีความหลงใหลในผ้าโบราณและวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวไทย ความตั้งใจของเขาคือการรวบรวมและถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าให้แก่คนรุ่นหลัง พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เริ่มต้นจากการเป็น ศูนย์เทคโนโลยีพื้นบ้าน ก่อนพัฒนาเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี พ.ศ. 2535 ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดง ผ้าโบราณ หลากหลายประเภท โดยเฉพาะ ผ้าซิ่นโบราณ ที่มีลวดลายประณีตสะท้อนศิลปะและภูมิปัญญาท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังมี อุปกรณ์การทอผ้า และ สิ่งของเครื่องใช้โบราณ ที่บอกเล่าเรื่องราววิถีชีวิตของชาวไทยในอดีต ผ้าแต่ละผืนไม่ได้เป็นเพียงเครื่องนุ่งห่ม หากยังเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อน เอกลักษณ์ประจำถิ่น และ ความเชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อม ลวดลายผ้าทอเปรียบเสมือนผลงานศิลปะที่บันทึกเรื่องราวความคิด ความเชื่อ และวัฒนธรรมของคนในยุคสมัยนั้น สัมผัสเสน่ห์แห่งผ้าโบราณ เรียนรู้เรื่องราวจากเส้นใย และร่วมกันรักษามรดกนี้ไว้ให้ยั่งยืน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/wTucsd3NFxHmCJYE6

39. สถานีรถไฟบ้านปิน มรดกทางสถาปัตยกรรมที่บอกเล่าเรื่องราวกว่าศตวรรษ ท่ามกลางทิวทัศน์ที่งดงามและบรรยากาศสงบของจังหวัดแพร่ “สถานีรถไฟบ้านปิน” ในตำบลบ้านปิน อำเภอลอง คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ผสมผสานความงามทางสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ไว้อย่างลงตัว อาคารสถานีแห่งนี้สร้างขึ้นในสไตล์บาวาเรียนเฟรมเฮ้าส์ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมทั้งเป็นตัวแทนของศิลปะตะวันตกที่ถูกปรับให้เข้ากับบริบทของสถาปัตยกรรมไทยในอดีต สถานีรถไฟบ้านปินเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับผู้ที่หลงใหลในการถ่ายภาพ ด้วยเอกลักษณ์ของอาคารที่มีโครงสร้างโดดเด่นและบรรยากาศอันเงียบสงบของชุมชนท้องถิ่น ภาพถ่ายที่ได้จากที่นี่จึงสะท้อนถึงเสน่ห์ที่เหนือกาลเวลา และกลายเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของการมาเยือนจังหวัดแพร่
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/z849KXTNNhyvkbeJ9

40. กาแฟแห่ระเบิด ร้านกาแฟแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมเมืองแพร่ 167/1 หมู่ 5 บ้านปิน อำเภอสูงเม่น เมื่อพูดถึงจังหวัดแพร่ หลายคนอาจนึกถึงเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่งดงาม ท่ามกลางความเงียบสงบของวิถีชีวิตชุมชน แต่ที่แห่งนี้ยังมีอัญมณีซ่อนเร้นที่เชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันไว้ด้วยกัน นั่นคือ “กาแฟแห่ระเบิด” ร้านกาแฟที่ไม่เพียงนำเสนอรสชาติกาแฟชั้นเลิศ แต่ยังพาผู้มาเยือนย้อนรอยสู่เรื่องราวแห่งเมืองแพร่อย่างลึกซึ้ง โดดเด่นด้วยแนวคิดที่ผสมผสานความทันสมัยและวัฒนธรรมดั้งเดิมได้อย่างลงตัว ภายในร้านตกแต่งด้วยบรรยากาศที่อบอุ่น มีการจัดแสดงสิ่งของและภาพถ่ายที่บอกเล่าเรื่องราวของเมืองแพร่ในอดีต นอกจากนี้ ยังมีการใช้ QR Code ที่ผู้มาเยือนสามารถสแกนเพื่อรับฟังข้อมูลประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของเมืองได้ ทำให้การนั่งจิบกาแฟกลายเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าทางความรู้ ร้านกาแฟแห่ระเบิดมีพื้นที่ให้เลือกนั่งได้ทั้งใน โซนห้องปรับอากาศ ที่ตกแต่งด้วยภาพถ่ายประวัติศาสตร์ และ โซนกลางแจ้ง ซึ่งรายล้อมด้วยธรรมชาติอันสงบ ผู้มาเยือนสามารถผ่อนคลายท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์และชมวิถีชีวิตของชุมชนเล็กๆ ที่ยังคงเอกลักษณ์ไว้อย่างครบถ้วน
แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/jVERBk7Ed9uGT6n69



แสดงความเห็น
คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage