Rating: 3.5/5 (4 votes)
![พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/27_06_23_03.jpg&x=300&y=300)
24. พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง ตั้งขึ้นปี 2548 เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมของคนในพื้นที่ พื้นที่จัดแสดงศิลปวัตถุ และเครื่องใช้ในอดีต รวมถึงเป็นแหล่งที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองเบตง นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่ขึ้นไปชั้นบนสุด จะมองเห็นตัวเมืองเบตงได้อย่างชัดเจนสวยงาม
20 ที่เที่ยวยะลา ภาคใต้ใครว่าน่ากลัว ชิลเวอร์
20 ที่เที่ยวยะลา ภาคใต้ใครว่าน่ากลัว ชิลเวอร์ หลายคนกังวล ด้วยข่าวที่ผ่านสื่อต่าง ๆ ในสถานการณ์ไม่ปกติของ 3 จังหวัดภาคใต้นี้ แต่แท้ที่จริงแล้ว จังหวัดชายแดนใต้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด มีความอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม เนื่องจากเป็นจังหวัดเดียวที่ไม่มีพื้นที่ติดทะเล พื้นที่ส่วนใหญ่จึงเป็นป่า ต้นไม้ มีความร่มรื่น เงียบสงบ มีวัฒนธรรมไทย และประเพณีไทย ที่หลากหลาย นอกจากนี้อาหารใต้ยังเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อมาก ๆ และควรค่าแก่การลิ้มลองสักครั้ง
จังหวัดยะลา นั้นจะมีเนื้อที่ประมาณ 4,512 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นจังหวัดเดียวในภาคใต้ซึ่งจะไม่มีพื้นที่ติดต่อกับทะเล โดยพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขาที่ปกคลุมด้วยผืนป่าอุดมสมบูรณ์ โดยพื้นที่ราบมีน้อย และถูกใช้ประโยชน์ในด้านการเป็นพื้นที่ตั้งชุมชน และเป็นพื้นที่เกษตรกรรม เนื่องจากมีป่าเขาอุดมสมบูรณ์ จึงมีฝนตกชุกมากถึงปีละประมาณ 9 เดือน จึงส่งผลดีต่อการเพาะปลูกเป็นอย่างยิ่ง
ความเป็นมาของยะลาเริ่มต้นและเติบโตมาเคียงคู่เมืองปัตตานี โดยเป็นส่วนหนึ่งของปัตตานี ซึ่งเชื่อกันว่าเกี่ยวข้องกับอาณาจักรลังกาสุกะ ที่ถือว่าเป็นอาณาจักรเก่าแก่ที่สุดบนแหลมมลายู
ยะลา เป็นส่วนหนึ่งของปัตตานี ซึ่งเคยเป็นเมืองขึ้นของกรุงสุโขทัย จนล่วงเลยมาถึง พ.ศ. 2310 หลังจากที่กรุงศรีอยุธยาเสียเมืองให้พม่า ยะลาก็ยังคงอยู่ในความปกครองของปัตตานี กระทั่งพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แยกหัวเมืองปัตตานีเป็น 7 หัวเมือง ใน พ.ศ. 2351 ยะลาจึงแยกออกจากปัตตานีนับแต่นั้น และได้รับการยกฐานะเป็นจังหวัดเมื่อ พ.ศ. 2476 หลังจากมีประกาศยุบเลิกมณฑล
จังหวัดยะลา แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองยะลา อำเภอเบตง อำเภอบันนังสตา อำเภอยะหา อำเภอรามัน อำเภอธารโต อำเภอกาบัง และอำเภอกรงปินัง
ยะลา เป็นจังหวัดในประเทศไทย คือจังหวัดใต้สุดของแผ่นดินไทย มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายประเภท ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ วิถีวัฒนธรรม และธรรมชาติ ที่ล้วนมีเอกลักษณ์ น่าค้นหา เฉพาะในส่วนของตัวเมืองยะลานั้น ได้รับการกล่าวขานว่ามีการวางผังเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงาม ถนนหนทางกว้างขวาง น่าไปเที่ยวชม
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลายสไตล์แล้ว ยะลายังมีความน่าสนใจตรงที่เป็นจังหวัดที่ผสมผสานวิถีชีวิตของชาวไทยพุทธ ไทยมุสลิม และชาวไทยจีน ไว้ด้วยกันได้อย่างน่าทึ่ง ประเพณีภาคใต้ วัฒนธรรมภาคใต้ ลักษณะบ้านเรือนและวิถีความเชื่อที่แตกต่างนั้น ทำให้ยะลาเป็นจุดหมายที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการเรียนรู้เรื่องราวของผู้คน ที่เที่ยวยะลาที่ไม่ควรพลาดได้แก่
![อุทยานแห่งชาติบางลาง อุทยานแห่งชาติบางลาง](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20132705153532.jpg&x=300&y=300)
1. อุทยานแห่งชาติบางลาง เที่ยวยะลา เที่ยวภาคใต้ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอบันนังสตา อำเภอธารโต และอำเภอเบตง มีเนื้อที่ 163,125 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2542 พื้นที่อุทยานบางส่วนครอบคลุมเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา เนื่องจากในอดีตเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของผู้ก่อการร้ายโจรจีนคอมมิวนิสต์มลายา (จคม.) และขบวนการพูโลในอดีต ผืนป่าจึงยังคงความสมบูรณ์และปราศจากการสำรวจมาเนิ่นนาน ด้วยความหลากหลายทางพรรณไม้ในผืนป่าบางลาง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นป่าดิบชื้นแหล่งต้นน้ำสำคัญของแม่น้ำปัตตานี แม่น้ำสายบุรี คลองโต๊ะโมะ คลองฮาลา และคลองบ้านเจ็ด เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ป่าหายากหลายชนิด เช่น กระซู่ สมเสร็จ นกเงือกหัวแรด นกขนหิน และสัตว์ป่าอื่น ๆ อีก หลายชนิด อุทยานมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง เช่น เขื่อนบางลาง น้ำตกฮาลาซะ น้ำตกธารโต และน้ำตกละอองรุ้ง ซึ่งแต่ละแห่งไม่ได้อยู่ในพื้นที่อุทยาน
![เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20132705160521.jpg&x=300&y=300)
2. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา หรือสวนป่าพระนามาภิไธยภาคใต้ เที่ยวยะลา เที่ยวภาคใต้ เป็นป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณ สัตว์ป่าและนกหายากนานาชนิด และเป็นที่อาศัยของคนป่าเผ่าซาไก มีพื้นที่ขนาดใหญ่อยู่ในแนวรอยต่อระหว่างจังหวัดยะลา และนราธิวาส เป็นต้นกำเนิดของแหล่งน้ำในเขื่อนบางลาง นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมธรรมชาติของขุนเขา ป่าไม้และสายน้ำ โดยติดต่อเช่าเรือได้ที่ กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 445 ถนนสุขยางค์ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจกิจกรรมศึกษาธรรมชาติให้ทำหนังสือล่วงหน้าถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา ล่วงหน้า 15 วัน ที่ตู้ ป.ณ.3 อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส 96160
![เขาป๊กโย๊ะ เขาป๊กโย๊ะ](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20132805150619.jpg&x=300&y=300)
3. เขาป๊กโย๊ะ เที่ยวยะลา เที่ยวภาคใต้ เป็นเทือกเขาที่สูงที่สุดใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 6 ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา จ.ยะลา อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,095 เมตร มีอุณหภูมิเย็นมองเห็นทิวท้ศน์ในจังหวัดยะลาได้ชัดเจน มีทะเลหมอก ที่จะปรากฎให้เห็นตามสภาพของอากาศซึ่งอาจจะไม่ได้เห็นทุกวัน แต่ด้วยความชื้นของผืนป่า และพื้นที่บริเวณนั้น จะเห็นอยู่บ่อยมาก อากาศด้านบนจะหนาวเย็นตลอดทั้งปี
![ทะเลสาบธารโต ทะเลสาบธารโต](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20132805152356.jpg&x=300&y=300)
4. ทะเลสาบธารโต เที่ยวยะลา เที่ยวภาคใต้ เป็นทะเลสาบที่เกิดจากการสร้างเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เขื่อนบางลาง พื้นที่ครอบคลุมอำเภอธารโต จดจังหวัดนราธิวาส เป็นแหล่งปลาน้ำจืด ศึกษาธรรมชาติทางน้ำ
![นกนางแอ่น นกนางแอ่น](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20132705161319.jpg&x=300&y=300)
5. นกนางแอ่น เที่ยวยะลา เที่ยวภาคใต้ ยามพลบค่ำบนท้องฟ้าในย่านชุมชนกลางเมืองเบตง จะเต็มไปด้วยนกนางแอ่นที่บินมาอาศัยหลับนอนเกาะอยู่ตามอาคารบ้านเรือน และสายไฟฟ้าอยู่มากมาย โดยเฉพาะที่บริเวณหอนาฬิกาซึ่งประดับด้วยไฟฟ้าสว่างไสวตลอดคืน โดยจะมีนกหนาแน่นเป็นพิเศษ เป็นภาพที่น่าอัศจรรย์และเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเบตง นกนางแอ่นเหล่านี้บินหนีความหนาวมาจากไซบีเรีย จะพบเห็นเป็นจำนวนมากในช่วงเดือนกันยายน-มีนาคม
![แหล่งบัวผุด แหล่งบัวผุด](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20132805160634.jpg&x=300&y=300)
6. แหล่งบัวผุด เที่ยวยะลา เที่ยวภาคใต้ เป็นแหล่งที่มีบัวผุดขึ้นบนเทือกเขากาลอ จุดที่ใกล้ที่สุดจะอยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งสามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ในช่วงฤดูที่มีบัวผุดเท่านั้น ระหว่างการเดินทางเข้ามาจะได้ชมความหลากหลายของธรรมชาติมากมาย หลายชนิดของป่าชุมชนกาลอ
![สวนขวัญเมือง (พรุบาโกย) สวนขวัญเมือง (พรุบาโกย)](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20132705144242.jpg&x=300&y=300)
7. สวนขวัญเมือง หรือพรุบาโกย อยู่ที่ถนนเทศบาล 1 ห่างจากศาลหลักเมืองยะลาประมาณ 300 เมตร มีเนื้อที่ประมาณ 207 ไร่ จัดให้เป็นสนามกีฬา และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง จุดเด่นอยู่ที่สระน้ำใหญ่เนื้อที่ 69 ไร่ ซึ่งเทศบาลเมืองยะลาได้ตกแต่งพื้นที่โดยรอบเป็นหาดทราย และทิวสนจำลองทัศนียภาพของหาดทรายชายทะเลมาไว้ให้ชาวเมืองได้พักผ่อนหย่อนใจ เนื่องจากจังหวัดยะลาไม่มีพื้นที่ติดต่อกับชายทะเล นอกจากนี้ยังเป็นที่จัดกิจกรรมแข่งขันนกเขาชวาเสียง มีสนามแข่งขันนกเขาชวาเสียงที่ใหญ่และมีมาตรฐานที่สุดในภาคใต้ นับเป็นที่ถ่ายรูปในเมืองยะลาที่ห้ามพลาด
![หมู่บ้านซาไก หมู่บ้านซาไก](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20132705152453.jpg&x=300&y=300)
8. หมู่บ้านซาไก เที่ยวยะลา เที่ยวภาคใต้ อยู่ที่หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านแหร ห่างจากตัวจังหวัดยะลาไปทางเบตงประมาณ 80 กิโลเมตร ด้านขวามือ มีทางเข้าไปยังหมู่บ้านที่อาศัยของชนเผ่าซึ่งเป็นที่รู้จักกันในนาม “เงาะซาไก” เดิมดำรงชีวิตอยู่ด้วยการหาของป่า โดยมีความชำนาญในด้านสมุนไพรและเป่าลูกดอกล่าสัตว์ บ้านเรือนของซาไกเดิมสร้างด้วยไม้ไผ่ มุงหลังคาจาก ต่อมา กรมประชาสงเคราะห์ได้พัฒนาหมู่บ้านแห่งนี้ โดยรวบรวมชาวซาไกมาอาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกัน และให้มีอาชีพทำสวนยางและได้กราบบังคมทูลสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีขอใช้คำว่า “ศรีธารโต” ให้ทุกคนใช้เป็นนามสกุล ปัจจุบันมีชนเผ่าซาไกที่ยังคงอาศัยอยู่บ้าง แต่บางส่วนได้แยกย้ายไปทำงานที่อื่น
![พระพุทธไสยาสน์วัดคูหาภิมุข (วัดหน้าถ้ำ) พระพุทธไสยาสน์วัดคูหาภิมุข (วัดหน้าถ้ำ)](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20132705141858.jpg&x=300&y=300)
9. พระพุทธไสยาสน์วัดคูหาภิมุข หรือวัดหน้าถ้ำ เที่ยวยะลา เที่ยวภาคใต้ เป็นหนึ่งในสามปูชนียสถานที่สำคัญของภาคใต้ เช่นเดียวกับพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราช และพระบรมธาตุไชยาที่สุราษฎร์ธานี แสดงความรุ่งเรืองของศาสนาพุทธในบริเวณนี้มาตั้งแต่สมัยอาณาจักรศรีวิชัย ที่ตั้งอยู่ที่ตำบลหน้าถ้ำ ห่างจากตัวเมือง 8 กิโลเมตร ตามเส้นทางไปอำเภอยะหา โดยบริเวณวัดร่มรื่นมีธารน้ำไหลผ่าน บันไดขึ้นไปยังปากถ้ำมีรูปปั้นยักษ์ ชาวบ้านเรียกว่า “เจ้าเขา” สร้างโดยช่างพื้นบ้านเมื่อปี 2484 และภายในถ้ำมีลักษณะคล้ายห้องโถงใหญ่ ดัดแปลงปรับปรุงเป็นศาสนสถาน มีปล่องที่เพดานถ้ำยามแสงแดดส่องลงมาดูสวยงามมาก เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่ สันนิษฐานว่าสร้างมาแต่ปี พ.ศ.1300 เป็นพระพุทธไสยาสน์สมัยศรีวิชัย มีขนาดความยาว 81 ฟุต 1 นิ้ว เชื่อกันว่าเดิมเป็นปางนารายณ์บรรทมสินธุ์ เพราะมีภาพนาคแผ่พังพานปกพระเศียร ต่อมาจึงได้ดัดแปลงเป็นพระพุทธไสยาสน์แบบหินยาน
![ทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต ทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/12_2_66_1.jpg&x=300&y=300)
10. ทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต นับเป็นทะเลหมอกที่สวยที่สุดในเบตง ล้อมรอบด้วยธรรมชาติ แต่การขึ้นไปชมทะเลหมอกนั้น มีความลาดชัน และต้องอดทนสูง ต้องปืนป่ายในบางช่วง แต่จะมีเชือกที่ติดตั้งไว้ให้ตลอดการเดินทาง เพื่อช่วยในการเดินขึ้นลง สามารถขึ้นมากางเต็นท์ได้ เที่ยวยะลา เที่ยวภาคใต้
![บ่อน้ำร้อนเบตง บ่อน้ำร้อนเบตง](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20132705152858.jpg&x=300&y=300)
11. บ่อน้ำร้อนเบตง เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างหนึ่งของเบตงที่มีน้ำพุเดือดขึ้นมาจากพื้นดินในหมู่บ้านจะเราะปะไร ตำบลตาเนาะแมเราะ ก่อนถึงอำเภอเบตง 5 กิโลเมตร บนทางหลวงหมายเลข 410 มีทางแยกขวาไปอีก 8 กิโลเมตร โดยตรงจุดบริเวณที่น้ำเดือดสามารถต้มไข่สุกภายใน 7 นาที มีบริการห้องอาบน้ำแร่ ซึ่งเชื่อกันว่าน้ำแร่จากบ่อน้ำร้อนสามารถบรรเทาอาการปวดเมื่อยและรักษาโรคผิวหนังได้ เที่ยวยะลา เที่ยวภาคใต้
![ตู้ไปรษณีย์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตู้ไปรษณีย์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20132705102149.jpg&x=300&y=300)
12. ตู้ไปรษณีย์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตู้เดิมตั้งอยู่ที่บริเวณสี่แยกหอนาฬิกาใจกลางเมืองเบตง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 ตั้งแต่ก่อนสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง จุดประสงค์ที่สร้างไว้ในครั้งแรกก็เพื่อใช้เป็นที่กระจายข่าวสารบ้านเมืองให้ชาวเมืองเบตงได้รับฟังจากวิทยุที่ฝังอยู่ส่วนบนของตู้ และใช้เป็นตู้ไปรษณีย์มาจนทุกวันนี้ ปัจจุบันได้มีการสร้างตู้ไปรษณีย์ขึ้นใหม่ใหญ่กว่าเดิมที่บริเวณศาลาประชาคม ถนนสุขยางค์ มีความสูงประมาณ 9 เมตร เป็นจุดเด่นที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก เที่ยวยะลา เที่ยวภาคใต้
![สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/12_2_66_2.jpg&x=300&y=300)
13. สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เที่ยวยะลา เที่ยวภาคใต้ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยะลาสุดฮิต เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกสุดฮิตของจังหวัดยะลาที่สวยมาก ๆ โดยสกายวอล์คที่นี่มีความสูงกว่า 2,038 ฟุต และพื้นทางเดินเป็นพื้นกระจกใส ยาว 61 เมตร ส่วนปลายเป็นระเบียงชมวิวพื้นกระจกใสที่จะสามารถมองทะลุลงไปได้ถึงพื้นเบื้องล่าง โดยสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้รอบทิศทาง และวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม
![อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/12_2_66_3.jpg&x=300&y=300)
14. อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ นับเป็นจุดเช็คอินในเมืองยะลา โดยเป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขา แห่งแรกของประเทศไทย ที่เที่ยวยะลากลางคืนจะมีการประดับไฟสวยงาม เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเช็คอิน ถ่ายรูปมาก ๆ อีกแห่ง
![ภูเขาหัวล้าน ภูเขาหัวล้าน](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20132805154357.jpg&x=300&y=300)
15. ภูเขาหัวล้าน จะพบมากในจังหวัดยะลา เป็นภูเขาหินทั้งเขา มีลักษณะสวยงาม แปลกตา จะมีคนมาเที่ยวช่วงเย็น เนื่องจากอากาศไม่ร้อน แต่ในช่วงกลางวันอากาศจะร้อน เนื่องจากเป็นภูเขาที่ไม่มีต้นไม้
![อุทยานการเรียนรู้ยะลา อุทยานการเรียนรู้ยะลา](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20132705155716.jpg&x=300&y=300)
16. อุทยานการเรียนรู้ยะลา เที่ยวยะลา เที่ยวภาคใต้ ตั้งอยู่ที่ถนนสุขยางค์ อำเภอเมืองยะลา เป็นอุทยานการเรียนรู้แห่งแรกที่จัดตั้งในส่วนภูมิภาคต่อจากอุทยานการเรียนรู้ TK Park ที่กรุงเทพฯ เพื่อเป็นศูนย์กิจกรรมสำหรับเยาวชนในพื้นที่ได้เรียนรู้ผ่านสื่อนวัตกรรมสมัยใหม่ โดยคำนึงถึงความต้องการของประชาชนและเยาวชนในพื้นที่เป็นหลัก ภายใต้อาคารสีขาว บรรยากาศทันสมัย และมีชีวิตชีวา แบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ ได้แก่ โซนห้องสมุดมีชีวิต สำหรับผู้ที่สนใจการอ่านศึกษาค้นคว้า บริการทรัพยากรสารสนเทศที่มีความทันสมัย มีการจัดเก็บหนังสือท้องถิ่นที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สภาพแวดล้อมในชุมชน และวิถีชีวิตคนในท้องถิ่น โดยมีมุมชา กาแฟและมุมอินเตอร์เน็ตรวมทั้งห้องละหมาด
![อุโมงค์ปิยะมิตร อุโมงค์ปิยะมิตร](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20132705160214.jpg&x=300&y=300)
17. อุโมงค์ปิยะมิตร เที่ยวยะลา เที่ยวภาคใต้ แต่เดิมเคยเป็นฐานที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (เขต 2) โดยอุโมงค์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2519 เป็นอุโมงค์คดเคี้ยวเข้าไปในภูเขายาวประมาณ 1 กิโลเมตร ความกว้างประมาณ 50-60 ฟุต ซึ่งใช้เวลาในการขุด 3 เดือน มีทางเข้าออกหลายทาง โดยจะใช้เป็นที่หลบภัยทางอากาศและสะสมเสบียง ซึ่งบริเวณนี้จัดให้มีนิทรรศการแสดงภาพประวัติศาสตร์ โดยรวมทั้งวิถีการดำเนินชีวิตภายในป่า อยู่ที่บ้านปิยะมิตร 1 ตำบลตะเนาะแมเราะ ซึ่งใช้เส้นทางเดียวกับบ่อน้ำร้อนและน้ำตกอินทสร แต่อยู่เลยบ่อน้ำร้อนไปอีก 4 กิโลเมตร โดยบริเวณนี้เป็นหมู่บ้านของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย
![พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ พระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20132705142618.jpg&x=300&y=300)
18. อุโมงค์ปิยะมิตร เที่ยวยะลา เที่ยวภาคใต้เดิมเคยเป็นฐานที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (เขต 2) อุโมงค์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2519 เป็นอุโมงค์คดเคี้ยวเข้าไปในภูเขายาวประมาณ 1 กิโลเมตร ความกว้างประมาณ 50-60 ฟุต ใช้เวลาในการขุด 3 เดือน มีทางเข้าออกหลายทาง ใช้เป็นที่หลบภัยทางอากาศและสะสมเสบียง บริเวณนี้จัดให้มีนิทรรศการแสดงภาพประวัติศาสตร์ รวมทั้งวิถีการดำเนินชีวิตภายในป่า อยู่ที่บ้านปิยะมิตร 1 ตำบลตะเนาะแมเราะ ใช้เส้นทางเดียวกับบ่อน้ำร้อนและน้ำตกอินทสร แต่อยู่เลยบ่อน้ำร้อนไปอีก 4 กิโลเมตร บริเวณนี้เป็นหมู่บ้านของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย
![สตรีทอาร์ท ยะลา สตรีทอาร์ท ยะลา](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/12_2_66_4.jpg&x=300&y=300)
19. สตรีทอาร์ท ยะลา ภาพวาดบนฝาผนังตึก ตั้งอยู่ที่บริเวณประชานุกูล ถนนนวลสกุล อำเภอเมือง จังหวัดยะลา จุดเริ่มต้น โดยนำนกสัญลักษณ์ของจังหวัดยะลาที่ถือว่ามีการเลื้ยงนกหัวจุก และนกเขายะลา นำมาถ่ายทอดเป็นเรื่องราวศิลปะบนถนน โดยศิลปินชื่อดังจากทั่วประเทศไทย เช่น Alex Face, October 29, BigDel โดยภาพวาดจะมีเอกลักษณ์ สีสันที่สดใส เป็นสถานที่ท่องเที่ยที่ใครก็ชอบแวะมาถ่ายรูป
![การแข่งขันนกเขาชวาเสียงอาเซียน การแข่งขันนกเขาชวาเสียงอาเซียน](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20140608141343.jpg&x=300&y=300)
20. การแข่งขันนกเขาชวาเสียงอาเซียน เที่ยวยะลา เที่ยวภาคใต้ คนไทยนิยมเลี้ยงและนิยมเล่นนกเขาชวามาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในอดีตจะนิยมเลี้ยงและเล่นกันในราชสำนัก ข้าราชบริพาร ขุนนาง คหบดี และประชาชนที่สูงอายุเท่านั้น มักจะจัดการแข่งขันในงานนักขัตฤกษ์ และงานชมรม สมาคมเกี่ยวกับนกเขาชวารวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ก็มักจัดให้มีการแข่งขันเป็นครั้งคราว จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของไทย ได้มีการแลกเปลี่ยน สนับสนุนเกื้อกูลกันในเรื่องต่าง ๆ มาตลอด ที่สำคัญคือ มีความชื่นชอบและนิยมเลี้ยงนกเขาชวาเสียงเหมือนกัน จึงเกิดเป็นความสัมพันธ์ทางสังคม คือ สังคมนกเขาชวาเสียงตลอดมา นอกจาก 20 ที่เที่ยวที่กล่าวมาแล้วยังมีอีกหลายที่เที่ยวในจังหวัดยะลาที่น่าสนใจอีกหลายแห่งดังนี้
![ป่าฮาลาบาลา ป่าฮาลาบาลา](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/27_06_23_01.jpg&x=300&y=300)
21. ป่าฮาลาบาลา ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ครอบคลุมพื้นที่สองจังหวัด คือจังหวัดนราธิวาส และจังหวัดยะลา มีเนื้อที่ประมาณ 270,725 ไร่ พื้นที่โดยรอบเป็นภูเขาสูงชันสลับซับซ้อน มีความอุมสมบูรณ์ของป่าดิบชื้น และยังเป็นต้นน้ำของแม่น้ำหลายสาย รวมถึงสัตว์ป่าสงวน และสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎหมาย โดยที่โดดเด่น คือ นกเงือก ที่มีมากกว่า 10 ชนิดด้วยกัน นอกจากนี้ยังนับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของภาคใต้จนทำให้ได้ฉายาว่า อเมซอนแห่งเอเชีย (Amazon of Asia)
กิจกรรมที่ไม่ควรพลาด คือ การล่องเรือ ชมความงดงามของพื้นป่าแห่งนี้ นอกจากจะได้พบกับนกเงือกที่หายากแล้ว ยังมี กระทิง, ช้าง, หมูป่า, เลียงผา, สมเสร็จ, กระซู่ และเซียมัง (ชะนีดำใหญ่) ซึ่งนับว่าเป็นชะนีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
![กุนุงซิลิปัต (ฆูนุงสีรีปัต) กุนุงซิลิปัต (ฆูนุงสีรีปัต)](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/27_06_23_02.jpg&x=300&y=300)
22. กุนุงซิลิปัต (ฆูนุงสีรีปัต) 26/13 ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา นับเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามมาก ๆ สามารถเห็นวิวทิวทัศน์ได้ถึง 360 องศา โดยช่วงที่ชมวิวสวยที่สุดจะอยู่ที่เดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน สามารถเที่ยวแบบวันเดียวโดยในตอนเช้าพักที่อำเภอเบตง ซึ่งจะห่างจากจุดชมวิวเพียง 500 เมตร
![บ่อน้ำร้อนเบตง บ่อน้ำร้อนเบตง](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=images/banner/content/lovethailand_banner_20132705152858.jpg&x=300&y=300)
23. บ่อน้ำร้อนเบตง ยะลาที่เที่ยวธรรมชาติ นับเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างหนึ่งของเบตงที่มีน้ำพุเดือดขึ้นมาจากพื้นดินในหมู่บ้านจะเราะปะไร ตำบลตาเนาะแมเราะ ก่อนถึงอำเภอเบตง 5 กิโลเมตร บนทางหลวงหมายเลข 410 มีทางแยกขวาไปอีก 8 กิโลเมตร
ตรงจุดบริเวณที่น้ำเดือดสามารถต้มไข่สุกภายใน 7 นาที มีบริการห้องอาบน้ำแร่ ซึ่งเชื่อกันว่าน้ำแร่จากบ่อน้ำร้อนสามารถบรรเทาอาการปวดเมื่อยและรักษาโรคผิวหนังได้
![พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/27_06_23_03.jpg&x=300&y=300)
24. พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง ตั้งขึ้นปี 2548 เพื่ออนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมของคนในพื้นที่ พื้นที่จัดแสดงศิลปวัตถุ และเครื่องใช้ในอดีต รวมถึงเป็นแหล่งที่บอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของเมืองเบตง นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่ขึ้นไปชั้นบนสุด จะมองเห็นตัวเมืองเบตงได้อย่างชัดเจนสวยงาม
![สวนหมื่นบุปผา สวนหมื่นบุปผา](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/27_06_23_04.jpg&x=300&y=300)
25. สวนหมื่นบุปผา สวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง เป็นโครงการไม้ดอกเมืองหนาวอันเนื่อง มาจากพระราชดำริอำเภอเบตง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นที่เที่ยวยะลาที่จะได้สัมผัสกับอากาศเย็นสบาย พร้อมดอกไม้นานาชนิด
![ล่องแก่งอัยเยอร์เวง ล่องแก่งอัยเยอร์เวง](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/27_06_23_05.jpg&x=300&y=300)
26. ล่องแก่งอัยเยอร์เวง เป็นกิจกรรมผจญภัย มีหลายรูปแบบทั้งแบบเรือยาง และแบบห่วงยาง ในบริเวณแม่น้ำปัตตานีตอนบน โดยผ่านแก่งหินคดเคี้ยวตามธรรมชาติ มีอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้มีโฮมสเตย์ที่เปิดให้บริการ
![น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/27_06_23_06.jpg&x=300&y=300)
27. น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ในป่าที่สมบูรณ์ ล้อมรอบด้วยไม้นานาพรรณ น้ำตกสูงประมาณ 30 เมตร เป็นสถานที่ร่มรื่น เหมาะกับการพักผ่อน
![จุดชมวิวเชิงเขาหน้าถ้ำ จุดชมวิวเชิงเขาหน้าถ้ำ](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/27_06_23_07.jpg&x=300&y=300)
28. จุดชมวิวเชิงเขาหน้าถ้ำ จุดเช็คอินแห่งใหม่ใกล้ตัวเมืองยะลา ตำบลหน้าถ้ำ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ภูมิทัศน์และถนนเลียบชายคลองเชิงเขาหน้าถ้ำ โดยชุมชน และชาวบ้านได้ร่วมกันจัดเตรียมกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวได้แก่ จักรยานน้ำ, เรือถีบ, เรือพาย และจักรยานสามัคคี อีกทั้งยังมีบริการรถไฟท่องเทียวตามเส้นทางถนนเลียบคลองริมผาหน้าถ้ำ
![เกาะป๊อปคอร์น เกาะป๊อปคอร์น](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/27_06_23_08.jpg&x=300&y=300)
29. เกาะป๊อปคอร์น กลางทะเลสาบ ฮาลา-บาลา ในอดีตนั้นชาวบ้านจะเดินทางมาที่เกาะแห่งนี้เพื่อปลูกข้าวโพด เพื่อให้ง่ายต่อการจำของนักท่องเที่ยวจนเปลี่ยนมาเป็นชื่อเกาะป๊อปคอร์นดั่งเช่นทุกวันนี้ บรรยากาศที่ดูเงียบสงบ งดงาม และอิสระ สามารถกางเต็นท์ได้โดยรอบเกาะ
![ป้ายใต้สุดสยาม ป้ายใต้สุดสยาม](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/27_06_23_09.jpg&x=300&y=300)
30. ป้ายใต้สุดสยาม หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญเมื่อมาเที่ยวที่จังหวัดยะลา สถานที่ถ่ายรูปยะลา ตั้งอยู่ที่อำเภอเบตง จะเป็นป้ายที่กั้นอาณาเขตระหว่างประเทศไทย และประเทศมาเลเซีย เป็นที่ท่องเที่ยวยะลาที่นักท่องเที่ยวมักจะไปถ่ายรูปเสมือ นอกจากนี้ใครจะไปเที่ยวต่อที่มาเลเซีย ก็สามารถเดินผ่านไปที่จุดนี้ได้เช่นกัน
![ตึกสีรุ้ง (อาคารสีรุ้ง) ตึกสีรุ้ง (อาคารสีรุ้ง)](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/28_06_23_01.jpg&x=300&y=300)
31. ตึกสีรุ้ง (อาคารสีรุ้ง) สีสัน และจุดเด่นแห่งใหม่ของเมืองยะลา ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าสถานีรถไฟยะลา เป็นสถานที่สำหรับจัดกิจกรรมตักบาตประจำปีใหม่ เป็นที่มาของสีสันชายแดนใต้ นอกจากนี้ยังได้นำแนวคิดนี้ขยายไปที่จังหวัดปัตตานี แะลจังหวัดนราธิวาสอีกด้วย
![หอนาฬิกาเบตง หอนาฬิกาเบตง](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/28_06_23_02.jpg&x=300&y=300)
32. หอนาฬิกาเบตง ตั้งอยู่อำเภอเบตง นับเป็นอาคารที่เก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองเบตงมายาวนาน สร้างขึ้นจากหินอ่อนของจังหวัดยะลา เป็นสัญลักษณ์ใจกลางเมืองเบตง นับเป็นจุดเช็คอินในเมืองยะลา รอบบริเวณจะมีร้านอาหารค่อนค้างเยอะ หากจะหาที่เที่ยวยะลากลางคืน ที่นี่ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือก ตอนกลางคืนจะมีการเปิดไฟสวยงามน่าดึงดูด อีกไฮไลท์นึงคือ นกนางแอ่นจากไซบีเรีย กว่าพัน ๆ ตัวที่รวมฝูงกันเกาะสายไฟบริเวณนั้น
![สะพานแตปูซู สะพานแตปูซู](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/28_06_23_03.jpg&x=300&y=300)
33. สะพานแตปูซู เป็นสะพานแขวนแบบพื้นไม้ ยึดด้วยลวดสลิง ใช้สัญจรเฉพาะจักรยานยนต์ และเดินเท้า มีความกว้าง 1.8 เมตร ยาวกว่า 100 เมตร ข้ามแม่น้ำปัตตานี ถือเป็นอีกจุดที่เป็นแลนมาร์คสำคัญของจังหวัดยะลาอีกแห่งหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะมาเก็บภาพเป็นที่ระลึก
![สนามกีฬาเบตง สนามกีฬาเบตง](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/28_06_23_04.jpg&x=300&y=300)
34. สนามกีฬาเบตง สนามกีฬากลางหุบเขากว่า 120 ไร่ สวนสุขภาพ และจุดชมทัศนียภาพที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองเบตงได้ ผู้คนในพื้นที่มักจะมาออกกำลังกายกัน
![วัดพุทธาภิวาส วัดพุทธาภิวาส](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/28_06_23_05.jpg&x=300&y=300)
35. วัดพุทธาภิวาส ตำบลเบตง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา บนเนินเขามีพระธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศตั้งโดดเด่นมองเห็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์สวยงามมาก โดยในองค์มหาธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ถือเป็นวัดคู่บ้าน คู่เมืองของชาวพุทธ พระพุทธธรรมกายมงคลประยุรเกศานนท์สุพพิธานพระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย - วิหารหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด - วิหารพระครูพิศิษฐ์อรรถการ
![ไนท์บาซ่าเบตง ไนท์บาซ่าเบตง](https://www.lovethailand.org/thumb.php?src=data/images/28_06_23_06.jpg&x=300&y=300)
36. ไนท์บาซ่าเบตง ที่เที่ยวยะลากลางคืน แบ่งออกเป็น 3 โซนได้แก่ โซน A -ซอยตรงข้าม ตส., โซน B -ซอยวิสิทธิ์ และโซน C -ซอยข้าง ธ กรุงไทย สาขาสุขยางค์ เป็นแหล่งช้อปปิ้ง และแหล่งอาหารนานาชนิด อารมณ์เสมือนถนนคนเดิน
หมวดหมู่: บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร
กลุ่ม: รีวิวท่องเที่ยว, รีวิวอาหาร
ปรับปรุงล่าสุด : 2 เดือนที่แล้ว