สวดมาลัย

Rating: 4.2/5 (5 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวสุราษฎร์ธานี
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
ช่วงเวลา สวดในงานศพ
ความสำคัญ ประเพณีไทยการสวดมาลัยเป็นประเพณีประจำงานศพ แต่เดิมพระเป็นผู้สวดซึ่งสวดหลังจากการสวดมนต์แล้ว พระที่สวดมีจำนวน 4 รูป หรือ 1 เตียง ใช้ตาลปัตรบังหน้า บทสวดได้จากหนังสือมาลัย หรือเรียกว่า พระมาลัยคำสวด หนังสือดังกล่าวนี้ เป็นสมุดข่อยหรือสมุดไทย ยาวเกือบ 1 เมตร ตัวอักษรที่บันทึกใช้ขอมไทยโดยมีขอมบาลีแทรกบ้าง มักมีภาพประกอบอย่างสวยงาม เนื้อเรื่องเป็นธรรมะสั่งสอนให้ผู้ฟังกลัวบาป
ประเพณีสวดมาลัยนอกจากมีจุดมุ่งหมายเพื่ออบรมสั่งสอนแล้ว ยังมุ่งให้เป็นรายการแสดงแก้ความเงียบเหงาในขณะที่เฝ้าศพและเพื่อไม่ให้เจ้าภาพหรือญาติผู้ตายเศร้าโศกเกินไปด้วย
พิธีกรรม ผู้สวดมาลัยคณะหนึ่งเรียกว่า "วงมาลัย" วงหนึ่ง ๆ ที่พอเหมาะควรจะมี 4-6 คน เป็นแม่เพลง 2 คน เรียกว่า "แม่คู่" หรือ "ต้นเพลง" ส่วนที่เกินเป็น "ลูกคู่" หรือ "คู่หู" ลูกคู่มีหน้าที่ร้องรับ การสวดของแม่เพลงนั้นจะต้องมีการแสดงท่าประกอบด้วย โดยทุกคนในวงจะร่วมกันแสดงท่าและเสียงประกอบให้เหมาะสมกับเนื้อเรื่องที่ร้องสวด เครื่องดนตรีไม่ต้องมีประกอบ แต่บางวงมีขลุ่ยและรำมะนา ส่วนเครื่องแต่งกายจะแต่งอย่างไรก็ได้ แต่ส่วนใหญ่แต่งตามปกติจะมีอยู่บ้างบางวง ที่มีการแต่งตัวตามท้องเรื่องหรือบทสวด
เมื่อมีผู้ตาย เจ้าภาพจะไปบอกกล่าวให้วงมาลัยรู้เพื่อให้ไปสวด การสวดจะเริ่มขึ้นหลังจากพระสวดพระอภิธรรมเสร็จแล้ว โดยเริ่มจากบท "ตั้งนโม" เพื่อเป็นการสรรเสริญคุณพระรัตนตรัย และ "ไหว้คุณ" คือไหว้ครูอาจารย์สิ่งที่เคารพนับถือ ต่อจากนั้นจึงสวดบท "ในกาล" อันเป็นบทเริ่มเนื้อเรื่องในหนังสือพระมาลัย ที่เรียกบท "ในกาล" เพราะว่าขึ้นต้นด้วยการสวดตอนนี้ขึ้นว่า "ในกาลอันลับล้น" เนื้อหาของบทนี้เป็นการเล่าประวัติของพระมาลัย
เกี่ยวกับการโปรดสัตว์ทั้งในสวรรค์ และนรกผู้ร้องบทนี้จะเป็นผู้ชาย โดยเมื่อจบบทในกาลแล้วจะขึ้นบท "ลำนอก" หรือเรียกว่า "เบ็ดเตล็ด" โดยเรื่องที่นำมาร้องมักเป็นเรื่องเกี่ยวกับวรรณคดีต่าง ๆ เช่น สังข์ทอง, พระอภัยมณี, ขุนช้างขุนแผน, อิเหนา และจันทโครพ ฯลฯ การแทรก "ลำนอก" เข้ามาเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศให้สนุกสนาน ซึ่งในบทลำนอกนี้อาจจะใช้ท่วงทำนองเพลงลำตัด เพลงฉ่อย เพลงนา ก็ได้แต่ส่วนมากนิยมลำตัดแต่เดิม การเล่น"ลำนอก" หรือเรื่องเบ็ดเตล็ดไม่มี แต่เพิ่งจะมีขึ้นภายหลังเพื่อให้การสวดมาลัยสนุกสนานยิ่งขึ้น
ในสมัยก่อนการสวดมาลัยมีปัญหาในการฝึกหัดฝึกซ้อมเป็นอันมาก โดยทั้งนี้เพราะมีความเชื่อว่าหากฝึกหัดหรือซ้อมการสวดมาลัยบนบ้านจะเป็นเสนียดจัญไรแก่บ้าน ดังนั้นผู้ฝึกหัดจึงจะต้องหาสถานที่นอกบ้าน เช่น ชายป่าช้า ขนำกลางนา ในวัด หรือในโรงนาแต่สำหรับในปัจจุบันความเชื่อเช่นนี้หมดไป โดยผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีอายุมากกว่า 7๐ ปีขึ้นไปเล่าว่า
แต่ก่อนการสวดมาลัยมีแพร่หลาย งานศพทุกงานจะต้องมีสวดมาลัยเสมอ การสวดมาลัยที่มีชื่อเสียงมาก ได้แก่วงมาลัยของไชยา กาญจนดิษฐ์ ท่าฉาง ท่าชนะ เป็นต้น แต่ปัจจุบันการสวดมาลัยหมดความนิยม นักสวดมาลัยที่เหลืออยู่ก็แก่เฒ่า ผู้สนใจฝึกหัดเพื่อสืบต่อก็ไม่มี จึงเป็นที่แน่ชัดว่าในอนาคตไม่นานนักการสวดมาลัยคงเหลือเพียงชื่อ
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage



หมวดหมู่:
กลุ่ม:
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
พิพิธภัณฑ์(
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
ไร่ สวนเพื่อการศึกษา(
มหาวิทยาลัย
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
วัด(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ธรรมชาติ และสัตว์ป่า
อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล(
ดอย และภูเขา(
เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(
น้ำตก(
น้ำพุร้อน(
ถ้ำ(
แม่น้ำลำคลอง(
อ่าว และชายหาด(
หมู่เกาะ(
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
สวนน้ำ(
กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย(
ช้อปปิ้ง
ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน(
บทความท่องเที่ยว, สูตรอาหาร
เมนูอาหารใต้, สูตรอาหารใต้(