ประเพณีบุญบั้งไฟ

Rating: 3.6/5 (5 votes)

วันเปิดทำการ: ช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี

เวลาเปิดทำการ: ตลอดวันในช่วงงานประเพณี

 

ประเพณีบุญบั้งไฟ ของชาวตำบลตาหลังใน จังหวัดสระแก้ว เป็นงานบุญประจำปีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2513 จัดขึ้นที่วัดตาหลังใน และยังคงรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมไว้อย่างเหนียวแน่น ภายในงานเต็มไปด้วยความศรัทธา ความสามัคคี และสีสันแห่งความสนุกสนาน ซึ่งสะท้อนความผูกพันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติได้อย่างลึกซึ้ง

 

ชาวบ้านในตำบลตาหลังในเชื่อว่า โลกมนุษย์และโลกเทวดาอยู่ภายใต้อำนาจของ “พญาแถน” เทวดาผู้บันดาลฝน การรำผีฟ้าและการจุดบั้งไฟจึงเป็นพิธีกรรมสำคัญที่ใช้สื่อสารและบูชาเพื่อขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล ความเชื่อเรื่องนี้สืบทอดจากตำนาน “พญาคันคาก” หรือคางคกผู้ต่อสู้กับพญาแถนจนเกิดฝนตกทั่วหล้า ซึ่งกลายเป็นเรื่องราวที่ชาวอีสานใช้ยึดถือเป็นแนวทางดำรงชีวิตมาจนถึงปัจจุบัน

 

การจุดบั้งไฟในประเพณีบุญบั้งไฟไม่เพียงเป็นการขอฝนเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความจงรักภักดีต่อธรรมชาติและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ การส่งบั้งไฟขึ้นสู่ท้องฟ้าเปรียบเสมือนการส่งสารแห่งความศรัทธาไปถึงพญาแถน และยังเป็นเครื่องหมายเริ่มต้นของฤดูเพาะปลูก ชาวบ้านจึงร่วมแรงร่วมใจสร้างบั้งไฟขึ้นจากไม้ไผ่และดินประสิว ตกแต่งอย่างประณีต ก่อนนำไปประกวดและจุดในวันงานใหญ่ของหมู่บ้าน

 

วัดตาหลังใน เป็นศูนย์กลางของงานบุญนี้มาตั้งแต่เริ่มแรก ทุกปีในช่วงเดือนพฤษภาคมจะมีการจัดงานขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีทั้งขบวนแห่บั้งไฟจากหมู่บ้านต่าง ๆ การประกวดบั้งไฟประเภทแสนและล้าน การฟ้อนรำพื้นบ้าน การละเล่นพื้นถิ่น และการทำบุญถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่อขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล

 

ในช่วงก่อนวันงานหนึ่งวัน ชาวบ้านจะจัดพิธีบวงสรวงเจ้าที่เจ้าทางและพญาแถน มีการถวายเครื่องเซ่น เช่น ข้าวต้ม ขนมหวาน เหล้า และหัวหมู พร้อมฟ้อนรำผีฟ้าเพื่อแสดงความเคารพต่อเทวดา ช่วงเช้าของวันงานจะเริ่มด้วยขบวนแห่บั้งไฟไปยังวัดตาหลังใน ขบวนแห่ประกอบด้วยชาวบ้านแต่งชุดพื้นเมือง เครื่องดนตรีพื้นบ้าน เช่น แคน กลองยาว และพิณ เสียงเพลงและเสียงหัวเราะสร้างบรรยากาศแห่งความรื่นเริงทั่วหมู่บ้าน

 

เมื่อถึงเวลาจุดบั้งไฟ ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์จะเป็นผู้ควบคุมขั้นตอนอย่างระมัดระวัง ก่อนจุดจะมีการสวดบูชาพญาแถน เมื่อบั้งไฟพุ่งทะยานขึ้นฟ้า ชาวบ้านจะเฮโลส่งเสียงไชโย ถือเป็นสัญญาณแห่งความหวังและความยินดีที่ฝนกำลังจะมา บางปีบั้งไฟขึ้นสูงจนแทบลับสายตา นับเป็นนิมิตหมายแห่งความอุดมสมบูรณ์ของปีนั้น

 

หลังพิธีจุดบั้งไฟยังมีการประกวดขบวนแห่ที่ตกแต่งอย่างสวยงามและสร้างสรรค์ โดยแต่ละหมู่บ้านจะนำเสนอเอกลักษณ์ของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการรำฟ้อนพื้นเมือง การแสดงชุดวัฒนธรรม หรือการจำลองตำนานพญาคันคากให้ชมอย่างสนุกสนาน พร้อมเสียงดนตรีหมอลำที่ดังก้องไปทั่วบริเวณ

 

ประเพณีบุญบั้งไฟตำบลตาหลังในไม่เพียงแต่เป็นพิธีกรรมทางศาสนาและความเชื่อเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือเชื่อมโยงคนในชุมชนให้ร่วมแรงร่วมใจในการจัดงานทุกปี การสร้างบั้งไฟหนึ่งกระบอกต้องอาศัยทั้งความรู้ภูมิปัญญา ความอดทน และความสามัคคีของคนในหมู่บ้าน ซึ่งทั้งหมดนี้ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมมือที่จับต้องได้ในชีวิตจริง

 

ในปัจจุบัน จังหวัดสระแก้วได้สนับสนุนให้ประเพณีบุญบั้งไฟตำบลตาหลังในเป็น “แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม” ของจังหวัด มีการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องและร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดกิจกรรม โดยเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาร่วมชมและสัมผัสบรรยากาศของงานอย่างใกล้ชิด นอกจากความสนุกสนานแล้ว ยังเป็นโอกาสดีในการเรียนรู้ความเชื่อและประเพณีพื้นบ้านของภาคอีสาน

 

การเดินทาง จากตัวเมืองสระแก้ว ใช้ทางหลวงหมายเลข 317 มุ่งหน้าไปอำเภอวังน้ำเย็น ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวเข้าสู่ตำบลตาหลังในอีกประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบวัดตาหลังในซึ่งเป็นสถานที่จัดงานใหญ่ มีพื้นที่กว้างขวางและจุดชมการจุดบั้งไฟที่ปลอดภัย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือใช้บริการรถโดยสารประจำทางจากสถานีขนส่งสระแก้วได้สะดวก

 

 

ตอบ: จัดขึ้นทุกปีในช่วงเดือนพฤษภาคม ก่อนเริ่มฤดูเพาะปลูก เพื่อขอฝนจากพญาแถน

 

ตอบ: จัดขึ้นที่วัดตาหลังใน ตำบลตาหลังใน อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว

 

ตอบ: เป็นการบูชาพญาแถนและขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล เพื่อความอุดมสมบูรณ์ของพืชผล

 

ตอบ: มีการแห่บั้งไฟ การประกวดบั้งไฟ การแสดงพื้นบ้าน การฟ้อนรำผีฟ้า และการทำบุญตักบาตร

 

ตอบ: สามารถเข้าร่วมได้ฟรี นักท่องเที่ยวสามารถชมขบวนแห่และร่วมกิจกรรมในวัดได้

 

ตอบ: ช่วงเช้าจะมีขบวนแห่ ส่วนช่วงบ่ายเป็นการประกวดและจุดบั้งไฟ ถือเป็นช่วงที่คึกคักที่สุด

 

ตอบ: เข้าชมฟรีตลอดงาน แต่สามารถอุดหนุนสินค้าพื้นบ้านและอาหารท้องถิ่นได้ภายในบริเวณวัด