อุทยานแห่งชาติปางสีดา

Rating: 3.5/5 (4 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวสระแก้ว
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน (อาจปิดบางจุดตามสภาพอากาศ/ประกาศอุทยาน)
เวลาเปิดทำการ: 06.00–16.30 น. (เวลาให้บริการสำนักงานโดยทั่วไป 08.00–16.30 น.)
อุทยานแห่งชาติปางสีดา เป็นหนึ่งในผืนป่าต้นน้ำที่สำคัญที่สุดของภาคตะวันออกของประเทศไทย มีชื่อเสียงจากความหลากหลายทางชีวภาพอันโดดเด่น ทั้งฝูงผีเสื้อหลากสีในช่วงต้นฤดูฝน สายน้ำตกที่พลิ้วไหวตามหน้าผาหิน และทุ่งหญ้าโป่งธรรมชาติที่ดึงดูดสัตว์ป่าหายากออกมาหากินยามเช้าเย็น อุทยานฯ แห่งนี้ประกาศจัดตั้งเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2525 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 41 ของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอเมืองสระแก้ว วัฒนานคร ตาพระยา จังหวัดสระแก้ว และอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี รวมแล้วราว 844–847 ตารางกิโลเมตร อาณาเขตด้านทิศเหนือและบางส่วนของทิศตะวันตกเชื่อมต่อกับแนวป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน ทำให้เกิดแนวป่าต่อเนื่องที่ยังคงสภาพค่อนข้างสมบูรณ์เมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่นของไทย
ภูมิประเทศของปางสีดามีลักษณะเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน สันเขากับร่องห้วยสลับกันไปมา ทำให้เกิดภูมิอากาศย่อยหลากหลายเหมาะต่อการเกิดระบบนิเวศหลายแบบ ตั้งแต่ป่าดิบชื้น ป่าดิบเขา ป่าดิบแห้ง ป่าเต็งรัง ไปจนถึงทุ่งหญ้าเปิด จึงไม่น่าแปลกที่ที่นี่จะเป็นแหล่งรวมพันธุ์ไม้และสัตว์ป่าจำนวนมาก ป่าเป็นต้นกำเนิดของลำห้วยหลายสายที่ไหลลงสู่ลุ่มน้ำบางปะกง/ปราจีนบุรี เช่น ห้วยโสมง ห้วยเสียว ห้วยน้ำเย็น ห้วยพระปรง ห้วยพลับพลึง ห้วยยาง ห้วยเลิงไผ่ และห้วยละพูด สายน้ำเหล่านี้ไม่เพียงหล่อเลี้ยงสัตว์ป่า หากยังเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตเกษตรกรรมของชุมชนรอบป่าในฤดูกาลต่าง ๆ ตลอดปี
ในแง่ธรณีวิทยา ชั้นหินทรายและกรวดมนที่ผุพังตามกาลเวลา ทำให้เกิดหน้าผาหิน แผ่นลานหินกว้าง และชั้นธารน้ำตกจำนวนมาก ลานหินที่เปิดโล่งบางช่วงรองรับการเกิดพืชทนแล้งประเภทหญ้าและไม้พุ่ม ในฤดูฝนเมื่อมีความชื้นสะสม พืชดอกป่าและมอสจะผลิบานแต้มสีไปทั่ว ขณะที่บริเวณลาดเขาที่ร่มชื้นจะพบเฟินและกล้วยไม้ป่าเกาะตามโคนไม้ใหญ่และก้อนหิน พรรณไม้เด่นของป่าดิบ เช่น กระบาก ตะเคียน สมพง ใบใหญ่ร่มทึบ สลับกับไม้เต็งรังที่ใบผลัดตามฤดูกาล เมื่อยามแล้งใบไม้เปลี่ยนสีก่อนร่วงโรย ให้บรรยากาศป่าฤดูปลายฝนต้นหนาวที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว
สัตว์ป่าของปางสีดาขึ้นชื่อเรื่องความหลากหลาย โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ที่ยังพบเห็นได้ เช่น ช้างป่า กระทิง เก้ง กวางป่า หมูป่า และแม้แต่ร่องรอยของเสือลายพาดกลอนที่เป็นดัชนีสะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของห่วงโซ่อาหาร บริเวณทุ่งหญ้าโป่งกระทิงและพื้นที่โป่งธรรมชาติอื่น ๆ เป็นจุดที่สัตว์ป่าหลายชนิดนิยมลงมากินดินโป่ง เติมแร่ธาตุและแคลเซียมให้ร่างกาย ขณะที่บรรดานกมีบันทึกมากกว่า 300 ชนิด ตั้งแต่นกเงือก นกยูง นกอินทรี นกปรอด นกกินผลไม้และนกจับแมลงหลากชนิด ทำให้ปางสีดาเป็นจุดหมายของนักดูนกทั้งนักสำรวจจริงจังและผู้มาเยือนที่อยากเริ่มต้นอย่างเป็นมิตร
อีกหนึ่งภาพจำของปางสีดาคือ “มหัศจรรย์ฝูงผีเสื้อ” ในช่วงปลายฤดูร้อนต่อเนื่องต้นฤดูฝน เมื่อความชื้นและแสงแดดสมดุล เหมาะต่อการออกมาดูดน้ำแร่ของผีเสื้อหลากสกุล เช่น ผีเสื้อหนอนใบรัก ผีเสื้อหนอนจำปี ผีเสื้อหนอนกะหล่ำ และตระกูลหางติ่งที่มีหางเรียวยาว จังหวะที่ผีเสื้อรวมฝูงเป็นแพ พรมปีกสีสันสดใสตัดกับลานหินและธารน้ำตื้น เป็นช่วงเวลาที่ช่างภาพธรรมชาติรอคอยมาทั้งปี
เส้นทางท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ มีตั้งแต่แบบเดินสบาย ๆ ไปจนถึงแบบเดินป่าหลายวัน จุดใกล้ที่ทำการอุทยานฯ ที่ไม่ควรพลาดคือ น้ำตกปางสีดา ห่างเพียงประมาณ 800 เมตร น้ำไหลลงหน้าผาราว 3 ชั้น ก่อนแผ่เป็นแอ่งกว้าง โอบด้วยร่มไม้และลานหินเย็นฉ่ำ เล่นน้ำได้อย่างระมัดระวัง อีกแห่งคือ น้ำตกผาตะเคียน ที่สามารถเดินเท้า 2 เส้นทางจากน้ำตกปางสีดา มีป้ายบอกทุก ๆ 300 เมตร เส้นทางลอดเรือนยอดไม้หนาทึบ กลิ่นดินชื้นและเสียงนกป่าเป็นเพื่อนร่วมทาง
สำหรับผู้ที่สนใจเฝ้าดูสัตว์ป่า ทุ่งหญ้าโป่งกระทิง ซึ่งเดิมเป็นชุมชนเก่าที่ผู้คนอพยพออก ทำให้ฟื้นกลายเป็นทุ่งหญ้ากว้าง มีโป่งเทียมและหอส่องสัตว์จัดไว้พร้อม ใกล้กันคือพื้นที่ที่ชาวป่าเรียกกันติดปากว่าแถว ห้วยคลองพลู ซึ่งมักพบสัตว์ลงมากินน้ำ โดยเฉพาะยามเย็นและเช้าตรู่ ผู้มาเยือนควรรักษาระยะปลอดภัย ไม่ส่งเสียงดัง และใช้กล้องส่องทางไกลแทนการเข้าใกล้สัตว์
ถัดลึกเข้าไปในผืนป่าจะพบกลุ่มน้ำตกและเส้นทางเดินป่าที่ท้าทายมากขึ้น เช่น น้ำตกถ้ำค้างคาว จากหลักกิโลเมตรที่ 22 ต้องเดินเท้าต่ออีกราว 10 กิโลเมตร ในบริเวณถ้ำมีค้างคาวอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก การไป–กลับใช้เวลาหลายวัน จึงจำเป็นต้องติดต่อเจ้าหน้าที่และใช้ผู้นำทางที่ชำนาญพื้นที่ อีกเส้นคือ น้ำตกทับซุง ใกล้กิโลเมตรที่ 22 เดินเท้าราว 1.5 กิโลเมตร ผ่านเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีพรรณไม้ให้ดูหลากชนิด และสำหรับสายฮาร์ดคอร์ กลุ่มน้ำตกแควมะค่า ซึ่งต้องเดินเท้าจากกิโลเมตรที่ 40 ต่ออีกราว 6 กิโลเมตร ตัวน้ำตกทิ้งตัวจากหน้าผาสูงประมาณ 70 เมตร รอบด้านมีน้ำตกรากไทรย้อย น้ำตกลานหินใหญ่ น้ำตกสวนมั่น–สวนทอง และน้ำตกม่านธารา ซึ่งโดยรวมต้องเผื่อเวลา 2–3 วัน
นอกจากแหล่งน้ำตก ยังมี จุดชมวิว บริเวณกิโลเมตรที่ 25 และ 35 ให้ชมภูมิประเทศโดยรอบ ยามเช้าหมอกบางจะลูบไล้สันเขาเป็นคลื่น อาทิตย์ขึ้นอย่างช้า ๆ หลังแนวไม้ใหญ่ ขาลงยามเย็นแสงสุดท้ายจะชุบป่าสีทองอบอุ่น เหมาะสำหรับการถ่ายภาพแลนด์สเคปแบบแสงย้อน และได้ภาพเงาดำของแนวไม้ตัดกับฟ้าสีแสด
“ฤดูกาล” คือคีย์เวิร์ดสำคัญของการเที่ยวปางสีดา ฤดูร้อนปลาย ๆ รับต้นฝนเหมาะกับการชมผีเสื้อ เมื่อฝนลงสม่ำเสมอ น้ำตกจะเริ่มมีชีวิตขึ้นอีกครั้ง ช่วงกลางฤดูฝนสายน้ำเต็มที่ ป่าชุ่มชื้นที่สุด แต่บางเส้นทางอาจลื่นหรือปิดด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ปลายฝนต้นหนาวท้องฟ้าใส อากาศดี เหมาะกับการเดินป่าเบา ๆ และดูนก ขณะที่ฤดูแล้งอุณหภูมิสูง เส้นทางบางส่วนแห้งและฝุ่นมาก ควรเตรียมหมวกและน้ำดื่มให้เพียงพอ
เพื่อให้การมาเยือนเป็นมิตรกับธรรมชาติ ควรยึดหลัก Leave No Trace: วางแผนก่อนเดินทาง ไม่ทิ้งขยะไว้ในป่า ไม่แยกหรือเก็บพืช–สัตว์กลับบ้าน ไม่ส่งเสียงรบกวนสัตว์ป่า เคารพพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์/พื้นที่ของเจ้าหน้าที่และชุมชน รวมถึงงดก่อไฟในจุดที่ไม่อนุญาต ในฤดูฝนควรเตรียมถุงกันทาก ถุงใส่เครื่องใช้ไฟฟ้ากันชื้น และไฟฉาย/แบตสำรอง ส่วนฤดูแล้งต้องระวังไฟป่าและอากาศร้อนจัด โดยเฉพาะผู้มีโรคประจำตัว
สำหรับการวางแผนทริป ตัวอย่าง 1 วันแบบสบาย ๆ คือ เช้าแวะศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและเดินไปน้ำตกปางสีดา จากนั้นบ่ายขับไปจุดชมวิวกิโลเมตรที่ 25 รอแสงเย็น หากมา 2 วัน แนะนำเพิ่มเส้นทางเดินไปน้ำตกผาตะเคียน และช่วงเช้าตรู่ของอีกวันไปซุ่มชมสัตว์ที่ทุ่งหญ้าโป่งกระทิง ส่วนแบบ 3 วัน จัดเป็นทริปเดินป่าลึกไปน้ำตกทับซุง/แควมะค่า พร้อมกางเต็นท์ตามจุดที่อนุญาต โดยต้องประสานขออนุญาตและยึดตามคำแนะนำเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
ทักษะการถ่ายภาพธรรมชาติที่ปางสีดาใช้หลัก “แสงอ่อนคือเพื่อนสนิท” เวลาเช้า–เย็นให้แสงนุ่ม ระหว่างวันแสงแข็งควรหลบใต้ร่มไม้หรือหามุมย้อนแสงเพื่อให้ละอองน้ำตกเป็นประกาย สำหรับผีเสื้อ ตั้งค่า Shutter Speed ค่อนข้างสูงเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว ค่อย ๆ เข้าหาทีละน้อยและหลีกเลี่ยงการก้าวเหยียบแหล่งดื่มน้ำของมัน ใช้เลนส์มาโครหรือเทเลโฟโต้ระยะกลางช่วยให้ได้รายละเอียดชัดโดยไม่รบกวน
มิติด้าน “วัฒนธรรม–ชุมชน” รอบอุทยานฯ เป็นสิ่งที่เติมความเข้าใจต่อป่าให้ลึกขึ้น ชุมชนชายขอบป่าในเขตอำเภอเมืองสระแก้วและใกล้เคียงจำนวนมากพึ่งพาน้ำฝนและลำห้วยจากปางสีดาในการเพาะปลูกพืชไร่ เช่น มันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด รวมถึงสวนผลไม้ การที่ป่าต้นน้ำยังสมบูรณ์ช่วยลดความสุ่มเสี่ยงของภัยแล้งและน้ำหลากสุดขั้ว ขณะเดียวกัน ช่วงเทศกาลท้องถิ่นและงานบุญของชุมชนก็ก่อเกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างคนเมืองกับคนป่าในเชิงเศรษฐกิจและสังคมมากขึ้น อุทยานฯ จึงไม่ใช่เพียงสถานที่ท่องเที่ยว แต่เป็น “ระบบนิเวศทางวัฒนธรรม” ที่หล่อเลี้ยงผู้คนและวิถีชีวิตโดยรอบ
ความท้าทายก็มีไม่น้อย ตั้งแต่ความขัดแย้งคน–ช้างป่าบางพื้นที่ การลักลอบล่าสัตว์ ไฟป่าในหน้าแล้ง ไปจนถึงขยะจากกิจกรรมท่องเที่ยวสมัยใหม่ แนวทางจัดการสมัยใหม่ของหน่วยงานอนุรักษ์มักผสานวิทยาศาสตร์กับองค์ความรู้ท้องถิ่น เช่น การจัดทำแนวกันช้างโดยพืชไม่โปรด การเฝ้าระวังร่วมกับเครือข่ายอาสา การทำโป่งเทียมในพื้นที่ที่เหมาะสม และการสื่อสารสร้างความเข้าใจแก่ผู้มาเยือนว่าการ “เที่ยวอย่างรู้ที่มา” คือส่วนหนึ่งของการอนุรักษ์
การเดินทางมายังปางสีดาทำได้หลายวิธี หากเริ่มจากตัวเมืองสระแก้วให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 3462 มุ่งหน้าเหนือประมาณ 27 กิโลเมตรจะถึงที่ทำการอุทยานฯ เส้นทางเป็นถนนลาดยางส่วนใหญ่ สะดวกในฤดูแล้งและฤดูหนาว สำหรับผู้ใช้รถโดยสาร สามารถขึ้นรถสองแถวสายสระแก้ว–บ้านคลองน้ำเขียวจากสถานีขนส่ง ช่วงเวลาประมาณ 09.00–15.30 น. (รอบรถอาจเปลี่ยนตามฤดูกาล) ส่วนผู้เดินทางด้วยรถไฟ สายกรุงเทพฯ–อรัญประเทศ สามารถลงที่สถานีสระแก้ว แล้วต่อสองแถวสายเดียวกันไปยังที่ทำการอุทยานฯ
ภายในอุทยานฯ มีพื้นที่กางเต็นท์และบ้านพักให้บริการตามฤดูกาล การเข้าพักควรสำรองล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงยอดนิยมของเทศกาลผีเสื้อและฤดูฝน การเตรียมอาหาร–น้ำดื่มให้เพียงพอสำคัญมากเพราะร้านค้าภายในมีจำกัด และควรนำขยะกลับออกมาทั้งหมด ผู้มาเยือนควรปฏิบัติตามกฎระเบียบ เช่น ห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และโฟมเข้าอุทยาน ห้ามส่งเสียงดังหลังเวลาเงียบ ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าพื้นที่ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสัตว์ป่าและผู้ใช้พื้นที่ร่วมกัน
ด้านความปลอดภัย มีข้อควรระวังเฉพาะพื้นที่ป่าลึก ได้แก่ สัตว์มีพิษ เช่น ต่อ แตน เห็บทาก งูป่า การเดินป่าควรสวมรองเท้าหุ้มส้นกริปดี กางเกงขายาวเนื้อหนา และพกชุดปฐมพยาบาลพื้นฐานเอาไว้เสมอ เมื่อต้องข้ามลำห้วยในฤดูน้ำหลากให้ประเมินระดับน้ำและกระแสน้ำอย่างรอบคอบ หากไม่มั่นใจให้กลับเส้นทางเดิมหรือรอระดับน้ำลด อย่าฝืน และอย่าลงเล่นน้ำในจุดที่ป้ายเตือนห้าม รวมถึงเมื่อพบช้างป่าหรือสัตว์ขนาดใหญ่ให้หยุดนิ่ง ประเมินทิศลม ถอยช้า ๆ และอย่าเข้าประชิดเพื่อถ่ายภาพ
การท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบยังรวมถึงการให้ความเคารพต่อร่องรอยทางวัฒนธรรม เช่น ศาลเจ้าที่ หรือรอยสักการะริมทางที่ชุมชนตั้งไว้เพื่อขอพรในการเดินทางปลอดภัย ผู้มาเยือนควรวางตนด้วยความอ่อนน้อม ไม่จับต้อง/ยึดถือเป็นของตน และหลีกเลี่ยงการโพสต์พิกัดจุดลับในโลกออนไลน์ที่อาจทำให้เกิดการแออัดหรือทำลายทรัพยากรโดยไม่ตั้งใจ การ “เก็บความทรงจำกลับบ้าน แต่อย่าทิ้งร่องรอยไว้ในป่า” เป็นคติที่ใช้ได้ดีเสมอสำหรับปางสีดา
ท้ายที่สุด ปางสีดาไม่ใช่แค่ “สถานที่เที่ยว” หากเป็นบทเรียนมีชีวิตของความสัมพันธ์ระหว่างคนกับธรรมชาติ ป่าที่สมบูรณ์ช่วยหล่อเลี้ยงน้ำ ช่วยประคับประคองภูมิอากาศ ลดความสุดขั้วของพายุและภัยแล้ง ในขณะเดียวกัน ผู้คนที่ให้เกียรติและทำความเข้าใจป่า ก็จะได้รับรางวัลเป็นประสบการณ์ธรรมชาติที่งดงามและสงบเยียวยาใจ ทุกย่างก้าวในปางสีดาจึงเป็นทั้งการสำรวจภายนอกและภายใน เราเรียนรู้ที่จะเดินช้า ตา–หู–ใจเปิดรับเสียงนก ลมพัด กลิ่นฝน และเมฆคลอเขา จนอาจค้นพบว่าความสุขเรียบง่ายนั้นอยู่ใกล้กว่าที่คิด
| ชื่อสถานที่ | อุทยานแห่งชาติปางสีดา (Pang Sida National Park) |
| ที่ตั้ง | อำเภอเมืองสระแก้ว/วัฒนานคร/ตาพระยา จังหวัดสระแก้ว และอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี |
| ลักษณะสำคัญ | ผืนป่าต้นน้ำภาคตะวันออก มีน้ำตกหลายแห่ง พื้นที่ดูนกและชมผีเสื้อกว่า 250 ชนิด ทุ่งหญ้าโป่งธรรมชาติ จุดชมวิวสวย |
| ช่วงเวลาน่าเที่ยว | ชมผีเสื้อ: ปลายฤดูร้อน–ต้นฤดูฝน / ชมน้ำตก: กลาง–ปลายฤดูฝน / เดินป่า–ดูนก: ปลายฝน–ต้นหนาว |
| หลักฐานสำคัญ | ประกาศจัดตั้ง 22 ก.พ. 2525 (ลำดับที่ 41), ข้อมูลพื้นที่ 844–847 ตร.กม., แนวป่าต่อเนื่องอุทยานฯ ทับลาน |
| การเดินทาง | ตัวเมืองสระแก้ว → ทางหลวง 3462 → ที่ทำการอุทยาน (ประมาณ 27 กม.); มีรถสองแถวสายสระแก้ว–บ้านคลองน้ำเขียวให้บริการ |
| สถานะปัจจุบัน | เปิดท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เดินป่า ดูนก ชมผีเสื้อ กางเต็นท์/บ้านพัก (ควรตรวจประกาศพื้นที่ล่าสุดก่อนใช้บริการ) |
| ค่าธรรมเนียม | ชาวไทย: ผู้ใหญ่ 40 บ., เด็ก 20 บ.; ชาวต่างชาติ: ผู้ใหญ่ 200 บ., เด็ก 100 บ.; รถยนต์ 30 บ. (อาจปรับตามประกาศล่าสุดของกรมอุทยานฯ) |
| สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง | น้ำตกปางสีดา (0.8 กม.), น้ำตกผาตะเคียน (2–3 กม.), ทุ่งหญ้าโป่งกระทิง (แยก กม.35/กม.6 เดินเท้า ~2 กม.), จุดชมวิว กม.25/กม.35, กลุ่มน้ำตกแควมะค่า (เดินต่อ ~6 กม. จาก กม.40) |
| ร้านอาหารยอดนิยมใกล้เคียง | ร้านในตัวเมืองสระแก้วและรอบอ่างพระปรง (ประมาณ 25–35 กม. จากที่ทำการ) |
| ที่พักยอดนิยมใกล้เคียง | บ้านพัก/ลานกางเต็นท์ของอุทยาน (สำรองล่วงหน้า), โรงแรมใน อ.เมืองสระแก้ว (25–30 กม.), รีสอร์ทแถวอ่างพระปรง (28–35 กม.) |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: อุทยานแห่งชาติปางสีดาประกาศจัดตั้งเมื่อไร?
ตอบ: 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2525 เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 41 ของประเทศไทย
ถาม: ไฮไลท์ของปางสีดามีอะไรบ้าง?
ตอบ: น้ำตกหลายแห่ง ทุ่งหญ้าโป่งธรรมชาติ แหล่งดูนก และเทศกาลชมผีเสื้อในช่วงปลายร้อน–ต้นฝน
ถาม: ควรไปช่วงไหนจึงจะได้เห็นผีเสื้อจำนวนมาก?
ตอบ: โดยทั่วไปปลายฤดูร้อนต่อเนื่องต้นฤดูฝน ผีเสื้อจะออกมาดูดน้ำแร่ตามลานหินและริมห้วยจำนวนมาก
ถาม: มีเส้นทางเดินป่าแบบหลายวันหรือไม่?
ตอบ: มี เช่น เส้นน้ำตกทับซุง–กลุ่มน้ำตกแควมะค่า แต่ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่ล่วงหน้าและใช้ผู้นำทางที่ได้รับอนุญาต
ถาม: ไปด้วยขนส่งสาธารณะทำอย่างไร?
ตอบ: นั่งรถสองแถวสายสระแก้ว–บ้านคลองน้ำเขียวจากสถานีขนส่ง (รอบรถขึ้นกับฤดูกาล) หรือรถไฟสายกรุงเทพฯ–อรัญประเทศ ลงสถานีสระแก้วแล้วต่อสองแถว
ถาม: ค่าธรรมเนียมเข้าชมคิดอย่างไร?
ตอบ: โดยทั่วไปชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บ. เด็ก 20 บ.; ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บ. เด็ก 100 บ.; รถยนต์ 30 บ. (ดูรายละเอียดในตารางสรุปและตรวจประกาศล่าสุดก่อนเดินทาง)
ถาม: ต้องเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ?
ตอบ: หน้าฝนเตรียมเสื้อกันฝน/ถุงกันทาก หน้าร้อนเตรียมน้ำดื่ม–หมวกกันแดด รองเท้ากริปดี ชุดปฐมพยาบาล และปฏิบัติตามกฎ Leave No Trace
ถาม: มีกิจกรรมสำหรับครอบครัวไหม?
ตอบ: มี จุดเดินสั้น ๆ อย่างน้ำตกปางสีดา ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว จุดชมวิวช่วงเช้า–เย็น และช่วงผีเสื้อสำหรับถ่ายภาพโดยดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage




หมวดหมู่:
กลุ่ม:
ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
มหาวิทยาลัย
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
วัด(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ดอย และภูเขา(
เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(
น้ำตก(
ถ้ำ(
ทุ่งดอกไม้(
แม่น้ำลำคลอง(
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(