ศาลหลักเมือง

Rating: 3.6/5 (5 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวสระแก้ว
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 07:00 น.–18:00 น.
ศาลหลักเมือง จังหวัดสระแก้ว เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนเส้นทางหลวงหมายเลข 33 สายสระแก้ว–วัฒนานคร ห่างจากตัวเมืองเพียง 4 กิโลเมตร บริเวณปริมณฑลสวนกาญจนาภิเษก หมู่ที่ 3 ตำบลท่าเกษม อำเภอเมืองสระแก้ว ถือเป็นศาลหลักเมืองที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม เปี่ยมด้วยความหมายเชิงสัญลักษณ์แห่งความมั่นคงของบ้านเมือง และยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนในจังหวัดสระแก้ว ทุกคนที่เดินทางมาสักการะต่างเชื่อว่าจะได้รับพลังใจและความเป็นสิริมงคลกลับไป
ศาลหลักเมืองแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีของพสกนิกร โดยมีพิธียกเสาหลักเมืองขึ้นประดิษฐานอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2539 ภายในศาลเป็นที่ประดิษฐานของเสาหลักเมืองซึ่งทำจากไม้ชัยพฤกษ์ มีลักษณะตามโบราณราชประเพณี เส้นรอบวงที่โคนต้น 120 นิ้ว สูง 229 นิ้ว และยังมีแผ่นทองดวงเมืองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเจิมไว้เมื่อวันที่ 12 กันยายน ปีเดียวกัน ถือเป็นมงคลสูงสุดแก่ชาวสระแก้วทุกคน
รูปแบบสถาปัตยกรรมของศาลหลักเมืองสระแก้วออกแบบตามมาตรฐานของกองสถาปัตยกรรม กรมศิลปากร ลักษณะเป็นปรางค์องค์ใหญ่ กว้าง 6.60 เมตร สูง 19.10 เมตร ล้อมรอบด้วยปรางค์บริวารทั้ง 4 ทิศ แต่ละองค์เชื่อมถึงกันด้วยทางเดิน ภายในเป็นพื้นที่สงบสง่างาม เมื่อเข้าสู่ศาล ผู้มาเยือนจะสัมผัสถึงความศักดิ์สิทธิ์ ด้วยแสงที่ลอดผ่านช่องปรางค์และกลิ่นธูปควันเทียนที่ลอยอบอวล เสียงสวดมนต์ที่ดังเบาๆ จากผู้มากราบไหว้ ยิ่งเพิ่มบรรยากาศแห่งศรัทธา
แม้จะเป็นศาลหลักเมืองที่สร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษ ที่ 20 แต่รายละเอียดทางสถาปัตยกรรมยังคงกลิ่นอายของศิลปะไทยประยุกต์ผสมผสานอิทธิพลขอม หลังคาเป็นยอดปรางค์แบบศิลปะขอมโบราณ ประดับด้วยลายปูนปั้นลวดลายดอกไม้ กนก และนาค อันเป็นสัญลักษณ์ของการปกปักรักษาเมือง ส่วนฐานศาลยกสูง ล้อมด้วยบันไดนาค และลานปูนขาวสะอาดตา ในยามเย็นแสงอาทิตย์ตกกระทบยอดปรางค์ทำให้เห็นประกายทองอ่อน งดงามยิ่งนัก
การก่อสร้างศาลหลักเมืองสระแก้วได้รับความร่วมแรงร่วมใจจากประชาชนในจังหวัด หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรท้องถิ่น ร่วมบริจาคแรงกายแรงใจและทุนทรัพย์ เพื่อให้เกิดสถานที่อันเป็นสิริมงคลของจังหวัดแห่งนี้ จนกระทั่งแล้วเสร็จ จึงถือเป็นผลงานแห่งความร่วมมือระหว่างรัฐกับประชาชนอย่างแท้จริง นอกจากจะเป็นที่สักการะทางจิตวิญญาณ ศาลหลักเมืองยังเป็นศูนย์รวมจิตใจ ที่ทำให้คนในพื้นที่มีความรู้สึกผูกพันต่อบ้านเกิด และช่วยสร้างเอกลักษณ์ประจำจังหวัดสระแก้วได้อย่างโดดเด่น
การมาเยือนศาลหลักเมืองสระแก้วจึงไม่ใช่เพียงการสักการะขอพร แต่ยังเป็นโอกาสได้ชื่นชมศิลปะสถาปัตยกรรมไทยประยุกต์ที่งดงาม สัมผัสความศรัทธาของผู้คนในพื้นที่ และเรียนรู้ความเป็นมาของจังหวัด ภายในบริเวณศาลยังมีลานกว้างที่จัดไว้สำหรับประกอบพิธีทางศาสนา และกิจกรรมสำคัญของจังหวัด เช่น พิธีบวงสรวงประจำปีในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งถือเป็นช่วงวันครบรอบการยกเสาหลักเมือง ในงานจะมีทั้งขบวนแห่บวงสรวง การฟ้อนรำพื้นบ้าน การสวดมนต์ และการจุดเทียนถวายพระพร เป็นบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความศรัทธาและความสุขร่วมกันของคนสระแก้ว
ตามความเชื่อของคนไทย “เสาหลักเมือง” เป็นสิ่งที่เปรียบเสมือนหัวใจของบ้านเมือง เป็นหลักยึดเหนี่ยวทางจิตใจ และเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นคง ดังนั้น เมื่อมีการก่อตั้งเมืองใหม่หรือยกฐานะเป็นจังหวัด การสร้างศาลหลักเมืองจึงเป็นพิธีสำคัญที่ต้องกระทำตามโบราณราชประเพณี มีขั้นตอนและพิธีกรรมเฉพาะ เช่น การคัดเลือกไม้ชัยพฤกษ์ที่สมบูรณ์ การประกอบพิธีบวงสรวงเทวดา และการฝังสิ่งมงคลต่าง ๆ ไว้ใต้เสา เช่น ทอง เงิน นาค เหล็ก สัญลักษณ์แห่งธาตุทั้ง 4 เพื่อความมั่นคงถาวรของเมืองนั้น พิธียกเสาหลักเมืองจังหวัดสระแก้วก็ยึดตามแบบแผนนี้อย่างครบถ้วน
ในวันประกอบพิธียกเสาหลักเมืองเมื่อปี พ.ศ. 2539 มีประชาชนจากทุกอำเภอในจังหวัดมาร่วมงานอย่างคับคั่ง โดยมีพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ และขบวนบวงสรวงจากหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงขบวนรำฟ้อนของนักเรียนในพื้นที่ เป็นภาพที่แสดงถึงความสามัคคีและความภาคภูมิใจของคนในจังหวัดอย่างชัดเจน ทุกปี เมื่อถึงวันครบรอบการยกเสา ทางจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะจัดงานบวงสรวงขึ้นอีกครั้ง เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์และสำนึกในความสำคัญของศาลหลักเมือง
นอกจากความศักดิ์สิทธิ์ในฐานะศาลหลักเมือง ที่นี่จึงยังเป็นจุดท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ได้รับความนิยม ทั้งจากนักท่องเที่ยวในพื้นที่ และผู้ที่เดินทางผ่านจังหวัดสระแก้ว ด้วยทำเลที่ตั้งติดถนนใหญ่ เดินทางสะดวก และมีลานจอดรถกว้างขวาง นักท่องเที่ยวสามารถแวะเข้ามากราบไหว้สักการะได้ทุกเวลา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ บรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่รอบบริเวณสวนกาญจนาภิเษก เหมาะแก่การพักผ่อนระหว่างเดินทาง หรือใช้เป็นจุดเริ่มต้นก่อนเดินทางต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวสำคัญอื่น ๆ เช่น ตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ น้ำตกปางสีดา และปราสาทสด๊กก๊อกธม
สิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ ศาลหลักเมืองสระแก้วถูกจัดให้เป็นหนึ่งใน “จุดศักดิ์สิทธิ์คู่เมือง” ของภาคตะวันออก ร่วมกับศาลหลักเมืองจันทบุรี และศาลหลักเมืองปราจีนบุรี เนื่องจากทั้งสามจังหวัดมีความเกี่ยวโยงกันทางภูมิศาสตร์และวัฒนธรรม แต่ละแห่งมีตำนานเฉพาะของตนเอง แต่ต่างก็สะท้อนคติความเชื่อเรื่องการปกปักคุ้มครองเมืองและสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีของผู้คนในภูมิภาค
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสักการะศาลหลักเมืองสระแก้วมักนิยมจุดธูปเทียน ถวายพวงมาลัย และผูกผ้าแพรสามสีบริเวณฐานเสา เพื่อขอพรให้เกิดความมั่นคงในชีวิต มีโชคลาภ และปลอดภัยในการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีร้านค้าชุมชนขนาดเล็กจำหน่ายเครื่องบูชา ดอกไม้ ธูปเทียน และของฝากท้องถิ่นอยู่บริเวณด้านหน้า สร้างบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเองกับผู้มาเยือน ผู้คนที่นี่มักจะยิ้มทักทาย และให้ข้อมูลแก่ผู้มาเยือนด้วยความเต็มใจ
การเดินทาง มายังศาลหลักเมืองจังหวัดสระแก้วทำได้สะดวก หากใช้รถยนต์ส่วนตัวจากตัวเมือง ให้วิ่งตามถนนทางหลวงหมายเลข 33 มุ่งหน้าไปทางอำเภอวัฒนานคร ประมาณ 4 กิโลเมตร จะเห็นป้าย “สวนกาญจนาภิเษก” อยู่ทางซ้ายมือ ให้เลี้ยวเข้าไปประมาณ 200 เมตร ก็จะเห็นศาลหลักเมืองตั้งอยู่เด่นชัด หากเดินทางโดยรถโดยสาร สามารถขึ้นรถสองแถวหรือรถตู้สายสระแก้ว–วัฒนานคร และขอลงที่ป้ายสวนกาญจนาภิเษก จากนั้นเดินต่อเพียงไม่กี่นาทีก็ถึง บริเวณรอบศาลมีพื้นที่จอดรถเพียงพอ และบรรยากาศร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อน
ด้วยความที่ศาลหลักเมืองสระแก้วตั้งอยู่ใกล้เขตเมืองและบนเส้นทางสายหลัก จึงเป็นจุดที่หลายคนมักแวะสักการะก่อนเดินทางไปยังชายแดนไทย–กัมพูชา บริเวณด่านอรัญประเทศ การได้มากราบไหว้ศาลก่อนข้ามแดนถือเป็นการเสริมสิริมงคล ให้การเดินทางราบรื่น และปลอดภัย สำหรับผู้ที่ต้องการหามุมสงบเพื่อไหว้พระหรือทำสมาธิ ช่วงเช้าและช่วงเย็นเป็นเวลาที่เหมาะที่สุด อากาศไม่ร้อน และแสงแดดอ่อนส่องผ่านช่องปรางค์อย่างงดงาม
หากสังเกตดี จะเห็นว่าศาลหลักเมืองแห่งนี้ไม่ได้เพียงสวยงามในเชิงศิลปะ แต่ยังสะท้อนแนวคิดทางสังคมที่คนสระแก้วมีต่อบ้านเมือง คือความรัก ความสามัคคี และความศรัทธาในสถาบันหลักของชาติ ศาลจึงกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคนโดยแท้จริง ในทุกเทศกาลสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นวันขึ้นปีใหม่ วันสงกรานต์ หรือวันเฉลิมพระชนมพรรษา จะมีประชาชนมาทำบุญตักบาตรและถวายพานพุ่ม จุดเทียนชัยเพื่อถวายพระพร ตลอดทั้งวัน ทำให้ศาลหลักเมืองแห่งนี้คึกคักไปด้วยผู้คน แต่ก็ยังคงความสงบศักดิ์สิทธิ์ไว้ได้อย่างลงตัว
สำหรับนักถ่ายภาพ ศาลหลักเมืองสระแก้วถือเป็นหนึ่งในจุดชมแสงสวยของเมือง ช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตก แสงสีทองจะส่องกระทบผนังปรางค์ เกิดแสงเงาที่งดงามมาก นักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยนิยมมานั่งพัก หรือถ่ายภาพแนวสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะในวันฟ้าเปิด ซึ่งแสงจะสะท้อนยอดปรางค์เป็นสีทองอร่าม นอกจากนี้ พื้นที่สวนกาญจนาภิเษกโดยรอบยังเป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมือง มีสนามหญ้าและทางเดินเท้า เหมาะสำหรับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนที่ต้องการใช้เวลาสบาย ๆ ในยามเย็น
แม้ศาลหลักเมืองสระแก้วจะมีอายุยังไม่ถึงสามทศวรรษ แต่บทบาทของสถานที่แห่งนี้ได้แทรกซึมเข้าไปในวิถีชีวิตของคนในจังหวัดอย่างแนบแน่น ทั้งในเชิงศาสนา ประเพณี และวัฒนธรรม เป็นสถานที่ที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังของความศรัทธาและการร่วมแรงร่วมใจของชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานของความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนตะวันออกของประเทศไทย ใครที่ได้มาเยือนจังหวัดสระแก้ว หากยังไม่ได้กราบไหว้ศาลหลักเมือง ก็อาจเรียกได้ว่ายังมาไม่ถึงสระแก้วอย่างแท้จริง
โดยสรุป ศาลหลักเมืองจังหวัดสระแก้ว คือสัญลักษณ์แห่งความรุ่งเรือง ความภักดี และความร่วมแรงร่วมใจของคนทั้งจังหวัด เป็นสถานที่ที่รวมอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของเมืองไว้ในจุดเดียว ทั้งในแง่ความเชื่อ ประเพณี และจิตวิญญาณ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเดินทาง ผู้ศรัทธา หรือคนที่ต้องการสัมผัสความงดงามของสถาปัตยกรรมไทย ศาลหลักเมืองแห่งนี้ก็พร้อมต้อนรับด้วยบรรยากาศสงบ และความศักดิ์สิทธิ์ที่สัมผัสได้ด้วยหัวใจ
| ชื่อสถานที่ | ศาลหลักเมือง จังหวัดสระแก้ว |
| ที่ตั้ง | หมู่ 3 ตำบลท่าเกษม อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว บนทางหลวงหมายเลข 33 ห่างตัวเมือง 4 กิโลเมตร ริมสวนกาญจนาภิเษก |
| ลักษณะสำคัญ | ปรางค์องค์ใหญ่กว้าง 6.60 ม. สูง 19.10 ม. ล้อมรอบด้วยปรางค์บริวาร 4 ทิศ ประดิษฐานเสาหลักเมืองไม้ชัยพฤกษ์ และแผ่นทองดวงเมือง |
| สมัย/ยุค | พ.ศ. 2539 รัชกาลที่ 9 มีพระราชพิธีเจิมดวงเมืองและยกเสาหลักเมือง |
| หลักฐานสำคัญ | เสาหลักเมืองไม้ชัยพฤกษ์ แผ่นทองดวงเมืองที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจิม |
| ที่มาของชื่อ | ชื่อ “ศาลหลักเมือง” หมายถึงศาลที่เป็นหลักชัยของจังหวัด สื่อถึงความมั่นคงและความสามัคคีของชาวสระแก้ว |
| การเดินทาง | จากตัวเมืองสระแก้ว ใช้ถนนหมายเลข 33 ไปทางอำเภอวัฒนานคร ประมาณ 4 กม. เจอป้ายสวนกาญจนาภิเษกเลี้ยวซ้ายเข้าไป 200 ม. ถึงศาลหลักเมือง |
| สถานะปัจจุบัน | เปิดให้เข้าชมและสักการะทุกวัน ไม่เก็บค่าเข้าชม บรรยากาศร่มรื่น |
| เบอร์ติดต่อ | +66 37 241491 (ข้อมูลจาก ททท. สำนักงานนครนายก) |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: ศาลหลักเมือง จังหวัดสระแก้ว ตั้งอยู่ที่ใด?
ตอบ: ตั้งอยู่บนถนนทางหลวงหมายเลข 33 จากตัวเมืองสระแก้วไปทางอำเภอวัฒนานครประมาณ 4 กิโลเมตร บริเวณสวนกาญจนาภิเษก ตำบลท่าเกษม อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว.
ถาม: ศาลหลักเมืองแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อใด?
ตอบ: สร้างขึ้นและมีพิธียกเสาหลักเมืองเมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2539 โดยมีแผ่นทองดวงเมืองที่รัชกาลที่ 9 ทรงเจิมเมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2539.
ถาม: ภายในศาลมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดประดิษฐานอยู่?
ตอบ: มีเสาหลักเมืองทำจากไม้ชัยพฤกษ์ ซึ่งเป็นไม้มงคล และแผ่นทองดวงเมืองที่ทรงเจิม ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจและสัญลักษณ์แห่งความมั่นคงของจังหวัด.
ถาม: ต้องเสียค่าเข้าชมหรือไม่?
ตอบ: ไม่มีค่าเข้าชม เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้ากราบไหว้ได้ทุกวันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย.
ถาม: เวลาที่เหมาะสมสำหรับการเดินทางมาสักการะคือช่วงใด?
ตอบ: ช่วงเช้าและช่วงเย็นเหมาะที่สุด อากาศเย็นสบายและแสงแดดอ่อน เหมาะสำหรับการถ่ายภาพและทำบุญสักการะ.
ถาม: สามารถเดินทางมาด้วยรถโดยสารได้หรือไม่?
ตอบ: ได้ สามารถนั่งรถตู้หรือสองแถวสายสระแก้ว–วัฒนานคร ลงที่ป้ายสวนกาญจนาภิเษก แล้วเดินต่อประมาณ 200 เมตรก็ถึงศาลหลักเมือง.
ถาม: ศาลหลักเมืองมีงานประเพณีประจำปีหรือไม่?
ตอบ: มี โดยจะจัดขึ้นทุกเดือนกันยายน เป็นงานบวงสรวงครบรอบวันยกเสาหลักเมือง มีพิธีทางศาสนา ขบวนแห่ และการฟ้อนรำพื้นบ้านอย่างสวยงาม.
ถาม: มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงใดบ้าง?
ตอบ: มีหลายแห่ง เช่น น้ำตกปางสีดา ปราสาทสด๊กก๊อกธม ตลาดโรงเกลือ และเขตชายแดนไทย–กัมพูชาที่อรัญประเทศ ซึ่งอยู่ในระยะขับรถไม่เกิน 1 ชั่วโมงจากศาลหลักเมือง.
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage




หมวดหมู่:
กลุ่ม:
ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
มหาวิทยาลัย
วัด(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ธรรมชาติ และสัตว์ป่า
อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล(
ดอย และภูเขา(
เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(
น้ำตก(
ถ้ำ(
ทุ่งดอกไม้(
แม่น้ำลำคลอง(
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(