น้ำตกท่ากระบาก

Rating: 2.7/5 (19 votes)

วันเปิดทำการ: ทุกวัน (ตามฤดูกาลและสภาพอากาศ แนะนำตรวจสอบข้อมูลล่าสุดก่อนเดินทาง)

เวลาเปิดทำการ: 08:30–16:30 น. (ช่วงกลางวัน เหมาะแก่การเที่ยวชมและเล่นน้ำ)

 

น้ำตกท่ากระบาก เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติของจังหวัดสระแก้วที่ยังคงบรรยากาศเงียบสงบและความดิบของป่าเขาเอาไว้อย่างชัดเจน น้ำตกสายนี้ซ่อนตัวอยู่ด้านในจากอ่างเก็บน้ำท่ากระบากออกไปราว 1 กิโลเมตร เส้นทางไม่ได้ปรับปรุงจนสะดวกสบายเหมือนแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอื่น ๆ แต่สิ่งที่แลกกลับมาคือความเป็นส่วนตัว เสียงน้ำไหลเบา ๆ แทรกกับเสียงนกและเสียงลมผ่านยอดไม้ ทำให้ที่นี่เหมาะมากสำหรับคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายและใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติอย่างแท้จริง

 

ตัวน้ำตกท่ากระบากมีทั้งหมด 3 ชั้น ไล่เรียงขึ้นไปตามแนวลำธารและสันเขา แต่ละชั้นมีระยะห่างประมาณ 400–500 เมตร ลักษณะเส้นทางเป็นทางเดินป่าธรรมชาติ มีทั้งช่วงที่เป็นดินลูกรัง หิน และดินชื้นในบางฤดู ผู้ที่เดินทางมาจึงควรเตรียมรองเท้าที่พื้นยึดเกาะดีและเดินด้วยความระมัดระวัง ชั้นล่างสุดของน้ำตกจะเป็นจุดที่ผู้คนนิยมแวะพักมากที่สุด เพราะเดินไม่ไกลจากปากทางเท้า มีสายน้ำไหลลดหลั่นลงมาตามโขดหิน และมีแอ่งน้ำตื้นที่สามารถลงเล่นได้อย่างเพลิดเพลิน ส่วนชั้นที่สองและชั้นที่สามบรรยากาศจะยิ่งเงียบและเป็นธรรมชาติขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ชอบเดินต่อเพื่อสัมผัสความสงบของป่าอย่างเต็มที่

 

ผืนป่ารอบ ๆ น้ำตกท่ากระบากเป็นป่าโปร่งสลับป่าทึบ มีทั้งต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาและต้นไม้ขนาดเล็กขึ้นแทรกตามทางเดิน เสียงใบไม้เสียดสีกับสายลมเบา ๆ ทำให้ระหว่างทางขึ้นแต่ละชั้นไม่น่าเบื่อเลย บางช่วงของลำธารจะเห็นตะไคร่น้ำและสาหร่ายสีเขียวอ่อนเกาะตามโขดหิน เมื่อสะท้อนกับแสงแดดอ่อน ๆ ยิ่งขับให้น้ำดูใสและเย็นสบายมากขึ้น ในวันที่น้ำไม่แรงเกินไป นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเล่นแช่เท้า หรือเลือกลงเล่นในแอ่งน้ำที่ไม่ลึกมากได้อย่างสบายใจ แต่ก็ยังควรรักษาความระมัดระวัง โดยเฉพาะการไม่เดินใกล้ขอบชั้นน้ำตกจนเกินไป

 

เสน่ห์อีกอย่างของน้ำตกท่ากระบากคือความไม่พลุกพล่าน เนื่องจากเส้นทางเข้าไปไม่ค่อยสะดวกมากนักและยังไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทำให้จำนวนผู้คนที่เดินทางมาในแต่ละวันไม่ได้หนาแน่นเกินไป บรรยากาศจึงค่อนข้างเป็นส่วนตัว เหมาะสำหรับการมาปิกนิกเล็ก ๆ ริมสายน้ำ อ่านหนังสือ นั่งเล่น หรือถ่ายรูปเก็บภาพธรรมชาติอย่างเงียบ ๆ ใต้ร่มไม้ นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่าเบา ๆ แบบไม่โหดจนเกินไปมักประทับใจกับเส้นทางสายนี้ เพราะสามารถเลือกได้ว่าจะเดินถึงชั้นใดชั้นหนึ่งแล้วพัก หรือเดินต่อขึ้นไปให้ครบทั้งสามชั้นตามกำลังร่างกายและเวลา

 

ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการมาเที่ยวน้ำตกท่ากระบากมากที่สุดคือช่วงปลายฤดูฝนต่อเนื่องถึงต้นฤดูหนาว น้ำในลำธารจะมีปริมาณพอเหมาะ ไหลลดหลั่นเป็นชั้นสวยงามโดยไม่เชี่ยวกรากจนเป็นอันตราย อากาศโดยรอบจะเย็นสบายและมีความชื้นที่ช่วยให้การเดินป่าไม่เหนื่อยเกินไป ในช่วงฤดูแล้ง บางปีปริมาณน้ำอาจลดลงจนเหลือเพียงลำธารเล็ก ๆ และแอ่งน้ำบางจุด แต่บรรยากาศป่าและภูเขายังคงสวยงาม เหมาะสำหรับการมาเดินเล่น พักสายตากับสีเขียวของต้นไม้ และนั่งรับลมเย็น ๆ ริมธาร ส่วนในช่วงฝนตกหนัก ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง เนื่องจากเส้นทางเข้าและบริเวณโขดหินอาจลื่นมากเป็นพิเศษ

 

การเดินทาง: นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว โดยจากตัวเมืองสระแก้วมุ่งหน้าไปตามถนนสายหลักสู่บริเวณอ่างเก็บน้ำท่ากระบาก เมื่อถึงเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำจะมีพื้นที่จอดรถให้ จากนั้นต้องเดินเท้าเข้าไปยังน้ำตกประมาณ 1 กิโลเมตร เส้นทางช่วงแรกจะเป็นทางเดินเลียบแนวอ่างเก็บน้ำและเข้าสู่แนวป่าโปร่ง ก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นทางดินและหินที่ต้องเดินขึ้นเนินเล็กน้อย รถเก๋งสามารถขับมาถึงบริเวณอ่างเก็บน้ำได้ แต่หากเป็นช่วงหน้าฝนที่มีน้ำขังและดินนิ่ม รถกระบะหรือรถที่มีช่วงลุยดีจะให้ความสบายใจมากกว่า เมื่อจอดรถแล้วควรเตรียมสัมภาระให้กระชับ เน้นพกเท่าที่จำเป็น เช่น น้ำดื่ม ของว่าง ผ้าเช็ดตัว และถุงขยะสำหรับเก็บขยะกลับออกมา

 

สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวก บริเวณอ่างเก็บน้ำท่ากระบากจะมีลานกางเต็นท์และจุดนั่งพักผ่อนให้เลือกใช้ บางช่วงของปีอาจมีร้านค้าหรือร้านอาหารท้องถิ่นมาให้บริการริมอ่าง แต่ในโซนเส้นทางเดินเข้าสู่น้ำตกและบริเวณน้ำตกเองแทบไม่มีร้านค้าและห้องน้ำบริการอย่างเป็นทางการ นักท่องเที่ยวจึงควรวางแผนเรื่องอาหาร น้ำดื่ม และการใช้ห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนเริ่มเดินเท้าเข้าไปในป่า การรักษาความสะอาดเป็นอีกเรื่องสำคัญที่ควรช่วยกันดูแล ไม่ทิ้งขยะลงในลำธารหรือป่าไม้ และควรเก็บขยะของตนเองออกจากพื้นที่ทุกครั้งที่เดินทางมาเยือน

 

โดยรวมแล้ว น้ำตกท่ากระบากคือจุดหมายปลายทางที่เหมาะกับคนที่อยากให้ธรรมชาติช่วยฮีลหัวใจ โดยไม่ต้องเจอกับฝูงชนจำนวนมาก เหมาะทั้งสำหรับกลุ่มเพื่อนที่อยากมาเดินเล่น ถ่ายรูป และเล่นน้ำเบา ๆ ครอบครัวที่อยากพาเด็ก ๆ มาสัมผัสลำธารใสตื้น ๆ ที่ไม่ลึกเกินไป รวมถึงนักเดินทางเดี่ยวที่ต้องการมานั่งพักใจท่ามกลางเสียงน้ำและเสียงป่า การได้เดินผ่านเส้นทางเท้าที่ไม่สมบูรณ์แบบนัก แต่อัดแน่นไปด้วยบรรยากาศธรรมชาติ กลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้น้ำตกแห่งนี้ต่างจากที่อื่น และทำให้หลายคนอยากกลับมาเยือนอีกครั้งเมื่อมีโอกาส

 

 

ตอบ: ช่วงปลายฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาวเป็นช่วงที่เหมาะที่สุด น้ำในลำธารมีปริมาณพอเหมาะ ไหลสวยและไม่แรงเกินไป อากาศเย็นสบายและเส้นทางไม่ลื่นมากนักเมื่อเทียบกับช่วงฝนตกหนักกลางฤดูฝน

 

ตอบ: เส้นทางถือเป็นการเดินป่าเบา ๆ ไม่ยากจนเกินไป แต่มีบางช่วงที่เป็นทางชันเล็กน้อยและพื้นดินลื่น โดยเฉพาะหลังฝนตก จึงควรใส่รองเท้าพื้นยางที่เกาะพื้นได้ดีและเดินด้วยความระมัดระวัง หากไม่มั่นใจสามารถเลือกเดินถึงเพียงชั้นแรกหรือชั้นที่สองก็ยังได้บรรยากาศที่สวยงามเช่นกัน

 

ตอบ: มีแอ่งน้ำตื้นหลายจุด โดยเฉพาะบริเวณชั้นล่างของแต่ละชั้นซึ่งสามารถลงเล่นน้ำได้ แต่ควรเลือกแอ่งที่ไม่ลึกมาก อยู่ห่างจากขอบชั้นน้ำตก และหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำในวันที่น้ำไหลแรงหรือมีฝนตกหนักเพื่อความปลอดภัย

 

ตอบ: เด็กสามารถไปเที่ยวและเล่นน้ำได้ แต่ต้องมีผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากบางช่วงของลำธารมีหินลื่นและระดับน้ำลึกกว่าปกติในบางฤดู ควรเลือกจุดเล่นน้ำที่เป็นแอ่งตื้นและหมั่นสังเกตระดับน้ำตลอดเวลา

 

ตอบ: บริเวณเส้นทางเดินเข้าสู่ตัวน้ำตกและโซนน้ำตกแทบไม่มีร้านค้าและห้องน้ำถาวร นักท่องเที่ยวควรเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และจัดการเรื่องห้องน้ำให้เรียบร้อยบริเวณอ่างเก็บน้ำหรือในตัวเมืองก่อนเดินเท้าเข้าไปในป่า

 

ตอบ: รถเก๋งสามารถขับไปถึงบริเวณอ่างเก็บน้ำท่ากระบากได้ แต่ในช่วงหน้าฝนหรือหลังฝนตกหนักบางวัน เส้นทางบางช่วงอาจมีน้ำขังหรือดินนิ่ม ทำให้รถที่มีสมรรถนะการลุยทางขรุขระดี เช่น รถกระบะหรือรถสูง จะให้ความสบายใจมากกว่า ส่วนช่วงทางเดินจากอ่างเก็บน้ำเข้าสู่น้ำตกต้องเดินเท้าอย่างเดียว