วัดเขากะโดน

วัดเขากะโดน

วัดเขากะโดน
Rating: 4.5/5 (4 votes)
แผนที่ แผนที่ แผนที่ มีแผนที่ มีแผนที่ ไม่มีแผนที่ ไม่มีแผนที่

สถานที่ท่องเที่ยวระยอง

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย

วันเปิดทำการ: ทุกวัน (ควรติดต่อล่วงหน้าก่อนเข้าชมพิพิธภัณฑ์)
เวลาเปิดทำการ: 09.00 น. – 17.00 น. (โดยประมาณ)
 
วัดเขากะโดน หรือที่ชาวบ้านบางคนออกเสียงว่า “วัดเขากระโดน” เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลชากโดน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง วัดแห่งนี้มีอายุกว่า 160 ปี เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชนและเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมที่สะท้อนรากเหง้าของผู้คนในพื้นที่อย่างลึกซึ้ง บนเนินเขาเตี้ยที่เงียบสงบ วัดเขากะโดนยังคงรักษากลิ่นอายของความเรียบง่ายและความศรัทธาที่สืบต่อจากรุ่นสู่รุ่น
 
วัดเขากะโดนสร้างขึ้นเมื่อพุทธศักราช 2401 ในช่วงรัชกาลที่ 4 โดยมี พระอธิการปุ๋ย และ อำแดงทิม เป็นผู้ริเริ่มก่อสร้างพร้อมชาวบ้านในละแวกนั้น ทั้งสองได้ร่วมกันถวายที่ดินจำนวน 14 ไร่ให้เป็นเขตพุทธาวาสของวัด เดิมชื่อว่า “วัดบ้านป่า” ซึ่งปัจจุบันไม่สามารถสืบทราบได้แน่ชัดว่าที่มาของชื่อดังกล่าวเกิดจากเหตุใด บางคนสันนิษฐานว่าอาจมาจากสภาพพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วยป่าร่มครึ้ม เมื่อเวลาผ่านไป ทางราชการได้เปลี่ยนชื่อเป็น “วัดเขากะโดน” ซึ่งเชื่อกันว่าคำว่า “กะโดน” มาจากชื่อต้นไม้พื้นถิ่นชนิดหนึ่งที่เคยขึ้นอยู่มากในบริเวณนั้น ส่วนคนในชุมชนมักเรียกสั้น ๆ ว่า “วัดเขา” ตามลักษณะภูมิประเทศที่ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ
 
วัดแห่งนี้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2537 ถือเป็นหลักฐานสำคัญของการได้รับการยอมรับให้เป็นวัดที่มีเขตสังฆกรรมอย่างถูกต้องตามพระธรรมวินัย ภายในพื้นที่ของวัดมีลักษณะเป็นเนินเขาที่โอบล้อมด้วยทุ่งนาและสวนยางพารา บรรยากาศสงบร่มเย็น เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและพักจิตใจจากความเร่งรีบของชีวิตสมัยใหม่ ผู้ที่เดินทางเข้ามามักรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับสู่วิถีชนบทที่แสนอบอุ่น
 
อาคารเสนาสนะของวัดประกอบด้วย อุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิพระ และ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน อุโบสถหลังเก่าสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยแรกเริ่มแต่ไม่มีหลักฐานระบุปีที่แน่ชัด ปัจจุบันอุโบสถหลังเก่าได้เสื่อมสภาพและไม่ได้ใช้ประกอบพิธีสำคัญแล้ว วัดจึงได้สร้างอุโบสถหลังใหม่แทน เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน ยกพื้นสูง รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาเครื่องไม้ลดชั้นประดับช่อฟ้า ใบระกา และ หางหงส์ ที่แกะสลักจากไม้ ด้านหน้ามีเสาเหลี่ยมประดับลายสาหร่ายรวงผึ้งและรูปเทพนมรองรับชั้นหลังคา รอบอุโบสถมีเฉลียงทางเดินใช้เป็นที่ประกอบสังฆกรรม ลักษณะสถาปัตยกรรมของอุโบสถผสมผสานระหว่างศิลปะแบบรัตนโกสินทร์กับช่างพื้นบ้าน ให้ความรู้สึกสง่างามแต่ไม่โอ่อ่าเกินไป สะท้อนแนวคิด “เรียบง่ายแต่ศักดิ์สิทธิ์” ที่ยังคงอยู่ในหัวใจของชาวบ้าน
 
ใต้ฐานอุโบสถหลังใหม่คือสิ่งที่ทำให้วัดเขากะโดนมีชื่อเสียงโดดเด่น นั่นคือ “พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดเขากะโดน” หรือ “ห้องมรดกไทย” ซึ่งก่อตั้งขึ้นจากความตั้งใจของ พระครูพิทักษ์วิริยาภรณ์ (พระมหาเพียร ปัญญาทีโป) เจ้าอาวาสผู้เล็งเห็นว่าความรู้ท้องถิ่นกำลังเลือนหายไป ท่านจึงเริ่มรวบรวมของเก่าที่ชาวบ้านบริจาค ทั้งเครื่องมือเกษตร เครื่องใช้ในครัวเรือน ตู้คัมภีร์ พระพุทธรูปโบราณ ถ้วยชามสังคโลก และเครื่องปั้นดินเผา สิ่งของเหล่านี้บางชิ้นมีอายุนับร้อยปี เป็นมรดกที่สะท้อนวิถีชีวิตของคนแกลงในอดีตอย่างชัดเจน พิพิธภัณฑ์จึงทำหน้าที่ไม่เพียงเก็บรักษา แต่ยังเล่าเรื่อง ให้คนรุ่นใหม่เข้าใจรากของตนเอง ว่าความเรียบง่ายในอดีตนั้นมีคุณค่ามากเพียงใด
 
การจัดแสดงภายในห้องมรดกไทยไม่เพียงแต่จัดวางวัตถุโบราณอย่างเป็นระเบียบ แต่ยังมีป้ายคำบรรยายที่อธิบายถึงที่มาของสิ่งของแต่ละชิ้น เช่น “ครกกระเดื่องไม้” ที่เคยใช้ตำข้าว หรือ “โคมไฟน้ำมันก๊าด” ที่ให้แสงสว่างก่อนยุคไฟฟ้า ผู้ที่ได้ชมต่างรู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสู่วิถีชีวิตของชาวบ้านในยุคก่อน ทุกชิ้นล้วนเป็นของจริงที่ผ่านมือคนรุ่นปู่ย่าตายาย จึงมีคุณค่าทางจิตใจมากกว่ามูลค่าทางวัตถุ
 
นอกจากพิพิธภัณฑ์แล้ว ภายในวัดยังมี ศาลาการเปรียญ ขนาดใหญ่ซึ่งสร้างเมื่อ พ.ศ. 2519 เป็นศาลาไม้ยกพื้น ใช้เป็นสถานที่อบรมธรรมะและจัดกิจกรรมของชุมชน รวมทั้งเป็นพื้นที่พักผ่อนของผู้สูงอายุในละแวกใกล้เคียง บรรยากาศร่มรื่น ลมพัดผ่านตลอดวัน หากแวะในยามบ่ายจะได้ยินเสียงระฆังลอยมาตามสายลม ผสมกับเสียงเด็กจากโรงเรียนใกล้เคียง ให้ความรู้สึกอบอุ่นและมีชีวิตชีวา
 
พระครูพิทักษ์วิริยาภรณ์ ยังเป็นผู้ริเริ่ม “สวนสมุนไพร” บนที่ธรณีสงฆ์ของวัด เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และศึกษาพืชสมุนไพรท้องถิ่น มีทั้งฟ้าทะลายโจร ไพล ขมิ้นชัน บอระเพ็ด และอีกหลายชนิดที่คนสมัยก่อนใช้เป็นยาพื้นบ้าน ท่านตั้งใจให้สวนนี้เป็นเหมือนห้องเรียนกลางแจ้ง เปิดให้เด็กนักเรียนและประชาชนทั่วไปเข้ามาศึกษาได้ สวนสมุนไพรนี้ยังสะท้อนแนวคิดของวัดที่มุ่งเน้น “ศาสนากับชีวิตประจำวันต้องอยู่ร่วมกันได้” ซึ่งเป็นการนำศาสนาและความรู้พื้นบ้านมาหล่อหลอมเป็นฐานของการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน
 
เมื่อเดินชมทั่ววัด สิ่งหนึ่งที่ผู้มาเยือนมักหยุดมองคือรูปหล่อ “หลวงพ่อโต” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของวัด ที่ชาวบ้านให้ความเคารพอย่างยิ่ง ประดิษฐานอยู่ภายในอุโบสถ เชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และช่วยคุ้มครองผู้เดินทาง ผู้คนจากหมู่บ้านใกล้เคียงมักมาจุดธูปขอพรในวันพระหรือก่อนออกเดินทางไกล บางคนมักเล่ากันต่อว่าเมื่อมีภัยพิบัติหรือเหตุการณ์สำคัญ เสียงระฆังของวัดจะดังขึ้นเองราวกับเตือนให้คนระวัง เรื่องเหล่านี้แม้ไม่มีหลักฐานยืนยันแต่ก็สะท้อนถึงความผูกพันระหว่างผู้คนกับวัดได้เป็นอย่างดี
 
วัดเขากะโดนยังคงมีบทบาทสำคัญในวิถีชีวิตของชาวบ้าน ทุกปีจะมีงานบุญใหญ่ เช่น งานทอดกฐิน และ งานทำบุญกลางบ้าน ที่ชาวบ้านในตำบลชากโดนและพื้นที่ใกล้เคียงจะมาร่วมแรงร่วมใจกันจัดขึ้น นอกจากการทำบุญยังมีกิจกรรมวัฒนธรรมเล็ก ๆ เช่น การแสดงดนตรีไทยของเด็กนักเรียน การประกวดสวดมนต์หมู่ และการแสดงพื้นบ้าน ถือเป็นช่วงเวลาที่ชุมชนได้กลับมาพบปะและรื้อฟื้นความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นในหมู่บ้าน
 
นอกจากงานบุญประจำปีแล้ว วัดยังเปิดพื้นที่ให้จัดกิจกรรมสาธารณะอื่น ๆ เช่น การอบรมเยาวชน โครงการบวชเนกขัมมะ และการอบรมศีลธรรมสำหรับนักเรียนในเขตอำเภอแกลง กิจกรรมเหล่านี้ดำเนินไปด้วยความร่วมมือของโรงเรียน องค์การบริหารส่วนตำบล และประชาชนในพื้นที่ แสดงให้เห็นว่าวัดไม่ได้เป็นเพียงศูนย์กลางศาสนา แต่ยังเป็น “ศูนย์กลางการเรียนรู้และการพัฒนา” ของชุมชนอย่างแท้จริง
 
บรรยากาศรอบวัดในยามเช้ามักคลาคล่ำไปด้วยชาวบ้านที่มาตักบาตร เสียงสวดมนต์แผ่วเบาจากศาลาการเปรียญ กลิ่นธูปคละเคล้ากับกลิ่นกาแฟจากร้านเล็ก ๆ ใกล้ประตูวัด ทำให้รู้สึกเหมือนเวลาหมุนช้าลง สำหรับผู้มาเยือน ภาพเหล่านี้คือเสน่ห์ที่ไม่ต้องแต่งเติมของวัดในชนบท ความเงียบ และความเรียบง่าย กลายเป็นพลังเยียวยาใจให้ผู้คนในยุคดิจิทัลที่โหยหาความสงบ
 
แม้จะไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ แต่วัดเขากะโดนก็เป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับผู้สนใจเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น วัฒนธรรม และศิลปกรรมชุมชน โดยเฉพาะนักเรียนและนักศึกษาในจังหวัดระยองที่ต้องการศึกษาเรื่องราวของชุมชนดั้งเดิม หลายโรงเรียนมักพานักเรียนมาทัศนศึกษา เพื่อให้ได้สัมผัสของจริงจากสิ่งที่เรียนในห้อง เช่น เครื่องมือเกษตร หรือภาชนะโบราณในพิพิธภัณฑ์ กิจกรรมลักษณะนี้ไม่เพียงช่วยให้เยาวชนเข้าใจประวัติศาสตร์ แต่ยังปลูกฝังความเคารพต่อท้องถิ่นและสำนึกในคุณค่าของอดีต
 
การเดินทาง ไปยังวัดเขากะโดนสามารถเดินทางได้สะดวกจากตัวเมืองแกลง ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร จากถนนสุขุมวิท (ทางหลวงหมายเลข 3) ให้เลี้ยวเข้าสู่ถนนสาย 3161 เส้นแกลง-สุนทรภู่ ขับตรงไปจนถึงบ้านชากโดนจะพบป้ายบอกทางเข้าสู่วัดอย่างชัดเจน ผู้ที่ไม่มีรถส่วนตัวสามารถใช้บริการรถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างจากตลาดแกลง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ทางเข้าวัดมีที่จอดรถและพื้นที่สำหรับพักผ่อนก่อนขึ้นเนินไปยังอุโบสถ การเดินทางในช่วงเช้าเหมาะที่สุดเพราะอากาศยังไม่ร้อนและมีโอกาสได้ร่วมทำบุญใส่บาตรกับพระในหมู่บ้าน
 
สิ่งที่ควรทราบคือพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเปิดให้เข้าชมโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย แต่ผู้ที่ต้องการชมภายในควรติดต่อเจ้าอาวาสหรือผู้ดูแลล่วงหน้า เนื่องจากบางช่วงมีการปิดปรับปรุงหรือใช้พื้นที่จัดงานภายในวัด สามารถโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ 08 5392 7219 หรือ 0 3865 7111 ซึ่งเป็นเบอร์ติดต่อโดยตรงของวัดและพิพิธภัณฑ์ ส่วนการแต่งกายควรสุภาพ ไม่ใส่กางเกงขาสั้นหรือเสื้อแขนกุด เพื่อความเหมาะสมกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
 
แม้เวลาจะเปลี่ยนผ่าน แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือความศรัทธาของผู้คนในตำบลชากโดน วัดเขากะโดนยังคงเป็นจิตวิญญาณของหมู่บ้าน เป็นที่พึ่งทางใจในยามทุกข์ และเป็นที่รวมของรอยยิ้มในยามสุข ไม่ว่าจะเป็นงานบุญ เทศกาล หรือวันที่ชาวบ้านมาร่วมกันพัฒนาวัด เสียงหัวเราะและแรงกายของผู้คนล้วนหล่อหลอมให้วัดแห่งนี้ยืนหยัดมาได้ยาวนาน และยังคงเป็นร่มเงาแห่งศรัทธาที่งดงามของระยองจนถึงปัจจุบัน
 
ชื่อสถานที่ วัดเขากะโดน (วัดเขากระโดน)
ที่ตั้ง หมู่ที่ 6 ตำบลชากโดน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง 21110
ลักษณะสำคัญ วัดเก่าแก่ตั้งอยู่บนเนินเขา มีอุโบสถใหม่ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน สวนสมุนไพร และเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ชุมชน
สมัย/ยุค สร้างเมื่อ พ.ศ. 2401 (รัชกาลที่ 4)
หลักฐานสำคัญ พระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2537, เครื่องปั้นดินเผาและของใช้โบราณในพิพิธภัณฑ์
ที่มาของชื่อ มาจากต้น “กระโดน” พืชพื้นถิ่นที่เคยขึ้นอยู่มากในพื้นที่วัด
การเดินทาง จากตัวเมืองแกลงใช้ถนนสุขุมวิทเข้าสาย 3161 (แกลง–สุนทรภู่) ระยะทางประมาณ 14 กม. มีป้ายบอกทางเข้าสู่วัดชัดเจน
สถานะปัจจุบัน เปิดให้เข้าชมทุกวัน (ควรติดต่อล่วงหน้าก่อนชมพิพิธภัณฑ์)
เบอร์ติดต่อ 08 5392 7219 / 0 3865 7111 (ตรวจสอบล่าสุด 2025-10-06)
 
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: วัดเขากะโดนเปิดให้เข้าชมทุกวันหรือไม่?
ตอบ: เปิดทุกวัน แต่หากต้องการเข้าชมพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านควรติดต่อล่วงหน้าเพื่อให้เจ้าหน้าที่เตรียมเปิดห้องจัดแสดง
 
ถาม: ต้องเสียค่าเข้าชมหรือไม่?
ตอบ: ไม่เก็บค่าเข้าชม พิพิธภัณฑ์เปิดให้เข้าชมฟรีตามเวลาที่นัดหมาย
 
ถาม: ภายในวัดมีสิ่งใดน่าสนใจบ้าง?
ตอบ: จุดเด่นคืออุโบสถใหม่ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ห้องมรดกไทย และสวนสมุนไพร รวมถึงรูปหล่อหลวงพ่อโตที่ชาวบ้านเคารพศรัทธา
 
ถาม: เดินทางไปวัดเขากะโดนได้อย่างไร?
ตอบ: จากตัวเมืองแกลงใช้ถนนสุขุมวิทเข้าสาย 3161 เส้นแกลง–สุนทรภู่ ระยะทางประมาณ 14 กิโลเมตร มีรถสองแถวและมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้บริการ
 
ถาม: มีที่จอดรถหรือไม่?
ตอบ: มีพื้นที่จอดรถภายในบริเวณวัดสำหรับผู้มาเยือนและผู้เข้าชมพิพิธภัณฑ์
 
ถาม: วัดเขากะโดนมีงานบุญประจำปีหรือไม่?
ตอบ: มีงานทอดกฐินและงานบุญกลางบ้านจัดขึ้นทุกปี โดยชาวบ้านในตำบลชากโดนจะมาร่วมแรงร่วมใจจัดงานอย่างคึกคัก
 
ถาม: สามารถถ่ายภาพภายในพิพิธภัณฑ์ได้หรือไม่?
ตอบ: สามารถถ่ายภาพได้แต่ควรถ่ายอย่างสุภาพ ห้ามสัมผัสวัตถุโบราณโดยไม่ได้รับอนุญาต
แผนที่ วัดเขากะโดน แผนที่วัดเขากะโดน
คำค้นคำค้น: วัดเขากะโดนวัดเขากะโดน วัดเขากระโดน วัดแกลง วัดระยอง พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านระยอง สวนสมุนไพรระยอง แหล่งเรียนรู้ชุมชน วัดเก่าแก่ระยอง ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมระยอง วัดภาคตะวันออก
ปรับปรุงล่าสุดปรับปรุงล่าสุด: 4 สัปดาห์ที่แล้ว


แสดงความเห็น

แสดงความเห็น




คำค้น (ขั้นสูง)
   
Email :
  รหัสผ่าน :
  สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน
 

 

ภูมิภาค ภูมิภาคhttps://www.lovethailand.org/

https://www.lovethailand.org/อ.เมืองระยอง(61)

https://www.lovethailand.org/อ.บ้านฉาง(4)

https://www.lovethailand.org/อ.แกลง(27)

https://www.lovethailand.org/อ.วังจันทร์(12)

https://www.lovethailand.org/อ.บ้านค่าย(7)

https://www.lovethailand.org/อ.ปลวกแดง(9)

https://www.lovethailand.org/อ.เขาชะเมา(5)

https://www.lovethailand.org/อ.นิคมพัฒนา(5)