ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรฯ

Rating: 3.7/5 (6 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวระยอง
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 07:00–18:00
ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (ปากน้ำประแส) เมื่อเดินทางเข้าสู่จังหวัดระยอง เส้นทางจากถนนสุขุมวิทสายหลักมุ่งสู่ฝั่งทะเลด้านตะวันออก จะพบทางแยกที่กิโลเมตรที่ 278 เป็นจุดสังเกตสำคัญ ตรงข้ามทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา–เขาวง หากเลี้ยวขวาเข้าไปตามถนนท้องถิ่นอีกประมาณ 10 กิโลเมตร คุณจะได้พบกับ ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านในพื้นที่และผู้เดินทางผ่านต่างให้ความเคารพศรัทธา ถือเป็นหนึ่งในจุดแวะสักการะที่สำคัญของอำเภอแกลงและชุมชนปากน้ำประแส
ศาลแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือที่ประชาชนเรียกขานกันด้วยความเคารพว่า “เสด็จเตี่ย” พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย พระองค์ทรงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการวางรากฐานกิจการทหารเรือของประเทศ ทรงเชี่ยวชาญด้านยุทธวิธีทางทะเล การเดินเรือ และการแพทย์พื้นบ้าน นอกจากนี้ยังทรงเป็นที่พึ่งทางใจของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ประกอบอาชีพทางทะเล ซึ่งมักมาสักการะเพื่อขอพรให้เดินทางปลอดภัยและประสบความสำเร็จในชีวิต
เมื่อก้าวเข้าสู่บริเวณศาล จะพบลานกว้างปูด้วยกระเบื้องสะอาดตา รายล้อมด้วยธงราชนาวีและต้นไม้ร่มรื่น กลางลานคือรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริงของพระองค์ประดิษฐานในอิริยาบถเต็มยศทหารเรือ บนแท่นสูงที่ตกแต่งอย่างงดงาม ผู้คนที่มากราบสักการะมักจะนำพวงมาลัย ดอกกุหลาบ ธูปเทียน และเรือจำลองมาถวาย เพื่อขอพรให้ชีวิตราบรื่น โดยเฉพาะชาวเรือหรือผู้ที่ต้องเดินทางไกลทางทะเล
ในช่วงวันหยุดหรือเทศกาลสำคัญ เช่น วันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของเสด็จเตี่ย วันที่ 19 พฤษภาคม ของทุกปี ศาลแห่งนี้จะมีประชาชนและเจ้าหน้าที่ทหารเรือ รวมถึงชาวบ้านในพื้นที่มาร่วมประกอบพิธีบวงสรวงอย่างคึกคัก มีการจุดประทัด ดนตรีบรรเลงเพลงของกองทัพเรือ และการถวายเครื่องสักการะจากผู้ศรัทธาทั่วประเทศ บรรยากาศเปี่ยมไปด้วยความสง่างามและความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ไทย
ความเชื่อที่สืบต่อกันมาคือ ผู้ที่มาสักการะเสด็จเตี่ยแล้วตั้งใจภาวนา ขอพรด้วยความซื่อสัตย์และตั้งมั่นในสิ่งดีงาม มักจะสมปรารถนา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสอบ การเข้ารับราชการ การเดินเรือ หรือแม้แต่เรื่องครอบครัว ชาวบ้านเล่าว่า หลายคนกลับมาขอบคุณพร้อมนำเรือจำลองและพลุประทัดมาถวายเพื่อแก้บน จนกลายเป็นภาพคุ้นตาของศาลแห่งนี้
ศาลตั้งอยู่ในทำเลที่สามารถมองเห็นวิวแม่น้ำประแสไหลเอื่อยไปบรรจบกับทะเลอ่าวไทย ทิวต้นโกงกางเขียวขจีทอดยาวไกลสุดสายตา เสียงคลื่นเบา ๆ และลมทะเลพัดผ่านทำให้พื้นที่แห่งนี้มีความสงบและเหมาะแก่การพักใจ เป็นจุดที่ผู้คนมักแวะพักก่อนเดินทางต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น ทุ่งโปรงทอง ป่าชายเลนแสมผู้ และ อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส ซึ่งอยู่ในระยะไม่กี่กิโลเมตร
นอกจากศาลหลักแล้ว ภายในบริเวณยังมีศาลย่อยและแท่นบูชาเล็ก ๆ สำหรับถวายของและจุดธูปเทียน มีร้านค้าชุมชนจำหน่ายของที่ระลึกและเครื่องสักการะ เช่น ธูป เทียน เรือจำลอง พวงมาลัย และน้ำอบไทย รายได้ส่วนหนึ่งนำไปบำรุงศาลและกิจกรรมชุมชน ทำให้ที่นี่ไม่เพียงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในพื้นที่ด้วย
ศาลกรมหลวงชุมพรฯ ปากน้ำประแส มีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับประวัติของชุมชนชายฝั่ง ชาวบ้านรุ่นเก่าเล่าว่า ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เคยเป็นจุดพักเรือประมงและเรือค้าขาย เมื่อเกิดพายุหรือทะเลมีคลื่นแรง ชาวประมงจะอธิษฐานต่อเสด็จเตี่ยให้ช่วยคุ้มครอง และหลายครั้งพวกเขาก็กลับมาปลอดภัย จึงได้ร่วมกันสร้างศาลขึ้นเพื่อแสดงความกตัญญูและสืบสานศรัทธามาจนถึงปัจจุบัน
ศาลแห่งนี้ยังเป็นจุดศูนย์รวมในการทำบุญของท้องถิ่น เช่น งานทำบุญตักบาตร การปล่อยปลาในแม่น้ำ การถวายเครื่องสักการะแด่เสด็จเตี่ยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำถิ่น งานเหล่านี้ช่วยเชื่อมโยงคนรุ่นใหม่ให้รู้จักรากเหง้าและประวัติศาสตร์ของบ้านเกิด อีกทั้งยังส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในจังหวัดระยองให้คึกคักยิ่งขึ้น
การเดินทางไปศาลสะดวกสบาย หากเริ่มจากตัวเมืองระยอง ใช้ถนนสุขุมวิท มุ่งหน้าไปทางจังหวัดจันทบุรี จะพบทางแยกที่มีป้ายบอกชัดเจน ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงชนบท รย. 4026 หรือทางเข้าปากน้ำประแส ขับตามเส้นทางประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะถึงศาลซึ่งตั้งอยู่ริมทางก่อนถึงตัวหมู่บ้าน หากไม่มีรถส่วนตัวสามารถใช้รถสองแถวหรือเช่ามอเตอร์ไซค์จากตัวเมืองแกลงได้ เส้นทางมีทิวทัศน์สวยงามตลอดทาง ผ่านสวนผลไม้และชุมชนประมงเก่าแก่
ผู้มาเยือนส่วนใหญ่มักจะจัดทริปแบบครึ่งวันหรือหนึ่งวันเต็ม โดยเริ่มจากการสักการะศาล รับลมทะเล จากนั้นไปต่อที่ ทุ่งโปรงทอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ป่าชายเลนที่ขึ้นชื่อของจังหวัด ในตอนเย็นสามารถแวะรับประทานอาหารทะเลสด ๆ ที่ร้านอาหารชุมชน ชมพระอาทิตย์ตกบริเวณสะพานปลาประแส เป็นช่วงเวลาที่หลายคนบอกว่า สงบและสวยงามที่สุดของทริป
ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรฯ ไม่เพียงเป็นจุดสักการะทางศาสนา แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สะท้อนถึงความศรัทธาและจิตวิญญาณของคนไทยที่มีต่อผู้เสียสละเพื่อชาติ ผู้ที่มาเยือนจะสัมผัสได้ถึงพลังแห่งความเคารพที่สืบต่อมาหลายชั่วอายุคน ทั้งผ่านวัตถุที่จัดแสดง เรื่องเล่าของผู้คน และบรรยากาศเงียบสงบที่ห้อมล้อมด้วยกลิ่นเกลือทะเลและสายลม ศาลแห่งนี้จึงกลายเป็นหนึ่งในจุดหมายที่รวมทั้งมงคลและความงดงามของธรรมชาติไว้ในที่เดียว
ในมิติของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ศาลกรมหลวงชุมพรฯ ถือเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทาง “เยือนชุมชนชายฝั่ง เรียนรู้ประวัติศาสตร์ และอนุรักษ์ธรรมชาติ” ที่เชื่อมโยงกับสถานที่สำคัญใกล้เคียง เช่น วัดสมานรัตนาราม บ้านเก่าปากน้ำประแส และ พิพิธภัณฑ์ชุมชนประแส ซึ่งรวบรวมเรื่องราวของวิถีชีวิตชาวประมง เรือไม้โบราณ และภาพถ่ายหายากจากอดีต การได้แวะศาลแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนการเริ่มต้นเรียนรู้เรื่องราวของเมืองประแสทั้งมิติศรัทธาและมิติชุมชน
สำหรับผู้ที่สนใจถ่ายภาพ บริเวณศาลมีมุมมองที่สวยงามทั้งช่วงเช้าและเย็น ยามเช้าสามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากฝั่งทะเล แสงอุ่นตกกระทบองค์รูปหล่อของเสด็จเตี่ย เกิดเงาสะท้อนงดงาม ส่วนยามเย็นจะเห็นแสงทองอาบพื้นน้ำ เหมาะแก่การถ่ายภาพแนว landscape หรือ portrait ที่มีฉากหลังเป็นแม่น้ำและเรือประมง อีกทั้งในบางวันจะเห็นฝูงนกน้ำบินกลับรัง สร้างบรรยากาศสงบแบบธรรมชาติ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผู้คนจดจำศาลแห่งนี้ได้คือ ความเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยพลัง ไม่มีความฟุ่มเฟือยในสถาปัตยกรรม แต่ทุกองค์ประกอบถูกจัดวางด้วยเจตนาแห่งศรัทธา สีขาวของศาลตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าและสีเขียวของแม่น้ำ ให้ความรู้สึกสงบและมั่นคง ผู้มาเยือนจึงมักใช้เวลาอยู่เงียบ ๆ สักพัก ก่อนจะกล่าวคำขอบคุณต่อเสด็จเตี่ยแล้วค่อยออกเดินทางต่อไป
การเดินทาง จากถนนสุขุมวิทสายระยอง–จันทบุรี จุดสังเกตคือกิโลเมตรที่ 278 ตรงข้ามทางแยกเข้าอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา–เขาวง ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงชนบทประมาณ 10 กิโลเมตร จะพบศาลตั้งอยู่ริมทางก่อนถึงหมู่บ้าน หากใช้เส้นทางจากตัวเมืองแกลง สามารถเข้าทางถนนปากน้ำประแสได้โดยตรง มีป้ายบอกทางชัดเจน เส้นทางลาดยางเรียบตลอด เหมาะแก่การขับรถยนต์ส่วนตัวหรือรถจักรยานยนต์ ส่วนผู้ที่ไม่มีรถส่วนตัว สามารถเหมารถสองแถวจากตลาดแกลงในอัตราค่าบริการไม่สูงนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20–25 นาที
| ชื่อสถานที่ | ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (Prince of Chumphon Shrine), ปากน้ำประแส |
| ที่ตั้ง | หมู่บ้านปากน้ำประแส ตำบลปากน้ำประแส อำเภอแกลง จังหวัดระยอง 21170 (ริมปากแม่น้ำประแส) พิกัด 12.71698, 101.70355 |
| ลักษณะสำคัญ | ศาลริมน้ำ บรรยากาศสงบ มีรูปหล่อเท่าองค์จริงให้สักการะ นิยมบนบานเรื่องการเดินเรือ การสอบ การงาน และการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ |
| สมัย/ยุค | เริ่มสร้างช่วง พ.ศ. 2510 ได้รับการบูรณะหลายครั้งจนปัจจุบันเป็นศาลถาวรขนาดใหญ่ |
| หลักฐานสำคัญ | รูปหล่อเท่าองค์จริง ภาพถ่ายประวัติ เรือจำลอง และแผ่นป้ายคำกล่าวถวายราชสดุดี |
| ที่มาของชื่อ | ตั้งชื่อตามพระนามของ “เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” ผู้ได้รับการถวายพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทย” |
| การเดินทาง | จากถนนสุขุมวิท กม. 278 เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงชนบทประมาณ 10 กม. หรือใช้เส้นทางเข้าสู่ปากน้ำประแสก็ได้ มีป้ายบอกทางต่อเนื่อง เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ |
| สถานะปัจจุบัน | เปิดให้เข้าชมและสักการะทุกวัน มีเจ้าหน้าที่ชุมชนดูแลพื้นที่ และร้านค้าบริการของที่ระลึก |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: ศาลสมเด็จกรมหลวงชุมพรฯ ปากน้ำประแส เปิดให้เข้าชมเวลาใด?
ตอบ: เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07:00–18:00 น. โดยไม่มีค่าเข้าชม
ถาม: สามารถเดินทางไปศาลได้อย่างไร?
ตอบ: ใช้เส้นถนนสุขุมวิทสายระยอง–จันทบุรี เลี้ยวขวาที่ กม. 278 เข้าทางหลวงชนบท รย.4026 ประมาณ 10 กิโลเมตร หรือใช้ทางเข้าสู่ปากน้ำประแสได้ มีป้ายบอกทางตลอดเส้น
ถาม: ภายในศาลมีสิ่งใดให้ชมบ้าง?
ตอบ: มีรูปหล่อเสด็จเตี่ยเท่าองค์จริง แผ่นป้ายประวัติ แท่นบูชา และร้านค้าชุมชนจำหน่ายของสักการะ เช่น เรือจำลอง พวงมาลัย และของที่ระลึก
ถาม: มีที่จอดรถหรือไม่?
ตอบ: มีลานจอดรถกว้างบริเวณหน้าศาล สามารถรองรับรถยนต์ส่วนตัวและรถทัวร์ขนาดกลางได้
ถาม: ควรแต่งกายแบบใดเมื่อไปสักการะ?
ตอบ: ควรแต่งกายสุภาพ หลีกเลี่ยงชุดที่รัดรูปหรือสั้นเกินไป เพื่อให้เหมาะสมกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ถาม: บริเวณศาลมีร้านอาหารหรือร้านกาแฟไหม?
ตอบ: มีร้านค้าและร้านอาหารชุมชนอยู่ไม่ไกลจากศาล สามารถนั่งพักและรับประทานอาหารทะเลสด ๆ ได้ในระยะเดินไม่เกิน 300 เมตร
ถาม: มีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงอะไรบ้าง?
ตอบ: ใกล้ศาลมีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง เช่น ทุ่งโปรงทอง (3 กม.), ป่าชายเลนแสมผู้ (4 กม.), และ อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส (5 กม.)
ถาม: เหมาะกับการท่องเที่ยวช่วงใดของปี?
ตอบ: ควรเดินทางช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคม ซึ่งอากาศโปร่ง ทะเลนิ่ง และเหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage





หมวดหมู่:
กลุ่ม:
ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
พิพิธภัณฑ์(
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
ไร่ สวนเพื่อการศึกษา(
วัด(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ธรรมชาติ และสัตว์ป่า
อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล(
ดอย และภูเขา(
เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(
น้ำตก(
แม่น้ำลำคลอง(
อ่าว และชายหาด(
หมู่เกาะ(
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย(
ช้อปปิ้ง
ช้อปปิ้ง และตลาดกลางคืน(