วัดสระมรกต

Rating: 3.4/5 (5 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวปราจีนบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
วัดสระมรกต จังหวัดปราจีนบุรี เป็นสถานที่ที่ผูกพันทั้งมิติทางศาสนา ประวัติศาสตร์ และโบราณคดีเข้าด้วยกันอย่างลึกซึ้ง ภายในบริเวณนี้มีทั้งวัดในปัจจุบันที่ชาวบ้านยังใช้ประกอบศาสนกิจ และกลุ่มโบราณสถานเก่าแก่ที่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นมากว่าหนึ่งพันปี วัดสระมรกตตั้งอยู่ในเขตอำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี ถือเป็นศูนย์รวมศรัทธาของคนท้องถิ่นและยังเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยวผู้สนใจร่องรอยทางวัฒนธรรมโบราณ เมืองโบราณศรีมโหสถในอดีตเป็นศูนย์กลางสำคัญในแถบภาคตะวันออกของไทย ปรากฏหลักฐานการตั้งถิ่นฐานและความเจริญรุ่งเรืองตั้งแต่สมัยทวารวดีและต่อเนื่องมาถึงอิทธิพลเขมรโบราณ โบราณสถานสระมรกตเป็นหนึ่งในกลุ่มโบราณสถานที่สะท้อนถึงพัฒนาการเหล่านี้อย่างชัดเจน โดยมีทั้งสระน้ำโบราณ รอยพระพุทธบาทคู่ และร่องรอยอาคารก่อสร้างศิลาแลงและอิฐซ้อนทับหลายยุคสมัย
จุดที่โดดเด่นที่สุดคือรอยพระพุทธบาทคู่ ซึ่งหลายฝ่ายยกให้เป็นหนึ่งในรอยพระพุทธบาทคู่ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ลักษณะเป็นรอยสลักลงบนแผ่นศิลา มีรายละเอียดสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนา เช่น ธรรมจักร และร่องรอยที่บ่งชี้การนับถือบูชา รอยพระพุทธบาทคู่นี้ได้รับความเคารพศรัทธาและเชื่อกันว่าเป็นมงคลอย่างยิ่งในการมากราบไหว้บูชา บริเวณด้านหน้ารอยพระพุทธบาทยังมีบ่อน้ำโบราณที่ชาวบ้านเรียกว่าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ บ่อทรงกลมเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.2 เมตร ลึกลงไปหลายเมตร น้ำในบ่อไม่เคยเหือดแห้ง เชื่อกันว่าใช้สำหรับการทำพิธีกรรมทางศาสนาและอาจเกี่ยวพันกับการปลุกเสกน้ำมนต์ในอดีต บ่อน้ำนี้ยังคงใสสะอาดและถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนมาแสวงบุญนิยมตักน้ำไปใช้เพื่อความเป็นสิริมงคล
อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญคือสระโบราณที่มีชื่อว่าสระมรกต ตัวสระมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้างประมาณ 115 เมตร ยาวประมาณ 214 เมตร ลึกประมาณ 3.5 เมตร ล้อมรอบด้วยคันดินขนาดใหญ่ รวมพื้นที่กว่า 25 ไร่ ชื่อว่าสระมรกตมาจากน้ำที่ใสและสะท้อนแสงเขียวคล้ายมรกตในบางช่วงเวลา นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นกว่า 1,000 ปีก่อน เพื่อใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา โดยเฉพาะการปลุกเสกน้ำมนต์สำหรับกษัตริย์หรือพิธีสำคัญ ลักษณะสระขนาดใหญ่ที่ขุดขึ้นโดยใช้แรงงานคนโบราณเป็นหลักฐานที่สะท้อนถึงความสามารถในการจัดการทรัพยากรและแรงงานของชุมชนในอดีตได้เป็นอย่างดี สระน้ำนี้จึงไม่ได้มีคุณค่าเพียงด้านศาสนา แต่ยังสะท้อนถึงภูมิปัญญาและการพัฒนาเมืองในสมัยโบราณ
บริเวณรอบสระและรอยพระพุทธบาทยังมีร่องรอยของสิ่งก่อสร้างโบราณ เช่น ปราสาทประธาน โคปุระ บรรณาลัย และกำแพงแก้วที่เหลือเพียงฐานอิฐและศิลาแลง บ่งบอกว่านี่เคยเป็นศาสนสถานที่สำคัญ อาจเกี่ยวข้องกับอโรคยาศาลาหรือศาสนสถานประจำเมืองในสมัยเขมร นักโบราณคดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเคยทำการขุดแต่งและพบโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น พระพุทธรูป ศิวลึงค์ เศษภาชนะดินเผา และชิ้นส่วนประติมากรรมที่ช่วยยืนยันความเจริญของเมืองศรีมโหสถในอดีต การผสมผสานของสิ่งก่อสร้างและวัตถุทางพุทธศาสนากับพราหมณ์สะท้อนให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยนั้น
วัดสระมรกตในปัจจุบันยังเป็นวัดราษฎร์ที่ชาวบ้านใช้ประกอบศาสนกิจตามปกติ พื้นที่ของวัดมีขนาดกว่า 18 ไร่ ภายในมีอุโบสถ วิหาร ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ และสิ่งก่อสร้างใหม่ที่ชุมชนร่วมกันพัฒนาขึ้น วัดทำหน้าที่ดูแลรักษาพื้นที่โบราณสถานไปพร้อมกัน โดยมีการประสานงานกับหน่วยงานด้านโบราณคดีเพื่อการอนุรักษ์ ผู้ที่มาเยือนจึงได้สัมผัสทั้งบรรยากาศความศักดิ์สิทธิ์ของวัดที่ยังคงมีชีวิต และได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านซากโบราณสถานที่ตั้งอยู่ร่วมในบริเวณเดียวกัน
สำหรับการเดินทาง วัดสระมรกตตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองปราจีนบุรีประมาณ 24 กิโลเมตร การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางถนนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 มุ่งหน้าฉะเชิงเทรา จากนั้นเลี้ยวเข้าสู่ถนนสาย 319 ผ่านอำเภอศรีมโหสถ และมีป้ายบอกทางเข้าวัดอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางโดยรถตู้หรือรถโดยสารที่มีปลายทางอำเภอศรีมโหสถแล้วต่อรถภายในท้องถิ่น วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดคือรถยนต์ส่วนตัว เนื่องจากสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้โดยตรงและใช้เวลาไม่นาน
ความเชื่อและตำนานที่เกี่ยวกับสระมรกตและบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ยังคงมีอิทธิพลต่อชุมชนท้องถิ่น หลายคนเชื่อว่าน้ำในสระและบ่อน้ำสามารถนำมาใช้เป็นสิริมงคลหรือใช้รักษาโรคภัยไข้เจ็บ ความศรัทธานี้ทำให้วัดสระมรกตยังคงมีผู้คนมากราบไหว้อยู่เสมอ แม้ว่าในเชิงโบราณคดีน้ำจะถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการประกอบพิธีกรรมในสมัยโบราณ แต่ในแง่ศรัทธาชาวบ้านยังเชื่อมั่นและสืบทอดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
สิ่งหนึ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงคือการประกาศคุ้มครองพื้นที่โบราณสถาน เพื่ออนุรักษ์สถานที่ให้คงอยู่ การอนุรักษ์มีความท้าทายทั้งเรื่องการผุพังของวัสดุเก่า การบุกรุกพื้นที่ และการดูแลในขณะที่ยังเปิดให้ผู้คนเข้าชมได้ แต่ด้วยความร่วมมือระหว่างชุมชน หน่วยงานรัฐ และวัด ทำให้พื้นที่แห่งนี้ยังคงมีชีวิตและเป็นทั้งศาสนสถานและแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม
เมื่อผู้มาเยือนมาถึงวัดสระมรกต จะได้สัมผัสทั้งความสงบจากธรรมชาติร่มรื่นรอบสระน้ำ ความศักดิ์สิทธิ์จากการกราบรอยพระพุทธบาทคู่ และความน่าตื่นตาตื่นใจจากการได้เดินชมซากโบราณสถานที่สืบทอดเรื่องราวกว่า 1,000 ปี เป็นประสบการณ์ที่ผสมผสานระหว่างความศรัทธาและการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์
จุดที่โดดเด่นที่สุดคือรอยพระพุทธบาทคู่ ซึ่งหลายฝ่ายยกให้เป็นหนึ่งในรอยพระพุทธบาทคู่ที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ลักษณะเป็นรอยสลักลงบนแผ่นศิลา มีรายละเอียดสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนา เช่น ธรรมจักร และร่องรอยที่บ่งชี้การนับถือบูชา รอยพระพุทธบาทคู่นี้ได้รับความเคารพศรัทธาและเชื่อกันว่าเป็นมงคลอย่างยิ่งในการมากราบไหว้บูชา บริเวณด้านหน้ารอยพระพุทธบาทยังมีบ่อน้ำโบราณที่ชาวบ้านเรียกว่าบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ บ่อทรงกลมเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.2 เมตร ลึกลงไปหลายเมตร น้ำในบ่อไม่เคยเหือดแห้ง เชื่อกันว่าใช้สำหรับการทำพิธีกรรมทางศาสนาและอาจเกี่ยวพันกับการปลุกเสกน้ำมนต์ในอดีต บ่อน้ำนี้ยังคงใสสะอาดและถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนมาแสวงบุญนิยมตักน้ำไปใช้เพื่อความเป็นสิริมงคล
อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญคือสระโบราณที่มีชื่อว่าสระมรกต ตัวสระมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้างประมาณ 115 เมตร ยาวประมาณ 214 เมตร ลึกประมาณ 3.5 เมตร ล้อมรอบด้วยคันดินขนาดใหญ่ รวมพื้นที่กว่า 25 ไร่ ชื่อว่าสระมรกตมาจากน้ำที่ใสและสะท้อนแสงเขียวคล้ายมรกตในบางช่วงเวลา นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นกว่า 1,000 ปีก่อน เพื่อใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา โดยเฉพาะการปลุกเสกน้ำมนต์สำหรับกษัตริย์หรือพิธีสำคัญ ลักษณะสระขนาดใหญ่ที่ขุดขึ้นโดยใช้แรงงานคนโบราณเป็นหลักฐานที่สะท้อนถึงความสามารถในการจัดการทรัพยากรและแรงงานของชุมชนในอดีตได้เป็นอย่างดี สระน้ำนี้จึงไม่ได้มีคุณค่าเพียงด้านศาสนา แต่ยังสะท้อนถึงภูมิปัญญาและการพัฒนาเมืองในสมัยโบราณ
บริเวณรอบสระและรอยพระพุทธบาทยังมีร่องรอยของสิ่งก่อสร้างโบราณ เช่น ปราสาทประธาน โคปุระ บรรณาลัย และกำแพงแก้วที่เหลือเพียงฐานอิฐและศิลาแลง บ่งบอกว่านี่เคยเป็นศาสนสถานที่สำคัญ อาจเกี่ยวข้องกับอโรคยาศาลาหรือศาสนสถานประจำเมืองในสมัยเขมร นักโบราณคดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเคยทำการขุดแต่งและพบโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น พระพุทธรูป ศิวลึงค์ เศษภาชนะดินเผา และชิ้นส่วนประติมากรรมที่ช่วยยืนยันความเจริญของเมืองศรีมโหสถในอดีต การผสมผสานของสิ่งก่อสร้างและวัตถุทางพุทธศาสนากับพราหมณ์สะท้อนให้เห็นถึงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยนั้น
วัดสระมรกตในปัจจุบันยังเป็นวัดราษฎร์ที่ชาวบ้านใช้ประกอบศาสนกิจตามปกติ พื้นที่ของวัดมีขนาดกว่า 18 ไร่ ภายในมีอุโบสถ วิหาร ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ และสิ่งก่อสร้างใหม่ที่ชุมชนร่วมกันพัฒนาขึ้น วัดทำหน้าที่ดูแลรักษาพื้นที่โบราณสถานไปพร้อมกัน โดยมีการประสานงานกับหน่วยงานด้านโบราณคดีเพื่อการอนุรักษ์ ผู้ที่มาเยือนจึงได้สัมผัสทั้งบรรยากาศความศักดิ์สิทธิ์ของวัดที่ยังคงมีชีวิต และได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านซากโบราณสถานที่ตั้งอยู่ร่วมในบริเวณเดียวกัน
สำหรับการเดินทาง วัดสระมรกตตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองปราจีนบุรีประมาณ 24 กิโลเมตร การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางถนนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 มุ่งหน้าฉะเชิงเทรา จากนั้นเลี้ยวเข้าสู่ถนนสาย 319 ผ่านอำเภอศรีมโหสถ และมีป้ายบอกทางเข้าวัดอย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางโดยรถตู้หรือรถโดยสารที่มีปลายทางอำเภอศรีมโหสถแล้วต่อรถภายในท้องถิ่น วิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุดคือรถยนต์ส่วนตัว เนื่องจากสามารถเข้าถึงพื้นที่ได้โดยตรงและใช้เวลาไม่นาน
ความเชื่อและตำนานที่เกี่ยวกับสระมรกตและบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ยังคงมีอิทธิพลต่อชุมชนท้องถิ่น หลายคนเชื่อว่าน้ำในสระและบ่อน้ำสามารถนำมาใช้เป็นสิริมงคลหรือใช้รักษาโรคภัยไข้เจ็บ ความศรัทธานี้ทำให้วัดสระมรกตยังคงมีผู้คนมากราบไหว้อยู่เสมอ แม้ว่าในเชิงโบราณคดีน้ำจะถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการประกอบพิธีกรรมในสมัยโบราณ แต่ในแง่ศรัทธาชาวบ้านยังเชื่อมั่นและสืบทอดต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
สิ่งหนึ่งที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงคือการประกาศคุ้มครองพื้นที่โบราณสถาน เพื่ออนุรักษ์สถานที่ให้คงอยู่ การอนุรักษ์มีความท้าทายทั้งเรื่องการผุพังของวัสดุเก่า การบุกรุกพื้นที่ และการดูแลในขณะที่ยังเปิดให้ผู้คนเข้าชมได้ แต่ด้วยความร่วมมือระหว่างชุมชน หน่วยงานรัฐ และวัด ทำให้พื้นที่แห่งนี้ยังคงมีชีวิตและเป็นทั้งศาสนสถานและแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม
เมื่อผู้มาเยือนมาถึงวัดสระมรกต จะได้สัมผัสทั้งความสงบจากธรรมชาติร่มรื่นรอบสระน้ำ ความศักดิ์สิทธิ์จากการกราบรอยพระพุทธบาทคู่ และความน่าตื่นตาตื่นใจจากการได้เดินชมซากโบราณสถานที่สืบทอดเรื่องราวกว่า 1,000 ปี เป็นประสบการณ์ที่ผสมผสานระหว่างความศรัทธาและการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์
| ชื่อสถานที่ | วัดสระมรกต (Sa Morakot Ancient Pond) |
| ที่ตั้ง | ตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี |
| ลักษณะสำคัญ | โบราณสถานสำคัญ ประกอบด้วยสระน้ำโบราณ รอยพระพุทธบาทคู่ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และซากอาคารก่อศิลาแลง/อิฐหลายยุค |
| สมัย/ยุค | ทวารวดี–อิทธิพลเขมรโบราณ (ราวกว่า 1,000 ปี) |
| หลักฐานสำคัญ | รอยพระพุทธบาทคู่ บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ โบราณวัตถุจากการขุดแต่ง และฐานสิ่งก่อสร้างโบราณ |
| ที่มาของชื่อ | มาจากน้ำในสระที่ใสสะท้อนแสงเขียวคล้ายมรกต |
| การเดินทาง | จากกรุงเทพฯ ใช้มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 → ฉะเชิงเทรา → ถนน 319 เข้าอำเภอศรีมโหสถ ระยะทางจากตัวเมืองปราจีนบุรีราว 24 กม. |
| สถานะปัจจุบัน | วัดราษฎร์ที่ยังใช้งานทางศาสนา และเป็นแหล่งเรียนรู้โบราณสถาน |
FAQ
ถาม: วัดสระมรกตมีความสำคัญอย่างไร?
ตอบ: เป็นพื้นที่ที่ผสานวัดซึ่งยังประกอบศาสนกิจอยู่กับกลุ่มโบราณสถานเก่าแก่ มีรอยพระพุทธบาทคู่ สระโบราณ และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อมโยงกับพิธีกรรมโบราณ
ตอบ: เป็นพื้นที่ที่ผสานวัดซึ่งยังประกอบศาสนกิจอยู่กับกลุ่มโบราณสถานเก่าแก่ มีรอยพระพุทธบาทคู่ สระโบราณ และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อมโยงกับพิธีกรรมโบราณ
ถาม: รอยพระพุทธบาทคู่วัดสระมรกตมีลักษณะเด่นอะไร?
ตอบ: เป็นรอยสลักบนแผ่นศิลา มีสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนาและได้รับการนับถือบูชาสูง ถือว่าเก่าแก่และสำคัญแห่งหนึ่งของไทย
ตอบ: เป็นรอยสลักบนแผ่นศิลา มีสัญลักษณ์ทางพุทธศาสนาและได้รับการนับถือบูชาสูง ถือว่าเก่าแก่และสำคัญแห่งหนึ่งของไทย
ถาม: สระมรกตมีขนาดเท่าไร?
ตอบ: สระรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้างประมาณ 115 เมตร ยาวประมาณ 214 เมตร ลึกประมาณ 3.5 เมตร ล้อมด้วยคันดินและพื้นที่รอบสระราว 25 ไร่
ตอบ: สระรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้างประมาณ 115 เมตร ยาวประมาณ 214 เมตร ลึกประมาณ 3.5 เมตร ล้อมด้วยคันดินและพื้นที่รอบสระราว 25 ไร่
ถาม: ในพื้นที่มีโบราณวัตถุอะไรบ้าง?
ตอบ: พบพระพุทธรูป ชิ้นส่วนศิลาจากอาคารโบราณ ภาชนะดินเผา และร่องรอยสิ่งก่อสร้างยุคทวารวดีถึงอิทธิพลเขมร
ตอบ: พบพระพุทธรูป ชิ้นส่วนศิลาจากอาคารโบราณ ภาชนะดินเผา และร่องรอยสิ่งก่อสร้างยุคทวารวดีถึงอิทธิพลเขมร
ถาม: เดินทางไปอย่างไร?
ตอบ: สะดวกที่สุดคือรถยนต์ส่วนตัว ใช้มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 เข้าฉะเชิงเทรา ต่อถนน 319 ถึงอำเภอศรีมโหสถ แล้วตามป้ายสู่วัด
ตอบ: สะดวกที่สุดคือรถยนต์ส่วนตัว ใช้มอเตอร์เวย์หมายเลข 7 เข้าฉะเชิงเทรา ต่อถนน 319 ถึงอำเภอศรีมโหสถ แล้วตามป้ายสู่วัด
ถาม: มีค่าเข้าชมหรือไม่?
ตอบ: โดยทั่วไปการเข้าชมวัดและพื้นที่โบราณสถานไม่เก็บค่าใช้จ่าย
ตอบ: โดยทั่วไปการเข้าชมวัดและพื้นที่โบราณสถานไม่เก็บค่าใช้จ่าย
ถาม: ควรเตรียมตัวอะไรเป็นพิเศษ?
ตอบ: แต่งกายสุภาพ ใส่รองเท้าที่เดินสบาย เตรียมน้ำดื่ม และเผื่อเวลาเดินชมบริเวณกว้าง
ตอบ: แต่งกายสุภาพ ใส่รองเท้าที่เดินสบาย เตรียมน้ำดื่ม และเผื่อเวลาเดินชมบริเวณกว้าง
ถาม: เวลาไหนเหมาะแก่การไปเยี่ยมชม?
ตอบ: เช้าและบ่ายแก่ ๆ อากาศไม่ร้อนจัด แสงสวย เหมาะกับการเดินชมและถ่ายภาพ
ตอบ: เช้าและบ่ายแก่ ๆ อากาศไม่ร้อนจัด แสงสวย เหมาะกับการเดินชมและถ่ายภาพ
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage





หมวดหมู่:
กลุ่ม:
ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
พระราชวัง(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
พิพิธภัณฑ์(
อาร์ตแกลเลอรี่(
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
ไร่ สวนเพื่อการศึกษา(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ธรรมชาติ และสัตว์ป่า
อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล(
ดอย และภูเขา(
เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(
น้ำตก(
ถ้ำ(
แม่น้ำลำคลอง(
อ่าว และชายหาด(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย(