รอยพระพุทธบาทคู่

รอยพระพุทธบาทคู่

รอยพระพุทธบาทคู่
Rating: 4/5 (4 votes)
แผนที่ แผนที่ แผนที่ มีแผนที่ มีแผนที่ ไม่มีแผนที่ ไม่มีแผนที่

สถานที่ท่องเที่ยวปราจีนบุรี

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย

วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
 
รอยพระพุทธบาทคู่ ที่โบราณสถานสระมรกต จังหวัดปราจีนบุรี เป็นหนึ่งในหลักฐานทางศาสนาและโบราณคดีที่สำคัญยิ่งของประเทศไทย ร่องรอยศักดิ์สิทธิ์นี้ถือเป็นรอยพระพุทธบาทคู่ซึ่งสลักอยู่บนพื้นศิลาแลงธรรมชาติที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในดินแดนไทย ด้วยอายุที่นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 11–13 หรือประมาณ 1,300–1,500 ปี ทำให้สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนาที่ผู้คนให้ความเคารพบูชา แต่ยังเป็นหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงการแพร่หลายของพระพุทธศาสนาและพัฒนาการทางศิลปวัฒนธรรมในภูมิภาคตะวันออกอย่างชัดเจน
 
โบราณสถานสระมรกตตั้งอยู่ในเขตตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี พื้นที่แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของเมืองโบราณศรีมโหสถซึ่งมีอายุย้อนไปกว่า 1,500 ปี เมืองโบราณแห่งนี้เคยเป็นศูนย์กลางความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค และเป็นแหล่งที่มีการผสมผสานศิลปวัฒนธรรมทั้งทวารวดีและอิทธิพลจากเขมรในช่วงสมัยหลัง หลักฐานต่าง ๆ ที่พบ เช่น ซากอาคาร กำแพงแก้ว และฐานปราสาท ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของเมืองในอดีต การค้นพบรอยพระพุทธบาทคู่ในพื้นที่นี้จึงเป็นเครื่องยืนยันว่าศรีมโหสถเป็นศูนย์กลางศาสนาที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาคตะวันออกของประเทศไทย
 
รอยพระพุทธบาทคู่ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2529 โดยกรมศิลปากรได้เข้ามาสำรวจและพบว่าถูกสลักลงบนพื้นศิลาแลงธรรมชาติอย่างประณีต ลักษณะฝ่าพระบาทคล้ายกับรอยเท้ามนุษย์ โดยมีนิ้วพระบาททั้งห้าเรียงกันแต่ไม่เสมอกัน และตรงกลางฝ่าพระบาทแต่ละข้างมีการสลักเป็นรูปธรรมจักรซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งการหมุนแห่งพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า นอกจากนี้ยังพบร่องรูปกากบาทและหลุมกลมเล็ก ๆ ที่คาดว่าเคยใช้ปักเสาหรือฉัตรสำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ร่องรอยเหล่านี้ไม่เพียงบ่งบอกถึงความตั้งใจของผู้สร้างในการสื่อความหมายเชิงสัญลักษณ์ แต่ยังสะท้อนถึงคติความเชื่อที่ผสมผสานกันระหว่างท้องถิ่นกับแนวคิดจากต่างแดน
 
ด้านหน้าของรอยพระพุทธบาทคู่นี้ยังมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกเจาะลงไปในชั้นศิลาแลง มีรูปทรงกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 120 เซนติเมตร และลึกลงไปถึง 10 เมตร การขุดค้นภายในบ่อน้ำแห่งนี้พบโบราณวัตถุหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนสถาปัตยกรรม กระเบื้องเชิงชาย ไปจนถึงพระพุทธรูปปางสมาธิ สิ่งของเหล่านี้ยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นศูนย์กลางศาสนสถานที่สำคัญ และอาจมีการใช้บ่อน้ำเป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา
 
ความสำคัญของรอยพระพุทธบาทคู่แห่งสระมรกตอยู่ที่การเป็น “บริโภคเจดีย์สมมติ” ตามคติศาสนาลังกา กล่าวคือ แม้พระพุทธเจ้าไม่เคยเสด็จมาถึงสถานที่นี้จริง แต่การสร้างรอยพระพุทธบาทขึ้นก็เป็นการสมมติให้เป็นสัญลักษณ์ว่าพระองค์เคยประทับรอยไว้เพื่อเป็นที่สักการะบูชาแก่พุทธศาสนิกชนในภายหลัง การที่เป็นรอย “คู่” ไม่ใช่รอยเดียวอย่างที่พบในหลายพื้นที่ ยิ่งทำให้สถานที่แห่งนี้มีความพิเศษและศักดิ์สิทธิ์ในสายตาของชาวบ้านและนักเดินทาง
 
หากมองในมิติทางศิลปะและโบราณคดี รอยพระพุทธบาทคู่ที่นี่สะท้อนอิทธิพลศิลปะทวารวดีและอมราวดี ซึ่งมีการแพร่เข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และต่อมามีการผสมผสานกับศิลปะเขมรที่เข้ามามีอิทธิพลในพื้นที่ภาคตะวันออกของไทย ลักษณะการสลักที่เรียบง่ายแต่แฝงด้วยความหมาย เช่น ธรรมจักรและกากบาทกลางฝ่า สอดคล้องกับแนวคิดการใช้สัญลักษณ์แทนองค์พระพุทธเจ้าในยุคแรก ๆ ของการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
 
ความศรัทธาของชาวบ้านที่มีต่อรอยพระพุทธบาทคู่นี้ปรากฏชัดในประเพณีสำคัญอย่าง “มาฆปูรมีศรีปราจีน” ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำในช่วงวันมาฆบูชา ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศจะมาร่วมเวียนเทียนและสักการะรอยพระพุทธบาทคู่ เพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่อสืบสานพระพุทธศาสนา นอกจากนี้ยังเป็นงานที่ช่วยสร้างความสามัคคีในชุมชน และเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติให้เดินทางมาเยี่ยมชม
 
เมื่อเปรียบเทียบกับรอยพระพุทธบาทแห่งอื่น ๆ ในประเทศไทย เช่น รอยพระพุทธบาทสระบุรีซึ่งมีชื่อเสียงมากที่สุด รอยพระพุทธบาทที่เชียงใหม่ หรือสุโขทัย เราจะเห็นความแตกต่างในแง่การสร้างและสัญลักษณ์ รอยพระพุทธบาทที่สระบุรีเป็นรอยเดียวที่มีลักษณะสวยงามและถูกสักการะมาอย่างต่อเนื่องนับพันปี ส่วนที่เชียงใหม่และสุโขทัยก็มีลักษณะเฉพาะที่สอดคล้องกับศิลปะในแต่ละยุค แต่สิ่งที่ทำให้รอยพระพุทธบาทคู่ที่ปราจีนบุรีโดดเด่นคือการเป็นรอย “คู่” ที่หายาก และถูกยืนยันว่าเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ความแตกต่างนี้ทำให้รอยพระพุทธบาทคู่ที่สระมรกตเป็นหลักฐานที่ทรงคุณค่า ทั้งในเชิงโบราณคดี ศิลปะ และศรัทธา
 
ในมิติการท่องเที่ยว รอยพระพุทธบาทคู่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเดินทางประมาณสองชั่วโมงครึ่งถึงสามชั่วโมงโดยรถยนต์ เส้นทางที่สะดวกที่สุดคือออกจากกรุงเทพฯ ตามทางหลวงหมายเลข 304 ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทราเข้าสู่จังหวัดปราจีนบุรี จากนั้นเข้าสู่อำเภอศรีมโหสถ และเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางไปยังตำบลโคกไทย ก่อนถึงตัวอำเภอราวสามกิโลเมตรก็จะพบทางเข้าวัดสระมรกตซึ่งเป็นที่ตั้งของรอยพระพุทธบาทคู่ บรรยากาศโดยรอบโบราณสถานยังคงความร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และทุ่งนา เป็นพื้นที่สงบเหมาะแก่การแสวงหาความสงบทางใจ
 
สิ่งอำนวยความสะดวกที่นักท่องเที่ยวจะพบ ได้แก่ ทางเดินเข้าสู่โบราณสถาน ศาลาที่พักจิตใจ และป้ายคำอธิบายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของรอยพระพุทธบาทคู่ แม้บางจุดยังขาดรายละเอียดเชิงลึก แต่ก็เพียงพอสำหรับการทำความเข้าใจในเบื้องต้น นักท่องเที่ยวควรเตรียมรองเท้าที่เหมาะสม โดยเฉพาะในฤดูฝนซึ่งพื้นดินอาจเปียกและลื่น
 
นอกเหนือจากบทบาทด้านการท่องเที่ยวและศาสนาแล้ว รอยพระพุทธบาทคู่แห่งนี้ยังเป็นความท้าทายด้านการอนุรักษ์ เนื่องจากอยู่กลางแจ้งและถูกกัดกร่อนโดยธรรมชาติ กรมศิลปากรได้เข้ามาดูแลและมีการบูรณะในบางส่วน เพื่อป้องกันการเสื่อมสลายของศิลาแลง รวมทั้งมีการจัดงานเผยแพร่ความรู้ให้ประชาชนและเยาวชนในพื้นที่ได้เข้าใจคุณค่าและความสำคัญของรอยพระพุทธบาทคู่ เพื่อให้ช่วยกันรักษามรดกอันล้ำค่านี้สืบต่อไป
 
เมื่อมองโดยภาพรวม รอยพระพุทธบาทคู่ที่โบราณสถานสระมรกต จังหวัดปราจีนบุรี จึงเป็นสถานที่ที่มีคุณค่าในทุกมิติ ทั้งในฐานะหลักฐานทางโบราณคดีที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ในฐานะสัญลักษณ์ทางศาสนาที่สะท้อนคติความเชื่อและศิลปะผสมผสานหลายวัฒนธรรม และในฐานะจุดหมายปลายทางทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่น่าสนใจ ผู้ที่เดินทางมาที่นี่ไม่เพียงจะได้สัมผัสกับความสงบและความศรัทธา แต่ยังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์และรากเหง้าของศาสนาและวัฒนธรรมไทยที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปี
 
ชื่อสถานที่ รอยพระพุทธบาทคู่ โบราณสถานสระมรกต
ที่ตั้ง ตำบลโคกไทย อำเภอศรีมโหสถ จังหวัดปราจีนบุรี
ลักษณะสำคัญ รอยพระพุทธบาทคู่สลักบนพื้นศิลาแลงธรรมชาติ มีธรรมจักรตรงกลางฝ่าและบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ด้านหน้า
สมัย/ยุค พุทธศตวรรษที่ 11–13 (อายุประมาณ 1,300–1,500 ปี)
หลักฐานสำคัญ รอยพระพุทธบาทคู่ ธรรมจักร ร่องกากบาท หลุมปักฉัตร และโบราณวัตถุจากบ่อน้ำ
ที่มาของชื่อ เรียกตามบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีลักษณะเป็นสระน้ำสีเขียวมรกต
การเดินทาง จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 ผ่านฉะเชิงเทราเข้าสู่ปราจีนบุรี มุ่งสู่อำเภอศรีมโหสถ และเลี้ยวเข้าสู่ตำบลโคกไทย
สถานะปัจจุบัน เปิดให้เข้าชม ศักดิ์สิทธิ์และเป็นจุดหมายทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
 
FAQ
รอยพระพุทธบาทคู่ที่ปราจีนบุรีมีอายุเท่าไร?
นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 11–13 หรือประมาณ 1,300–1,500 ปี
 
ทำไมถึงถูกเรียกว่ารอยพระพุทธบาทคู่?
เพราะมีการสลักรอยฝ่าพระบาทสองรอยขนานกันบนพื้นศิลาแลง ซึ่งพบไม่บ่อยในประเทศไทย
 
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ด้านหน้ามีความสำคัญอย่างไร?
เป็นบ่อศิลาแลงทรงกลมลึก 10 เมตร เชื่อว่าใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา และเป็นแหล่งค้นพบโบราณวัตถุจำนวนมาก
 
สามารถเดินทางไปชมได้อย่างไร?
จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 ผ่านฉะเชิงเทรา เข้าปราจีนบุรี ไปอำเภอศรีมโหสถและตำบลโคกไทยก็จะพบโบราณสถานสระมรกต
 
มีงานประเพณีใดเกี่ยวข้องกับรอยพระพุทธบาทคู่แห่งนี้หรือไม่?
มีงานมาฆปูรมีศรีปราจีน จัดขึ้นช่วงมาฆบูชา เพื่อเวียนเทียนและสักการะรอยพระพุทธบาทคู่
 
ความแตกต่างจากรอยพระพุทธบาทที่สระบุรีคืออะไร?
รอยพระพุทธบาทสระบุรีมีเพียงรอยเดียวและมีการสร้างมณฑปครอบ ส่วนที่ปราจีนบุรีเป็นรอยคู่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในไทย
แผนที่ รอยพระพุทธบาทคู่ แผนที่รอยพระพุทธบาทคู่
คำค้นคำค้น: รอยพระพุทธบาทคู่รอยพระพุทธบาทคู่ รอยพระพุทธบาทคู่ ปราจีนบุรี โบราณสถานสระมรกต เมืองโบราณศรีมโหสถ รอยพระพุทธบาทเก่าแก่ที่สุด บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ปราจีนบุรี งานมาฆปูรมีศรีปราจีน
ปรับปรุงล่าสุดปรับปรุงล่าสุด: 1 เดือนที่แล้ว


แสดงความเห็น

แสดงความเห็น




คำค้น (ขั้นสูง)
   
Email :
  รหัสผ่าน :
  สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน
 

 

ภูมิภาค ภูมิภาคhttps://www.lovethailand.org/

https://www.lovethailand.org/อ.เมืองปราจีนบุรี(32)

https://www.lovethailand.org/อ.กบินทร์บุรี(11)

https://www.lovethailand.org/อ.นาดี(11)

https://www.lovethailand.org/อ.บ้านสร้าง(8)

https://www.lovethailand.org/อ.ประจันตคาม(8)

https://www.lovethailand.org/อ.ศรีมหาโพธิ(5)

https://www.lovethailand.org/อ.ศรีมโหสถ(10)