วัดป่ามะไฟ

Rating: 4.2/5 (5 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวปราจีนบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
วัดป่ามะไฟ จังหวัดปราจีนบุรี คือสถานที่ที่ผสมผสานระหว่างความสงบของธรรมชาติ ความศรัทธาทางพระพุทธศาสนา และกลิ่นอายประวัติศาสตร์ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในทุกซอกมุมของวัด หากเอ่ยชื่อวัดแห่งนี้ คนในพื้นที่แทบทุกคนจะรู้จัก เพราะไม่เพียงเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติธรรมของจังหวัดปราจีนบุรี แต่ยังเป็นจุดหมายที่ผู้แสวงหาความสงบจากจังหวัดใกล้เคียง เช่น นครนายก ฉะเชิงเทรา หรือแม้แต่ผู้ที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ต่างเลือกเดินทางมาสัมผัส วัดป่ามะไฟตั้งอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ร่มรื่น มีพื้นที่กว้างขวาง ต้นไม้ใหญ่เรียงรายรอบวัด และบรรยากาศที่เหมาะแก่การทำสมาธิและการภาวนา ความสงบเงียบที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณช่วยตัดขาดผู้มาเยือนออกจากเสียงรบกวนของเมืองใหญ่ และแทนที่ด้วยเสียงนกร้อง เสียงใบไม้ และลมพัดเบา ๆ
ประวัติความเป็นมาของวัดเริ่มต้นราว พ.ศ. 2368 เดิมทีชาวบ้านเรียกว่า “วัดนอก” หรือชื่อทางการว่า “วัดอุดมผล” จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2487 ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดป่ามะไฟ เนื่องจากพื้นที่โดยรอบมีต้นมะไฟขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น ชื่อใหม่นี้สะท้อนถึงเอกลักษณ์และธรรมชาติที่รายล้อม และยังกลายเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกตัวตนของวัดมาจนถึงปัจจุบัน ต่อมาในวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของวัด นับแต่นั้นมา วัดป่ามะไฟได้รับการบูรณะและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนในปัจจุบันได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดปราจีนบุรีแห่งที่ 5
เมื่อเดินเข้าสู่เขตวัด สิ่งแรกที่สะดุดตาคืออุโบสถหลังใหญ่ที่มีความโอ่อ่าแต่เรียบง่าย บริเวณรอบอุโบสถร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงาแก่ผู้ที่เดินทางมาสักการะ ด้านในอุโบสถมีพระประธานที่สง่างาม แสงแดดอ่อน ๆ ที่ลอดผ่านหน้าต่างลงมาทาบบนพื้นทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์และสงบ ถัดออกไปคือศาลาการเปรียญที่ใช้เป็นสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาและกิจกรรมชุมชนต่าง ๆ ส่วนวิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงพระเถระผู้มีบทบาทสำคัญในพระพุทธศาสนา โครงสร้างของวิหารมีความงดงามเรียบง่าย เหมาะแก่การเข้าไปกราบไหว้และนั่งภาวนา
อีกหนึ่งสิ่งปลูกสร้างที่โดดเด่นคือเจดีย์ธาตุซึ่งมีขนาดพอเหมาะ ไม่ใหญ่จนเกินไปแต่สง่างามและดูมั่นคง ภายในวัดยังมีกุฏิสำหรับพระสงฆ์และผู้มาปฏิบัติธรรมกว่าเจ็ดสิบหลัง ตั้งกระจายอยู่ในพื้นที่ป่าไม้ร่มรื่น ทำให้ผู้ที่เข้ามาพักสามารถสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติได้อย่างใกล้ชิด กุฏิส่วนใหญ่เป็นเรือนไม้หรือก่อสร้างแบบเรียบง่าย เน้นความสงบและความเป็นส่วนตัวเพื่อให้เอื้อต่อการฝึกสมาธิ
วัดป่ามะไฟยังมีการค้นพบโบราณวัตถุหลายชิ้น เช่น เศษพระพุทธรูปหินทราย ซากวิหาร และหลักฐานทางโบราณคดีอื่น ๆ ซึ่งเชื่อว่าเกี่ยวโยงกับสมัยพระเจ้าอู่ทอง สิ่งเหล่านี้บอกเล่าเรื่องราวของผู้คนในอดีตที่เคยอาศัยและนับถือพระพุทธศาสนาในพื้นที่นี้ เพื่อให้โบราณวัตถุเหล่านี้คงอยู่ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา ทางวัดจึงได้จัดทำพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ขึ้นบริเวณใกล้เคียงกับวัด เพื่อเก็บรวบรวมและจัดแสดงวัตถุโบราณเหล่านี้
ความสำคัญของวัดไม่ได้อยู่เพียงแค่สถาปัตยกรรมหรือโบราณวัตถุ แต่ยังอยู่ที่การเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่เปิดกว้างให้แก่ผู้ที่แสวงหาความสงบทางใจ วัดป่ามะไฟจัดกิจกรรมการปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการทำวัตรเช้าและเย็น การนั่งสมาธิ การเดินจงกรม และการฟังธรรมเทศนา ผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมได้ทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับหรือค้างคืน สำหรับผู้ที่เลือกพักค้างคืน วัดมีสถานที่รองรับ ทั้งกุฏิและพื้นที่พักเรียบง่าย การเข้าพักไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ควรเตรียมของใช้ส่วนตัวและเครื่องนอน หากไม่มี วัดอาจมีให้ยืมบางส่วน อาหารการกินมีโรงทานคอยจัดเตรียมอาหารให้ตามกำลังศรัทธา ผู้ที่มาปฏิบัติธรรมจึงสามารถอยู่ในวัดได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
การเดินทางมายังวัดป่ามะไฟทำได้สะดวก หากใช้รถยนต์ส่วนตัวจากกรุงเทพฯ สามารถใช้เส้นทางถนนรังสิต-นครนายก ต่อไปยังจังหวัดปราจีนบุรี จากนั้นมุ่งหน้าเข้าสู่อำเภอเมืองปราจีนบุรีและขับไปยังตำบลโคกไม้ลาย จะมีป้ายบอกเส้นทางสู่วัด ส่วนผู้ที่ไม่มีรถยนต์สามารถโดยสารรถตู้ปราจีนบุรีและต่อด้วยรถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าไปถึงวัดได้ เส้นทางสุดท้ายอาจเป็นถนนสายเล็กหรือถนนลูกรังบางช่วง ควรสอบถามคนในท้องที่เพื่อความสะดวก
สิ่งที่น่าประทับใจสำหรับผู้มาเยือนคือความเรียบง่ายของวิถีชีวิตภายในวัด ยามเช้า คุณอาจได้พบพระภิกษุออกบิณฑบาตไปตามหมู่บ้านใกล้เคียง ภาพพระสงฆ์เดินเรียงแถวท่ามกลางแสงอาทิตย์อ่อน ๆ เป็นภาพที่อบอุ่นและสงบใจอย่างบอกไม่ถูก ส่วนยามค่ำคืน ความเงียบสงัดของป่าและเสียงแมลงช่วยสร้างบรรยากาศแห่งการภาวนาและการพักผ่อนที่ไม่สามารถหาที่ไหนได้ง่าย ๆ สำหรับบางคนที่ค้างคืนในวัด การได้ฟังเสียงลมพัดใบไม้และมองดูดาวบนท้องฟ้าในคืนที่อากาศปลอดโปร่ง ถือเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ
นอกจากนี้ วัดป่ามะไฟยังเป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ เพราะนอกจากจะได้ปฏิบัติธรรมแล้ว ยังสามารถศึกษาความเป็นมาของชุมชนและศิลปะโบราณผ่านสิ่งก่อสร้างและวัตถุโบราณที่เก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑ์ บางครั้งผู้มาเยือนอาจได้พบกับงานบุญหรืองานประเพณีที่ชุมชนรอบวัดจัดขึ้น ทำให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างวัดกับชุมชนที่ยังคงแนบแน่น
| ชื่อสถานที่ | วัดป่ามะไฟ |
| ที่ตั้ง | บ้านแหลมยาง หมู่ 4 ตำบลโคกไม้ลาย อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี |
| ลักษณะเด่น | สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดปราจีนบุรี, มีโบราณวัตถุและพิพิธภัณฑ์ |
| ยุคสมัย | ก่อตั้งราว พ.ศ. 2368 |
| หลักฐานสำคัญ | อุโบสถ, วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต), เจดีย์ธาตุ, โบราณวัตถุหินทราย |
| ที่มาของชื่อ | มาจากต้นมะไฟที่ขึ้นหนาแน่นรอบวัด |
| การเดินทาง | จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนสายรังสิต-นครนายก เข้าสู่ปราจีนบุรีและต่อไปยังตำบลโคกไม้ลาย |
| สถานะปัจจุบัน | เปิดเป็นวัดและสำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัด |
| เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ | 081-983-6770, 081-865-2414, 037-399453-4 |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: วัดป่ามะไฟเปิดให้เข้าชมทุกวันหรือไม่?
ตอบ: วัดเปิดให้ประชาชนเข้ามาสักการะและปฏิบัติธรรม ควรติดต่อสอบถามเวลาที่แน่ชัดล่วงหน้า
ถาม: การเข้าพักที่วัดมีค่าใช้จ่ายหรือไม่?
ตอบ: ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ควรนำของใช้ส่วนตัวและเครื่องนอนมาเอง หากไม่มี วัดอาจมีให้ยืมบางส่วน
ถาม: อาหารภายในวัดเป็นอย่างไร?
ตอบ: วัดมีโรงทานจัดเตรียมอาหารฟรีตามกำลังศรัทธา ผู้ปฏิบัติธรรมสามารถรับประทานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ถาม: เดินทางไปวัดด้วยรถสาธารณะได้หรือไม่?
ตอบ: สามารถทำได้ โดยนั่งรถตู้ไปอำเภอเมืองปราจีนบุรี แล้วต่อรถสองแถวหรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าไปยังวัด
ถาม: วัดป่ามะไฟเหมาะกับนักท่องเที่ยวแบบใด?
ตอบ: เหมาะทั้งกับผู้ที่ต้องการปฏิบัติธรรม ศึกษาโบราณวัตถุ และผู้ที่อยากหาสถานที่สงบเพื่อพักผ่อนจิตใจ
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage





หมวดหมู่:
กลุ่ม:
ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
พระราชวัง(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
พิพิธภัณฑ์(
อาร์ตแกลเลอรี่(
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
ไร่ สวนเพื่อการศึกษา(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ธรรมชาติ และสัตว์ป่า
อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล(
ดอย และภูเขา(
เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(
น้ำตก(
ถ้ำ(
แม่น้ำลำคลอง(
อ่าว และชายหาด(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย(