วัดสันทรีย์

วัดสันทรีย์ จังหวัดปราจีนบุรี เป็นวัดราษฎร์ในสังกัดมหานิกาย ตั้งอยู่ในหมู่ 23 ตำบลวัดโบสถ์ อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2543 แม้จะเป็นวัดที่มีอายุไม่ยาวนานนัก แต่กลับมีบทบาทสำคัญอย่างมากทั้งในด้านศาสนา ชุมชน และธรรมชาติ วัดนี้ก่อตั้งขึ้นจากความศรัทธาของชาวบ้านที่ต้องการมีวัดประจำหมู่บ้านเพื่อเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนาและศูนย์รวมจิตใจของคนในท้องถิ่น เดิมพื้นที่บริเวณวัดเป็นที่รกร้าง มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมหนาแน่นและเป็นที่อยู่อาศัยของนกหลากหลายชนิด เมื่อได้รับอนุญาตให้จัดตั้งเป็นวัดแล้ว ชาวบ้านได้ร่วมมือกันพัฒนาพื้นที่และสร้างอาคารทางศาสนาที่จำเป็น เช่น ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ และอุโบสถ เพื่อให้สามารถใช้ประกอบกิจทางศาสนาได้อย่างสมบูรณ์ การก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ แม้ไม่ได้ใหญ่โตหรูหรา แต่ก็สะท้อนความตั้งใจในการสร้างสถานที่ที่สงบ ร่มรื่น และศักดิ์สิทธิ์

 

หนึ่งในบุคคลสำคัญของวัดสันทรีย์คือพระครูสันติธรรมรส หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าหลวงพ่อไพเราะ ท่านเป็นพระนักปฏิบัติและนักพัฒนาที่ได้รับการเคารพศรัทธาอย่างสูงจากชาวบ้านในท้องถิ่นและศิษยานุศิษย์มากมาย เหรียญของท่านถูกจัดสร้างขึ้นและเป็นที่นิยมในวงการพระเครื่อง ซึ่งสะท้อนถึงบารมีและความศรัทธาที่ผู้คนมีต่อท่านอย่างแท้จริง หลวงพ่อไพเราะมุ่งเน้นการอบรมสั่งสอนธรรมะ การปฏิบัติสมาธิภาวนา และการดำรงชีวิตตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด ทำให้วัดสันทรีย์เป็นมากกว่าสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา แต่ยังเป็นศูนย์กลางด้านจิตวิญญาณที่ผู้คนมาหาความสงบและกำลังใจ

 

อุโบสถของวัดสันทรีย์ถูกสร้างขึ้นอย่างเรียบง่ายแต่สง่างาม หลังคาซ้อนชั้นตามแบบแผนสถาปัตยกรรมไทย ประดับด้วยช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์ที่สวยงาม ศาลาการเปรียญใช้เป็นสถานที่ทำบุญ ฟังเทศน์ และจัดกิจกรรมของชุมชน กุฏิสงฆ์ตั้งอยู่เรียงรายท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ที่ให้บรรยากาศร่มรื่นภายในวัด นอกจากนี้ยังมีเจดีย์และศาลาที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนและชมธรรมชาติ โดยเฉพาะการเฝ้าดูนกที่บินกลับรังในยามเย็นซึ่งกลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของวัดแห่งนี้

 

สิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้กับวัดสันทรีย์มากที่สุดคือสวนนกวัดสันทรีย์ พื้นที่นี้เป็นแหล่งชุมนุมนกหลากหลายชนิด โดยเฉพาะนกน้ำ เช่น นกแขวก นกกาน้ำ และนกกระยางที่มักรวมฝูงกันนับพันตัวในช่วงฤดูกาลที่เหมาะสม ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงเมษายนจะเป็นช่วงที่สามารถพบเห็นฝูงนกได้มากที่สุด ภาพของฝูงนกบินกลับรังในยามเย็นเป็นภาพที่งดงามและตราตรึงใจนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือน การที่วัดสามารถรักษาสภาพแวดล้อมที่อุดมสมบูรณ์และเหมาะแก่การเป็นถิ่นอาศัยของนก ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านนิเวศวิทยาที่สำคัญและเป็นตัวอย่างของการอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลระหว่างมนุษย์และธรรมชาติ

 

นอกจากบทบาทด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติแล้ว วัดสันทรีย์ยังเป็นศูนย์กลางของงานบุญและประเพณีในชุมชน ชาวบ้านจะมารวมตัวกันในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และวันออกพรรษา เพื่อทำบุญตักบาตร ฟังเทศน์ และเวียนเทียนรอบอุโบสถ กิจกรรมเหล่านี้ช่วยสืบสานศรัทธาและความผูกพันระหว่างวัดกับชุมชน งานประเพณีใหญ่ประจำปีอย่างงานทอดกฐินและผ้าป่าก็เป็นอีกกิจกรรมที่ได้รับความร่วมแรงร่วมใจจากผู้ศรัทธาทั้งในพื้นที่และจากที่อื่น ๆ นอกจากนี้ วัดยังจัดโครงการบวชเณรภาคฤดูร้อนเพื่อปลูกฝังคุณธรรมให้แก่เยาวชน ส่งเสริมการเรียนรู้วิถีชีวิตของพระสงฆ์ และสร้างพื้นฐานทางศาสนาให้แก่คนรุ่นใหม่

 

บทบาทของวัดสันทรีย์ในฐานะศูนย์กลางชุมชนยังขยายไปสู่ด้านการศึกษาและสังคม วัดเป็นสถานที่ให้ความรู้ด้านศีลธรรมแก่เด็กและเยาวชน เป็นที่จัดกิจกรรมสร้างสรรค์ และยังช่วยเหลือชุมชนในยามเกิดภัยพิบัติหรือความเดือดร้อน กิจกรรมการกุศลต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในนามของวัดล้วนเป็นการเกื้อกูลและสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างผู้คนในท้องถิ่น วัดจึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์แห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสงบระหว่างศาสนา ชุมชน และธรรมชาติ

 

การเดินทาง มายังวัดสันทรีย์สะดวกสบายจากตัวเมืองปราจีนบุรี โดยสามารถใช้ถนนสายหลักเข้าสู่ตำบลวัดโบสถ์ มีป้ายบอกทางที่ชัดเจน ทำให้การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุด ขณะเดียวกันก็สามารถใช้รถโดยสารสาธารณะได้เช่นกัน เมื่อมาถึง นักท่องเที่ยวมักนิยมทำบุญไหว้พระในช่วงเช้า และรอชมฝูงนกในยามเย็น ถือเป็นกิจกรรมที่ครบทั้งด้านศาสนาและการพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ

 

วัดสันทรีย์ ยังสามารถเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียง นักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมสามารถเดินทางต่อไปยังวัดเก่าแก่หรือแหล่งวัฒนธรรมอื่น ๆ ของปราจีนบุรี รวมถึงแหล่งธรรมชาติสำคัญ เช่น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน ทำให้การเดินทางมาที่นี่กลายเป็นส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวแบบบูรณาการที่ได้ทั้งศาสนา วัฒนธรรม และธรรมชาติ

 

ตลอดระยะเวลาอันสั้นนับตั้งแต่ก่อตั้ง วัดสันทรีย์ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าศรัทธาและความร่วมมือของชุมชนสามารถสร้างสถานที่ที่เป็นทั้งศูนย์กลางทางศาสนา พื้นที่อนุรักษ์ธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่า หลวงพ่อไพเราะหรือพระครูสันติธรรมรสเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของการสืบสานพระพุทธศาสนาและการสร้างคุณธรรมในชุมชน วัดแห่งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หากแต่เป็นบทพิสูจน์ของความสัมพันธ์ระหว่างคน ศาสนา และธรรมชาติที่ยังคงดำรงอยู่อย่างกลมกลืนและงดงามในจังหวัดปราจีนบุรี