จุดผ่อนปรน ชายแดนไทย-กัมพูชา

Rating: 4.2/5 (5 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวจันทบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 07.00 - 21.00 น.
จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จังหวัดจันทบุรี เป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางเศรษฐกิจและสังคมระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน โดยมีคลองด่านเป็นเส้นแบ่งเขตแดนตามธรรมชาติและตั้งอยู่ตรงข้ามกับบ้านตวง อำเภอกร็อมเรียง จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา จุดผ่านแดนแห่งนี้เริ่มต้นมีสถานะเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าบ้านแหลม ก่อนที่จะเปิดให้เป็นจุดผ่านแดนถาวรในปี 2546 เพื่ออำนวยความสะดวกในการข้ามแดนและสนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการระหว่างสองประเทศ
ประวัติความเป็นมาของจุดผ่านแดนบ้านแหลมสะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของไทยในการพัฒนาการค้าชายแดนและส่งเสริมการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเป็นระบบ จุดผ่านแดนแห่งนี้เดิมเปิดเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าในปี 2540 เพื่อให้ประชาชนจากไทยและกัมพูชาสามารถข้ามไปมาทำการค้าและสัญจรได้อย่างสะดวก หลังจากนั้นได้รับการยกระดับเป็นจุดผ่านแดนถาวร ทำให้สามารถใช้เป็นจุดเชื่อมต่อการค้าระหว่างประเทศและรองรับแรงงานต่างชาติได้อย่างมีระบบ
สำหรับการเดินทางผ่านจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00–22.00 น. ผู้ที่ต้องการเดินทางข้ามแดนจะต้องมีเอกสารประจำตัว เช่น หนังสือเดินทาง หรือบัตรผ่านแดน การจัดการด้านความปลอดภัยและตรวจสอบเอกสารเป็นไปอย่างเข้มงวดภายใต้การดูแลของด่านศุลกากรจันทบุรีและตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี ด่านศุลกากรตั้งอยู่ในตำบลเทพนิมิต อำเภอโป่งน้ำร้อน ห่างจากที่ทำการด่านศุลกากรจันทบุรีประมาณ 60 กิโลเมตร โดยให้บริการตรวจสอบสินค้าและเอกสารเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ค้าและนักท่องเที่ยว ส่วนจุดตรวจคนเข้าเมืองบ้านแหลมมีอาคารตรวจสอบที่ทันสมัยและถูกออกแบบเพื่อรองรับผู้ข้ามแดนทั้งในด้านการสัญจรและการตรวจสอบเอกสาร
จุดผ่านแดนบ้านแหลมยังเป็นศูนย์กลางของตลาดการค้าชายแดนไทย–กัมพูชา ซึ่งเป็นตลาดการค้าเสรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดจันทบุรี ตลาดแห่งนี้มีสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตทางการเกษตรจากประเทศไทย กัมพูชา เวียดนาม และจีน รวมถึงผักสด ผลไม้สดตามฤดูกาล สินค้าแปรรูปต่าง ๆ เครื่องประดับ เครื่องนุ่งห่ม และของใช้ต่าง ๆ ตลาดใช้ภาษาสื่อสารสองภาษา คือ ไทยและเขมร ทำให้การติดต่อซื้อขายสะดวกและมีบรรยากาศการค้าระหว่างประเทศที่คึกคัก นอกจากนี้บริเวณฝั่งกัมพูชายังมีบ่อนกาสิโนซึ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับนักท่องเที่ยวที่ข้ามไปเยี่ยมชม
จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลมยังมีบทบาทในการบริหารแรงงานข้ามชาติ โดยเริ่มจากการทดลองเปิดให้แรงงานจากกัมพูชาสามารถข้ามเข้ามาทำงานในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีได้เป็นระยะเวลา 7 วัน ก่อนที่จะปรับปรุงเป็นระบบรายงานตัวทุก 90 วัน ซึ่งเรียกว่า "โป่งน้ำร้อนโมเดล" เพื่อควบคุมการเคลื่อนย้ายแรงงานและสร้างความมั่นคงด้านแรงงานให้แก่พื้นที่ การดำเนินการในลักษณะนี้สะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นและนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ในการใช้จุดผ่านแดนบ้านแหลมเป็นเครื่องมือทางเศรษฐกิจและสังคม
การเดินทางมายังจุดผ่านแดนบ้านแหลมสามารถทำได้ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและระบบขนส่งสาธารณะ จากกรุงเทพมหานครสามารถเดินทางมายังจังหวัดจันทบุรีโดยใช้ถนนสุขุมวิท จากนั้นแยกเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 317 มุ่งหน้าไปยังจังหวัดสระแก้ว แล้วเลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3210 ไปยังพื้นที่พังงอน–จางวาง และสุดท้ายเลี้ยวเข้าสู่ทางหลวงชนบท จบ.4033 ซึ่งจะนำไปสู่จุดผ่านแดนบ้านแหลมโดยตรง ระบบขนส่งสาธารณะมีรถตู้จากจันทบุรีและพัทยาไปยังบ้านแหลม โดยเริ่มเดินรถตั้งแต่เวลาเช้าตรู่จนถึงช่วงค่ำ ทำให้ผู้ที่สนใจเยี่ยมชมตลาดหรือข้ามไปยังฝั่งกัมพูชาเข้าถึงได้สะดวก
ด้วยความหลากหลายของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การค้าชายแดน และบทบาทเชิงสังคม จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลมจึงเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา ทั้งในแง่ของการค้า การท่องเที่ยว และการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ตลอดจนเป็นตัวอย่างของการบริหารจัดการจุดผ่านแดนที่สามารถรองรับทั้งการค้าปลีกและการสัญจรของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจชายแดนและความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
สำหรับนักท่องเที่ยวและผู้สนใจในการค้าชายแดน จุดผ่านแดนบ้านแหลมไม่เพียงแต่เป็นจุดผ่านแดนที่สะดวกและปลอดภัย แต่ยังเป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตชายแดนไทย–กัมพูชาและตลาดการค้าที่มีความหลากหลาย มีทั้งสินค้าเกษตรสดใหม่ ผลิตภัณฑ์แปรรูป และสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ จึงถือเป็นจุดหมายที่น่าสนใจสำหรับการเดินทางเพื่อสัมผัสวัฒนธรรม การค้า และประสบการณ์การเดินทางข้ามประเทศอย่างเต็มรูปแบบ
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage
























หมวดหมู่:
กลุ่ม:
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(
พระราชวัง(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
พิพิธภัณฑ์(
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
ไร่ สวนเพื่อการศึกษา(
มหาวิทยาลัย
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
วัด(
โบสถ์(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ธรรมชาติ และสัตว์ป่า
อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล(
ดอย และภูเขา(
เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(
น้ำตก(
น้ำพุร้อน(
ถ้ำ(
แม่น้ำลำคลอง(
อ่าว และชายหาด(
หมู่เกาะ(
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(
สนามกีฬา(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย(