เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่าวคุ้งกระเบน

Rating: 3.8/5 (5 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวจันทบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.30 - 16.30 น.
เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่าวคุ้งกระเบน จังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ห่างจากอำเภอท่าใหม่เพียง 15 กิโลเมตร เมื่อประมาณ 40 ปีที่ผ่านมา พื้นที่แห่งนี้เคยถูกบุกรุกและทำลายป่าจนสภาพธรรมชาติเสื่อมโทรม แต่ปัจจุบันมีการฟื้นฟูสภาพป่าด้วยการปลูกต้นไม้ทดแทนไม้ดั้งเดิม ทำให้พื้นที่นี้กลับคืนสู่ความสมบูรณ์ของระบบนิเวศอีกครั้ง ป่าในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบนเป็นป่า 4 ชนิดที่สามารถพบได้ในพื้นที่เดียวกัน ได้แก่ ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าชายหาด และป่าชายเลน นอกจากนี้ยังมีการจัดทำเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ผ่านจุดชมวิว ซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของหาดเจ้าหลาวและปากน้ำแขมหนู โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
ตามประกาศกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในปี พ.ศ. 2542 เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบนถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ที่อยู่ในการดำเนินงานของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมีพื้นที่ครอบคลุมทั้งป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ ป่าชายหาด และป่าชายเลน รวมประมาณ 11,370 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ตำบลคลองขุด ตำบลรำพัน อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี และตำบลสนามไชย อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนมีหน้าที่ศึกษาค้นคว้าและวิจัยเพื่อหาแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดจันทบุรี รวมทั้งทำให้ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าศึกษาสภาพธรรมชาติ เพื่อเกิดความเข้าใจระบบนิเวศของป่าชายเลน และรู้จักการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า
หนึ่งในโครงการสำคัญของศูนย์คือสะพานเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามศูนย์ฯ ใช้เวลาเพียง 30-45 นาทีในการเดินบนเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 1,600 เมตร โดยมีจุดสื่อความหมายธรรมชาติตามบริเวณต่าง ๆ แสดงให้เห็นถึงแหล่งอาหารธรรมชาติและแหล่งสมุนไพรที่สำคัญสำหรับชุมชนรอบพื้นที่ การดำเนินงานในด้านการบริหารงบประมาณ การจัดทำโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่า รวมถึงการมีส่วนร่วมของชุมชน ท้องถิ่น และองค์กรต่าง ๆ ทำให้ป่าที่เคยถูกบุกรุกกลับคืนสู่สภาพธรรมชาติเดิม ระบบนิเวศมีความสมบูรณ์มากขึ้น และสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ เช่น กระจงและเก้ง มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
การฟื้นฟูและการอนุรักษ์ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบนส่งผลดีต่อระบบนิเวศทางธรรมชาติ การดำรงชีวิตของชาวบ้าน และการปรับเปลี่ยนทัศนคติของชุมชนและท้องถิ่นให้รักและหวงแหนทรัพยากรธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งชมรมอนุรักษ์ต่าง ๆ เช่น ชมรมอนุรักษ์คุ้งกระเบน ชมรมอนุรักษ์ปะการัง และหมู่บ้านพิทักษ์รักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนการอนุรักษ์อย่างต่อเนื่อง ผลงานที่โดดเด่นเหล่านี้ทำให้เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบนได้รับรางวัล "ด้านการจัดการและอนุรักษ์สัตว์ป่าดีเด่น" อันดับ 1 ประจำปี พ.ศ. 2549 นับเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทั้งในด้านการอนุรักษ์ธรรมชาติ การศึกษาวิจัย และการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างแท้จริง
จากความสำเร็จของโครงการอนุรักษ์ป่าคุ้งกระเบน ทำให้ผู้ที่มาเยี่ยมชมไม่เพียงแต่ได้สัมผัสความงดงามของธรรมชาติและสัตว์ป่าเท่านั้น แต่ยังได้เรียนรู้ระบบนิเวศและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน อีกทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจให้ชุมชนใกล้เคียงเห็นคุณค่าและร่วมมือในการอนุรักษ์ธรรมชาติให้คงอยู่ต่อไป ทำให้เขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบนกลายเป็นตัวอย่างที่สำคัญของการฟื้นฟูป่าและการพัฒนาระบบนิเวศชายฝั่งในประเทศไทย
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage
























หมวดหมู่:
กลุ่ม:
ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
พระราชวัง(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
พิพิธภัณฑ์(
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
ไร่ สวนเพื่อการศึกษา(
มหาวิทยาลัย
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
วัด(
โบสถ์(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ดอย และภูเขา(
เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(
น้ำตก(
น้ำพุร้อน(
ถ้ำ(
แม่น้ำลำคลอง(
อ่าว และชายหาด(
หมู่เกาะ(
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(
สนามกีฬา(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย(