อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว

อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว

อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
Rating: 3.5/5 (4 votes)
แผนที่ แผนที่ แผนที่ มีแผนที่ มีแผนที่ ไม่มีแผนที่ ไม่มีแผนที่

สถานที่ท่องเที่ยวจันทบุรี

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย

วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.30 - 17.30 น.
 
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ขึ้นชื่อและมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกของประเทศไทย ด้วยพื้นที่กว้างขวางกว่า 134.50 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 84,063 ไร่ อุทยานแห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่หลายตำบลของอำเภอเมืองจันทบุรี อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง และอำเภอมะขาม ลักษณะภูมิประเทศประกอบด้วยผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์และเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน ทำให้ภูมิอากาศในบริเวณนี้เย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี พื้นที่มีระดับความสูงจากน้ำทะเลเฉลี่ยตั้งแต่ 20 เมตร ไปจนถึงยอดเขามาบหว้ากรอกซึ่งสูงถึง 924 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถือเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญที่ก่อให้เกิดลำธารและน้ำตกหลายสายที่ไหลหล่อเลี้ยงผู้คนและสิ่งแวดล้อมของจันทบุรีมาช้านาน อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 14 กิโลเมตร และด้วยการคมนาคมที่สะดวกสบายจากถนนลาดยางที่เชื่อมถึงโดยตรง นักท่องเที่ยวจึงนิยมเดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจอย่างไม่ขาดสาย
 
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วได้รับการประกาศจัดตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2518 และนับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 11 ของประเทศไทย ในช่วงแรกถูกตั้งชื่อว่าอุทยานแห่งชาติเขาสระบาปตามชื่อเทือกเขาในพื้นที่ แต่ต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วเมื่อปี 2525 ตามข้อเสนอของหัวหน้าอุทยานในสมัยนั้น คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติได้ลงมติเห็นชอบ เนื่องจากน้ำตกพลิ้วเป็นสัญลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของพื้นที่และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ คำว่า “พลิ้ว” มีรากศัพท์มาจากภาษาชอง ภาษาของชนเผ่าพื้นถิ่นในพื้นที่เดิม แปลว่าทรายหรือหาดทราย ซึ่งสอดคล้องกับสภาพทางธรรมชาติของลำน้ำตกที่ไหลผ่านดินทรายและโขดหินตลอดทั้งปี
 
สภาพภูมิอากาศของอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วแบ่งออกเป็น 3 ฤดูกาลที่ชัดเจน ฤดูร้อนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน อากาศค่อนข้างร้อนแต่ไม่ถึงกับแห้งแล้งเนื่องจากยังคงมีสายน้ำตกที่ไหลเย็นสดชื่นตลอดปี ฤดูฝนเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม เป็นช่วงที่ฝนตกชุกและมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยสูงถึง 3,000 มิลลิเมตรต่อปี ทำให้น้ำตกมีความงดงามและทรงพลังที่สุด ส่วนฤดูหนาวระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายที่สุดและเหมาะแก่การท่องเที่ยวที่สุด อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 26 องศาเซลเซียส
 
สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจของอุทยานคือ น้ำตกพลิ้ว น้ำตกแห่งนี้มีความสวยงามตระการตาและมีน้ำใสสะอาดตลอดทั้งปี ลักษณะของน้ำตกประกอบด้วยสองสายธารที่แตกต่างกัน สายหนึ่งไหลลดหลั่นผ่านซอกหินผาสูง ส่วนอีกสายมีขนาดเล็กกว่าแต่ตกลงมาจากหน้าผาสูงกว่า 20 เมตร ทั้งสองสายมาบรรจบกันที่แอ่งน้ำใสลึกกว่า 2 เมตรจนสามารถมองเห็นพื้นหินและทรายด้านล่างได้อย่างชัดเจน นักท่องเที่ยวที่มาถึงต่างต้องตื่นตาตื่นใจกับฝูงปลาพลวงหินนับพันที่อาศัยอยู่ในแอ่งน้ำ เป็นภาพที่สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือนเสมอ น้ำตกพลิ้วยังมีบรรยากาศที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และพืชพรรณป่านานาชนิดที่ขึ้นเขียวชอุ่มตลอดทั้งปี ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกผ่อนคลายเมื่อได้สัมผัส
 
นอกจากความงดงามของธรรมชาติแล้ว อุทยานแห่งนี้ยังเต็มไปด้วยโบราณสถานและอนุสรณ์สถานที่เกี่ยวพันกับพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต โดยเฉพาะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ซึ่งโปรดปรานและทรงเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้วหลายครั้ง พระองค์ถึงกับมีพระราชดำรัสว่าแม้จะเคยเห็นน้ำตกในปีนัง เกาะช้าง และสีพยา แต่ไม่มีที่ใดจะงามเท่าที่นี่เลย และสามารถนั่งชมได้ทั้งวันอย่างไม่รู้เบื่อ พระองค์พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ได้โปรดให้สร้างเจดีย์ศิลาแลงขึ้นเมื่อปี 2419 เพื่อเป็นที่ระลึกในการเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้ว โดยพระราชทานนามว่า “อลงกรณ์เจดีย์” ต่อมากรมศิลปากรได้ตรวจสอบหลักฐานและปรับเปลี่ยนชื่อเป็น “จุลศิรจุมพฏเจดีย์” เพื่อความถูกต้องทางประวัติศาสตร์
 
อีกหนึ่งอนุสรณ์สถานสำคัญคือ ปิรามิดพระนางเรือล่ม หรือที่รู้จักกันว่า สุนันทานุสาวรีย์ สร้างขึ้นในปี 2424 ภายหลังการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี จากเหตุการณ์เรือพระประเทียบล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา อนุสรณ์สถานแห่งนี้สร้างด้วยหินแกรนิตทรงพีระมิดเพื่อเป็นที่ระลึกถึงความรักความผูกพันของพระพุทธเจ้าหลวงที่ทรงมีต่อพระมเหสีผู้เป็นที่รัก ภายในยังบรรจุพระอังคารส่วนหนึ่งของพระนางเจ้าสุนันทาฯ เอาไว้ ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักนิรันดร์ที่ทำให้น้ำตกพลิ้วไม่เพียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ แต่ยังเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนถึงความผูกพันระหว่างพระมหากษัตริย์และพระราชินีอีกด้วย
 
นอกเหนือจากน้ำตกพลิ้วที่ตั้งอยู่ใกล้ที่ทำการอุทยานเพียง 200 เมตรแล้ว บริเวณโดยรอบยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง น้ำตกคลองนารายณ์หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าน้ำตกเขาสระบาป อยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 8 กิโลเมตร น้ำตกแห่งนี้มีความสูงกว่า 25 เมตร และตั้งอยู่ท่ามกลางป่าที่สมบูรณ์ร่มรื่น เส้นทางเดินเท้าเพื่อตามหาสายน้ำต้องผ่านป่าไม้หนาทึบที่ยังคงความงดงามตามธรรมชาติ เป็นจุดที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสความเงียบสงบและเลือกพักแรมท่ามกลางบรรยากาศของธรรมชาติอย่างแท้จริง
 
อีกหนึ่งน้ำตกที่ได้รับความนิยมคือ น้ำตกตรอกนอง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของน้ำตกพลิ้ว ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 26 กิโลเมตร การเดินทางสามารถใช้เส้นทางสุขุมวิทจากจันทบุรีไปยังอำเภอขลุง เมื่อถึงสี่แยกแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทางอำเภอมะขามอีก 10 กิโลเมตร จากนั้นเลี้ยวเข้าหมู่บ้านตรอกนองแล้วขับต่อไปอีกเพียง 2 กิโลเมตรก็จะถึงที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยาน น้ำตกตรอกนองมีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นแรกเรียกว่าน้ำตกไม้ซี้ อยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์เพียง 500 เมตร โดยเส้นทางเดินเท้าผ่านอุโมงค์ป่าไผ่ยาวกว่า 50 เมตร ชั้นที่สองคือน้ำตกกลาง ซึ่งอยู่ห่างไปอีก 1 กิโลเมตร รายล้อมด้วยพันธุ์ไม้และดอกไม้ป่านานาชนิด ส่วนชั้นที่สามคือน้ำตกตรอกนองซึ่งสูงประมาณ 20 เมตร ตั้งอยู่ห่างจากชั้นที่สองอีก 1 กิโลเมตร การเดินทางไปยังชั้นบนสุดจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่อุทยานนำทาง เนื่องจากเส้นทางค่อนข้างยากลำบากและอันตราย แต่หากได้ไปถึงจะได้สัมผัสความงามของธรรมชาติในแบบที่ไม่สามารถหาพบได้ง่ายนัก
 
ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าในอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วทำให้ที่นี่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของพืชและสัตว์นานาชนิด ไม้ป่าที่พบได้บ่อย ได้แก่ ขนุนป่า กระท้อนป่า และต้นพิมเสนที่ขึ้นทั่วไป สัตว์ป่าที่พบบ่อยคือหมูป่า เลียงผา พังพอน กระแต หมีควาย ชะนี และลิงหลายสายพันธุ์ ส่วนในลำน้ำตกและลำธารเต็มไปด้วยปลา เช่น ปลาพลวงหินซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำของที่นี่ รวมถึงปลาดุก ปลาฉาก และพันธุ์ปลาน้ำจืดอีกมากมาย
 
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างครบครัน ทั้งบ้านพักจำนวน 4 หลังที่สามารถรองรับได้หลังละ 6 คน ราคาคืนละ 1,800 บาท ค่ายพักแรมขนาดใหญ่รองรับได้ 30 คนในราคา 3,000 บาท และบริการให้เช่าเต็นท์พักแรมหลากหลายขนาด เช่น เต็นท์สำหรับ 2 คน ราคา 270 บาท เต็นท์ขนาดกลางรองรับ 3-6 คน ราคาตั้งแต่ 250-500 บาทต่อคืน อีกทั้งยังเปิดพื้นที่สำหรับนักท่องเที่ยวที่นำเต็นท์มาเองโดยเสียค่าบริการเพียง 30 บาทต่อคนต่อคืน ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสะดวกสบายและผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัยท่ามกลางธรรมชาติ ค่าเข้าชมอุทยานก็ยังเป็นราคาที่เหมาะสม โดยนักท่องเที่ยวชาวไทยผู้ใหญ่จ่ายเพียง 40 บาท เด็ก 20 บาท ส่วนชาวต่างชาติผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
 
การเดินทาง สู่อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วทำได้อย่างง่ายดายจากตัวเมืองจันทบุรี เพียง 14 กิโลเมตร โดยใช้ถนนสุขุมวิทสายจันทบุรี-ขลุง ไปจนถึงกิโลเมตรที่ 346 จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางแยกอีกเพียง 2 กิโลเมตรก็จะถึงที่ทำการอุทยาน นักท่องเที่ยวที่ไม่สะดวกขับรถยนต์ส่วนตัวสามารถเลือกใช้บริการรถสองแถวสายจันทบุรี-น้ำตกพลิ้ว ค่าโดยสารเพียง 30 บาท ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่เข้าถึงได้ง่ายทั้งสำหรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่และผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด
 
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วจึงไม่เพียงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความงดงามทางธรรมชาติ หากแต่ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกับพระมหากษัตริย์และวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น สายน้ำที่ไหลเย็นและปลาพลวงหินนับพันตัวที่แหวกว่ายในแอ่งน้ำใส ความเขียวขจีของผืนป่าที่ห่อหุ้มภูเขาสูงสลับซับซ้อน และร่องรอยแห่งความรักของพระพุทธเจ้าหลวงและพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่พิเศษที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด หากต้องการสัมผัสธรรมชาติที่บริสุทธิ์ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วคือหนึ่งในจุดหมายที่ตอบโจทย์อย่างสมบูรณ์แบบ
เว็ปไซต์เว็ปไซต์: www.dnp.go.th
โทรโทร: 039434528, 025620760
แผนที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว แผนที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว
คำค้นคำค้น: อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้วอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว น้ำตกพลิ้ว จันทบุรี เที่ยวจันทบุรี ท่องเที่ยวธรรมชาติ น้ำตกจันทบุรี ปลาพลวงหิน อลงกรณ์เจดีย์ ปิรามิดพระนางเรือล่ม น้ำตกคลองนารายณ์ น้ำตกตรอกนอง อุทยานแห่งชาติภาคตะวันออก แหล่งท่องเที่ยวจันทบุรี
ปรับปรุงล่าสุดปรับปรุงล่าสุด: 1 เดือนที่แล้ว


แสดงความเห็น

แสดงความเห็น




คำค้น (ขั้นสูง)
   
Email :
  รหัสผ่าน :
  สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน
 

Facebook Fanpage Facebook Fanpage

 

ภูมิภาค ภูมิภาคhttps://www.lovethailand.org/

ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(7)

แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(7)

พระราชวัง พระราชวัง(1)

ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(7)

พิพิธภัณฑ์ พิพิธภัณฑ์(2)

สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ

ไร่ สวนเพื่อการศึกษา ไร่ สวนเพื่อการศึกษา(5)

มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัย

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์

วัด วัด(25)

โบสถ์ โบสถ์(1)

สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(16)

โครงการในพระราชดำริ โครงการในพระราชดำริ

โครงการหลวง โครงการหลวง(1)

วิถีชีวิต วิถีชีวิต

หมู่บ้าน ชุมชน หมู่บ้าน ชุมชน(4)

ตลาดท้องถิ่น ตลาดท้องถิ่น(5)

ธรรมชาติ และสัตว์ป่า ธรรมชาติ และสัตว์ป่า

อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล(7)

ดอย และภูเขา ดอย และภูเขา(3)

เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(8)

น้ำตก น้ำตก(21)

น้ำพุร้อน น้ำพุร้อน(1)

ถ้ำ ถ้ำ(4)

แม่น้ำลำคลอง แม่น้ำลำคลอง(3)

อ่าว และชายหาด อ่าว และชายหาด(9)

หมู่เกาะ หมู่เกาะ(2)

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(3)

บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(3)

สนามกีฬา สนามกีฬา(1)

ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(7)

กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย(3)