วัดพลับ

Rating: 4/5 (5 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวจันทบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.30 - 16.30 น.
วัดพลับ ตั้งอยู่ที่ตำบลบางกะจะ อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยกรมศิลปากรตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของวัดแห่งนี้
วัดพลับ มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนปลาย โดยเดิมชื่อว่า วัดพลับสุวรรณพิมพราราม ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น วัดสุวรรณติมพรุธาราม มีความหมายว่า “วัดพลับทอง” และต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดพลับ ภายในประวัติศาสตร์ของวัดมีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อปี พ.ศ. 2310 หลังกรุงศรีอยุธยาล่มสลาย พระองค์ได้ตั้งทัพที่ภาคตะวันออกและใช้วัดพลับเป็นที่พักทัพ รวมถึงเป็นสถานที่เตรียมกองทัพก่อนเข้าตีเมืองจันทบุรี พระองค์ยังทรงประกอบพิธีบำรุงขวัญทหาร สร้างพระยอดธงแจกจ่ายทหาร และนำน้ำจากบ่อน้ำภายในวัดมาทำเป็นน้ำพระพุทธมนต์สำหรับประพรมเหล่าทหาร โดยพิธีทั้งหมดกระทำภายในอุโบสถหลังเก่า
หลังจากที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชสามารถกอบกู้กรุงศรีอยุธยากลับคืนได้ พระองค์พร้อมด้วยแม่ทัพนายกองได้เสด็จกลับมาบูรณะวัดพลับอีกครั้ง และได้นำพระยอดธงที่เหลือจากการแจกจ่ายทหารเข้าบรรจุในพระเจดีย์กลางน้ำเป็นพุทธบูชา
วัดพลับ ยังมีบทบาทด้านการศึกษา โดยได้ให้ทางราชการตั้งโรงเรียนประถมศึกษาวัดพลับจันทบุรชีบาอุทิศ และโรงเรียนบางกะจะ รวมถึงศูนย์เด็กเล็กก่อนวัยเรียนอีก 1 แห่ง และในปี พ.ศ. 2543 กรมการศาสนาได้ประกาศให้วัดพลับเป็นอุทยานการศึกษาในวัด
สิ่งก่อสร้างและเสนาสนะภายในวัดมีความงดงามและมีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ อุโบสถหลังเก่าได้รับการปฏิสังขรณ์หลายครั้ง หน้าบันประดับลวดลายปูนปั้นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑ หลังคาตกแต่งด้วยเครื่องลำยองปูนปั้น และเคยเป็นสถานที่ปลุกเสกมุรธาภิเษกในพระพิธีพระบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ราชวงศ์จักรีทุกพระองค์ อุโบสถสร้างใหม่ในปี พ.ศ. 2506 และปฏิสังขรณ์อีกครั้งในปี พ.ศ. 2533 ด้านหลังพระประธานภายในมีพระพุทธรูปเก่าแก่ที่เชื่อว่าสร้างตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เจดีย์ทรงระฆังตั้งอยู่กลางน้ำ เป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนกลาง สูงประมาณ 7 เมตร ตัวองค์ระฆังก่ออิฐถือปูนไม่ประดับกระเบื้อง มีฐานประทักษิณรอบสี่ด้าน ได้รับการปฏิสังขรณ์โดยกรมศิลปากรเสร็จในเดือนมกราคม พ.ศ. 2552 หอไม้ทรงไทยตั้งอยู่กลางสระน้ำ หลังคา 2 ชั้นทรงจั่ว โครงสร้างไม้ตกแต่งด้วยเครื่องลำยอง มีระเบียงรอบหอ เสารองรับหลังคาเป็นเสาเดิมที่ยังเห็นร่องรอยการตกแต่งด้วยลายรดน้ำลงรักปิดทอง ได้รับการปฏิสังขรณ์เสร็จในเดือนเดียวกัน
พระปรางค์ สร้างในปี พ.ศ. 2441 เป็นศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ สูง 20 เมตร ตั้งอยู่บนฐานประทักษิณ 2 ชั้น มีบันไดและมุขยื่นทั้งสี่ด้าน ส่วนยอดของพระปรางค์ซ้อนชั้น ประดับด้วยองค์พระปรางค์เล็กที่ฐานเชิงบาตรรองรับประดับด้วยเศียรช้างทั้งสี่ทิศ และยอดสุดประดับตรีศูล ได้รับการบูรณะในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550
วิหารไม้ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส่วนยอดหลังคาทรงจัตุรมุข มีเจดีย์ขนาดเล็กประดับบนยอดหลังคา เครื่องลำยองแกะสลักสวยงามตกแต่งทั้งหลังคาและช่องลมทั้งสี่ด้าน ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางทุกรกิริยา วิหารไม้แห่งนี้ได้รับการปฏิสังขรณ์เสร็จในเดือนเมษายน พ.ศ. 2556 นอกจากนี้วัดยังมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์และอนุสรณ์สถานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
วัดพลับ ตั้งอยู่ห่างจากค่ายเนินวงประมาณ 1 กิโลเมตร โดยมีป้ายบอกทางเข้าชัดเจน จากหลักฐานทางโบราณคดี สันนิษฐานว่าพื้นที่ชุมชนรอบวัดพลับและบ้านบางกะจะมีอายุราวปี พ.ศ. 2300 และเป็นบริเวณที่กองทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชใช้พักไพร่พล
สิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจภายในวัดประกอบด้วย ตู้พระไตรปิฎกไม้ลงรักปิดทองเขียนลายรดน้ำศิลปะแบบอยุธยาตอนปลาย เจดีย์ทรงปรางค์สร้างปี พ.ศ. 2441 หอไตรกลางน้ำอาคารไม้เก่าแก่กว่าอยุธยาตอนปลาย เจดีย์กลางน้ำทรงระฆังในรูปแบบสมัยรัตนโกสินทร์ และวิหารไม้หลังคาทรงจัตุรมุขที่มีอายุนับร้อยปี ภายในประดิษฐานพระประธานปางทุกรกิริยาที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสิน และอุโบสถยังเคยใช้เป็นสถานที่ปลุกเสกมุรธาภิเษกในสมัยต้นราชวงศ์จักรี
ด้านหลังวัดเคยมี “สำซ่าง” หรือสถานที่เผาศพแบบโบราณที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในปัจจุบัน เป็นหลังคาลดชั้น 5 ชั้น ยอดแหลมมุงด้วยกระเบื้องเกล็ดเต่า แต่ปัจจุบันตัวอาคารพังทลายลงแล้ว ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงคุณค่าและความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปกรรม และวัฒนธรรมของวัดพลับอย่างชัดเจน ทำให้วัดพลับเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวและผู้สนใจประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนจังหวัดจันทบุรี
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage
























หมวดหมู่:
กลุ่ม:
ศิลปะ วัฒนธรรม และแหล่งมรดก
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
พระราชวัง(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
พิพิธภัณฑ์(
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
ไร่ สวนเพื่อการศึกษา(
มหาวิทยาลัย
โบสถ์(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ธรรมชาติ และสัตว์ป่า
อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตอนุรักษ์ทางทะเล(
ดอย และภูเขา(
เขื่อน พื้นที่อนุรักษ์ ทะเลสาบ(
น้ำตก(
น้ำพุร้อน(
ถ้ำ(
แม่น้ำลำคลอง(
อ่าว และชายหาด(
หมู่เกาะ(
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
สวนสัตว์ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ(
สนามกีฬา(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย(