Rating: 3.3/5 (6 votes)
วัดหนองบัวเจ้าป่า
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
วัดหนองบัวเจ้าป่า หมู่ 5 ตำบลสตึก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ในอดีตบริเวณริมแม่น้ำมูลแห่งนี้กลุ่มคนชาวไทยกวยที่อพยพมาจากจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความชำนาญในการจับช้างมาตั้งรกรากอยู่
หลังจากที่โขลงช้างป่าได้อพยพหนีไปอยู่เขตเขาใหญ่ ประกอบกับการเพิ่มของผู้อาศัยหลายครัวเรือนขยายจนเป็นหมู่บ้าน จนในปี พ.ศ. 2450 ชาวบ้านได้จัดสร้างที่พักสงฆ์ขึ้นโดยการนำของ นายนวน กานะ ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน
โดยได้จัดสร้างวัดใกล้หนองบัว จึงได้ชื่อว่า “วัดหนองบัวเจ้าป่า” ซึ่งในการสร้างอุโบสถนี้ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2488 โดยมีพระครูสุจิตต์ ธรรมประหัฏฐ์ (หลวงพ่อเฮา) ตำแหน่งเจ้าอาวาส (พ.ศ. 2486 – 2496) เจ้าคณะอำเภอและรองเจ้าคณะจังหวัดในขณะนั้นเป็นผู้นำ
โดยได้รับความร่วมแรงร่วมใจ มีจิตศรัทธาและบริจาคทรัพย์จากชาวบ้านใกล้เคียง ได้แก่ บ้านขาม บ้านคูขาด บ้านหนองไผ่ บ้านสะกระจาย ร่วมก่อสร้างเริ่มจากการปรับพื้นที่ ถางป่าไผ่ ถมดิน (นายโสม สายสร้อย กล่าวว่าอุโบสถสร้างค่อมตอต้นโพธิ์)
โดยช่วยกันขนดินตลิ่งแม่น้ำมูลมาถม ใช้ไม่ไผ่มาทำเป็นไม้ทุบหน้าดินเพื่อให้ดินแน่น ส่วนตัวอุโบสถได้ว่าจ้างช่างชาวญวนที่มีฝีมือทางช่างก่อสร้างถนัดงานปูนเป็นผู้ก่อสร้าง (เนื่องจากคนในชุมชนไม่มีผู้ใดถนัดด้านงานก่อสร้าง) ขั้นตอนการก่อสร้างของช่างญวนเริ่มจากการเผาอิฐ โดยใช้พื้นที่ที่ไกลออกจากหมู่บ้านเล็กน้อย (บริเวณที่ตั้งเมรุในปัจจุบัน) เป็นบริเวณเผา
เมื่อเผาเสร็จชาวบ้านได้ช่วยกันหาบมาไว้บริเวณสถานที่ก่อสร้าง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ช่าง และร่นระยะเวลาที่ใช้ในการก่อสร้าง สีที่ใช้ในการทาผนังภายนอกอุโบสถใช้เปลือกหอยนำมาเผาแล้วตำให้ละเอียดผสมกับสี ทำให้มีความคงทนของสี
โดยใช้งบประมาณในการก่อสร้างครั้งนั้นประมาณ 8,000 บาท (พระครูอนุรักษ์ สิริธรรม, 2549, มิถุนายน 20) จากนั้นก็ได้มีการฉลองอุโบสถขึ้นในปี พ.ศ. 2490 เป็นเวลา 2 วัน 2 คืน (ทองดี ศรีสง่า, 2549, มิถุนายน 20) และได้ถือเป็นอุโบสถสำคัญของชุมชนและชุมชนใกล้เคียงที่ใช้ในการประกอบสังฆกรรมตั้งแต่นั้นมา
ประวัติการซ่อมแซมบูรณะ ในปี พ.ศ. 2523 พระครูอนุรักษ์ ชลาชัย (หลวงพ่อหมอ) ตำแหน่งเจ้าอาวาส ได้มีการซ่อมแซมส่วนหลังคาของอุโบสถที่ชำรุด โดยทำการเปลี่ยนวัสดุมุงหลังคาจากแผ่นกระเบื้องซีเมนต์หางว่าวเป็นแผ่นสังกะสี
ส่วนตัวอาคารยังไม่มีประวัติการซ่อมแซมใด ๆ นอกจากการถมดินรอบ ๆ อาคารสูงเท่ากับความสูงหนึ่งขั้นบันได และปัจจุบันอยู่ระหว่างการบูรณะโดยเป็นโครงการอนุรักษ์ของกรมโยธาธิการ ทหารบก กระทรวงกลาโหม โดยมีการให้เจ้าหน้าที่ของกรมศิลปากรมาสำรวจและวางแผนการอนุรักษ์
ลักษณะทางสถาปัตยกรรม เป็นอุโบสถทึบพื้นบ้านแบบมีมุขหน้าเป็นอาคารชั้นเดียวขนาด 4 ห้อง สร้างโดยช่างญวน ผังพื้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้างประมาณ 4.84 เมตร (1 ช่วงเสา) ยาวประมาณ 8.36 เมตร (4 ช่วงเสา) มีมุขลดด้านหน้า ขนาดกว้าง 1.64 เมตร ยาว 2.53 เมตร ฐานปัทม์ ยกสูงกว่าระดับดิน
มีบันไดขึ้นทางด้านหน้า จำนวน 3 ขั้น ตัวอุโบสถ โครงสร้างเสา - คาน ก่อผนังอิฐฉาบปูนภายในฉาบทับเสาไม้ ภายนอกฉาบปูนทับเสาไม้ และเขียนสี หลังคาทรงจั่วเปิด มีลักษณะสองซ้อน ๆ ละสองตับ และมีหลังคาลดที่คลุมมุขลดด้านหน้าที่มีลักษณะสองตับ มีส่วนประดับหน้าบัน ลักษณะเครื่องลำยอง ประกอบด้วย ช่อฟ้า ตัวลำยอง ใบระกา นาคสะดุ้ง และหางหงส์
สภาพอาคารในปัจจุบันปรากฏรอยแตกร้าวของผนังจากแนวเสา เริ่มปรากฏเมื่อ 20 ปีก่อน) และหลังคารั่ว การใช้สอย พื้นที่ใช้สอยภายในอาคารขนาดกว้างประมาณ 3.70 เมตร ยาวประมาณ 7.20 เมตร (26.64 ตารางเมตร) อุโบสถหลังนี้ยังคงใช้ประกอบสังฆกรรมตามปกติ แต่จำกัดจำนวนผู้เข้าไปในโบสถ์ มิให้มีจำนวนมากเกินไปเนื่องจากสภาพของอาคารที่มีการชำรุด
หมวดหมู่: สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
กลุ่ม: วัด
ปรับปรุงล่าสุด : 7 ปีที่แล้ว