วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์

วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ ตั้งอยู่ในอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง เป็นวัดที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ด้วยภาพของเจดีย์สีขาวองค์เล็ก ๆ ที่เรียงรายอยู่บนยอดเขาสูงเสียดฟ้า ท่ามกลางขุนเขาเขียวชอุ่มของเทือกเขาดอยพระบาท ภาพของเจดีย์เหล่านี้ดูราวกับลอยอยู่กลางเวหา เป็นภาพที่สวยงามเกินคำบรรยายและสะท้อนให้เห็นถึงพลังศรัทธาของมนุษย์ที่สามารถแปรเปลี่ยนพื้นที่บนยอดเขาสูงชันให้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อันเลอค่าได้อย่างน่าอัศจรรย์

 

เดิมพื้นที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของวัดพระพุทธบาทปู่ผาแดง โดยมีรอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่บนยอดเขา เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านในอำเภอแจ้ห่มให้ความเคารพมาอย่างยาวนาน แต่ด้วยสภาพภูมิประเทศที่ทุรกันดารและยังไม่มีถนนตัดผ่าน การเดินทางขึ้นไปสักการะต้องใช้วิธีเดินเท้าผ่านป่ารกชันและหน้าผาสูงชัน หลวงพ่อไพบูลย์ สุมังคโล หรือพระเทพวิสุทธิญาณ เจ้าอาวาสวัดอนาลโยทิพยาราม จังหวัดพะเยา ได้เดินทางมาสักการะรอยพระพุทธบาทด้วยการเดินเท้าเช่นกัน ความศรัทธาอันแรงกล้าของท่านจึงเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการสร้างวัดขึ้นบนยอดเขาแห่งนี้

 

ต่อมาในปีพุทธศักราช 2547 ซึ่งตรงกับวาระครบ 200 ปีวันพระราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 คณะสงฆ์จึงมีมติให้สถาปนาวัดขึ้นใหม่เพื่อถวายเป็นราชานุสรณ์แด่พระองค์ท่าน พร้อมตั้งชื่อว่า วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทย

 

บริเวณวัดส่วนล่างเป็นที่ตั้งของอุโบสถและเจดีย์ มีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ภายใน เป็นพระพุทธรูปจำลองของพระนิรันตราย ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปประจำพระองค์ของรัชกาลที่ 4 ตัวอุโบสถสร้างตามแบบศิลปะล้านนา มีหลังคาลดหลั่นสองชั้นและสิงห์คู่ยืนเฝ้าทางเข้าลานอุโบสถ สะท้อนให้เห็นถึงความงดงามและสง่างามของสถาปัตยกรรมภาคเหนือได้อย่างชัดเจน

 

การเดินทางขึ้นสู่ยอดเขาที่ประดิษฐานเจดีย์สีขาว ต้องนั่งรถบริการของชาวบ้านจากลานจอดรถด้านล่าง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ผ่านเส้นทางลาดชันและแคบ จากนั้นเดินเท้าขึ้นบันไดอีกราว 300 ขั้น ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินราว 30 นาที ควรเตรียมน้ำดื่มให้พร้อม รถบริการเริ่มตั้งแต่เวลา 07.00 น. และไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวขึ้นเขา

 

เมื่อขึ้นถึงยอดเขา พื้นที่จะถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งขวาเป็นทางขึ้นสู่องค์พระธาตุสีทอง โดยต้องเดินขึ้นบันไดเล็ก ๆ ที่ค่อนข้างชัน เมื่อขึ้นไปถึงจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพของอำเภอแจ้ห่มและบริเวณวัดด้านล่างได้อย่างสวยงาม อีกฝั่งหนึ่งคือศาลาสวดมนต์ ซึ่งไม่มีพระจำวัดอยู่ถาวร แต่จะใช้เป็นสถานที่ทำวัตรในวันแรม 8 ค่ำของทุกเดือน บริเวณศาลานี้ยังเป็นจุดชมวิวอีกแห่งที่โดดเด่น มองเห็นเจดีย์สีขาวตั้งเรียงรายบนสันเขา มองไปเบื้องหน้าเป็นทิวทัศน์ของอำเภอแจ้ห่ม ส่วนเบื้องหลังคือเจดีย์สีขาวองค์เล็กองค์น้อยที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมหน้าผาราวกับภาพในจินตนาการ

 

สิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวทึ่งที่สุด คือภาพของเจดีย์สีขาว 5 องค์ ที่ตั้งอยู่ริมชะง่อนผาสูง มองจากระยะไกลก็ยังสัมผัสได้ถึงความยากลำบากในการก่อสร้าง แม้แต่คนธรรมดาเดินขึ้นไปยังต้องใช้แรงกายอย่างมาก แต่ช่างฝีมือกลับสามารถสร้างเจดีย์ได้อย่างงดงามสมบูรณ์แบบด้วยแรงศรัทธาและความเพียรพยายาม สะท้อนให้เห็นถึงพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของมนุษย์ที่สามารถเปลี่ยนความเป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นความจริงได้อย่างน่าอัศจรรย์

 

สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังวัดแห่งนี้ จากตัวเมืองลำปางให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 1035 ไปยังอำเภอแจ้ห่ม เมื่อถึงตัวอำเภอให้เลยไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร จะพบทางแยกซ้ายมือบริเวณโค้งพอดี มีซุ้มประตูเขียนว่าเข้าหมู่บ้านใหม่เหล่ายาว ให้เลี้ยวเข้าไปประมาณ 200 เมตร จะมีทางแยกอีกครั้งให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายบอกทางไปวัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ เส้นทางเป็นถนนคอนกรีตที่ดี ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร ตลอดทางสามารถมองเห็นยอดเขาสูงตระหง่านพร้อมเจดีย์สีขาวปรากฏเป็นฉากหลังที่ยิ่งใหญ่

 

วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์จึงไม่ใช่เพียงแค่จุดหมายของนักท่องเที่ยว หากแต่เป็นอนุสรณ์แห่งศรัทธาและจิตวิญญาณที่สะท้อนความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างศิลปะ ความเชื่อ และธรรมชาติได้อย่างงดงามเหนือคำบรรยาย เป็นสถานที่ที่ควรไปเยือนสักครั้งในชีวิตเพื่อสัมผัสพลังแห่งความสงบและศรัทธาด้วยตนเอง