
วัดพิพัฒน์มงคล

Rating: 3.7/5 (6 votes)




สถานที่ท่องเที่ยวสุโขทัย
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
วัดพิพัฒน์มงคล ตั้งอยู่เลขที่ 464 หมู่ที่ 9 บ้านท่าชุม ตำบลทุ่งเสลี่ยม อำเภอทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย เป็นวัดสำคัญที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของวัดร้างเดิมกลางทุ่งบ้านท่าชุม และสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ห่างจากที่ว่าการอำเภอทุ่งเสลี่ยมเพียงประมาณ 3 กิโลเมตร วัดแห่งนี้มีความสำคัญทั้งในแง่ประวัติศาสตร์ โบราณคดี และการปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชน ภายในวัดประกอบด้วยอาคารเสนาสนะที่หลากหลาย อาทิ รัตนอุโบสถ พุทธวิหารลายคำ เจดีย์ อาคารสุวรรณหอคำหลวง กุฏิสงฆ์ ศาลาการเปรียญ ศาลาอบรมธรรม ศาลาอเนกประสงค์ อาคารเรียนพระปริยัติธรรม ศาลาราย โรงครัว พุทธมณฑจำลอง และสวนปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ การจัดวางอาคารเหล่านี้ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและเน้นความสงบร่มรื่นของพื้นที่เพื่อเอื้อต่อการศึกษาพระธรรมและปฏิบัติธรรมของพระภิกษุและประชาชน
วัดพิพัฒน์มงคลมีปูชนียวัตถุที่มีคุณค่าและความสำคัญทางประวัติศาสตร์หลายประการ ภายในบริเวณวัดพบพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยหลายสิบองค์ รวมถึงพระพุทธรัตนมณีที่ขุดพบได้ในบริเวณที่สร้างวัด นอกจากนี้ยังมีพระบรมสารีริกธาตุซึ่งได้รับการอัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา วัตถุโบราณเหล่านี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในอดีตเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจให้แก่ชาวบ้านและผู้ที่มาปฏิบัติธรรม
ก่อนที่จะกลายเป็นวัดที่มีความสำคัญในปัจจุบัน พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นป่ารกร้างกลางทุ่ง มีซากฐานพระเจดีย์ ฐานพระอุโบสถ และโบราณวัตถุต่างๆ ที่บรรจุอยู่ในกรุพระเจดีย์ ทำให้สันนิษฐานได้ว่าเคยเป็นอารามหลวงมาก่อน โดยอาจสร้างขึ้นในสมัยเวียงมอก ประมาณปี พ.ศ. 1672 นับจนถึงปัจจุบันพื้นที่นี้มีอายุกว่า 881 ปี ในช่วงเวลาที่ผ่านมา พื้นที่วัดยังคงเป็นเพียงป่ารกร้างจนกระทั่งพระครูวรคุณประยุต เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ขณะเดินจาริกธุดงค์ผ่านมาและได้พักปักกลดบริเวณนี้ จากนั้นจึงได้เริ่มบูรณะและก่อสร้างวัดขึ้นใหม่อย่างเป็นรูปธรรม
วัดพิพัฒน์มงคลได้รับการตั้งชื่อเป็นทางการเมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2528 จากนั้นในวันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2548 พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้วัดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา โดยกำหนดเขตวัดกว้าง 7 เมตร ยาว 35 เมตร และมีนายจาตุรนต์ ฉายแสง รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 22 ตอนที่ 66 ง การได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเป็นสิ่งยืนยันถึงความสำคัญและความศักดิ์สิทธิ์ของวัดพิพัฒน์มงคลในฐานะศูนย์กลางทางพุทธศาสนาในพื้นที่
ความสำคัญของวัดมิได้จำกัดอยู่เพียงด้านศาสนาเท่านั้น วัดพิพัฒน์มงคลยังมีบทบาทสำคัญต่อชุมชนในด้านสังคม วัฒนธรรม และการศึกษา พระครูวรคุณประยุตในฐานะเจ้าอาวาสได้นำพาชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในกิจกรรมทางศาสนาและการปฏิบัติธรรม โดยการจัดกิจกรรมอบรมธรรม การเรียนพระปริยัติธรรม และการรักษาโบราณวัตถุให้คงอยู่แก่รุ่นหลัง อีกทั้งพื้นที่วัดยังถูกพัฒนาเป็นสวนปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยสามารถเข้ามาปฏิบัติสมาธิภาวนาและศึกษาแนวทางการดำเนินชีวิตตามหลักพุทธศาสนาอย่างสงบและร่มรื่น
วัดพิพัฒน์มงคลจึงถือเป็นตัวอย่างของการฟื้นฟูวัดร้างให้กลับมาเป็นศูนย์กลางทางศาสนาและวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดสุโขทัย การที่วัดตั้งอยู่บนฐานประวัติศาสตร์เก่าแก่ และมีการขุดพบพระพุทธรูปและโบราณวัตถุต่างๆ ทำให้ผู้ที่มาเยือนสามารถสัมผัสได้ถึงความงดงามของศิลปกรรมและความศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมายาวนาน นอกจากนี้ การพัฒนาอาคารเสนาสนะที่หลากหลายและสวนปฏิบัติธรรมยังตอบสนองต่อความต้องการด้านการศึกษาพระธรรมและการปฏิบัติธรรมของประชาชนได้อย่างครบวงจร
ทุกวันนี้ วัดพิพัฒน์มงคลไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาเท่านั้น แต่ยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวและผู้สนใจประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของสุโขทัย ที่สามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ศิลปกรรมไทย และความงดงามของโบราณสถานได้อย่างเต็มอิ่ม การเดินทางมายังวัดสะดวกสบายเพราะตั้งอยู่ใกล้กับตัวอำเภอทุ่งเสลี่ยมเพียง 3 กิโลเมตร ทำให้ผู้มาเยือนสามารถเข้าเยี่ยมชมและร่วมกิจกรรมต่างๆ ของวัดได้โดยไม่ยาก
ด้วยเหตุนี้ วัดพิพัฒน์มงคลจึงถือเป็นทั้งศูนย์รวมจิตใจของชุมชนและแหล่งเรียนรู้ทางศาสนาและวัฒนธรรมไทยที่สำคัญ การผสมผสานระหว่างความเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์กับการพัฒนาสถานที่ปฏิบัติธรรมสมัยใหม่ ทำให้วัดแห่งนี้มีความโดดเด่นทั้งในด้านศาสนา ศิลปกรรม และการบริการชุมชน อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่น่าสนใจของจังหวัดสุโขทัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้ประวัติศาสตร์พุทธศาสนาไทยและสัมผัสกับบรรยากาศการปฏิบัติธรรมที่สงบและร่มรื่น
วัดพิพัฒน์มงคล ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของการเป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดสุโขทัย ทั้งในด้านการบูรณะวัตถุโบราณ การจัดกิจกรรมทางศาสนา และการเปิดโอกาสให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง ความเข้มแข็งของวัดนี้จึงไม่ได้มาจากเพียงเจดีย์และพระอุโบสถเท่านั้น แต่ยังเกิดจากความพยายามของเจ้าอาวาสและชุมชนในการสร้างวัดให้เป็นศูนย์กลางทางศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมที่สมบูรณ์แบบ นับว่าเป็นหนึ่งในวัดสำคัญที่สะท้อนถึงความยาวนานของประวัติศาสตร์พุทธศาสนาในจังหวัดสุโขทัยและความพยายามในการรักษาและสืบทอดวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่สู่อนาคตอย่างแท้จริง
หากผู้สนใจเดินทางมายังวัดพิพัฒน์มงคล จะได้พบกับบรรยากาศที่สงบ ร่มรื่น และเต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และศิลปกรรมอันล้ำค่า อีกทั้งยังสามารถเข้าร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรม อบรมพระปริยัติธรรม และชมปูชนียวัตถุที่มีคุณค่าหลากหลาย การเยี่ยมชมวัดแห่งนี้จึงเป็นทั้งการเรียนรู้ทางศาสนาและวัฒนธรรม รวมถึงการเติมเต็มจิตใจด้วยความสงบและความศรัทธาที่สืบทอดมายาวนานกว่าแปดร้อยปี นับเป็นสถานที่สำคัญที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมและศึกษาอย่างยิ่งในจังหวัดสุโขทัย




แสดงความเห็น
คำค้น (ขั้นสูง) |
ภูมิภาค
|