วัดห้วยตะโก

Rating: 2.6/5 (17 votes)

วันเปิดทำการ: ทุกวัน

เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.

 

วัดห้วยตะโก เป็นวัดที่เก่าแก่ประมาณ 100 ปีกว่า ตั้งอยู่ที่ตำบลพะเนียด อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม วิหารหลวงพ่อหิน เป็นวิหารที่เก่าแก่ชาวตำบลพะเนียดให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างมาก  วัดห้วยตะโก วัดราษฎร์ในสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่แม้จะไม่เป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่กลับซ่อนเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันล้ำค่าไว้อย่างน่าทึ่ง

 

แม้ไม่ปรากฏหลักฐานเอกสารแน่ชัดเกี่ยวกับการก่อตั้งวัดห้วยตะโก แต่จากข้อมูลของกรมการศาสนา ระบุว่ามีการตั้งวัดในปี พ.ศ. 2342 อย่างไรก็ตาม หลักฐานทางโบราณวัตถุที่พบภายในบริเวณวัด เช่น ใบเสมาหินทรายแดงที่แกะสลักอย่างประณีตรอบอุโบสถหลังเก่า บ่งบอกว่าวัดแห่งนี้น่าจะมีอายุย้อนไปถึงยุคอู่ทอง และน่าจะเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในเครือข่ายวัดสมัยทวารวดี

 

หนึ่งในหลักฐานสำคัญคือ "หลวงพ่อหิน" พระพุทธรูปปางห้ามสมุทรในอิริยาบถยืนบนฐานบัว ลงรักปิดทองอย่างวิจิตร เชื่อกันว่าอัญเชิญมาจากวัดโคกมะขาม (ร้าง) ซึ่งเคยเป็นวัดโบราณในพื้นที่เดิม รูปแบบเดิมขององค์พระน่าจะเป็นปางแสดงธรรมตามศิลปะทวารวดี แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ส่วนต่างๆ ขององค์พระได้ชำรุด จึงมีการต่อเติมในภายหลังทั้งพระเศียร พระกร และฐานพระ ทำให้ “หลวงพ่อหิน” กลายเป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวบ้านในปัจจุบัน

 

พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน: จากความทรงจำสู่การเรียนรู้ ด้วยความตั้งใจของ พระครูสังฆรักษ์ไพบูลย์ กตปุญฺโญ เจ้าอาวาสวัดห้วยตะโก ผู้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่น จึงได้ริเริ่มก่อตั้ง พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านวัดห้วยตะโก เพื่อรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ในอดีต เช่น เครื่องมือทำนา, เครื่องปั้นดินเผา, ภาชนะโบราณ, และของใช้ในวิถีชีวิตของชาวบ้าน

 

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่เพียงเป็นแหล่งเรียนรู้ แต่ยังเป็นพื้นที่ของความทรงจำที่เชื่อมโยงคนรุ่นใหม่ให้เข้าใจรากเหง้าของชุมชน และตระหนักถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านที่กำลังเลือนหายไปตามกาลเวลา

 

อีกหนึ่งความโดดเด่นของวัดห้วยตะโกคือ อุโบสถหลังใหม่ ที่สร้างขึ้นภายใต้แรงบันดาลใจจาก บรรณาลัยของปราสาทหินพนมรุ้ง ในศิลปะเขมร พระครูสังฆรักษ์ไพบูลย์ซึ่งมีความสนใจในงานศิลปะเขมร ได้ถ่ายทอดแนวคิดนี้ออกมาในรูปแบบของสถาปัตยกรรมร่วมสมัยที่ผสมผสานกลิ่นอายโบราณไว้ได้อย่างลงตัว

 

ลวดลายต่างๆ ที่ประดับบนอุโบสถ ไม่เพียงสะท้อนความงดงามของศิลปะ แต่ยังเป็นเครื่องมือในการถ่ายทอดเรื่องราวพุทธศาสนาและภูมิปัญญาช่างไทยที่หยิบยืมความงามจากเพื่อนบ้านมาร้อยเรียงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของวัด

 

ปัจจุบัน วัดห้วยตะโกไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา หากแต่ทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน เป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ และเป็นเวทีให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น งานบุญประเพณี การฟ้อนรำพื้นบ้าน การสอนวาดภาพ หรือการจัดนิทรรศการเล็กๆ ในวันสำคัญ

 

การที่วัดสามารถผสานบทบาทของศาสนา ศิลปะ และชุมชนได้อย่างลงตัว ทำให้วัดห้วยตะโกกลายเป็นต้นแบบของ “วัดเพื่อชุมชน” ที่ไม่เพียงยืนหยัดอยู่ในประวัติศาสตร์ แต่ยังก้าวไปพร้อมกับอนาคต

 

วัดห้วยตะโกคือตัวอย่างของวัดท้องถิ่นที่มีชีวิตชีวา เป็นจุดเชื่อมระหว่างอดีตกับปัจจุบัน ที่ศิลปะทวารวดีมาบรรจบกับภูมิปัญญาพื้นบ้าน และความศรัทธาของผู้คนผสานกับความคิดสร้างสรรค์ของผู้นำทางจิตวิญญาณ

 

การเดินทางไปยังวัดห้วยตะโก อาจใช้เวลาไม่นานนักจากใจกลางกรุงเทพฯ แต่สิ่งที่นักเดินทางจะได้พบ ไม่ใช่เพียงแค่วัดริมทาง หากแต่คือประสบการณ์ที่ลึกซึ้งกับวัฒนธรรม วิถีชีวิต และความเชื่อของชาวนครชัยศรีที่ยังคงเต้นอยู่ในจังหวะของกาลเวลา