วัดท่าช้าง

Rating: 3.8/5 (5 votes)

วันเปิดทำการ: ทุกวัน

เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.

 

วัดท่าช้าง ลางเมืองนครนายก เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องน้ำตกและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ยังมีอีกหนึ่งสถานที่เงียบสงบที่แฝงไปด้วยเรื่องเล่าทางประวัติศาสตร์และศิลปกรรม นั่นคือ “วัดท่าช้าง” วัดเก่าแก่ที่เคยเป็นเพียงสำนักสงฆ์เล็ก ๆ ของชาวจีนในอดีต แต่กลับเติบโตขึ้นเป็นวัดพุทธที่มีความงดงามทั้งทางกายภาพและจิตใจ

 

วัดท่าช้างเดิมมีชื่อว่า วัดคเชนทร์ สร้างขึ้นจากความศรัทธาของชาวจีนในท้องถิ่นเมื่อครั้งยังเป็นเพียงสำนักสงฆ์เล็ก ๆ ชื่อ “คเชนทร์” นั้นสะท้อนถึงความเป็นวัดพุทธที่ยังไม่มีพระอุโบสถถาวร แต่ด้วยการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมและความเลื่อมใสอย่างมั่นคง ทำให้วัดแห่งนี้ค่อย ๆ เติบโตและเป็นที่รู้จักในวงกว้าง

 

ในรัชสมัยของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) ทรงเสด็จฯ ผ่านมานครนายก และมีพระราชศรัทธาในวัดแห่งนี้ พระองค์จึงทรงพระราชทานเงินเพื่อก่อสร้างพระอุโบสถหลังใหม่ให้กับวัด โดยพระอุโบสถที่สร้างขึ้นมีลักษณะพิเศษซึ่งหาได้ยากในวัดอื่น ๆ นั่นคือ มีเสาเพียง 5 ต้น ถือเป็นเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่า

 

ภายในพระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยขนาดใหญ่ มี หน้าตัดกว้างถึง 3.10 เมตร สูงประมาณ 3.05 เมตร แสดงถึงฝีมือช่างในยุคโบราณที่สามารถสร้างงานศิลป์ด้วยความละเอียด ประณีต และทรงพลังศรัทธา ประตูและหน้าต่างของพระอุโบสถประดับด้วย ลายแกะสลักไม้และลายปูนปั้น อ่อนช้อยงดงาม ลวดลายบางส่วนสะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างศิลปะจีนและไทย เช่น ลายดอกบัว ลายเมฆ ลายเถาไม้ ซึ่งมักพบได้ในวัดที่มีรากฐานจากชุมชนชาวจีน

 

วัดท่าช้างในวันนี้ไม่เพียงเป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจของชาวบ้าน หากยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์สำหรับเยาวชนและผู้สนใจ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักท่องเที่ยว หรือผู้ที่ศึกษาเรื่องราวรัชกาลที่ 5 ก็สามารถสัมผัสบรรยากาศของอดีตผ่านสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี

 

ท่ามกลางความพลุกพล่านของเมืองนครนายก “วัดท่าช้าง” คือมุมเงียบสงบที่เชื้อเชิญให้ผู้มาเยือนได้หยุดพักใจ ซึมซับความงามของศิลปะไทย และสัมผัสร่องรอยประวัติศาสตร์จากยุครัชกาลที่ 5 วัดแห่งนี้คือหลักฐานของศรัทธาที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบันไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืน เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ไม่ควรพลาดในนครนายก