Rating: 2.3/5 (18 votes)
วัดอุทัยธาราม
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
วัดอุทัยธาราม (บางกะปิ) ตั้งอยู่เลขที่ 2 ริมทางรถไฟสายตะวันออก หมู่ที่ 5 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง จังหวัดกรุงเทพมหานครฯ สังคณะสงฆ์มหานิกาย วัดนี้มีที่ดินตั้งวัด เนื้อที่ 31 ไร่ 2 งาน 85 ตารางวา อาณาเขตทิศเหนือกว้าง 189.40 เมตร ติดกับที่ดินเอกชน ทิศใต้กว้าง 230 เมตร ติดกับทางรถไฟสายตะวันออก ทิศตะวันออกกว้าง 221 เมตร
ติดกับที่ดินของกรมธนารักษ์ (ที่ตั้งสถานีโทรทัศน์ แห่ง ประเทศไทย ช่อง 11) ทิศตะวันตกกว้าง 221 เมตรติดกับคลองบางกะปิ ที่ดินที่อยู่ตรงฝั่งตรงข้ามของวัด ซึ่งเป็นที่ดินของวัดได้จัดให้เป็นที่อยู่ตรงข้ามของวัด ซึ่งเป็นที่ดินของวัดได้จัดให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนประชาบาล ปัจจุบันนี้สังกัดอยู่กับ ส.ป.ช.
พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่มน้ำท่วมถึงในฤดูฝน ตั้งอยู่ริมคลองบางกะปิ มีลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้าภายในวัดประกอบด้วยเสนานะสิ่งปลูกสร้างดังนี้ พระอุโบสถขนาดกว้าง 15.30 เมตร ยาว 38.00 เมตร วิหารซึ่งตั้งอยู่ติดกับพระอุโบสถอีกหนึ่งหลัง กุฎิสงฆ์จำนวน 27 หลัง
มีทั้งอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก และเป็นครึ่งตึกครึ่งไม้ และ อาคารไม้ หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ สำหรับปูชนียวัตถุมีพระประธานหล่อด้วยทองเหลืองหน้าตักกว้าง 1.5 เมตร สมัยสุโขทัย และพระพุทธรูปสมัยเชียงแสนเนื้อสัมฤทธิ์หนึ่งองค์ หน้าตักกว้าง 1 ศอก เป็นสมบัติของเก่าซึ่งหาประวัติการสร้างไม่ได้ว่าได้จัดทำขึ้นหรือสร้างในสมัยใด
วัดอุทัยธาราม หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกว่า “วัดบางกะปิ” เพราะวัดนี้ตั้งอยู่ริมคลองบางกะปิ ท้องที่ตำบลบางกะปิ อำเภอบางกะปิ จังหวัดพระนครในอดีต ซึ่งชาวบ้านมักนิยมเรียกกันอย่างนั้น
วัดอุทัยธาราม (บางกะปิ) นี้ไม่ทราบหลักฐานในการสร้างวัดที่แน่ชัด เป็นแต่ท่านผู้ใหญ่ได้เล่าสืบต่อกันมาว่าซึ่งสันนิษฐานว่าคงเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่ง อาจจะสร้างขึ้นมาแต่ครั้งโบราณ และได้มีผู้บูรณะต่อตามที่ได้เล่ากันสืบมาว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ประมาณ พ.ศ. 2310 และต่อมาเนื่องจากกรุงศรีอยุธยาแตก แม่ทัพนายกองทั้งหลายได้อพยพหนีภัยสงครามลงมาด้วย
และเมื่อผ่านลงมาพบเจดีย์ ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งตะวันตกของคลองบางกะปิ ซึ่งเป็นสถานที่สงบเงียบ จึงได้นำสมบัติมาฝังไว้ ณ ที่มีด้วยแล้วหนีต่อไป เมื่อบ้านเมืองสงบดีแล้วจึงได้กลับมาบูรณะ และสร้างวัดแห่งนี้ขึ้นมาอีก โดยได้จัดสร้างพระเจดีย์ให้ใหญ่ขึ้น และได้นำเอาสมบัติมีค่า และวัตถุมงคลพร้อมทั้งพระบรมธาตุส่วนหนึ่งบรรจุไว้ในเจดีย์ แห่งนี้ และวัดนี้คงเจริญรุ่งเรืองในสมัยนั้น
เพราะว่าท่านผู้ใหญ่เคยบอกว่าวัดนี้เคยมีพระสงฆ์มาชุมนุมอยู่มากมาย พร้อมทั้งยังมีปริวาสกรรมอยู่ในกลางทุ่งนานอกวัด และมีทางเดินเท้าติดต่อการคมนาคมปูด้วยอิฐทำไว้อย่างดีตลอดต่อไปถึงริมฝั่งคลองสามเสน ซึ่งในปัจจุบันนี้เส้นทางเหล่านี้แทบจะไม่มีเหลือให้เห็นอีกเลย ทั้งนี้เพราะความเจริญของเมืองหลวงได้ขยายตัวออกมามากขึ้น
วันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2487 เวลาประมาณ 11.15 น. ซึ่งตรงกับวัน วิสาขบูชา วัดนี้ได้ถูกกระทบจากภัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งตรงลูกระเบิดทำให้องค์พระเจดีย์โค่นลง เพราะแรงสะเทือน และความเก่าแก่ขององค์พระเจดีย์ แม้ฝั่งที่ตั้งของวัดก็ถูกระเบิดกุฏิพระสงฆ์พังเสียหายลงอีกสองหลัง
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2488 ต่อมาได้มีการขุดค้นฐานซากพระเจดีย์ใหญ่ได้พบวัตถุโบราณต่างๆ เช่นพระเครื่องเนื้อชินสนิมแดง พระยอดธง พระโคนสมอ พระพุทธรูปบูชา และพระบรมธาตุ ซึ่งสมบัติต่างๆ นี้บางส่วนได้จัดจำหน่ายหารทุนสร้างเสนานะ
บางส่วนก็ได้ขึ้นบัญชีไว้ และนำเก็บรักษา จากที่ได้พบกับวัตถุต่างๆ นี้ จึงน่าจะสันนิฐานไว้ว่าวัดนี้คงจะเป็นวัดพระยาอุทัยได้บูรณะหรือสร้างขึ้นจริงจึงได้นำเอานามว่า “อุทัย” นี้มาเป็นนามของวัด เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2488 ส่วนหลักฐานอื่นที่จะนำมายืนยัน ประวัติของวัดนี้ไม่มีบ่งชี้ให้แน่ชัด ทั้งหมดเป็นแต่เพียงข้อสันนิษฐานและคำบอกเล่าของท่านผู้ใหญ่เท่านั้น
วัดนี้ได้รับการพัฒนาให้เป็นเหมือนใหม่ทั้งหมด ในสมัยเมื่อท่านพระครูปราโมทย์ธรรมคุณเป็นเจ้าอาวาสโดยได้จัดสร้างกุฏิสงฆ์ โบสถ์ วิหาร ไว้ให้เป็นสัดส่วนตามแบบของเดิม ซึ่งได้แบ่งเขตไว้เป็นเรียบร้อยดี โดยทิศเหนือสุดเป็นเขตอสุภะ ต่อลงมาเป็นเขตพุทธาวาส ธรรมาวาส และเขตสังฆาวาส อยู่ทิศใต้สุด
เว็ปไซต์ : www.watutaitaram-bangkapi.blogspot.com
โทร : 022533950, 022528210, 023144834
หมวดหมู่: สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
กลุ่ม: วัด
ปรับปรุงล่าสุด : 9 ปีที่แล้ว