วัดทางสาย (พระพุทธกิติสิริชัย)

วัดทางสาย (พระพุทธกิติสิริชัย) ที่เที่ยวประจวบ ตั้งอยู่บนยอดเขาธงชัยที่มองเห็นทะเลบ้านกรูดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นวัดเก่าแก่และสำคัญที่มีปูชนียสถานและปูชนียวัตถุที่ชาวบ้านให้ความเคารพอย่างสูง ที่นี่เป็นที่ตั้งของพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศ ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครองราชย์ครบ 50 ปี นอกจากนี้ยังมีพระพุทธกิติสิริชัย พระพุทธรูปขนาดใหญ่ที่หันพระพักตร์ออกสู่ทะเล ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความมิ่งขวัญของชาวประจวบคีรีขันธ์

 

พระพุทธกิติสิริชัยเป็นพระพุทธรูปปางสมาธิก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง มีพระพักตร์ที่เต็มไปด้วยเมตตา พร้อมทั้งการแต่งกายที่สวยงามตามแบบศิลปะคันธารราษฎร์ พระพุทธรูปนี้มีความสูงรวมกับฐานถึง 9 วา และหน้าตักกว้าง 5 วา สื่อถึงขันธ์ทั้ง 5 และนวโลกุตตรธรรม 9 แสดงถึงความสัมพันธ์กับธรรมะที่นำไปสู่การหลุดพ้นจากทุกข์ นอกจากนี้ยังมีฐานกว้าง 16 วา สื่อถึงญาณ 16 อีกด้วย โดยรอบพระพุทธรูปมีซุ้มรูปหล่อพระอริยสงฆ์ และศาลพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของประชาชนทั่วไป

 

การสร้างพระพุทธกิติสิริชัยเริ่มต้นจากจิตศรัทธาของประชาชนที่ต้องการแสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสที่พระองค์เจริญพระชนมายุครบ 60 ปี ในปี พ.ศ. 2535 โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2539

 

มีความเชื่อกันว่าผู้ที่ได้มาเคารพพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศและพระพุทธกิติสิริชัย จะได้รับอานิสงส์อันยิ่งใหญ่ที่นำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลและความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต การสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุจัดขึ้นในวันวิสาขบูชาของทุกปี โดยเปิดให้เข้าร่วมสักการะเพียง 3 วันเท่านั้น

 

วัดทางสาย ตั้งอยู่ริมทะเลบ้านกรูด ตำบลธงชัย อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านสถาปัตยกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม ศาสนา และนิเวศวิทยา วัดแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของพระตำหนักพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ซึ่งมอบทิวทัศน์ที่สวยงาม มองเห็นชายหาดบ้านกรูดและทิวมะพร้าว เหมาะแก่การชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก

 

วัดทางสาย บนยอดเขาธงชัยไม่เพียงเป็นสถานที่สักการะอันศักดิ์สิทธิ์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของศรัทธาและความเคารพในพระพุทธศาสนา รวมถึงการเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมไทยที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ซึ่งควรค่าแก่การอนุรักษ์และสืบสานต่อไปในอนาคต