ศูนย์ท่องเที่ยวบ้านห้วยเกรียบ

ศูนย์ท่องเที่ยวบ้านห้วยเกรียบ ตั้งอยู่ในตำบลทองมงคล จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากตัวอำเภอบางสะพานเพียง 10 กิโลเมตร บนถนนทางหลวงหมายเลข 4 ชุมชนเล็กๆ แห่งนี้ก่อตั้งโดยชาวบ้านที่อพยพมาจากแหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากเผชิญกับอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ. 2505 พวกเขานำภูมิปัญญาท้องถิ่นและฝีมือการจักสานมาพัฒนาเป็นอาชีพจนกลายเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของชุมชน

 

ศูนย์ท่องเที่ยวบ้านห้วยเกรียบโดดเด่นด้วยผลิตภัณฑ์งานจักสานหวายที่มีเอกลักษณ์พิเศษ คือการใช้หวายดำเป็นส่วนประกอบ งานจักสานเหล่านี้ถูกออกแบบมาในรูปแบบที่หลากหลาย ตั้งแต่กระเป๋าหิ้ว ตะกร้า กระจาด จนถึงเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น ชุดขันโตกและตะกร้าหวายสี่เหลี่ยมหูพับ ทุกชิ้นงานทำขึ้นอย่างพิถีพิถันและสะท้อนถึงความละเอียดอ่อนของช่างฝีมือท้องถิ่น

 

นอกจากงานจักสานแล้ว บ้านห้วยเกรียบยังมีการทำผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าวและงานหัตถกรรมอื่นๆ เช่น เฟอร์นิเจอร์หวาย เสื้อผ้า รวมไปถึงอาหารแปรรูปที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติในท้องถิ่น เป็นของฝากที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชน

 

บริการโฮมสเตย์และสัมผัสวิถีชีวิตชุมชน สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสชีวิตและวัฒนธรรมของชาวบ้านอย่างใกล้ชิด ศูนย์ท่องเที่ยวบ้านห้วยเกรียบมีบริการโฮมสเตย์ไว้รองรับ ผู้เข้าพักสามารถเรียนรู้วิธีการจักสานหวาย การทำงานหัตถกรรม และวิถีชีวิตแบบเรียบง่ายจากชาวบ้านได้โดยตรง ไม่เพียงแต่ได้เห็นกระบวนการผลิต แต่ยังสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์งานฝีมือแบบไทยแท้ ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจและยากจะหาได้จากที่อื่น

 

การเดินทาง นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเดินทางจากกรุงเทพฯ มายังบ้านห้วยเกรียบได้โดยรถยนต์ส่วนตัว ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งผ่านทางหลวงหมายเลข 4 มุ่งสู่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อถึงทางแยกเข้าสู่อำเภอบางสะพาน ให้ขับรถต่อไปทางทิศใต้ประมาณ 10 กิโลเมตร ศูนย์ท่องเที่ยวบ้านห้วยเกรียบจะตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงนี้

 

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อาคารศูนย์กลางชุมชนบ้านห้วยเกรียบ หรือเยี่ยมชมศูนย์เพื่อเลือกซื้อสินค้าหัตถกรรม และเพลิดเพลินกับบรรยากาศของชุมชนที่อบอุ่นและเป็นมิตร

 

ศูนย์ท่องเที่ยวบ้านห้วยเกรียบ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่นำเสนอวิถีชีวิตและศิลปะการจักสานหวายที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน ช่วยสร้างรายได้และสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวบ้าน ทั้งยังเป็นโอกาสให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่นที่น่าจดจำ