ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง

Rating: 4/5 (5 votes)

วันเปิดทำการ: แนะนำตรวจสอบก่อนเดินทาง (พื้นที่ราชการ/แปลงทดลองอาจมีช่วงปฏิบัติงาน)

เวลาเปิดทำการ: แนะนำ 08.30–16.30 น. (อาจเปลี่ยนตามภารกิจพื้นที่)

 

ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง เป็นหนึ่งในจุดหมาย “พักผ่อนเชียงใหม่” ที่คนชอบถ่ายรูปทุ่งกว้าง ๆ มักจะนึกถึงทุกปี เพราะมีภาพทุ่งข้าวสาลีและข้าวบาร์เลย์ที่ถูกแชร์ต่อกันบนอินเทอร์เน็ตอยู่เสมอ ความพิเศษของที่นี่คือเราไม่ได้มาดูทุ่งเพื่อความสวยอย่างเดียว แต่ได้เห็น “พื้นที่ทำงานจริง” ของหน่วยงานรัฐที่ดูแลการวิจัยและพัฒนาข้าวและธัญพืชในสภาพแวดล้อมพื้นที่สูงของสะเมิงไปพร้อมกันด้วย

 

ถ้าคุณมาตามภาพไวรัล จุดที่คนรอคือทุ่งข้าวสาลีซึ่งมักมีให้เห็นเด่น ๆ ในช่วงเวลาสั้น ๆ ของปี โดยทั่วไปจะอยู่แถวเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม และช่วงกลางมีนาคมมักเริ่มเห็นสีทองเหลืองอร่ามเต็มทุ่งมากขึ้น พอมีลมพัดผ่าน ทุ่งจะเอนตัวเป็นคลื่นต่อเนื่อง ดูเพลินตาและถ่ายภาพออกมามีมิติ โดยเฉพาะถ้ามาช่วงแสงอ่อนอย่างเช้าตรู่หรือปลายบ่าย ภาพสีทองจะนุ่มขึ้นและฉากหลังภูเขาจะดูละมุนกว่าเวลาแดดจัด

 

สิ่งที่ทำให้การมาเยือนที่นี่ “ต่าง” จากการไปทุ่งถ่ายรูปทั่วไป คือการจำไว้ว่าแปลงต่าง ๆ เป็นแปลงทดลองและแปลงวิจัย การเดินถ่ายรูปควรหลีกเลี่ยงการเหยียบย่ำในแนวปลูก ไม่เด็ดรวงหรือจับต้นพืชเล่น และถ้าพบเจ้าหน้าที่กำลังทำงาน ควรถามทาง/ขออนุญาตอย่างสุภาพก่อนเข้าไปในบริเวณที่กำลังปฏิบัติงานจริง วิธีเที่ยวแบบนี้ทำให้เราได้ทั้งภาพสวยและเคารพพื้นที่ของคนทำงานไปพร้อมกัน

 

ในเชิงประวัติศาสตร์ ศูนย์แห่งนี้เริ่มก่อตั้งเมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2521 ตามพระราชประสงค์เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาวไทยภูเขาและชุมชนบนพื้นที่สูงที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยช่วงเริ่มต้นมีการจัดตั้งสถานีทดลองและทำงานวิจัยเกี่ยวกับข้าวไร่และธัญพืชเมืองหนาวร่วมกับหน่วยงานด้านวิชาการเกษตรในยุคนั้น ก่อนที่ภายหลังเมื่อมีการจัดตั้งกรมการข้าวในปี พ.ศ. 2549 ภารกิจด้านข้าวได้ถูกรวมและปรับบทบาทจนเป็น “ศูนย์วิจัยข้าวสะเมิง” ในโครงสร้างของสำนักวิจัยและพัฒนาข้าวตามแนวทางการบริหารใหม่ของประเทศ

 

ภาพรวมงานของศูนย์วิจัยข้าวสะเมิงไม่ได้จบที่การปลูกให้สวย แต่ครอบคลุมตั้งแต่การศึกษา วิจัย และพัฒนาพันธุ์ข้าวและธัญพืชที่เหมาะกับสภาพพื้นที่ การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต การอารักขาพืช การเก็บเกี่ยวและการแปรรูป รวมถึงการผลิตเมล็ดพันธุ์ในชั้นพันธุ์คัดและพันธุ์หลัก การตรวจสอบและส่งเสริมระบบการผลิตที่เหมาะสม และการให้บริการวิชาการแก่เกษตรกรหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อมองแบบนี้ ทุ่งที่เราเห็นจึงเป็น “ผลลัพธ์ของความรู้” มากพอ ๆ กับเป็น “วิวสวย” ให้คนมาถ่ายภาพ

 

สำหรับคนที่อยากได้รูปที่ดูอลังการ แนะนำวางแผนมาช่วงที่ทุ่งเริ่มเปลี่ยนสีและเลือกมุมที่เห็นแนวทุ่งทอดยาวไปตามทางลม ถ้าตั้งใจถ่ายพอร์ตเทรต ให้ใช้แนวทุ่งเป็นเส้นนำสายตาและเผื่อพื้นที่ท้องฟ้าเล็กน้อยเพื่อให้ภาพโล่งสบาย แต่ถ้าถ่ายแลนด์สเคป ให้ลองรอจังหวะลมพัดแรงพอให้เกิดลอนคลื่น จะได้ภาพที่เหมือนทุ่งกำลัง “เคลื่อนไหว” อยู่จริง ๆ

 

การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงใหม่สามารถไปอำเภอสะเมิงได้ 2 เส้นทางหลักคือ (1) สายแม่ริม–สะเมิง ใช้ทางหลวง 1096 ผ่านโซนแม่ริมแล้วขึ้นเขาไปสะเมิง และ (2) สายหางดง–สะเมิง ใช้ทางหลวง 1269 ขึ้นสะเมิงจากฝั่งหางดง ทั้งสองเส้นทางเป็นถนนภูเขาที่มีโค้งต่อเนื่อง ควรเผื่อเวลา ตรวจสภาพรถและเบรกให้พร้อม โดยเฉพาะหน้าฝนหรือช่วงเช้าที่มีหมอก

 

ที่ตั้งสำหรับอ้างอิงในการนำทาง: เลขที่ 202 หมู่ 10 ตำบลสะเมิงใต้ อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ 50250 (พิกัดประมาณ N18.846370, E98.770287)

 

 

ตอบ: โดยทั่วไปจะเด่นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม และช่วงกลางมีนาคมมักเห็นทุ่งออกโทนเหลืองทองมากขึ้น เหมาะกับการถ่ายภาพ

 

ตอบ: ควรมองว่าเป็นแปลงวิจัยและแปลงทดลองจริง หลีกเลี่ยงการเหยียบย่ำแนวปลูก ไม่เด็ดรวง และขออนุญาต/ทำตามแนวทางของเจ้าหน้าที่หากมีพื้นที่ปฏิบัติงาน

 

ตอบ: เช้าตรู่หรือปลายบ่ายจะได้แสงนุ่ม สีทุ่งดูละมุน และโอกาสได้ภาพคลื่นลมพัดผ่านทุ่งชัดขึ้น

 

ตอบ: ไม่ใช่สวนโชว์เชิงพาณิชย์ แต่เป็นพื้นที่ทำงานวิจัยของหน่วยงานรัฐ นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมได้โดยควรเคารพกติกาและตรวจสอบความพร้อมก่อนเดินทาง

 

ตอบ: แนะนำโทรสอบถามก่อนเดินทางที่ 0 5337 8093-4 เพื่อเช็กช่วงเวลาปฏิบัติงานและแนวทางการเข้าชมล่าสุด