โป่งเดือดป่าแป๋ (น้ำพุร้อนโป่งเดือด)

Rating: 3.8/5 (4 votes)

วันเปิดทำการ: โดยทั่วไปทุกวัน (แนะนำเช็กประกาศของอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดังก่อนเดินทาง โดยเฉพาะช่วงฝนหนัก)

เวลาเปิดทำการ: แนะนำ 08:00 – 17:00 น. (เวลาอาจปรับตามประกาศของพื้นที่/ฤดูกาล แนะนำเช็กก่อนเดินทาง)

 

โป่งเดือดป่าแป๋ (น้ำพุร้อนโป่งเดือด) คือหนึ่งในจุดหมายสายธรรมชาติของเชียงใหม่ที่ “เห็นพลังใต้ดินทำงานต่อหน้า” แบบไม่ต้องจินตนาการ เพราะที่นี่เป็นน้ำพุร้อนชนิดไกเซอร์ที่ปล่อยกระแสน้ำและไอน้ำออกมาเป็นระยะ ๆ ในพื้นที่ป่าที่ชื้นและเขียวจัด กลิ่นกำมะถันลอยปะทะตั้งแต่ยังเดินไม่ถึงตัวบ่อ ทำให้บรรยากาศมันชัดเจนตั้งแต่ก้าวแรกว่า นี่ไม่ใช่บ่อน้ำอุ่นทั่วไป แต่เป็นจุดผุดน้ำร้อนที่ยังมีแรงดันและอุณหภูมิสูงจริง ๆ ตามธรรมชาติ

 

ภาพจำของโป่งเดือดคือ “น้ำเดือดปุด ๆ” กับไอน้ำขาวที่ลอยขึ้นเป็นสาย บางช่วงเหมือนหมอกบาง ๆ เกาะอยู่ตามแนวทางเดิน พอเข้าใกล้มากขึ้นจะเห็นว่ามีหลายจุดผุด ไม่ได้มีบ่อเดียวโดด ๆ และจังหวะการพ่นก็ไม่ได้เท่ากันทุกครั้ง—บางรอบเหมือนแค่หายใจร้อน ๆ ออกมา บางรอบจะพ่นแรงขึ้นจนคนรอบ ๆ เผลอหยุดยืนดูพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

 

ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย โป่งเดือดเป็นไกเซอร์เพราะระบบใต้ดินมี “น้ำ + ความร้อน + แรงดัน” หมุนเวียนอยู่ เมื่อความร้อนทำให้น้ำกลายเป็นไอและดันตัวขึ้นมา เราจึงเห็นทั้งไอน้ำและน้ำร้อนพ่นขึ้นเป็นช่วง ๆ ระดับความสูงของน้ำพุอาจเปลี่ยนไปตามสภาพใต้ดินและช่วงเวลา (ข้อมูลทางการระบุว่าปัจจุบันจุดพ่นอยู่ราวประมาณ 1 เมตร และมีหลายบ่อในบริเวณเดียวกัน) ทำให้การมาเที่ยวแต่ละครั้งอารมณ์ไม่เหมือนกันเป๊ะ ๆ นี่แหละคือเสน่ห์ของธรรมชาติที่ “ไม่ยอมเป็นโชว์ตามสั่ง”

 

การเที่ยวโป่งเดือดจริง ๆ มักเริ่มจากการเดินไปตามทางที่จัดไว้เพื่อพาเราผ่านจุดผุดหลัก ๆ ทีละช่วง ระหว่างทางจะได้เห็นรายละเอียดเล็ก ๆ ที่ทำให้สถานที่นี้น่าดูมากขึ้น เช่น คราบแร่ที่เกาะตามพื้นหรือขอบบ่อ สีของดินและหินที่ดูต่างจากปกติในบริเวณที่มีไอร้อน และความรู้สึกของอากาศที่ “อุ่นขึ้นเป็นหย่อม ๆ” ตามตำแหน่งที่ไอน้ำลอยผ่าน หากคุณชอบถ่ายภาพ จะสนุกกับการจับจังหวะตอนพ่น เพราะไอน้ำจะฟุ้งขึ้นเป็นรูปทรงที่เปลี่ยนทุกครั้งเหมือนถ่ายหมอกที่มีชีวิต

 

แต่เพราะมันเป็นน้ำเดือดจริง พื้นที่แบบนี้จึงต้องย้ำเรื่องความปลอดภัยมากกว่าที่เที่ยวธรรมชาติทั่วไป อย่าเข้าใกล้จุดผุดเกินแนวกั้น อย่าเอามือลองแตะน้ำหรือไอร้อน และระวังพื้นลื่นจากความชื้น โดยเฉพาะหน้าฝนหรือช่วงเช้าที่น้ำค้างยังเกาะพื้นอยู่ ถ้ามากับเด็กหรือผู้สูงอายุ ให้จับมือกันแน่น ๆ และเดินในทางที่จัดไว้เท่านั้น การเที่ยวแบบไม่ฝืนธรรมชาติจะทำให้ทริปนี้สนุกและจบแบบสบายใจ

 

ช่วงที่คนส่วนใหญ่ชอบมา คือปลายฝนถึงหน้าหนาว เพราะอากาศเย็นทำให้ไอน้ำดูสวยกว่าเดิมและถ่ายรูปออกมามีมู้ดมาก ส่วนหน้าฝนจะเขียวสุดแต่ต้องเพิ่มความระวังเรื่องทางลื่นและสภาพอากาศ ถ้าคุณตั้งใจอยากได้ประสบการณ์แบบเดินช้า ๆ ดูธรรมชาติจริง ๆ แนะนำมาเช้า เพราะคนยังไม่หนาแน่น แสงยังนุ่ม และยังมีเวลาเที่ยวต่อจุดอื่นในโซนแม่แตง–กื้ดช้างได้อีกยาว

 

การเดินทาง หากออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ให้มุ่งหน้าโซนแม่แตงแล้วต่อเข้าเส้นทางตำบลกื้ดช้างเพื่อไปยังพื้นที่อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง ก่อนเข้าพื้นที่โป่งเดือดป่าแป๋ควรเช็กสภาพอากาศและประกาศการเปิดแหล่งท่องเที่ยวของอุทยานฯ ล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงฝนหนัก แนะนำขับรถด้วยความระมัดระวังในช่วงโค้งและทางชุมชน และวางแผนกลับก่อนมืดเพื่อความปลอดภัย

 

 

ตอบ: โดยทั่วไปเปิดให้เข้าชม แต่การเปิดจริงอาจเปลี่ยนตามสภาพอากาศและประกาศของอุทยานฯ โดยเฉพาะช่วงฝนหนัก แนะนำเช็กก่อนเดินทาง

 

ตอบ: ความสูงของการพ่นเปลี่ยนได้ตามสภาพใต้ดินและช่วงเวลา ข้อมูลทางการระบุว่าปัจจุบันจุดพ่นอยู่ราวประมาณ 1 เมตร และพ่นเป็นระยะ ๆ

 

ตอบ: ไม่แนะนำ เพราะน้ำร้อนและไอร้อนมีอุณหภูมิสูง เสี่ยงลวกและอันตราย ควรอยู่ในแนวทางและเขตกั้นที่จัดไว้เท่านั้น

 

ตอบ: ไปได้ แต่ควรดูแลใกล้ชิดเป็นพิเศษ เพราะพื้นอาจลื่นจากความชื้น และบางจุดมีไอน้ำบังทัศนวิสัย ควรเดินช้า ๆ และอยู่ในเส้นทางที่จัดไว้

 

ตอบ: ปลายฝนถึงหน้าหนาวมักสวยและถ่ายรูปดี เพราะอากาศเย็นทำให้เห็นไอน้ำชัด ส่วนหน้าฝนเขียวมากแต่ต้องเพิ่มความระวังเรื่องลื่นและประกาศปิดชั่วคราว

 

ตอบ: แนะนำไปช่วงเช้า เพราะคนยังไม่แน่น แสงสวย และยังมีเวลาเที่ยวต่อจุดอื่นในโซนแม่แตง–กื้ดช้างได้อีก