Rating: 3.1/5 (7 votes)
วัดธรรมชัย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 08.00 - 17.00 น.
วัดธรรมชัย ตั้งอยู่เลขที่ 68 หมู่ที่ 9 ตำบลบ้านแม อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ สังกัดมหานิกาย วัดนี้ได้รับอนุญาตสร้างขึ้นเป็นวัดประมาณ พ.ศ. 2300 ตามความเห็นของผู้เฒ่าผู้แก่ในสมัยก่อนเล่าขานกันสืบ ๆ มาว่า
ปัจจุบันมีเนื้อที่ของวัด 6 ไร่ งาน 19 วา มี นส.3 เลขที่ 181 ทิศเหนือยาว 2 เส้น 4 วา 2 ศอก จดเหมืองสาธารณะ ทิศใต้ 1 เส้น 13 วา 2 ศอก จดถนนสาธารณะ ทิศตะวันตก 2 เส้น 19 วา 2 ศอก จดเหมืองสาธารณะ ทิศตะวันออก 1 เส้น 2 วา จดที่ของเอกชน
วัดธรรมชัย ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาแล้ว เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2499 เขตวิสุงคามสีมา กว้าง 40 เมตร ยาว 80 เมตร และได้ผูกเป็นพัทธสีมาเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503
วัดธรรมชัย วัดนี้ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองแม่ (เวียงแม่) เพราะว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นหัวหน้าสร้างเมืองแห่งนี้ มีหลักฐานที่ควรเชื่อถือได้ คือ มีเนินดินกั้นเป็นกำแพงเมือง (สมัยนั้นเรียกว่า “คือเวียง”) ล้อมรอบอยู่ ปัจจุบันกำแพงเมืองดังกล่าวปรากฎให้เห็นไม่มากนัก เพราะถูกเอกชนบุกรุกเป็นที่ทำกิน
วัดนี้มีชื่อเรียกกันว่า “วัดบ้านแม่” ต่อมาเพี้ยนเป็น วัดบ้านแม เป็นวัดเก่าแก่โบราณวัดหนึ่งในสมัยนั้นจากหลักฐานปรากฏในรูปลักษณะของวิหาร เป็นวิหารเก่าแก่โบราณ ก่อสร้างเป็นวิหาร 3 ชุด ฝาผนังก่อด้วยอิฐฉาบปูนขาว
แต่วัสดุที่นำมาก่อกับอิฐนั้นเป็นดินเหนียว มีเสาไม้กั้นเป็นห้อง ๆ ลดหลั่นกัน เป็น 3 ชุด 2 ชาย มุงด้วยกระเบื้องดินเผา ฝาผนังมีรูปภาพของโบราณต่าง ๆ มีรูปเขาพระสุเมรเป็นต้น เสาและเครื่องบนตัวหลังทำด้วยไม้สักล้วน ช่อฟ้า ใบระกา ทรงตั้งฯ
ประมาณ พ.ศ. 2440 วิหารได้ชำรุดทางเจ้าอาวาสและศรัทธาได้ทำการบูรณะซ่อมแซมขึ้นใหม่ โดยเปลี่ยนชื่อฟ้า ใบระกา เสียใหม่ตามความนิยมของคนในสมัยนั้นและพร้อมกันนี้ก็ได้เปลี่ยนชื่อวัดเสียใหม่ว่า วัดธรรมชัย
เหตุผลเพราะว่าวัดนี้ตั้งอยู่ในท้องที่ของหมู่บ้านแม และบ้านเจดีย์เนิ้ง ระหว่างเขตต่อเขต การเปลี่ยนชื่อเข้าใจว่าคงเปลี่ยนตามนามฉายาของเจ้าอาวาสในสมัยนั้น ต่อมาวัดนี้ได้ว่าจากเจ้าอาวาส
จึงกลายเป็นสภาพของวัดร้างไม่มีพระภิกษุสามเณรอยู่อาศัย ทางการคณะสงฆ์จึงขนย้ายวัตถุโบราณที่สำคัญของวัดมีพระพุทธรูปเป็นต้น ไปไว้วัดน้ำบ่อหลวง ซึ่งอยู่ใกล้กัน
เมื่อปีประมาณ พ.ศ.2450 ทางคณะศรัทธา ผู้อุปฐากวัดได้ทำการบูรณะซ่อมแซมเสนาสนะของวัดขึ้นใหม่ที่ชำรุดเสียหายและนิมนต์พระภิกษุ สามเณรมาอยู่จำพรรษา จึงเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับจนถึง พ.ศ. 2494
เจ้าอาวาส คณะกรรมการวัดและศรัทธาประชาชน ได้เสนอขออนุมัติการรื้อวิหารหลังเก่าเพราะชำรุดทรุดโทรมลงไปมาก ไม่สามารถที่จะทำการบูรณซ่อมแซมให้คงสภาพเดิมได้ และได้ทำการก่อสร้างขึ้นใหม่ตามสมัยนิยมจนถึงปัจจุบันนี้
หมวดหมู่: สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
กลุ่ม: วัด
ปรับปรุงล่าสุด : 8 ปีที่แล้ว