พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล-นภพลภูมิศิริ

Rating: 4/5 (4 votes)

วันเปิดทำการ: ทุกวัน

เวลาเปิดทำการ: 08.00–16.30 น.

 

พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล-นภพลภูมิศิริ คือหนึ่งในจุดหมายที่ทำให้การขึ้นดอยอินทนนท์ “ครบเครื่อง” แบบไม่ต้องพยายามเยอะ เพราะที่นี่รวมทั้งความหมายทางใจ วิวบนพื้นที่สูง และบรรยากาศสวนดอกไม้ที่จัดวางอย่างตั้งใจไว้ในพื้นที่เดียวกัน จนหลายคนเรียกกันติดปากว่าเป็น “พระธาตุคู่ดอยอินทนนท์” หรือ “Twin Royal Stupas” และถึงแม้จะเป็นแลนด์มาร์กที่คนรู้จักดี แต่ถ้าเดินช้า ๆ สักหน่อย จะเห็นรายละเอียดหลายอย่างที่ทำให้ที่นี่ไม่ใช่แค่จุดถ่ายรูป หากเป็นพื้นที่รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และเป็นพื้นที่ให้เราวางความคิดให้เบาลงได้จริง

 

ที่มาของพระมหาธาตุทั้ง 2 องค์เชื่อมโยงกับวาระสำคัญของชาติและความจงรักภักดีของผู้คนอย่างชัดเจน โดย พระมหาธาตุนภเมทนีดล จัดสร้างขึ้นโดยกองทัพอากาศร่วมกับพสกนิกรชาวไทย เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อปี พ.ศ. 2530 และต่อมา พระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ จัดสร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อปี พ.ศ. 2535 ทำให้ “ความเป็นคู่” ของสถานที่นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะการออกแบบเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่เกิดจากเจตนารมณ์ในการสร้างที่ตั้งใจให้เป็นอนุสรณ์แห่งศรัทธาและความกตัญญูของคนไทย

 

ทำเลของพระมหาธาตุคู่ตั้งอยู่บนเส้นทางขึ้นยอดดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ โดยจุดนี้มักถูกพูดถึงว่าอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 41.5 ของทางหลวงหมายเลข 1009 (สายจอมทอง–อินทนนท์) ซึ่งเป็นช่วงที่หลายคนเริ่มสัมผัสอากาศเย็นขึ้นอย่างชัดเจน และเริ่มเห็นแนวภูเขาซ้อนชั้นแบบ “ดอยจริง ๆ” มากกว่าโซนด้านล่าง นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมบรรยากาศของสถานที่นี้ถึงมีเสน่ห์เฉพาะตัว เพราะมันเป็นช่วงกึ่งกลางระหว่างโลกเมืองกับโลกยอดดอย เป็นจุดที่ทั้งหายใจได้ลึกขึ้น และมองเห็นความกว้างของภูมิประเทศได้มากขึ้น

 

ความประทับใจอย่างหนึ่งของที่นี่คือ “ความตั้งใจในการจัดภูมิทัศน์” รอบพระมหาธาตุ ทั้งสวนไม้ดอกไม้ประดับ ทางเดิน และมุมมองที่ค่อย ๆ เปิดให้เห็นวิว โดยไม่ต้องปีนหรือฝืนร่างกายมากนัก คุณสามารถเดินวนในจังหวะของตัวเอง แวะยืนมองรายละเอียดสถาปัตยกรรม และเลือกมุมถ่ายภาพที่ไม่ต้องแย่งกัน หากมาในช่วงเช้าแสงจะนุ่ม ทำให้สีขององค์พระมหาธาตุและสีเขียวของแนวป่าออกมาสบายตา ส่วนช่วงสายถึงบ่าย วิวจะคมขึ้น แต่คนก็มักหนาแน่นขึ้นตามไปด้วย

 

อีกจุดที่หลายคนชอบคือความรู้สึก “ต่างแต่สมดุล” ขององค์พระมหาธาตุทั้ง 2 องค์ ซึ่งทำให้พื้นที่นี้มีจังหวะให้เดินดูได้เรื่อย ๆ แบบไม่จำเจ บางคนตั้งใจมาไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคล บางคนมาด้วยเหตุผลเรียบง่ายกว่านั้น คืออยากยืนรับลมเย็น ๆ แล้วมองทิวเขาไกล ๆ แต่ไม่ว่าคุณจะมาแบบไหน พื้นที่นี้มักทำหน้าที่เหมือน “ที่พักใจชั่วคราว” ได้ดี เพราะมันไม่ได้เร่งเราให้ทำอะไรไว ๆ นอกจากชวนให้เราสงบลงโดยธรรมชาติของมัน

 

ในแง่ประสบการณ์ท่องเที่ยว ถ้าคุณอยากได้ความคุ้มแบบไม่เหนื่อยเกินไป แนะนำให้กันเวลาไว้ประมาณ 45–90 นาที เพื่อเดินชมรอบ ๆ ถ่ายภาพแบบไม่รีบ และเว้นช่วงให้ตัวเองได้นั่งพักสักนิด เพราะพื้นที่บนดอยอากาศเย็นและลมแรงกว่าด้านล่าง โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวถึงหน้าหนาว บางวันอาจมีหมอกจัด ทำให้พื้นบางส่วนลื่นได้ง่าย การใส่รองเท้าที่เกาะพื้นดี ๆ จะช่วยลดความเสี่ยงเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มักเกิดตอนคนกำลัง “มัวแต่ถ่ายรูป” ได้มาก

 

มารยาทที่เหมาะกับการมาเยือนพระมหาธาตุคู่คือการแต่งกายสุภาพ ไม่ส่งเสียงดังเกินจำเป็น และระวังมุมถ่ายภาพที่ไปกีดขวางทางเดินหรือบังคนอื่น โดยเฉพาะช่วงคนเยอะ ถ้าอยากได้รูปสวยแบบไม่ต้องเบียด แนะนำให้เดินออกจากจุดยอดฮิตอีกนิด คุณจะเจอมุมที่วิวเปิดและคนบางลงอย่างเห็นได้ชัด และถ้าตั้งใจไหว้พระจริง ๆ การหยุดยืนตั้งจิตสั้น ๆ แบบเรียบง่าย มักให้ความรู้สึก “ได้มา” มากกว่าการรีบไหว้แล้วรีบไป

 

การเดินทาง: หากเริ่มต้นจากตัวเมืองเชียงใหม่ โดยทั่วไปใช้เส้นทางถนนเชียงใหม่–ฮอด (ทางหลวง 108) มุ่งหน้าอำเภอจอมทอง แล้วเลี้ยวเข้าสายจอมทอง–อินทนนท์ (ทางหลวง 1009) เพื่อขึ้นสู่เขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จากนั้นขับขึ้นดอยตามเส้นทางหลักไปเรื่อย ๆ จนถึงช่วงกิโลเมตรที่ 41.5 จะพบจุดพระมหาธาตุคู่ทางด้านซ้ายมือ (มีป้ายและจุดจอดรถรองรับ) หากไม่สะดวกขับเอง ตัวเลือกที่นิยมคือเช่ารถพร้อมคนขับ/เหมารถตู้/เหมาสองแถวจากเชียงใหม่หรือจอมทอง แล้วกำหนดจุดแวะหลัก ๆ บนดอยอินทนนท์ให้ครบในทริปเดียว

 

สิ่งที่ควรรู้แบบคนอยากเที่ยวให้สบาย คือถ้าคุณวางแผนจะไปต่อยอดดอยอินทนนท์ในวันเดียวกัน ให้จัดลำดับแวะที่พระมหาธาตุคู่เป็น “ช่วงกลางทริป” จะลงตัวที่สุด เพราะไม่หนักไปเหมือนเริ่มทริปด้วยจุดคนเยอะ และไม่ล้าเกินไปเหมือนเอาไว้ท้ายสุดหลังเดินเส้นทางธรรมชาติมาแล้ว อีกอย่างคืออากาศบนดอยเปลี่ยนเร็ว ควรเตรียมเสื้อคลุมบาง ๆ ติดรถไว้เสมอ ต่อให้ข้างล่างร้อน แต่ข้างบนอาจเย็นจนรู้สึกคนละฤดูได้เลย

 

สุดท้าย ถ้าถามว่าที่นี่เหมาะกับใคร คำตอบคือเหมาะกับทั้งคนที่ “อยากได้วิว” และคนที่ “อยากได้ความหมาย” เพราะมันเป็นสถานที่ที่ให้ทั้งสองอย่างพร้อมกัน โดยไม่บังคับให้คุณต้องเลือก และนี่คือเสน่ห์ของพระมหาธาตุคู่บนดอยอินทนนท์ ที่ทำให้หลายคนมาแล้วอยากกลับมาอีกครั้งในฤดูที่ต่างกัน เพื่อดูว่าบรรยากาศของดอยจะเล่าเรื่องเดิมให้เราในความรู้สึกใหม่ได้ยังไง

 

 

ตอบ: อยู่บนเส้นทางหลักขึ้นดอยอินทนนท์ ทางหลวง 1009 ช่วงกิโลเมตรที่ 41.5 โดยประมาณ ระหว่างทางไปยอดดอย

 

ตอบ: แนะนำอย่างน้อย 45–90 นาที เพื่อเดินชมสวน ถ่ายภาพ และสักการะโดยไม่รีบ

 

ตอบ: ช่วงเช้าแสงนุ่ม คนยังไม่แน่น และอากาศมักสดชื่น เหมาะกับการถ่ายรูปและเดินชมสวน

 

ตอบ: ควรแต่งกายสุภาพ และเตรียมเสื้อคลุมบาง ๆ เพราะอากาศบนดอยเปลี่ยนเร็ว โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวถึงหน้าหนาว

 

ตอบ: มีค่าเข้าชมส่วนพระมหาธาตุตามอัตราที่ประกาศ (ดูในตารางสรุป) และหากมีค่าธรรมเนียมอื่นในเขตอุทยาน ให้ยึดตามประกาศ ณ จุดจำหน่ายบัตร/ด่านอุทยาน