พิพิธภัณฑ์คณะฟุตบอลแห่งสยาม

Rating: 4.4/5 (5 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวนครปฐม
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน
เวลาเปิดทำการ: 09.00 - 16.00 น.
พิพิธภัณฑ์คณะฟุตบอลแห่งสยาม ประวัติของฟุตบอลในประเทศไทย อาจะเรียกได้ว่าเริ่มเป็นที่รู้จักแพร่หลายก็เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ทรงก่อตั้ง “คณะฟุตบอลแห่งสยาม” ซึ่งก็คือสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ในปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2458 ภายหลังจาก "สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า" ทรงเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 จึงทรงโปรดเกล้า ฯ รับคณะฟุตบอลแห่งสยามให้อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามพระราชประสงค์ของสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2469
ในปี พ.ศ. 2545 สมาคมฯ ได้จัดงาน “123 ปี พระผู้พระราชทานกำเนิดฟุตบอลสยาม” ณ วชิราวุธวิทยาลัย เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เยาวชนและประชาชนไทยที่ชอบกีฬาฟุตบอลกันอยู่แล้วให้ทราบถึงประวัติศาสตร์ของการกีฬาฟุตบอลในประเทศไทย และทางสมาคมฯ ได้ทำหนังสือทูลเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จเป็นประธานเปิดงาน ถือเป็นการจุดประกายให้เกิดพิพิธภัณฑ์คณะฟุตบอลแห่งสยามขึ้นตั้งแต่ในครั้งนั้น
พิพิธภัณฑ์คณะฟุตบอลแห่งสยาม ริเริ่มโดยสมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่มีทั้งคนทั่วไปที่สนใจฟุตบอล นักวิชาการ และอดีตนักฟุตบอลทีมชาติ โดยเฉพาะบรรดานักฟุตบอลทีมชาติทั้งเก่าและใหม่ รวมถึงลูกหลานของอดีตนักฟุตบอล เมื่อทราบว่ามีสมาคมฯ นี้เกิดขึ้น
จึงได้ร่วมกันบริจาคสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ฟุตบอลในประเทศไทยมาให้ทางสมาคมฯ เพื่อรวบรวมในการจัดทำพิพิธภัณฑ์ เนื่องด้วยกีฬาฟุตบอลมีความเกี่ยวเนื่องกับรัชกาลที่ 6 อยู่แล้ว พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงขอใช้พื้นที่ของ พระราชวังสนามจันทน์ เป็นที่จัดแสดง มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 จนกระทั้งปีพ.ศ.2550 พระราชวังสนามจันทน์อายุครบ 100 ปี จึงได้เปิดพิพิธภัณฑ์อย่างเป็นทางการ
ส่วนจัดแสดงแบ่งออกเป็น 3 ส่วน โดยในส่วนแรกและส่วนที่สอง เป็นส่วนของภาพถ่ายที่ในหลวงรัชกาลที่ 6 ทรงเป็นผู้ถ่ายพระราชทานแก่คณะฟุตบอลของโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย แสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงสนพระทัยในกีฬาประเทศนี้ และหลังจากนั้นก็เกิดคณะฟุตบอลขึ้นตามโรงเรียนต่างในพระนคร มีโรงเรียนราชวิทยาลัย(วชิราวุธวิทยาลัย) โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน หรือแม้กระทั้งหมู่ข้าราชบริพารในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ก็ได้รวมตัวกันเล่นฟุตบอลถวายอยู่บ่อยๆ
มีทั้งเครื่องแบบของคณะฟุตบอล ตราพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 เรียกว่าตราพระมหามงกุฏ เป็นตราประจำคณะฟุตบอลแห่งสยาม (สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯในปัจจุบัน) ซึ่งในโลกนี้มีทีมชาติอยู่ 2 ทีมเท่านั้นที่มีตราพระมหากษัตริย์เป็นสัญลักษณ์ คือทีมฟุตบอลอังกฤษ และของไทย เนื่องจากรัชกาลที่ 6 ทรงจบการศึกษาจากอังกฤษ จึงได้พระราชทานตราประจำพระองค์เป็นตราประจำทีมชาติไทยด้วย นอกจากนั้นยังมีบันทึกของนักกีฬาฟุตบอลในสมัยรัชกาลที่ 6 เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันประวัติศาสตร์ที่น่าชื่นชมของกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย
ส่วนที่สาม จัดแสดงเรื่องของกีฬาฟุตบอลในปัจจุบัน มีลูกฟุตบอลที่มีลายเซ็นต์ของอดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทยที่ถือว่าเป็นสุดยอด (เท่านั้น) ของการกีฬาฟุตบอลของไทย แม้ว่าจะเป็นลูกฟุตบอลสมัยใหม่ที่อดีตนักฟุตบอลเหล่านั้นมาเซ็นต์ทีหลัง แต่ก็ถือได้ว่าเป็นบันทึกประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งที่ได้ทำไว้ มิใช่มาทำหลังจากอดีตนักฟุตบอลเหล่านั้นเสียชีวิตไปแล้ว ในงานทุกปีที่ทางสมาคมประวัติศาสตร์ฟุตบอลแห่งประเทศไทยจัดขึ้น จะมอบโล่แก่อดีตนักฟุตบอลเก่าๆเหล่านั้น เหมือนกับการทำพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นบันทึกหน้าหนึ่ง หรือได้เปิดเผยอดีตที่น่าสนใจของกีฬาฟุตบอลไทย
หลายคนอาจไม่ทราบว่าทีมชาติไทยเคยเฉียดที่จะไปร่วมแข่งขันฟุตบอลโลกมาเมื่อปี พ.ศ.2473 เนื่องจากไทยสมัครเป็นผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมฟุตบอลนานาชาติหรือฟีฟ่าขึ้นจึงได้สิทธิเข้าร่วมแข่งขันร่วมกับญี่ปุ่นและปัตตาเวีย(อินโดนีเซียปัจจุบัน) หากแต่ในช่วงที่กำลังเตรียมตัวไปแข่ง เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองขึ้นในปี พ.ศ.2475 ทำให้ไทยไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน
การเข้าชมพิพิธภัณฑ์คณะฟุตบอลแห่งสยามนั้นไม่ยากแต่อย่างใด พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ ณ พระตำหนักทับแก้ว ในเขตของพระราชวังสนามจันทน์ จังหวัดนครปฐม ทางพิพิธภัณฑ์ไม่ได้เก็บค่าเข้าชม แต่ผู้ที่จะเข้าชมต้องเสียค่าเข้าชมพระราชวังสนามจันทน์ก่อนถึงจะเข้ามาชมพิพิธภัณฑ์ได้
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
Facebook Fanpage















หมวดหมู่:
กลุ่ม:
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และอนุสาวรีย์(
แลนด์มาร์ก และอนุสรณ์สถาน(
พระราชวัง(
ศูนย์ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี(
อาร์ตแกลเลอรี่(
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงวิชาการ
ไร่ สวนเพื่อการศึกษา(
มหาวิทยาลัย
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์
วัด(
สถานที่เกี่ยวกับศาสนาอื่นๆ(
โครงการในพระราชดำริ
โครงการหลวง(
วิถีชีวิต
หมู่บ้าน ชุมชน(
ตลาดท้องถิ่น(
ตลาดน้ำ(
ธรรมชาติ และสัตว์ป่า
แม่น้ำลำคลอง(
แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ(
บันเทิง และท่องเที่ยวเชิงเกษตร
แคมป์สัตว์ และการแสดงสัตว์(
สนามกีฬา(
ฟาร์ม, ไร่, สวน, สวนสาธารณะ และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(
สวนน้ำ(
โรงละคร(
กิจกรรมกลางแจ้ง และกิจกรรมผจญภัย(
สปาเพื่อสุขภาพ
สปาเพื่อสุขภาพ(