30 สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดอ่างทองที่คุณห้ามพลาด

Rating: 5/5 (1 votes)

อ่างทอง จังหวัดเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวิถีชีวิตไทยที่เรียบง่ายและงดงาม ที่นี่คือแหล่งรวมวัฒนธรรม ประเพณีภาคกลาง และศิลปกรรมที่สะท้อนถึงความงดงามของรากเหง้าไทย ตั้งแต่วัดวาอารามที่มีความสำคัญทางศาสนาอย่าง วัดม่วง ที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วัดขุนอินทประมูล ที่เป็นที่ตั้งของพระพุทธไสยาสน์องค์งดงาม ไปจนถึงวัดโบราณที่แฝงไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์ อ่างทองยังเป็นจังหวัดที่มีความโดดเด่นด้านประเพณีที่สืบทอดมายาวนาน หนึ่งในนั้นคือ ประเพณีตักบาตรน้ำผึ้ง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นที่ชาวอ่างทองยังคงรักษาไว้ ด้วยความเชื่อที่ว่าการตักบาตรน้ำผึ้งจะนำมาซึ่งความสุข ความเจริญ และชีวิตที่ร่มเย็นเป็นสุข นอกจากนี้ยังมี ประเพณีแห่เจ้าพ่อกลองใหญ่ ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการเคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำจังหวัดและเฉลิมฉลองความสามัคคีของชาวบ้าน

 

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังสามารถชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน เช่น การละเล่นพื้นเมืองอย่าง การเล่นสะบ้า หรือ การแสดงลิเก ที่สะท้อนวิถีชีวิตและความบันเทิงของชาวอ่างทองในอดีตได้อย่างชัดเจน อีกหนึ่งไฮไลต์คือเส้นทางชุมชน เช่น บ้านทำกลอง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตกลองไทยที่สืบทอดฝีมือกันมายาวนาน นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้กระบวนการผลิตและสนับสนุนสินค้าชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์ได้โดยตรง พร้อมทั้งชื่นชมความสามารถของชาวบ้านในงานฝีมือดั้งเดิม

 

ในแง่ของธรรมชาติ อ่างทองยังมีพื้นที่เกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์ ท้องทุ่งนาที่เขียวขจี และบรรยากาศริมแม่น้ำที่สงบสบาย เช่น การเยี่ยมชม ตลาดเก่าศาลเจ้าโรงทอง ที่เต็มไปด้วยของกินอร่อยและของที่ระลึกพื้นบ้าน ไม่ว่าคุณจะชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตชุมชน หรือการเข้าร่วมประเพณีที่เต็มไปด้วยความหมาย อ่างทองจะมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจและยากจะลืมเลือนให้คุณได้อย่างแน่นอน 30 สถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดอ่างทองที่คุณห้ามพลาด ได้แก่

 

 

1. พระตำหนักคำหยาด โบราณสถานที่ตั้งอยู่ในตำบลคำหยาด จังหวัดอ่างทอง เป็นสัญลักษณ์ของความงดงามทางสถาปัตยกรรมในยุคกรุงศรีอยุธยาและเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า ตัวอาคารตั้งโดดเด่นอยู่กลางทุ่งนา สร้างด้วยอิฐถือปูนขนาดกว้าง 10 เมตร ยาว 20 เมตร พร้อมผนังทั้ง 4 ด้านที่ยังคงยืนหยัดท้าทายกาลเวลา แม้จะเหลือเพียงซากอาคาร แต่ยังสามารถมองเห็นเค้าความงดงามผ่านลวดลายประดับซุ้มจรนำหน้าต่าง และโครงสร้างที่แสดงถึงความปราณีตของงานช่างในอดีต เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ แต่ยังสะท้อนถึงความเป็นไทยและความละเอียดลออในงานช่างที่ถ่ายทอดมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าแก่ชนรุ่นหลังอย่างแท้จริง

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/wukKADFJwdrwnN3g7

 

 

2. อนุสาวรีย์พันท้ายนรสิงห์ ตั้งอยู่ภายในวัดนรสิงห์ หมู่ 2 บ้านตะพุ่น ตำบลนรสิงห์ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ริมทางหลวงหมายเลข 3501 โดยห่างจากกิโลเมตรที่ 9-10 เพียงเล็กน้อย อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2531 เพื่อเป็นการระลึกถึงความซื่อสัตย์และภักดีของพันท้ายนรสิงห์ บุคคลสำคัญที่ประวัติศาสตร์ไทยจารึกไว้ว่าเป็นผู้ที่ยึดมั่นในความถูกต้องและหน้าที่แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต สถานที่สำหรับการระลึกถึงความเสียสละ แต่ยังเป็นเครื่องเตือนใจถึงคุณค่าของความซื่อสัตย์ ความภักดี และการยึดมั่นในหน้าที่ อนุสาวรีย์นี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการยึดมั่นในหลักการที่ดี ซึ่งเป็นคุณธรรมที่ยังคงมีคุณค่าในสังคมไทยตลอดมา อนุสาวรีย์พันท้ายนรสิงห์จึงไม่เพียงเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงความสำคัญของคุณธรรมและจิตวิญญาณของคนไทยที่ยึดมั่นในความถูกต้องเสมอมา

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/E6PGKnVwX3htBR2i6

 

 

3. อนุสาวรีย์นายดอกนายทองแก้ว ตั้งอยู่บริเวณหน้าโรงเรียนวิเศษชัยชาญวิทยาคม หมู่ 2 ตำบลไผ่จำศีล จังหวัดอ่างทอง โดยสามารถเดินทางเข้าถึงได้จากทางสายอ่างทอง-วิเศษชัยชาญ ระหว่างกิโลเมตรที่ 26-27 จากนั้นเลี้ยวเข้าซอยปู่ดอก-ปู่ทองแก้ว 16 ไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร อนุสาวรีย์แห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญที่สะท้อนถึงความกล้าหาญและการเสียสละของนายดอกและนายทองแก้ว วีรบุรุษแห่งบ้านโพธิ์ทะเล ชาววิเศษชัยชาญ ที่ร่วมต่อสู้เพื่อปกป้องแผ่นดินไทยในศึกบางระจัน อนุสาวรีย์นายดอกนายทองแก้วไม่เพียงเป็นสถานที่แห่งการรำลึกถึงบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและความรักชาติที่ยิ่งใหญ่ ชาววิเศษชัยชาญและชาวอ่างทองยังคงจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการรำลึกถึงพวกเขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อปลูกฝังคุณธรรมเหล่านี้ให้กับคนรุ่นหลัง อนุสาวรีย์นี้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่สำคัญของผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ไทย โดยเฉพาะเรื่องราวของวีรบุรุษในยุคกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย การเยี่ยมชมอนุสาวรีย์นายดอกนายทองแก้วนอกจากจะช่วยให้เราเข้าใจประวัติศาสตร์มากขึ้น ยังสร้างแรงบันดาลใจให้เห็นคุณค่าของความเสียสละและความรักในชาติที่ทุกคนควรยึดถือ

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/A58DBRx1obFSTRk19

 

 

4. ประเพณีห่มผ้าพระนอน ที่เที่ยวจังหวัดอ่างทอง สายใยแห่งศรัทธาและวัฒนธรรม เป็นหนึ่งในประเพณีที่มีความสำคัญในจังหวัดอ่างทอง สะท้อนให้เห็นถึงความศรัทธาในพระพุทธศาสนาและการสืบทอดวัฒนธรรมของคนในชุมชน ประเพณีนี้จัดขึ้นเพื่อแสดงความเคารพต่อพระนอน พระพุทธรูปที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของการเข้าสู่พระนิพพานและความสงบสุขในทางธรรม ประเพณีห่มผ้าพระนอนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าของจังหวัดอ่างทอง ความศรัทธาและความผูกพันของคนในชุมชนที่มีต่อพระพุทธศาสนาและวัฒนธรรมได้สะท้อนออกมาผ่านงานนี้อย่างชัดเจน การสืบสานประเพณีนี้ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาความเชื่อและวัฒนธรรมของท้องถิ่น แต่ยังสร้างความภาคภูมิใจและความสามัคคีในชุมชนที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย

 

 

 

5. พิพิธภัณท์ภูมิปัญญาท้องถิ่น ถือเป็นจุดหมายปลายทางที่โดดเด่นสำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตชุมชนและมรดกทางวัฒนธรรมของชาวตำบลโคกพุทรา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เกิดจากการร่วมมือกันของชาวบ้าน วัด โรงเรียน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อรวบรวมเรื่องราว วิถีชีวิต และภูมิปัญญาของคนในพื้นที่ ถ่ายทอดผ่านการจัดแสดงโบราณวัตถุและสิ่งของที่เคยใช้จริงในอดีต เป็นศูนย์กลางของการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่ช่วยสร้างความภาคภูมิใจและเชื่อมโยงคนรุ่นใหม่เข้ากับรากเหง้าของตนเอง การเดินทางมาที่นี่ไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการเรียนรู้วิถีชีวิตเรียบง่ายที่ยังคงงดงามและทรงคุณค่า

 

 

6. วัดสังกระต่าย เป็นวัดโบราณที่ตั้งอยู่ในตำบลศาลาแดง จังหวัดอ่างทอง ห่างจากตัวเมืองเพียง 2 กิโลเมตร ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่สะท้อนถึงความงดงามของสถาปัตยกรรมและความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติกับวัฒนธรรมไทยได้อย่างลงตัว อีกหนึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด คือมุมมองผ่าน ช่องหน้าต่างโบสถ์ ซึ่งเผยให้เห็นพระประธานภายในอย่างลงตัว เป็นภาพที่งดงามและสร้างความประทับใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ ดสังกระต่ายเป็นสถานที่ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์และวิถีชีวิตในอดีตของชาวอ่างทองได้อย่างลึกซึ้ง ถึงแม้วัดจะกลายเป็นวัดร้าง แต่โบสถ์เก่าที่ถูกปกคลุมด้วยต้นโพธิ์ยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้สนใจในความงดงามของธรรมชาติและศิลปะ การเดินทางมาเยือนวัดสังกระต่ายไม่เพียงแต่จะได้สัมผัสกับความสงบและความเป็นเอกลักษณ์ของสถานที่ แต่ยังเป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้เรื่องราวในอดีตที่สะท้อนถึงความศรัทธาและความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติและศาสนา หากคุณมีโอกาสมาเยือนจังหวัดอ่างทอง อย่าลืมแวะชม วัดสังกระต่าย สถานที่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และคุณค่าแห่งกาลเวลา

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/k3ovoFkaZEdqoSJFA

 

 

7. วัดท่าสุทธาวาส ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศตะวันออกในตำบลบางเสด็จ จังหวัดอ่างทอง เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม วัดแห่งนี้มีอายุย้อนกลับไปตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น และในช่วงสงครามวัดท่าสุทธาวาสมีบทบาทสำคัญเป็นเส้นทางการเคลื่อนทัพของทหารที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาในการเดินทางไปสู่จุดต่างๆ หนึ่งในจุดเด่นของวัดท่าสุทธาวาสคือพลับพลาที่ตั้งอยู่กลางสระน้ำ รายล้อมไปด้วยภูมิทัศน์ที่สวยงาม พลับพลานี้เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและโบราณวัตถุที่สำคัญสะท้อนถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานของวัดแห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีพระบรมราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและสมเด็จพระเอกาทศรถ ซึ่งทำให้ผู้มาเยือนได้รำลึกถึงวีรบุรุษสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย ผู้คนสามารถมาสักการะพระพุทธรูปและโบราณวัตถุ แต่ยังเป็นสถานที่ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของอาณาจักรอยุธยาและประวัติศาสตร์ไทยที่ยาวนาน ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสทั้งบรรยากาศที่สงบและทิวทัศน์ที่สวยงาม พร้อมกับเรื่องราวที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์ที่ยากจะลืมได้ 

 

 

 

8. วัดพินิจธรรมสาร ตั้งอยู่ที่ตำบลบางปลากด ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาด้านทิศตะวันออกตามถนนสายอ่างทอง-ป่าโมก-อยุธยา (กิโลเมตรที่ 15) เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และศาสนาในจังหวัดอ่างทอง โดยวัดนี้เดิมมีชื่อว่า วัดชีปะขาว และถูกสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเมื่อปี พ.ศ. 2269 ซึ่งการก่อสร้างและความสำคัญของวัดนี้มีความเชื่อมโยงอย่างแน่นแฟ้นกับพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์พระเจ้าท้ายสระแห่งกรุงศรีอยุธยา เป็นวัดที่มีความสำคัญทั้งในด้านศาสนาและประวัติศาสตร์ นอกจากจะเป็นสถานที่ที่มีความงดงามทางสถาปัตยกรรมแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางการสักการะและการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ไทยไว้ในความทรงจำของคนรุ่นหลัง เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวและชาวบ้านสามารถสัมผัสกับบรรยากาศแห่งความสงบและการเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยที่ทรงคุณค่า

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/AiC7i2bgJwmobwT86

 

 

9. วัดโพธิ์ทอง ตั้งอยู่ที่บ้านโพธิ์ทอง ตำบลคำหยาด อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง ห่างจากตัวเมืองอ่างทองประมาณ 9 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายอ่างทอง-โพธิ์ทอง เป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาอย่างยิ่ง วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา และเกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์ตลอดประวัติศาสตร์ของชาติ เป็นสถานที่ที่รวมทั้งความสำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ไว้ด้วยกัน ตั้งแต่การเกี่ยวพันกับพระมหากษัตริย์ไทยในอดีต การเป็นที่ประทับร้อนของพระราชวงศ์ จนถึงการเป็นศูนย์กลางทางศาสนาในปัจจุบัน วัดนี้ไม่เพียงแต่มีคุณค่าทางศาสนา แต่ยังเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมและอนุรักษ์ให้ยั่งยืนไปในอนาคต

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/VqcNbVWVqrwPeUuZ6

 

 

10. วัดม่วง ตั้งอยู่ในอำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนาที่มีความสำคัญและยิ่งใหญ่ระดับประเทศ ด้วยความยิ่งใหญ่ของพระพุทธรูปปางมารวิชัย "หลวงพ่อใหญ่" หรือ "พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ" ที่มีขนาดมหึมาถึง 95 เมตร และหน้าตักกว้างถึง 63 เมตร ทำให้พระพุทธรูปองค์นี้โดดเด่นเป็นที่เคารพสักการะของผู้คนจากทั่วประเทศ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาที่สะท้อนถึงความศรัทธาและความสามัคคีของประชาชนที่ร่วมมือกันสร้างสรรค์และฟื้นฟูวัดแห่งนี้ขึ้นมาใหม่ ไม่เพียงแค่ความยิ่งใหญ่ของพระพุทธรูปหลวงพ่อใหญ่ แต่ยังเป็นสถานที่ที่มีบทบาทสำคัญในการศึกษา การปฏิบัติธรรม และการเผยแผ่พระธรรมคำสอน ทำให้วัดม่วงกลายเป็นศูนย์กลางของความศรัทธาและการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาวไทย

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/68QcX3GpY9EBbmsB6

 

 

11. วัดสี่ร้อย ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำน้อยในตำบลสี่ร้อย อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง เป็นหนึ่งในวัดที่มีความสำคัญทั้งในแง่ของศาสนาและประวัติศาสตร์ของไทย ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อและความศรัทธาของชาวบ้านในท้องถิ่น รวมถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์สำคัญในสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในพระอุโบสถของวัดสี่ร้อยเคยมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามฝีมือช่างอยุธยา ซึ่งสะท้อนถึงศิลปะและความงามของงานจิตรกรรมในยุคกรุงศรีอยุธยา ภาพเหล่านี้เล่าเรื่องราวต่างๆ ในประวัติศาสตร์ไทยและภาพชีวิตประจำวันของชาวไทยในสมัยนั้น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันภาพจิตรกรรมเหล่านั้นได้เลือนลางไปตามกาลเวลา แต่ยังคงเหลือเค้าโครงให้เห็นถึงความงดงามและคุณค่าทางศิลปะ ผู้ที่สนใจในศิลปะและความเชื่อทางพุทธศาสนา และยังคงเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญต่อชาวบ้านในพื้นที่ และเป็นสถานที่ที่สามารถมาขอพรและสัมผัสกับบรรยากาศที่สงบและศักดิ์สิทธิ์ได้

 

แผนที่ : https://maps.app.goo.gl/6rmkj9UYS6RGBFSc6

 

 

12. วัดเขียน ตั้งอยู่ในหมู่ 8 ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง เป็นวัดเก่าแก่ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองทางศิลปะและวัฒนธรรมไทยในอดีต ด้วยประวัติศาสตร์ยาวนานและจิตรกรรมฝาผนังที่ทรงคุณค่า วัดแห่งนี้จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับผู้สนใจศิลปะไทยและนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสมรดกทางวัฒนธรรม วัดเขียนเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผสมผสานความงดงามทางศิลปะและประวัติศาสตร์ไว้อย่างลงตัว นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมจิตรกรรมฝาผนังที่สะท้อนถึงความยิ่งใหญ่ของศิลปะไทยในอดีต พร้อมทั้งสัมผัสบรรยากาศสงบเงียบที่เหมาะแก่การพักผ่อนและศึกษาวัฒนธรรม ด้วยคุณค่าทางศิลปะ สถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ วัดเขียน ไม่เพียงแต่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดอ่างทอง แต่ยังเป็นสมบัติอันล้ำค่าของชาติไทยที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และเยี่ยมชมอย่างยิ่ง

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/ppdVDVQ2z8uMpuuB9

 

 

13. อุทยานสวรรค์ 115 ปี หนองเจ็ดเส้น สวนมหัศจรรย์แห่งจินตนาการและมรดกพระราชดำริ บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ในจังหวัดอ่างทอง อุทยานสวรรค์ 115 ปี หนองเจ็ดเส้น คือสถานที่ที่รวบรวมความงดงามของธรรมชาติ ศิลปะ และมรดกทางวัฒนธรรมเอาไว้อย่างลงตัว ที่นี่เป็นทั้งแหล่งท่องเที่ยวและพื้นที่สีเขียวสำหรับประชาชน ซึ่งได้รับการพัฒนาภายใต้พระราชดำริในสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สะท้อนถึงความจงรักภักดีของชาวไทยต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายใต้พระราชดำริที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณกำลังมองหาสถานที่พักผ่อนที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและความงดงามแห่งธรรมชาติ อุทยานสวรรค์ 115 ปี หนองเจ็ดเส้น คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/vSiN9iYgVM9CL86Q9

 

 

14. ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ ศิลปะดินเหนียวที่บอกเล่าวิถีไทย ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาในตำบลบ้านบางเสด็จ จังหวัดอ่างทอง มีสถานที่แห่งหนึ่งที่สะท้อนถึงพระมหากรุณาธิคุณและศิลปะอันงดงามของคนไทย นั่นคือ ศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จ ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จไม่เพียงแต่สะท้อนความงามของศิลปะไทย แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นในการสืบสานวัฒนธรรมและการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน โดยมีจุดเริ่มต้นจากพระมหากรุณาธิคุณและความห่วงใยของพระบรมราชินีนาถ การเยี่ยมชมศูนย์ตุ๊กตาชาววังบ้านบางเสด็จจึงเป็นมากกว่าการท่องเที่ยว แต่เป็นการสัมผัสถึงมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ที่ยังคงถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นอย่างภาคภูมิใจ

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/e7uZ2huhTPSnNWvQ6

 

 

15. หมู่บ้านหมอลำ ในจังหวัดอ่างทอง เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่มีความโดดเด่นด้านวัฒนธรรมและศิลปะการแสดงพื้นบ้านของไทย ที่นี่เป็นชุมชนชาวภูไทที่สืบทอดการแสดงหมอลำมากว่า 200 ปี ศิลปะการแสดงหมอลำไม่ได้เป็นเพียงความบันเทิง หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ความเชื่อ และมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า โดยหมู่บ้านแห่งนี้ยังเป็นแหล่งรวมคณะหมอลำมากที่สุดในประเทศไทย ชุมชนแห่งนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ในการสืบสานศิลปะหมอลำและความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมไทย หมู่บ้านหมอลำจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและต้องการเรียนรู้ศิลปะการแสดงอันทรงคุณค่าของประเทศไทย

 

 

16. หมู่บ้านทำกลอง มนต์เสน่ห์แห่งภูมิปัญญาไทยในตำบลเอกราช จังหวัดอ่างทอง ในจังหวัดอ่างทองอันเงียบสงบ มีหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวไทย หมู่บ้านทำกลองในตำบลเอกราช ซึ่งตั้งอยู่หลังตลาดป่าโมก บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา ถือเป็นแหล่งผลิตกลองฝีมือประณีตที่มีชื่อเสียงไปทั่วประเทศ และสะท้อนถึงความงดงามของศิลปะการทำกลองที่มีมาอย่างยาวนาน เป็นสถานที่ที่รวบรวมเสน่ห์ของภูมิปัญญาไทยดั้งเดิมและศิลปะการทำกลองที่งดงาม การมาเยือนที่นี่ไม่เพียงเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทย แต่ยังได้สัมผัสถึงความทุ่มเทและความรักในศิลปะของชาวบ้าน ที่สืบทอดผ่านกลองแต่ละใบที่สร้างขึ้นอย่างประณีตและใส่ใจในทุกรายละเอียด

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/83uoixXgy5LbQrTL7

 

 

17. บ้านบางเจ้าฉ่า แหล่งวัฒนธรรมและหัตถกรรมเครื่องจักสานแห่งอ่างทอง ตั้งอยู่ที่หมู่ 8 บ้านยางทอง ตำบลบางเจ้าฉ่า อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง เป็นชุมชนที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา โดยได้รับการจารึกว่าเคยร่วมกับชาวแขวงเมืองวิเศษชัยชาญและชาวบางระจันต่อสู้กับพม่าอย่างกล้าหาญ โดยมี "นายฉ่า" เป็นผู้นำสำคัญในการสู้รบ หลังสงคราม นายฉ่าได้นำชาวบ้านมาตั้งรกรากถาวรในพื้นที่อุดมสมบูรณ์ริมแม่น้ำน้อย ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ "บางเจ้าฉ่า" บ้านบางเจ้าฉ่าไม่เพียงแต่เป็นแหล่งผลิตเครื่องจักสานอันประณีต แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของชาวบ้านในการสืบสาน วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ผ่านงานฝีมือที่มีเอกลักษณ์ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสกับความงดงามของวิถีชีวิตเรียบง่ายและงานหัตถกรรมอันทรงคุณค่า หากคุณกำลังมองหาจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของงานฝีมือไทยแท้ บ้านบางเจ้าฉ่าคือสถานที่ที่ไม่ควรพลาด

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/w8udqicwzjocXx8V7

 

 

18. ศูนย์เจียระไนพลอยบางเจ้าฉ่า ตั้งอยู่ในตำบลบางเจ้าฉ่า จังหวัดอ่างทอง บริเวณเดียวกับแหล่งผลิตเครื่องจักสานที่มีชื่อเสียงของชุมชน สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งรวบรวมและผลิตพลอยคุณภาพสูงที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ โดยมีการนำเสนองานศิลปะการเจียระไนพลอยที่ประณีตและงดงาม นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถชมและเลือกซื้อพลอยตามความชื่นชอบ รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะการเจียระไนอัญมณีที่หาชมได้ยากในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวที่มาเยือนศูนย์เจียระไนพลอยบางเจ้าฉ่า จะได้สัมผัสประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ไม่เพียงแต่การชมพลอยสวยงามเท่านั้น แต่ยังสามารถเรียนรู้ขั้นตอนการเจียระไนพลอยจากผู้เชี่ยวชาญ ชมการทำงานอย่างละเอียดอ่อนของช่างฝีมือ และได้รับความรู้เกี่ยวกับศิลปะพื้นบ้านอันล้ำค่า

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/PjpYvq7rbjcJ8ZhG8

 

 

19. บ้านคูเมือง ตั้งอยู่ในตำบลบ้านไผ่ อำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง ห่างจากที่ว่าการอำเภอแสวงหาประมาณ 4 กิโลเมตร และห่างจากค่ายบางระจันประมาณ 3 กิโลเมตรเศษ สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งโบราณคดีที่มีความสำคัญระดับประเทศ นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าเป็นชุมชนในสมัยทวาราวดีที่เจริญรุ่งเรืองมากกว่า 1,000 ปีที่ผ่านมา บริเวณนี้ยังคงหลงเหลือร่องรอยของคูเมืองโบราณ เนินดิน และหลักฐานทางโบราณคดีที่ช่วยบอกเล่าเรื่องราวในอดีตได้อย่างน่าสนใจ เป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างยุคทวาราวดีและสมัยอโยธยา หลักฐานทางโบราณคดีที่ค้นพบสะท้อนถึงวิถีชีวิต ประเพณี และศิลปวัฒนธรรมของชุมชนในอดีต เช่น การตั้งถิ่นฐานเพื่อป้องกันภัย การผลิตเครื่องใช้ และการสืบสานพระพุทธศาสนา และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่เหมาะสำหรับผู้สนใจศึกษาเรื่องราวในอดีต การอนุรักษ์พื้นที่นี้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษามรดกทางวัฒนธรรมให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ นอกจากนี้ ยังมีการจัดกิจกรรมและบรรยายเพื่อเสริมสร้างความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการค้นพบทางโบราณคดีในพื้นที่

 

 

 

20. ตลาดวิเศษชัยชาญ สัมผัสเสน่ห์ตลาด 100 ปี ศาลเจ้าโรงทอง จังหวัดอ่างทอง ในโลกที่วัฒนธรรมและเทคโนโลยีผสมผสานเข้าด้วยกัน การค้นหาสถานที่ที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมและบรรยากาศแห่งอดีตอาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่สำหรับผู้ที่มองหาประสบการณ์ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม "ตลาดวิเศษชัยชาญ" หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ตลาด 100 ปี ศาลเจ้าโรงทอง" ในจังหวัดอ่างทอง คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบ เป็นที่รวบรวมวัฒนธรรม วิถีชีวิต และความเชื่อของคนในชุมชน ตลาดแห่งนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้และสัมผัสความเรียบง่ายของวิถีชีวิตไทยในอดีต พร้อมดื่มด่ำกับรสชาติอาหารไทยโบราณ ตลาดวิเศษชัยชาญ เป็นจุดหมายที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด หากต้องการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่เปี่ยมด้วยคุณค่าและความทรงจำในบรรยากาศของชุมชนริมแม่น้ำน้อยที่มีชีวิตชีวาและอบอุ่นที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/YvDabBxBmpBajPb86

 

 

21. ตลาดน้ำสามโก้ แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในอ่างทอง ตั้งอยู่ในตำบลสามโก้ อำเภอสามโก้ จังหวัดอ่างทอง เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสกับวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของคนในชุมชนริมบึงสามโก้ ซึ่งเป็นบึงที่มีความเงียบสงบและสวยงาม ตลาดน้ำสามโก้เกิดจากความร่วมมือของคนในชุมชนที่ร่วมมือกันสร้างสรรค์ตลาดแห่งนี้ เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวและส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยเปิดให้บริการในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศบ้านทุ่งที่สงบและงดงาม พร้อมทั้งมีโอกาสชมการแสดงดนตรีและศิลปะพื้นบ้านที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การแสดงนาฏศิลป์พื้นบ้านและดนตรีลูกทุ่ง ที่สร้างความสนุกสนานให้กับผู้เข้าชม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ เช่น การสอนย้อมผ้า ซึ่งช่วยส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน ตลาดน้ำสามโก้ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมและสัมผัสเพื่อความเข้าใจในความเป็นมาของพื้นที่และคนในชุมชนอย่างแท้จริง

 

 

 

22. หนองคันไชย สถานที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติในอ่างทอง ตั้งอยู่ในจังหวัดอ่างทอง เป็นบ่อน้ำสาธารณะที่มีบรรยากาศร่มรื่นและเงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อนและทำกิจกรรมท่ามกลางธรรมชาติ โดยเฉพาะในช่วงเช้าและเย็นที่อากาศเย็นสบายและเงียบสงบ หนองคันไชยจึงกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของชาวบ้านในชุมชนและนักท่องเที่ยวที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายของชีวิตประจำวันและสัมผัสกับความสงบของธรรมชาติ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสกับความเป็นธรรมชาติและเพลิดเพลินกับทัศนียภาพที่สวยงามของสถานที่นี้ และสามารถร่วมกันรักษาความสะอาดเพื่อให้หนองคันไชยยังคงเป็นสถานที่ที่น่าเยี่ยมชมในอนาคต

 

 

23. ล่องเรือแม่น้ำน้อย สัมผัสวิถีชีวิตและตามรอยนกกระจาบในอ่างทอง แม่น้ำน้อย หนึ่งในแม่น้ำสาขาของแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลผ่านจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง และบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาอีกครั้งที่พระนครศรีอยุธยา ด้วยระยะทางประมาณ 50 กิโลเมตร แม่น้ำน้อยเคยเป็นเส้นทางเดินทัพและย่านการค้าสำคัญในอดีต ปัจจุบัน แม่น้ำน้อยยังคงเป็นบันทึกประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีชีวิต วันนี้เราจะพาคุณล่องเรือชมวิถีชีวิตริมน้ำในอ่างทอง พร้อมตามรอยนกกระจาบที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำแห่งนี้ คุณสามารถชมความงดงามของศิลปะและสักการะพระพุทธรูปเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนเดินทางกลับด้วยความประทับใจ หากคุณกำลังมองหาประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ผสมผสานธรรมชาติ วัฒนธรรม และวิถีชีวิตชาวบ้าน การล่องเรือแม่น้ำน้อยในอ่างทองคือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด 

 

 

24. บ้านหุ่นเหล็ก สถานที่ท่องเที่ยวแห่งจินตนาการในจังหวัดอ่างทอง บ้านหุ่นเหล็ก ตั้งอยู่ในตำบลตลาดกรวด อำเภอเมือง จังหวัดอ่างทอง เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ที่ผสมผสานงานศิลปะและการออกแบบจากเศษเหล็กเก่าได้อย่างลงตัว ที่นี่เป็นทั้งสถานที่ผลิตและจัดแสดงหุ่นเหล็กที่สร้างสรรค์ขึ้นจากเศษเหล็กชิ้นเล็กชิ้นน้อย และเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาความแปลกใหม่และไม่เหมือนใคร บ้านหุ่นเหล็กไม่เพียงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มอบความเพลิดเพลิน แต่ยังเป็นพื้นที่ที่สะท้อนถึงพลังแห่งการสร้างสรรค์และการนำสิ่งที่ไร้ค่ากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง หากคุณกำลังมองหาสถานที่ที่แตกต่างและน่าประทับใจในจังหวัดอ่างทอง บ้านหุ่นเหล็กคือคำตอบที่คุณไม่ควรพลาด

 

 

 

25. อินทร์โตฟาร์ม สัมผัสประสบการณ์ฟาร์มเมล่อนญี่ปุ่นที่ร่มรื่นและครบครันในศรีพราน หมู่ที่ 1 ตำบลศรีพราน เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับผู้ที่รักธรรมชาติและความสดชื่นของผลไม้ ฟาร์มแห่งนี้ปลูกเมล่อนญี่ปุ่นปลอดสารเคมีกว่า 40 โรงเรือน พร้อมสายพันธุ์ที่หลากหลายถึง 10 ชนิด นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมกระบวนการปลูกเมล่อนอย่างใกล้ชิดและสัมผัสประสบการณ์การตัดผลเมล่อนสดๆ จากต้นด้วยตัวเอง นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกซื้อผลผลิตจากฟาร์มติดไม้ติดมือกลับบ้าน เช่น กระเช้าเมล่อนหลากสายพันธุ์ น้ำเมล่อนสกัดเย็น และเมล่อนสดที่การันตีความหวานหอม เหมาะสำหรับการบริโภคเองหรือเป็นของฝากให้คนที่คุณรัก อินทร์โตฟาร์มไม่ใช่แค่ฟาร์มผลไม้ แต่เป็นพื้นที่ที่เชื่อมโยงธรรมชาติและความอร่อยเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว สถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับการพักผ่อนกับครอบครัวหรือเพื่อนฝูง และเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาดในการสัมผัสธรรมชาติและสร้างความทรงจำดีๆ ไปพร้อมกัน

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/DzXgM8j2eZ3d1gAM6

 

 

26. บ้านตุ๊กตามวยคาดเชือก ศิลปะการปั้นตุ๊กตามวยไทยที่สืบทอดภูมิปัญญา ในเมืองเลียบแม่น้ำเจ้าพระยา จังหวัดอ่างทอง มีสถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่เหมือนใคร “บ้านตุ๊กตามวยคาดเชือก” ซึ่งเป็นบ้านของอาจารย์บัณฑิต โกศลสิทธิ์ ช่างปั้นตุ๊กตาที่เชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์ตุ๊กตามวยไทยที่มีความละเอียดและความสวยงาม ในบ้านหลังนี้เต็มไปด้วยตุ๊กตามวยไทยขนาดเล็กที่ถูกปั้นขึ้นจากความรักและความหลงใหลในศิลปะมวยไทยอย่างลึกซึ้ง ผลงานของบ้านตุ๊กตามวยคาดเชือกได้รับการยอมรับและมีชื่อเสียงระดับประเทศ จนกลายเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการสืบสานและรักษาศิลปะมวยไทยให้คงอยู่ในยุคสมัยใหม่ สำหรับผู้ที่สนใจในงานศิลปะการปั้นตุ๊กตามวยไทย สามารถเยี่ยมชมบ้านตุ๊กตามวยคาดเชือกได้ที่ 7 ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ซึ่งที่นี่คุณจะได้ชมชิ้นงานต่างๆ ของอาจารย์บัณฑิต พร้อมทั้งเรียนรู้ขั้นตอนการปั้นตุ๊กตามวยไทยจากอาจารย์โดยตรง โดยการเยี่ยมชมจะทำให้คุณได้สัมผัสกับความหลงใหลในศิลปะการปั้นตุ๊กตาที่สะท้อนถึงความภาคภูมิใจในมวยไทย และความรักในภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ได้รับการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

 

 

27. กลุ่มบ้านทรงไทยจำลอง (ไม้สักทอง) การอนุรักษ์บ้านทรงไทยดั้งเดิมของช่างตู่-สมปอง ตันพานิช ตั้งอยู่ที่ 1/27 หมู่ที่ 6 บ้านสระแก้ว ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก ในจังหวัดอ่างทองที่เต็มไปด้วยร่องรอยของช่างฝีมือไทยและความเป็นมาของวัสดุไม้, กลุ่มบ้านทรงไทยจำลอง (ไม้สักทอง) ของช่างตู่-สมปอง ตันพานิช ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการอนุรักษ์บ้านทรงไทยดั้งเดิมจากภาคกลาง โดยมีความโดดเด่นในการใช้ไม้สักทอง ซึ่งเป็นวัสดุที่ช่างตู่รักและคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กในวิถีชีวิตของคนเมืองอ่างทอง ถือเป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาไทยที่ไม่เพียงแต่สร้างงานฝีมือที่งดงาม แต่ยังทำให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงความสำคัญของบ้านทรงไทยในเชิงสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรม การมีส่วนร่วมในการศึกษาวิธีการสร้างบ้านทรงไทยจำลองจากช่างตู่จะช่วยส่งเสริมและสืบสานศิลปะไทยให้คงอยู่ต่อไปอย่างยั่งยืน

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/L8hy6vKdxf4syfE47

 

 

28. อุตสาหกรรมดินเผา บปก โรงอิฐเก่าแก่ของเมืองอ่างทองที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ ในจังหวัดอ่างทอง มีสถานที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยความเป็นมาที่น่าสนใจและไม่เคยหายไปจากใจของผู้คนในพื้นที่ นั่นคือ อุตสาหกรรมดินเผา บปก หรือโรงอิฐเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานถึง 77 ปี โรงอิฐแห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในแหล่งผลิตอิฐที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย แต่ยังเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมอิฐและกระเบื้องในประเทศอีกด้วย ปัจจุบัน โรงอิฐ บปก เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจได้เข้ามาเรียนรู้กระบวนการผลิตอิฐและกระเบื้องผ่านการเยี่ยมชมและการศึกษาดูงาน โดยเฉพาะนิสิต นักศึกษา และหน่วยงานที่สนใจสามารถเข้ามาชมกระบวนการผลิตตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงขั้นตอนสุดท้ายได้ ซึ่งต้องทำการติดต่อสอบถามและนัดหมายวัน-เวลาก่อนล่วงหน้า การเยี่ยมชมนี้จะทำให้ทุกคนได้เห็นถึงความละเอียดและความทุ่มเทในการผลิตที่ไม่เพียงแต่ทำให้ผู้เยี่ยมชมได้เรียนรู้กระบวนการผลิต แต่ยังได้รับความประทับใจจากการที่โรงงานนี้ยังคงรักษามาตรฐานการผลิตไว้ได้อย่างดีเยี่ยม

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/VejXL1JK9jNzVfHD8

 

 

29. วิเศษศิลป์ บ้านช่างทองเหลือง 22 หมู่ที่ 4 ตำบลไผ่ดำพัฒนา อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง มีบ้านแห่งหนึ่งที่โดดเด่นด้วยฝีมือการทำทองเหลือง ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างแท้จริง นั่นคือ วิเศษศิลป์ แบรนด์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นจากการตี-ตัด-ดัด-เคาะทองเหลือง จนได้มาซึ่งชิ้นงานที่งดงาม ซึ่งเป็นเครื่องประดับและของตกแต่งบ้านสุดพิเศษที่สะท้อนความเป็นไทยได้อย่างสมบูรณ์แบบ หากคุณอยากสัมผัสกับงานทองเหลืองที่มีเอกลักษณ์ สามารถไปเยี่ยมชมได้ที่  ซึ่งจะได้รับประสบการณ์ที่น่าประทับใจจากการเรียนรู้และชมการทำงานจากมือช่างที่มีความชำนาญ วิเศษศิลป์ไม่เพียงแต่เป็นแบรนด์เครื่องประดับและของตกแต่งบ้านจากทองเหลือง แต่ยังเป็นศูนย์รวมของภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ให้ความสำคัญกับการรักษาและสืบสานหัตถกรรมไทย ด้วยฝีมือของช่างผู้มีประสบการณ์และใจรักในงานศิลปะที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนา ผสมผสานความสวยงามและความเป็นไทยได้อย่างลงตัว

 

 

30. โรงมีดตามใจฝัน บ้านช่างมีดสมัยใหม่ 55 หมู่ 1 ตำบลบางเสด็จ อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง จุดกำเนิดศิลปะมีดจากใจในจังหวัดอ่างทอง หากคุณหลงใหลเสน่ห์ของงานฝีมือและวัตถุมีคม เราขอชวนมารู้จักกับ “โรงมีดตามใจฝัน” บ้านของช่างโจ - บรรจง เหมทอง ช่างมีดรุ่นใหม่รายแรก ๆ ของจังหวัดอ่างทอง ผู้สร้างสรรค์มีดที่ผสานศิลปะดั้งเดิมเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่จนเกิดเป็นผลงานที่มีทั้งความสวยงามและการใช้งานที่มีคุณภาพ หากคุณมาเยี่ยมชม คุณจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวอ่างทอง พร้อมนำของที่ระลึกกลับไปด้วยความประทับใจ โรงมีดตามใจฝันไม่เพียงเป็นสถานที่ผลิตมีด แต่ยังเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ ความหลงใหล และความมุ่งมั่นในการสืบสานและพัฒนาศิลปะการทำมีดไทยให้ก้าวไกลในระดับสากล

 

แผนที่ (GPS) : https://maps.app.goo.gl/fdaB6MMTeDqj7xPr5