บ้านเมืองก๊ะ

บ้านเมืองก๊ะ

บ้านเมืองก๊ะ
Rating: 2.6/5 (25 votes)
แผนที่ แผนที่ แผนที่ มีแผนที่ มีแผนที่ ไม่มีแผนที่ ไม่มีแผนที่

สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่

สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย

วันเปิดทำการ: ทุกวัน (แนะนำ “นัดหมาย/แจ้งล่วงหน้า” หากต้องการเข้าชมเชิงชุมชนหรืออยากเรียนรู้พิธีความเชื่อ เพื่อให้ชุมชนจัดเวลาต้อนรับได้เหมาะสม)
เวลาเปิดทำการ: แนะนำ 08.00–17.00 น. (เหมาะกับการเดินทางเข้า–ออกก่อนฟ้ามืด และไม่รบกวนวิถีชีวิตยามค่ำของชุมชน)
 
ชุมชนบ้านเมืองก๊ะ ตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เป็นชุมชนชาวลัวะที่คนในพื้นที่ผูกเรื่องเล่าตัวเองไว้กับ “ตำนาน” และ “ภูมิประเทศ” อย่างแน่นแฟ้น จนทำให้การมาเยือนไม่ใช่แค่การมองวิวภูเขาหรือขับรถผ่านหมู่บ้านบนทางคดเคี้ยว แต่คือการเดินเข้าไปในโลกความหมายที่คนรุ่นแล้วรุ่นเล่าสร้างไว้ร่วมกัน บ้านเมืองก๊ะมีพลังของความเป็น “บ้านแปงเมือง” คือการตั้งถิ่นฐานและยืนหยัดอยู่บนพื้นที่เดิม แม้จะผ่านช่วงเวลาที่ชุมชนบอบช้ำอย่างหนักในความทรงจำของคนเฒ่าคนแก่
 
เรื่องเล่าหลักที่คนจำนวนมากจดจำเกี่ยวกับบ้านเมืองก๊ะ คือความเป็นชุมชนลัวะตั้งแต่ยุคขุนหลวงวิรังคะ ซึ่งถูกเล่าว่าเป็นยุคเดียวกับพระนางจามเทวีแห่งหริภุญชัย ในแกนเรื่องนี้ “ขุนหลวงวิรังคะ” ไม่ได้เป็นแค่ชื่อบุคคลในตำนาน แต่เป็นเสมือนแกนศูนย์กลางของความทรงจำร่วมที่ทำให้คนในชุมชนอธิบายที่มาของตัวเอง อธิบายชื่อหมู่บ้าน และอธิบายความสัมพันธ์กับภูเขาหลายลูกในเชียงใหม่ได้ในคราวเดียว หมู่บ้านจึงมีความเชื่อว่าชื่อ “เมืองก๊ะ” เกี่ยวพันกับชื่อของขุนหลวงวิรังคะ และหลายครอบครัวยังเชื่อมโยงเชื้อสายของตนกับขุนหลวงในเชิงสัญลักษณ์
 
อีกช่วงหนึ่งของประวัติศาสตร์ชุมชนที่เล่าต่อกันอย่างจริงจัง คือเหตุการณ์โรคห่าระบาดราว พ.ศ. 2468 ที่ทำให้ผู้คนเหลือเพียงไม่กี่หลังคาเรือน ความทรงจำแบบนี้มักไม่ถูกเล่าด้วยโทนเศร้าอย่างเดียว แต่เล่าด้วยน้ำหนักของ “การรอด” และ “การค่อย ๆ กลับมามีบ้านมีคนอีกครั้ง” ก่อนจะมีการจัดตั้งเป็นหมู่บ้านอย่างเป็นทางการใน พ.ศ. 2517 เป็นหมู่ที่ 5 ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จนถึงปัจจุบัน ภาพรวมจึงเป็นการเดินทางของชุมชนที่เคยแทบดับไฟ แต่กลับจุดไฟให้ตัวเองขึ้นมาใหม่ โดยไม่ทิ้งรากเดิมของความเป็นลัวะ
 
สิ่งที่ทำให้บ้านเมืองก๊ะ “ต่าง” จากการไปเที่ยวหมู่บ้านทั่วไป คือโครงสร้างความเชื่อที่ยังมีชีวิตอยู่ และไม่ถูกทำให้เป็นโชว์เพื่อคนนอกเพียงอย่างเดียว ในหมู่บ้านมีศาลที่เชื่อว่าเป็นที่สถิตวิญญาณของขุนหลวง และมีศาลของทหารซ้าย–ขวาอีก 2 ศาล เป็นเหมือนสามเสาหลักที่ยึดโลกของคนเมืองก๊ะเอาไว้ เมื่อถึงพิธีเซ่นสรวงประจำปี ชุมชนไม่ได้มองว่าเป็นพิธีเพื่อความบันเทิง แต่เป็น “สัญญา” ระหว่างคนกับผีบรรพชน ระหว่างผู้มีชีวิตกับผู้คุ้มครองพื้นที่ การเซ่นสรวงจึงมีความหมายเชิงสังคม คือการรวมคน การยืนยันความเป็นพวกเดียวกัน และการทบทวนว่าเรายังอยู่ในโลกเดียวกับบรรพบุรุษ
 
ความน่าสนใจอีกชั้นคือความเชื่อเรื่อง “การสถิต” ของดวงวิญญาณขุนหลวงที่ไม่ได้อยู่จุดเดียว แต่กระจายเป็น 3 แห่ง ได้แก่ บนดอยคว่ำหล้อง ศาลที่บ้านเมืองก๊ะ และอีกแห่งที่ถูกเล่าว่าอยู่บริเวณดอยคำ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งดอยคำตั้งอยู่ทางทิศใต้ของดอยสุเทพ และปัจจุบันบนยอดดอยมีวัดสำคัญคือวัดพระธาตุดอยคำที่มีอนุสาวรีย์ขุนหลวงวิรังคะอยู่ในพื้นที่วัดใกล้เจดีย์ ตรงนี้เองที่ทำให้ “บ้านเมืองก๊ะ” ไม่ได้เป็นเรื่องของหมู่บ้านเดียว แต่เป็นเรื่องของเครือข่ายภูเขาและเครือข่ายความหมายที่โยงจากแม่ริมเข้าเมืองเชียงใหม่อย่างแนบเนียน
 
ถ้าลองมองแบบ “แผนที่ความหมาย” ความสัมพันธ์ ดอยคำ–ดอยสุเทพ–ภูมิความเชื่อ จะปรากฏเป็นโครงสร้างคล้ายสามชั้นซ้อนกัน ชั้นแรกคือภูมิประเทศจริง: ดอยคำอยู่ด้านใต้ของดอยสุเทพและเป็นเหมือนเชิงเขาที่ผู้คนขึ้นลงง่ายกว่า ส่วนดอยสุเทพเป็นยอดเขาใหญ่ที่มองเห็นเมืองและถูกยกสถานะเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเชียงใหม่มานาน ชั้นที่สองคือภูมิศรัทธาพุทธ: วัดพระธาตุดอยสุเทพทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางศรัทธาล้านนาในระดับเมือง ส่วนวัดพระธาตุดอยคำเป็นศูนย์กลางศรัทธาที่เข้าถึงง่ายกว่าและมีแรงศรัทธาร่วมสมัยสูงมาก (คนจำนวนมากขึ้นไปไหว้ “หลวงพ่อทันใจ”) ชั้นที่สามคือภูมิผี/บรรพชน: เรื่องเล่าขุนหลวงวิรังคะ การสถิตสามแห่ง และพิธีเซ่นสรวงประจำปี เป็นเหมือนเส้นใยที่คอยร้อยภูเขาให้เป็น “บ้าน” ไม่ใช่แค่ “ดอย”
 
เมื่อสามชั้นนี้ซ้อนทับกัน เราจะเห็นภาพสำคัญว่า “เชียงใหม่ไม่เคยมีศาสนาเดียวแบบเดี่ยว ๆ” แต่เป็นการอยู่ร่วมกันของพุทธและความเชื่อเรื่องผีบรรพชนมานานมาก แทนที่จะตีกัน มันกลับช่วยกันทำให้พื้นที่มีความหมาย พื้นที่ที่คนไปไหว้พระ ก็ยังเป็นพื้นที่ที่คนเชื่อว่ามีบรรพชนคุ้มครอง พื้นที่ที่เป็นวัดใหญ่ของเมือง ก็ยังอยู่ในเครือข่ายเรื่องเล่าที่โยงไปถึงผู้คนกลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่นอกเมืองอย่างลัวะบ้านเมืองก๊ะ นี่คือเหตุผลว่าทำไมการจะเข้าใจ “ดอยสุเทพ” ให้ครบ เรามักต้องมอง “ดอยคำ” ด้วย และถ้าจะเข้าใจ “ดอยคำ” ให้ลึก ก็หลีกไม่พ้นต้องฟังเสียงของชุมชนที่อธิบายตนเองผ่านตำนานอย่างบ้านเมืองก๊ะ
 
หากเปรียบเทียบ “ลัวะบ้านเมืองก๊ะ” กับลัวะในพื้นที่อื่นของเชียงใหม่ ภาพที่ควรย้ำคือ “ลัวะไม่ใช่ก้อนเดียวกันทั้งหมด” แต่เป็นกลุ่มผู้คนที่มีประวัติการตั้งถิ่นฐาน การสัมพันธ์กับคนเมือง และการปรับตัวต่างกันตามภูมิประเทศ ชุมชนลัวะบางพื้นที่อยู่ใกล้เมืองหรืออยู่ในเครือข่ายท่องเที่ยว ทำให้ภาษา การแต่งกาย และรูปแบบพิธีกรรมบางอย่างผสมกับคนเมืองมากขึ้น ในขณะที่ลัวะบางพื้นที่ที่อยู่ลึกหรือเกี่ยวข้องกับพื้นที่ทำกินป่า/ไร่แบบดั้งเดิมมากกว่า ก็อาจรักษาภาษาพูดหรือพิธีกรรมเฉพาะกลุ่มไว้เข้มกว่า
 
ลัวะบ้านเมืองก๊ะมีลักษณะเด่น 3 อย่างเมื่อเทียบกับลัวะหลายพื้นที่ในเชียงใหม่ อย่างแรกคือ “ความเป็นศูนย์กลางของตำนานวิรังคะ” ที่ทำหน้าที่เป็นแกนเรื่องเล่าประจำชุมชนอย่างชัดเจน จนกลายเป็นระบบความเชื่อที่มีศาลเฉพาะ มีพิธีประจำปี และมีแผนที่การสถิตของวิญญาณหลายจุด อย่างที่สองคือ “ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์” ที่เชื่อมแม่ริมกับเส้นทางขึ้นสันเขาได้ ทำให้คนเมืองเข้าถึงได้โดยไม่ไกลเกินไป ชุมชนจึงไม่ได้ถูกตัดขาดจากเศรษฐกิจและบริการสมัยใหม่แบบหมู่บ้านที่อยู่ลึกมาก ๆ อย่างที่สามคือ “การอยู่ร่วมกับระบบรัฐและโลกเมือง” ที่เห็นได้จากการจัดตั้งหมู่บ้าน การคมนาคม และการสื่อสารกับคนภายนอก ทำให้บ้านเมืองก๊ะมีโครงสร้างชุมชนที่คุ้นเคยกับคนนอกมากพอจะเล่าเรื่องของตัวเองได้
 
ถ้าเปรียบกับลัวะบางพื้นที่ในเชียงใหม่ที่ผูกตนเองกับการทำกินและพิธีกรรมที่สัมพันธ์กับทรัพยากรเฉพาะ จุดเน้นของเรื่องเล่าอาจไปอยู่ที่พิธีกรรมเพื่อคุ้มครองไร่นา การรักษาสมดุลของคนกับป่า หรือการยืนยันความเป็นเจ้าของร่วมในทรัพยากรชุมชนมากกว่า แต่ในบ้านเมืองก๊ะ “ตำนานวิรังคะ” และเครือข่ายดอยคำ–ดอยสุเทพ กลายเป็นภาษากลางที่ทำให้คนอธิบายความเป็นตัวเองได้ทั้งเชิงชาติพันธุ์และเชิงภูมิศาสตร์ นี่ทำให้บ้านเมืองก๊ะดูเหมือนชุมชนที่ยืนอยู่ตรงรอยต่อพอดี ระหว่างโลกภูเขา–โลกเมือง ระหว่างผีบรรพชน–พุทธศรัทธา และระหว่างความเป็นลัวะเฉพาะถิ่น–ความเป็นล้านนาในภาพรวม
 
สำหรับ “มุมชาติพันธุ์ร่วมสมัย” การปรับตัวของคนรุ่นใหม่ไม่ใช่แค่จะรักษาอะไรไว้ แต่คือการต่อรองกับโลกสมัยใหม่ 3 แรงพร้อมกัน แรงแรกคือการศึกษาและงานนอกพื้นที่ หลายคนต้องเข้าเมืองเพื่อเรียนหรือทำงาน ทำให้ภาษาแม่และพิธีกรรมลดความถี่ลงโดยธรรมชาติ แรงที่สองคือเศรษฐกิจท่องเที่ยวและโลกออนไลน์ บ้านใกล้เมืองมีโอกาสมากขึ้น ทั้งขายสินค้า เกษตร งานบริการ หรือคอนเทนต์ แต่ก็เสี่ยงถูกทำให้เป็นภาพจำแบบง่าย ๆ แรงที่สามคือความภาคภูมิใจเชิงอัตลักษณ์ คนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยอยากเป็นผู้เล่าเรื่องชุมชนด้วยภาษาของตัวเอง และอยากให้คนนอกเคารพ ไม่ใช่แค่มาถ่ายรูปแล้วผ่านไป
 
รูปแบบการปรับตัวที่มักเห็นชัดในชุมชนชาติพันธุ์ทั่วเชียงใหม่ (รวมถึงลัวะ) คือการสื่อสารเรื่องบ้านโดยคนในชุมชนเอง การพาคนนอกเรียนรู้แบบมีขอบเขต (มีกติกาว่าอะไรถ่ายได้ อะไรไม่ควรแตะ) การทำสินค้า/อาหารที่เล่าเรื่องวัตถุดิบและความทรงจำ ไม่ใช่แค่ของฝาก และการทำงานกับโรงเรียนหรือวัดเพื่อเก็บคำศัพท์ ภาษา เพลง หรือพิธีกรรมไว้เป็นคลังความทรงจำของชุมชน ทั้งหมดนี้ไม่ใช่การแช่แข็งวัฒนธรรม แต่เป็นการทำให้วัฒนธรรมอยู่ได้ในยุคที่โลกหมุนเร็ว โดยไม่ทำร้ายความรู้สึกของคนในชุมชน
 
การเดินทาง จากที่ว่าการอำเภอแม่ริมไปบ้านเมืองก๊ะ ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร เส้นทางจะค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นสู่พื้นที่หุบเขา แนะนำตรวจสภาพรถและเชื้อเพลิงให้พร้อม โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่ถนนอาจลื่นหรือมีหมอกบางช่วง หากเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ สามารถขับมาทางแม่ริมก่อน แล้วค่อยต่อเส้นทางเข้าสู่ตำบลสะลวง การมีแผนสำรองเรื่องเวลา (เผื่อรถติดในโซนท่องเที่ยวแม่ริม) จะช่วยให้เข้าหมู่บ้านแบบไม่เร่งรีบ และไม่ต้องขับกลับตอนฟ้ามืด
 
คำแนะนำเล็ก ๆ ที่ช่วยให้การไปบ้านเมืองก๊ะ “เคารพและได้อะไรกลับมาเยอะ” คือไปแบบตั้งใจฟังมากกว่าตั้งใจถ่าย ถ้าพบศาลหรือพื้นที่ศรัทธา ควรยืนห่างพอเหมาะ ไม่จับต้องสิ่งของ และถ้าอยากบันทึกภาพหรือถามเรื่องพิธี ควรถามเจ้าบ้านก่อนเสมอ เพราะเรื่องผีบรรพชนสำหรับชุมชนไม่ใช่เรื่องเล่าเล่น ๆ แต่เป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ที่มีขอบเขตของมัน การเคารพขอบเขตนี้จะทำให้คุณได้เห็นความจริงใจ และบางครั้งจะได้เรื่องเล่าที่ไม่มีในป้ายท่องเที่ยวเลย
 
ชื่อสถานที่ ชุมชนบ้านเมืองก๊ะ
ที่ตั้ง หมู่ที่ 5 ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
ลักษณะเด่น ชุมชนชาวลัวะในหุบเขา มีโครงสร้างความเชื่อผีบรรพชน/ศาลขุนหลวงวิรังคะ และพิธีเซ่นสรวงประจำปี เชื่อมโยงเรื่องเล่ากับภูเขาหลายจุดในเชียงใหม่
ช่วงเวลา/ยุคสมัยที่เกี่ยวข้อง ตำนานยุคขุนหลวงวิรังคะ (เล่าคู่กับยุคพระนางจามเทวี) – ยุคจัดตั้งหมู่บ้านทางการ พ.ศ. 2517 – ปัจจุบัน
หลักฐาน/สิ่งสำคัญ ศาลขุนหลวงวิรังคะและศาลทหารซ้าย–ขวา (3 ศาล), พิธีเซ่นสรวงประจำปี, โครงเรื่องการสถิต 3 แห่ง (ดอยคว่ำหล้อง–บ้านเมืองก๊ะ–ดอยคำ)
ที่มาของชื่อ คนในชุมชนเชื่อมโยงชื่อ “เมืองก๊ะ” กับชื่อขุนหลวงวิรังคะ (ความเชื่อท้องถิ่น)
การเดินทาง จากที่ว่าการอำเภอแม่ริม → บ้านเมืองก๊ะ ระยะทางประมาณ 30 กม. แนะนำเดินทางกลางวัน โดยเฉพาะฤดูฝน
สถานะปัจจุบัน ชุมชนที่อยู่อาศัยจริง (ควรเคารพวิถีชีวิต และนัดหมาย/แจ้งล่วงหน้าเมื่ออยากเรียนรู้เชิงชุมชน)
ที่เที่ยวใกล้เคียงพร้อมระยะทาง  
วัดพระพุทธบาทสี่รอย ประมาณ 12 กม. | โทร: 053-998-348
น้ำตกแม่สา ประมาณ 20 กม. | โทร: 053-210-244
สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ประมาณ 25 กม. | โทร: 053-114-630
ม่อนแจ่ม ประมาณ 22 กม. | โทร: 081-806-3993
อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ–ปุย ประมาณ 32 กม. | โทร: 053-210-244
วัดพระธาตุดอยคำ ประมาณ 40 กม. | โทร: 053-263-001
ร้านอาหารใกล้เคียงพร้อมระยะทาง  
ระเบียงบ้าน (ระเบียง ณ แม่ริม) ประมาณ 28 กม. | โทร: 053-861-511
โป่งแยง แอ่งดอย ประมาณ 22 กม. | โทร: 053-879-151
เฮือนม่วนใจ๋ ประมาณ 35 กม. | โทร: 053-404-998
ที่พักใกล้เคียงพร้อมระยะทาง  
โฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ต เชียงใหม่ ประมาณ 24 กม. | โทร: 053-298-181
ปานวิมาน เชียงใหม่ สปา รีสอร์ท ประมาณ 22 กม. | โทร: 053-879-540
พราวภูฟ้า รีสอร์ท แม่ริม ประมาณ 24 กม. | โทร: 053-879-389
 
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: บ้านเมืองก๊ะเป็นชุมชนชาติพันธุ์อะไร?
ตอบ: เป็นชุมชนชาวลัวะในอำเภอแม่ริม โดยมีเรื่องเล่าและพิธีความเชื่อเรื่องผีบรรพชนเป็นแกนสำคัญของชุมชน
 
ถาม: จุดเด่นของความเชื่อบ้านเมืองก๊ะคืออะไร?
ตอบ: มีศาลที่เชื่อว่าเป็นที่สถิตวิญญาณขุนหลวงวิรังคะ และศาลทหารซ้าย–ขวา รวมถึงพิธีเซ่นสรวงประจำปี และแนวคิดการสถิต 3 แห่ง (ดอยคว่ำหล้อง–บ้านเมืองก๊ะ–ดอยคำ)
 
ถาม: ความสัมพันธ์ดอยคำ–ดอยสุเทพเกี่ยวกับความเชื่ออ่านอย่างไรให้เข้าใจง่าย?
ตอบ: มองเป็นแผนที่ความหมาย 3 ชั้น: ภูมิประเทศจริง (ตำแหน่งดอย), ภูมิศรัทธาพุทธ (วัดสำคัญ), และภูมิผี/บรรพชน (เรื่องเล่าและการสถิต) ที่ซ้อนทับกันจนทำให้ภูเขาเป็น “บ้าน” ไม่ใช่แค่ “ดอย”
 
ถาม: ลัวะบ้านเมืองก๊ะต่างจากลัวะพื้นที่อื่นในเชียงใหม่ตรงไหน?
ตอบ: บ้านเมืองก๊ะเด่นที่ “ตำนานวิรังคะ” เป็นแกนเรื่องเล่าและเป็นระบบความเชื่อที่มีศาลและพิธีประจำปีชัดเจน อีกทั้งอยู่ในตำแหน่งรอยต่อใกล้เมือง ทำให้การสื่อสารกับคนนอกและการปรับตัวร่วมสมัยเห็นภาพได้ชัด
 
ถาม: ไปเที่ยวบ้านเมืองก๊ะควรเตรียมตัวยังไงให้เหมาะสม?
ตอบ: แนะนำไปช่วงกลางวัน เคารพพื้นที่ศรัทธา ขออนุญาตก่อนถ่ายภาพ/ถามเรื่องพิธี และหากต้องการเข้าชมเชิงชุมชนควรแจ้งหรือนัดหมายล่วงหน้าเพื่อไม่รบกวนวิถีชีวิต
 
ถาม: ระยะทางจากอำเภอแม่ริมไปบ้านเมืองก๊ะไกลไหม?
ตอบ: ประมาณ 30 กิโลเมตรจากที่ว่าการอำเภอแม่ริม แนะนำเผื่อเวลาและหลีกเลี่ยงการขับกลับตอนฟ้ามืด โดยเฉพาะฤดูฝน
แผนที่ บ้านเมืองก๊ะ แผนที่บ้านเมืองก๊ะ
วิถีชีวิต หมวดหมู่: วิถีชีวิต
คำค้นคำค้น: บ้านเมืองก๊ะชุมชนบ้านเมืองก๊ะ บ้านเมืองก๊ะ แม่ริม ชุมชนลัวะ เชียงใหม่ ลัวะเมืองก๊ะ ขุนหลวงวิรังคะ ดอยคำ ดอยสุเทพ ความเชื่อ ประเพณีเซ่นสรวงลัวะ เที่ยวแม่ริม เชียงใหม่ เที่ยวชุมชน เชียงใหม่ วัฒนธรรมลัวะ
ปรับปรุงล่าสุดปรับปรุงล่าสุด: 3 วันที่แล้ว


แสดงความเห็น

แสดงความเห็น




คำค้น (ขั้นสูง)
   
Email :
  รหัสผ่าน :
  สมัครสมาชิก | ลืมรหัสผ่าน
 

 

ภูมิภาค ภูมิภาคhttps://www.lovethailand.org/

https://www.lovethailand.org/อ.เมืองเชียงใหม่(191)

https://www.lovethailand.org/อ.จอมทอง(21)

https://www.lovethailand.org/อ.แม่แจ่ม(19)

https://www.lovethailand.org/อ.เชียงดาว(23)

https://www.lovethailand.org/อ.ดอยสะเก็ด(28)

https://www.lovethailand.org/อ.แม่แตง(43)

https://www.lovethailand.org/อ.แม่ริม(39)

https://www.lovethailand.org/อ.สะเมิง(12)

https://www.lovethailand.org/อ.ฝาง(28)

https://www.lovethailand.org/อ.แม่อาย(20)

https://www.lovethailand.org/อ.พร้าว(19)

https://www.lovethailand.org/อ.สันป่าตอง(7)

https://www.lovethailand.org/อ.สันกำแพง(16)

https://www.lovethailand.org/อ.สันทราย(8)

https://www.lovethailand.org/อ.หางดง(18)

https://www.lovethailand.org/อ.ฮอด(9)

https://www.lovethailand.org/อ.ดอยเต่า(3)

https://www.lovethailand.org/อ.อมก๋อย(16)

https://www.lovethailand.org/อ.สารภี(3)

https://www.lovethailand.org/อ.เวียงแหง(10)

https://www.lovethailand.org/อ.ไชยปราการ(6)

https://www.lovethailand.org/อ.แม่วาง(9)

https://www.lovethailand.org/อ.แม่ออน(13)

https://www.lovethailand.org/อ.ดอยหล่อ(4)

https://www.lovethailand.org/อ.กัลยาณิวัฒนา(3)