ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง

Rating: 3.7/5 (7 votes)
สถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย
วันเปิดทำการ: ทุกวัน (แนะนำโทรสอบถาม/นัดหมายล่วงหน้า โดยเฉพาะเรื่องบ้านพักและการสั่งอาหาร)
เวลาเปิดทำการ: แนะนำ 08.00–17.00 น. (เวลาจริงอาจเปลี่ยนตามภารกิจพื้นที่และฤดูกาล)
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง ถ้าคุณกำลังมองหาที่พักผ่อนในเชียงใหม่ที่ได้ทั้งอากาศเย็น วิวภูเขา และความรู้แบบ “เดินดูแล้วเข้าใจชีวิตคนบนพื้นที่สูง”
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง
คือปลายทางที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว เพราะแก่นของที่นี่ไม่ใช่แค่การท่องเที่ยว แต่คือพื้นที่พัฒนาอาชีพและการเกษตรถาวรตามแนวทางโครงการหลวงที่ค่อย ๆ เปลี่ยนสมดุลชีวิตของชุมชนบนภูเขาให้มั่นคงขึ้น โดยยังเดินไปพร้อมการรักษาป่าต้นน้ำและระบบนิเวศที่เปราะบางของพื้นที่สูงศูนย์ฯ ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2522 บนพื้นที่ 10 ไร่ และมอบหมายให้สำนักงานเกษตรจังหวัดเชียงใหม่เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบและประสานงาน แนวทางงานพัฒนามุ่งส่งเสริมการปลูกพืชให้เพียงพอต่อความต้องการของคนในท้องถิ่น ทดลองและคัดเลือกพันธุ์พืชชนิดใหม่เพื่อทดแทนฝิ่น ส่งเสริมการทำเกษตรถาวร เน้นไม้ผลเมืองหนาวและพืชระยะยาว ตลอดจนการยกระดับปัจจัยพื้นฐานเพื่อให้ชุมชนมีมาตรฐานทางสังคมที่ดีขึ้น เมื่อมองภาพรวม คุณจะเห็นว่าที่นี่ไม่ใช่ “สถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกทำให้สวย” แต่เป็นพื้นที่ทำงานจริงของการพัฒนาบนภูเขา
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋งตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000–1,500 เมตร มีอุณหภูมิโดยเฉลี่ยราว 20 องศาเซลเซียส ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสลับซับซ้อน มีพื้นที่ราบตามหุบเขาเป็นช่วง ๆ และมีต้นน้ำสายสำคัญไหลผ่าน ได้แก่ลำน้ำแม่หยอดและลำน้ำปางเกี๊ยะ ความเป็น “พื้นที่ต้นน้ำ” นี้ทำให้การเกษตรและการท่องเที่ยวต้องวางอยู่บนความระมัดระวัง ทั้งเรื่องหน้าดิน ระบบน้ำ และการใช้ทรัพยากรอย่างพอดี เพราะทุกอย่างเชื่อมโยงกันเป็นห่วงโซ่เดียว ตั้งแต่ป่า แปลงเกษตร ไปจนถึงชีวิตของชุมชน
ในเชิงขนาดงานพัฒนา ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋งมีพื้นที่รับผิดชอบประมาณ 76.91 ตารางกิโลเมตร หรือราว 45,930.88 ไร่ ครอบคลุมชุมชน 17 หมู่บ้าน รวม 1,061 ครัวเรือน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ม้งและกะเหรี่ยงที่ตั้งถิ่นฐานในพื้นที่นี้มาอย่างยาวนาน รายละเอียดนี้สำคัญต่อคนมาเที่ยว เพราะมันบอกคุณล่วงหน้าว่าที่นี่เป็น “พื้นที่ชุมชนจริง” ไม่ใช่ฉากจำลอง ดังนั้นการเดินเที่ยว การถ่ายภาพ และการเข้าไปดูวิถีชีวิตควรทำด้วยความเคารพ ขออนุญาตเมื่อจำเป็น และระมัดระวังไม่ไปรบกวนพื้นที่ส่วนตัวของคนในหมู่บ้าน
กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงเกษตรเป็นจุดเด่นที่ทำให้การมาเยือนที่นี่ “มีอะไรให้ดูมากกว่าอากาศดี” คุณสามารถชมแปลงปลูกมันฝรั่ง แครอท อะโวกาโด รวมถึงแปลงสาธิตกาแฟอาราบิก้า แปลงสาธิตองุ่นไร้เมล็ด และแปลงสาธิตพืชผักเมืองหนาว เช่น มะเขือเทศ กะหล่ำปลี และพืชผักตามฤดูกาลอื่น ๆ การเดินดูแปลงเหล่านี้ทำให้เห็นภาพจริงว่าการปลูกพืชบนพื้นที่สูงต้องอาศัยการจัดการหลายชั้น ตั้งแต่การเลือกพื้นที่ตามทิศแดด การจัดน้ำในฤดูแล้ง การรับมือฝนหนัก ไปจนถึงการดูแลหน้าดินไม่ให้ถูกชะล้าง
อีกมุมที่น่าสนใจคือการได้เห็นผลผลิตและการทำเกษตรแบบ “อยู่กับฤดูกาล” ไม่ใช่ฝืนฤดูกาล เช่น การชมไร่ลิ้นจี่นอกฤดูกาลของเกษตรกรในพื้นที่ และการเลือกปลูกพืชบางชนิดเพื่อให้มีรายได้กระจายทั้งปี เมื่อรวมกับแนวคิดเกษตรถาวร คุณจะเริ่มเข้าใจว่าศูนย์ฯ ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นแค่สถานที่สาธิต แต่เป็นกลไกสนับสนุนความมั่นคงทางอาชีพให้คนบนพื้นที่สูงในระยะยาว
ด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จุดที่หลายคนจดจำคือการได้เห็นวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าม้งและกะเหรี่ยง รวมถึงรายละเอียดที่สะท้อนความเป็นชุมชนอย่างแท้จริง เช่น บ้านม้งที่อยู่อาศัยรวมกันจำนวนมากในหลังเดียว และการละเล่นพื้นบ้านของชาวเขาที่คุณสามารถพบเห็นได้เป็นบางช่วง เช่น ลูกข่างไม้ การเป่าแคนม้ง การโยนลูกช่วง การตีลูกข่าง หรือการเล่นล้อเลื่อนไม้ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นแค่ความบันเทิง แต่เป็นภาษาวัฒนธรรมที่สื่อถึงการอยู่ร่วมกัน การฝึกทักษะ และการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่น
ถ้าคุณอยากได้ “จังหวะของชุมชน” ที่ชัดขึ้น ช่วงเทศกาลประจำปีของกลุ่มชาติพันธุ์เป็นเวลาที่น่าสนใจ เช่น ปีใหม่ม้งในช่วงเดือนธันวาคม–มกราคม ปีใหม่กะเหรี่ยงในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และพิธีกินข้าวใหม่ของชนเผ่ากะเหรี่ยงในช่วงเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม ช่วงประเพณีควรมาแบบผู้ร่วมสังเกตอย่างสุภาพ ขออนุญาตก่อนถ่ายภาพ และให้พื้นที่กับพิธีกรรมเป็นอันดับแรกเสมอ เพราะความหมายของงานอยู่ที่ชุมชน ไม่ได้อยู่ที่ความ “น่าถ่ายรูป” เพียงอย่างเดียว
สำหรับสายธรรมชาติ ปางอุ๋งมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติที่เป็นไฮไลต์ คือเส้นทางดอยหมื่อกาโด่ ซึ่งมีจุดชมวิวสูงจากระดับน้ำทะเล 1,927 เมตร เหมาะกับคนที่อยากสัมผัสป่าบนที่สูงแบบจริงจัง ทั้งการชมกุหลาบพันปี พรรณไม้ป่า ดูนก เฝ้าสังเกตสัตว์ป่าที่อาจพบได้ในบางช่วง รวมถึงจุดชมวิวทะเลหมอก การเดินเส้นทางนี้ควรเตรียมตัวให้ดี โดยเฉพาะรองเท้า น้ำดื่ม เสื้อกันฝนในฤดูฝน และควรประเมินสภาพอากาศก่อนออกเดินทุกครั้ง เพราะพื้นที่สูงเปลี่ยนสภาพได้เร็วมาก
นอกจากเส้นทางเดินป่า ยังมีจุดธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวเชื่อมต่อที่หลายคนวางแผนไปต่อได้ เช่น ทุ่งดอกบัวตองที่ดอยแม่อูคอ อำเภอขุนยวม ซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์ฯ ประมาณ 40 กิโลเมตร และจะบานเด่นช่วงเดือนพฤศจิกายน รวมถึงน้ำตกปางเกี๊ยะซึ่งเป็นน้ำตกขนาดเล็ก บรรยากาศร่มเย็น เหมาะกับการแวะพักและเล่นน้ำในช่วงที่สภาพน้ำและอากาศเอื้ออำนวย จุดเหล่านี้ช่วยให้ทริปของคุณมีทั้งเกษตร วัฒนธรรม และธรรมชาติในเส้นทางเดียว โดยไม่ต้องเร่งเก็บหลายจังหวัดให้เหนื่อย
เรื่องของฝากก็เป็นอีกเสน่ห์ที่ “ซื้อแล้วรู้สึกดี” เพราะเป็นผลผลิตและงานหัตถกรรมจากชุมชน คุณสามารถมองหาผักสดตามฤดูกาล อะโวกาโดพันธุ์แฮส และองุ่นไร้เมล็ด รวมถึงหัตถกรรมผ้าทอจากใยกัญชง เช่น ย่าม เสื้อ กางเกง ซึ่งพบได้ในบ้านปางอุ๋งและบ้านป่าเกี๊ยะ อีกหมวดที่มีเอกลักษณ์คือผ้าทอกี่เอวกะเหรี่ยงที่สะท้อนทักษะและความอดทนของงานทอแบบดั้งเดิม การเลือกซื้อของฝากแนวนี้เหมือนเป็นการอุดหนุนเศรษฐกิจชุมชนไปในตัว และช่วยให้การท่องเที่ยว “หมุนกลับ” ไปเป็นประโยชน์ต่อคนพื้นที่ได้จริง
ด้านที่พักและอาหาร ภายในศูนย์ฯ มีบ้านพักรับรองจำนวน 3 หลัง มีพื้นที่กางเต็นท์ และมีบริการเช่าเต็นท์พร้อมถุงนอน โดยกรณีนำเต็นท์มาเองจะมีค่าบำรุงสถานที่ สิ่งที่ควรรู้คือภายในศูนย์ฯ ไม่มีร้านอาหารบริการแบบเดินเข้าไปสั่งได้ทันที แต่สามารถสั่งรายการอาหารล่วงหน้าก่อนเข้าพักได้ นอกจากนี้ในบริเวณหมู่บ้านใกล้เคียงยังมีร้านค้าและร้านอาหารไว้คอยให้บริการ เมนูแนะนำที่มักถูกพูดถึง ได้แก่ น้ำพริกถั่วแดง และต้มไก่กระดูกดำ ซึ่งให้บรรยากาศ “กินของบ้าน ๆ ในอากาศเย็น” แบบที่เมืองให้ไม่ได้ง่าย ๆ
การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงใหม่สามารถใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 108 สายเชียงใหม่–ฮอด ผ่านโซนหางดง สันป่าตอง จอมทอง แม่สะเรียง แม่ลาน้อย จากนั้นถึงทางแยกไปอำเภอขุนยวมให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1263 แล้วมุ่งหน้าสู่บ้านปางอุ๋ง โดยศูนย์ฯ อยู่ขวามือ ตามข้อมูลที่คุณให้สามารถใช้รถยนต์ได้ทุกประเภท และไม่มีบริการรถรับจ้างประจำทาง แปลว่า “การวางแผน” สำคัญมาก ทั้งเรื่องน้ำมัน อาหาร ยาแก้เมารถ และการเผื่อเวลาขับบนเส้นทางภูเขาที่มีโค้ง โดยเฉพาะช่วงฝนตกหรือหมอกลงจัด
ถ้าคุณอยากให้ทริปนี้ออกมาพอดี ไม่เหนื่อยเกิน แนะนำคิดแบบ “ช้าแต่ลึก” คือให้เวลาเดินดูแปลงเกษตร พูดคุยกับเจ้าหน้าที่เท่าที่เหมาะสม เก็บรายละเอียดงานพัฒนาที่เห็นจริง แล้วค่อยต่อด้วยการแวะจุดธรรมชาติใกล้ ๆ หรือพักค้างหนึ่งคืนเพื่อรับบรรยากาศยามเช้า เพราะช่วงเช้าในพื้นที่สูงมักให้ภาพที่สวยที่สุด ทั้งทะเลหมอก แสงอ่อน และความเงียบที่ทำให้เรากลับมาฟังตัวเองได้ชัดกว่าปกติ
| ชื่อสถานที่ | ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋ง |
| ที่ตั้ง | บ้านปางอุ๋ง ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ |
| ลักษณะเด่น | ท่องเที่ยวเชิงเกษตรบนพื้นที่สูง แปลงสาธิตพืชเมืองหนาว งานพัฒนาชุมชนชาติพันธุ์ วิวภูเขา อากาศเย็น และเส้นทางธรรมชาติ |
| ยุคสมัย/การก่อตั้ง | ก่อตั้งปี พ.ศ. 2522 |
| หลักฐาน/สาระสำคัญ | พื้นที่พัฒนาเกษตรถาวรทดแทนฝิ่น ส่งเสริมไม้ผลเมืองหนาว พืชระยะยาว และยกระดับปัจจัยพื้นฐานของชุมชนบนพื้นที่สูง |
| ที่มาของชื่อ | ใช้ชื่อตามพื้นที่/ชุมชน “ปางอุ๋ง” ในอำเภอแม่แจ่ม (เชียงใหม่) |
| การเดินทาง | จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวง 108 (เชียงใหม่–ฮอด) ต่อไปทาง 1263 มุ่งหน้าบ้านปางอุ๋ง (ควรเตรียมรถและเผื่อเวลาเส้นทางภูเขา) |
| สถานะปัจจุบัน | เปิดให้เยี่ยมชม (แนะนำติดต่อก่อนเดินทาง โดยเฉพาะเรื่องที่พัก/อาหาร/กิจกรรมภาคสนาม) |
| เบอร์ติดต่อ | 053-318-523, 099-367-0022 |
| สิ่งอำนวยความสะดวก | บ้านพักรับรอง (มีจำนวนจำกัด), พื้นที่กางเต็นท์, บริการเช่าเต็นท์/ถุงนอน (รายละเอียดขึ้นกับฤดูกาลและการจัดการของศูนย์ฯ) |
| ค่าธรรมเนียม | อาจมีค่าบำรุงสถานที่กรณีกางเต็นท์ (แนะนำสอบถามก่อนเดินทาง) |
| สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง พร้อมระยะทาง | ดอยแม่อูคอ (ทุ่งบัวตอง) – ประมาณ 40 กม. น้ำตกปางเกี๊ยะ – ระยะทางใกล้พื้นที่บ้านปางเกี๊ยะ (แนะนำสอบถามเส้นทางล่าสุดจากศูนย์ฯ) เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติดอยหมื่อกาโด่ (จุดชมวิว 1,927 ม.) – ระยะทาง/จุดเริ่มต้นขึ้นอยู่กับเส้นทางที่เลือก (ควรติดต่อเจ้าหน้าที่) อำเภอแม่แจ่ม (ตัวอำเภอ/บริการพื้นฐาน) – ระยะทางขึ้นกับเส้นทางที่ใช้ บ้านป่าเกี๊ยะ – ระยะทางในโซนตำบลแม่ศึก (เหมาะแวะซื้อหัตถกรรม/ของชุมชน) |
| ร้านอาหารยอดนิยมใกล้เคียง พร้อมระยะทางและเบอร์โทร | ร้านอาหารในหมู่บ้าน/ร้านค้าชุมชนบ้านปางอุ๋ง – ระยะทางใกล้ศูนย์ฯ ร้านอาหารในหมู่บ้านปางเกี๊ยะ – ระยะทางใกล้พื้นที่ชุมชน ร้านอาหารในโซนอำเภอแม่แจ่ม – เหมาะสำหรับแวะก่อนขึ้นพื้นที่สูง เมนูแนะนำที่มักสั่งล่วงหน้าเมื่อเข้าพัก: น้ำพริกถั่วแดง, ต้มไก่กระดูกดำ |
| ที่พักยอดนิยมใกล้เคียง พร้อมระยะทางและเบอร์โทร | บ้านพักรับรองภายในศูนย์ฯ (จำนวนจำกัด) – ภายในพื้นที่ (ติดต่อ 053-318-523, 099-367-0022) พื้นที่กางเต็นท์ภายในศูนย์ฯ – ภายในพื้นที่ (ติดต่อศูนย์ฯ เพื่อสอบถามค่าบำรุง/อุปกรณ์) โฮมสเตย์/ที่พักชุมชนในโซนบ้านปางอุ๋ง/บ้านปางเกี๊ยะ – ระยะทางใกล้ศูนย์ฯ ที่พักในตัวอำเภอแม่แจ่ม – เหมาะสำหรับคนอยากพักแบบเข้าถึงบริการมากขึ้น |
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
ถาม: ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปางอุ๋งอยู่จังหวัดไหน และคนละที่กับปางอุ๋งแม่ฮ่องสอนหรือไม่?
ตอบ: ศูนย์ฯ แห่งนี้อยู่ที่ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ และเป็นคนละแห่งกับโครงการปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) จังหวัดแม่ฮ่องสอน แม้ชื่อจะคล้ายกันก็ตาม
ถาม: ไปช่วงเดือนไหนเหมาะที่สุด?
ตอบ: โดยภาพรวมช่วงอากาศเย็นปลายฝนต้นหนาวถึงฤดูหนาวมักเที่ยวสบาย และจะมีผลผลิต/แปลงเกษตรตามฤดูกาลแตกต่างกัน หากตั้งใจดูพืชผลเฉพาะทาง แนะนำโทรถามศูนย์ฯ ก่อนเดินทาง
ถาม: ภายในศูนย์ฯ มีร้านอาหารให้สั่งหน้างานไหม?
ตอบ: ภายในศูนย์ฯ ไม่มีร้านอาหารแบบเดินเข้าไปสั่งได้ทันที แต่สามารถสั่งอาหารล่วงหน้าก่อนเข้าพักได้ และมีร้านค้า/ร้านอาหารในบริเวณหมู่บ้านใกล้เคียงให้บริการ
ถาม: มีที่พักหรือกางเต็นท์ได้ไหม?
ตอบ: มีบ้านพักรับรองภายในศูนย์ฯ จำนวนจำกัด มีพื้นที่กางเต็นท์ และมีบริการเช่าเต็นท์พร้อมถุงนอน กรณีนำเต็นท์มาเองอาจมีค่าบำรุงสถานที่ แนะนำติดต่อศูนย์ฯ เพื่อจองและสอบถามเงื่อนไขล่าสุด
ถาม: เส้นทางดอยหมื่อกาโด่เหมาะกับมือใหม่ไหม?
ตอบ: เส้นทางเป็นการเดินป่าพื้นที่สูง ควรเตรียมร่างกาย อุปกรณ์ และเช็กอากาศล่วงหน้า หากไม่มั่นใจควรติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่เรื่องเส้นทาง จุดเริ่ม และข้อควรระวังก่อนออกเดิน
ถาม: ควรเตรียมอะไรเป็นพิเศษก่อนขึ้นไป?
ตอบ: เตรียมรถให้พร้อม (น้ำมัน เบรก ยาง), เสื้อกันหนาว/กันฝนตามฤดู, ยาประจำตัว, ของกินจำเป็น และเผื่อเวลาเดินทาง เพราะเส้นทางภูเขามีโค้งและสภาพอากาศเปลี่ยนได้เร็ว
แสดงความเห็น
| คำค้น (ขั้นสูง) |
ภูมิภาค
|







หมวดหมู่:
กลุ่ม: